ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
พฤศจิกายน 27, 2024, 07:31:33 AM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ประกาศ การกระทำใดๆ  เพื่อที่จะให้กระทู้ตัวเองมาอยู่อันดับต้นๆ ประจำ หากพิจารณาแล้วว่า ไม่เกิดประโยชน์กับผู้เข้าชม  ก็รับสิทธิ์โดนแบนเหมือนกันครับ


จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: เดินทางแสวงบุญที่พระธาตุดอยจ๊อม 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เดินทางแสวงบุญที่พระธาตุดอยจ๊อม  (อ่าน 2597 ครั้ง)
konhuleg.
Jr. Member
**
กระทู้: 90


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: กันยายน 30, 2015, 09:14:26 AM »


ตอนที่ 1

ผมรู้จัก “พระธาตุดอยจ๊อม” ในระหว่างการเดินทางไปยังทะเลสาบดอยเต่ากันครับ


แต่แรกก่อนออกเดินทางมานั้น ไม่ได้รู้จักมาก่อน แต่ที่มารู้จัก ก็เพราะตอนขับรถมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบดอยเต่า สังเกตเห็นบนยอดดอยแห่งหนึ่งมีองค์พระธาตุประดิษฐานอยู่ และมารู้ชื่อว่า “พระธาตุดอยจ๊อม” จากการสอบถามพระที่วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ส่วนสาเหตุที่ได้มาถามนั้น เนื่องจากแวะมาเที่ยววัดแห่งนี้ก่อนจะไปทะเลสาบดอยเต่า


“พระธาตุดอยจ๊อม" อยู่ถัดจากวัดพระพุทธบาทแก้วข้าวไปประมาณ 1 กิโลเมตร ขวามีจะมีป้ายทางขึ้นไป” หลวงพ่อบอกกับผมเอาไว้ประมาณนี้


จากตัวเมืองเชียงใหม่ มายังสำนักสงฆ์พระธาตุเจดีย์มังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม) ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 (เชียงใหม่ – ฮอด) ขับผ่านแยกหอนาฬิกาอำเภอฮอด และขับรถตรงไปทางถนนสายอารยธรรมหลวงหมายเลข 1012 (ฮอด - บ.วังลุง) ผ่านสามแยกไปอำเภอดอยเต่า ผ่านโรงพยาบาลฮอด และขับรถตรงไปเรื่อยๆ ซึ่งจากสามแยกไปอำเภอดอยเต่าถึงสำนักสงฆ์พระธาตุเจดีย์มังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม) ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรด้วยกันซึ่งก่อนถึงปากทางเข้าไปยังวัด จะสังเกตเห็นยอดดอยฝั่งทางด้านขวามือประดิษฐานองค์พระธาตุอยู่ไกลๆ


ทั้งนี้ ปากทางเข้า/ออก สำนักสงฆ์พระธาตุเจดีย์มังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม) อยู่ฝั่งตรงข้ามหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลฮอด และ ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลฮอด อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ โดยระยะทางจากปากทางเข้า/ออกถึงลานจอดรถสำนักสงฆ์พระธาตุเจดีย์มังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม) ประมาณ 1.4 กิโลเมตร ด้วยกันโดยถนนบางช่วงมีเป็นลูกรัง จากนั้นพอใกล้จะเข้าถึงลานจอดรถค่อยเป็นทางคอนกรีตอย่างดีครับ


เมื่อถึงลานจอดรถ ก็จะเห็นศาลาอานันท์ สำนักสงฆ์พระธาตุเจดีย์มังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม) ซึ่งภายในมีรูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ประดิษฐานอยู่ภายใน รวมทั้งมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะพม่า

จากจุดตรงนี้จะเป็นบันไดทางขึ้น/ลง ไปยังสำนักสงฆ์พระธาตุเจดีย์มังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม) กันครับ ซึ่งมีทั้งหมด 919 ขั้น ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 45 – 60 นาที (อันนี้เดินแบบพอดี แบบไม่รีบแล้วนะ แต่ถือว่าเหนื่อยเอาการ)

