ถือเป็นการเสพงานนิทรรศการศิลปะที่เต็มอิ่มกันเลยทีเดียว เพราะมาวันเดียวผมเดินดูนิทรรศการในหอศิลป์ มช ด้วยกันถึง 3 งานและ 1 ใน 3 งานนั้น ก็มีหนึ่งงานที่น่าสนใจแบบกวักมือให้เรียกเข้าไปดูให้ไว โดยนิทรรศการดังกล่าวมีชื่อว่า
นิทรรศการเชิดชูเกียรติ ศ.พงศ์เดช ไชยคุตร เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ
เท่าที่ทราบมา ศ.พงศ์เดช ไชยคุตร ท่านเป็นอาจารย์ประจำคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กันครับ และก็อย่างที่เกริ่นไปซึ่งทราบไปแล้ว เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ เลยมีงานนิทรรศการเชิดชูเกียรติเกิดขึ้นที่ หอศิลป์ มช. ซึ่งจะมีตั้งแต่วันที่ 11 27 กันยายน 2558 ซึ่งถ้านับนิ้วกันตอนนี้ ก็ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะที่จะแวะไปดูกัน
มาว่ากันที่ส่วนของผลงงานที่จัดแสดงบ้าง ผลงานส่วนใหญ่เท่าที่เห็นจะเป็นภาพพิมพ์จารเข็ม (Dry Point)กัน ซึ่งเป็นเทคนิคที่คล้ายคลึงกับเทคนิค Hardgroundจะต่างกันตรงที่กระบวนการสร้างเส้น และรูปทรงต่างๆ ซึ่งแทนที่จะวาดลงบนพื้นผิวแม่พิมพ์ที่เคลือบขี้ผึ้งแล้วจึงค่อยนำไปกัดกรด แต่จะใช้เหล็กแหลมขูดขีดลงบนผิวหน้าของแม่พิมพ์โดยตรง ซึ่งเป็นกระบวนการทำภาพพิมพ์ที่ใช้แม่พิมพ์ที่มีความนูนและร่องลึกเช่นเดียวกัน ส่วนที่สร้างให้เกิดเป็นรูป คือส่วนที่เป็นร่องลึกของแม่พิมพ์ กระบวนการสร้างเส้น และรูปทรงต่างๆ ร่องรอยถูกสร้างขึ้นบนแม่พิมพ์โดยการขูดขีดด้วยเครื่องมือแหลมคม ทั้งเส้นที่ขูดขีดเป็นร่องลึกและขอบเส้นที่ยื่นนี้จะอุ้มหมึกไว้ เมื่อเช็ดแม่พิมพ์และพิมพ์ เส้นที่ได้จะมีความอ่อนนุ่มดูคล้ายกำมะหยี่ คล้ายกับการเขียนด้วยปากกา โดยต้องออกแรงกดในการขีดเขียนมากกว่าการเขียนแบบธรรมดา เพื่อให้ได้เส้นที่ลึกตามความต้องการ การพิมพ์ต้องอาศัยแท่นพิมพ์ที่มีแรงกดสูงเพื่อเอากระดาษให้ไปดูดซับหมึกขึ้นมาได้
ผลงานที่ผมดูแล้วชื่นชอบก็จะมีภาพอาหารค่ำมื้อสุดท้าย แบบฉบับล้อเลียน โดยในภาพคนที่มาร่วมโต๊ะรับประทานอาหารก็จะเป็นบุคคลสำคัญของโลกต่างๆ ที่เราๆ ท่านๆ คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี (หรืออาจจะมีบางคนที่เราก็ไม่รู้จักด้วย ฮ่าๆๆ) ทั้งนี้ตามความเชื่อของคริสต์ศาสนิกชนคืออาหารมื้อสุดท้ายที่พระเยซูเสวยร่วมกับสาวกของพระองค์ ก่อนจะมีการตรึงพระเยซูที่กางเขน และอาหารค่ำมื้อสุดท้าย ก็เป็นหัวเรื่องที่นิยมกันในการสร้างงานจิตรกรรม ภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดคือภาพที่เขียนโดยเลโอนาร์โด ดา วินชี
นอกจากนี้ก็ยังมีภาพวาดล้อเลียนอีกเยอะแยะอย่าง
ภาพวาดโมนาลิซ่าอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นต้น รวมทั้งยังมีงานศิลปะในแบบนามธรรมให้เอาไปตีความกันอีกอย่างนับไม่ถ้วนเลยครับ เอาเป็นว่าใครอยากเสพงานศิลปะดีๆ แบบนี้ แวะกันมาที่ หอศิลป์ มช. กันได้เลย