ในระหว่างทางเดินขึ้นไปนั้น ตัวบันไดก็จะมีราวเหล็กเอาไว้ให้จับกันครับ อันนี้ถือว่าสะดวกดีเลยทีเดียว อย่างคนแก่จะเดินขึ้นไป ถ้ามีอะไรไว้ค่อยจับพยุงแบบนี้มันก็ช่วยกันได้เยอะ และอย่าว่าแต่คนแก่เลยครับ คนหนุ่มแบบผมมันก็ช่วยได้เยอะเวลาเดินขึ้นไปแล้วมีราวบันไดให้จับ

แล้วมาต่อกันในตอนหน้าครับ
916 916 916
บันทึกการเข้า
konhuleg.
Jr. Member
**
กระทู้: 90


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2015, 09:32:40 AM »


ตอนที่ 2

การเดินขึ้นบันไดมายังสำนักสงฆ์พระธาตุเจดีย์มังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม)แม้จะเหนื่อยจนหอบ เพราะกว่าจะเดินถึง แต่ในระหว่างทางก็มีอะไรให้มองให้ชม อย่างวิวทิวทัศน์กันครับซึ่งยิ่งใกล้เดินถึงมากเท่าไหร่ ความสวยของวิวก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ และนอกจากวิวแล้ว ก็ยังมีป้ายธรรมมะเอาไว้ให้อ่านขบคิดไประหว่างการเดินด้วย


มีป้ายหนึ่งเล่นเอาผมสะอึก ประโยคประมาณว่า “ความอดทน เป็นหนทางสู่ความสำเร็จ” ซึ่งไอ้ที่สะอึกนั่น ก็เพราะเหมือนถูกสอนกลายๆ ว่า ถ้าเราอดทนต่อความยากลำบาก ก็สามารถเดินขึ้นไปถึงพระธาตุดอยจ๊อมได้อย่างสำเร็จลุล่วง



นี่มันเป็นอะไรที่ล้ำลึกมากเลยทีเดียว

หลังจากใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 30 นาที ก็เป็นอันว่าถึง มหาเจดีย์พระธาตุมังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม) อันเป็นที่ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระโคตมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน และยังเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าประทับนั่งฉันภัตตาหาร ด้วย


สำหรับตำนานมหาเจดีย์พระธาตุมังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม) สถานที่พระพุทธเจ้าประทับนั่งฉันภัตตาหารนั้น ได้กล่าวว่าในสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมาสู่สุวรรณภูมิ เมื่อได้ประทานเกศาธาตุไว้ดอยเกิ้งแล้วได้เสด็จมาตามลำน้ำแม่ระมิงค์ (น้ำปิง) โปรดชาวลัวะ ซึ่งทำไร่ทำนาแห้งแล้งมากนัก พระพุทธเจ้าก็ได้ไปไขพะอูปแก้ว คือไขปากยังดอยอูปแก้วให้ศีล 5 แก่พวกลัวะ และให้พระอรหันต์ทำกังหันไม้ไผ่ให้เรียกว่า “วงหลุก”  เพื่อดึงน้ำเข้านา ต่อไปจึงชื่อว่า ฮอดวังหลุก (ฮอดวังลุงในปัจจุบัน) จากนั้นพระพุทธเจ้าก็ได้เสด็จไปฉันภัตตาหารเพลยังดอยลูกหนึ่ง ชื่อว่า ดอยชอม เป็นคำลัวะ แปลว่า ดอยฉันข้าว บนดอยไม่มีน้ำ (ปัจจุบันเรียกว่า ดอยจ๊อม)



พระพุทธองค์ได้ให้พระอานนท์เอาบาตรไปตักน้ำที่วังแก้วแม่ระมิงค์ พญานาคได้ออกมาเล่นน้ำจนขุ่นไปหมด พระอานนท์ก็ได้เอาบาตรไปตักน้ำนั้นพญานาคก็ได้เอาหางไปพัดฝาบาตรจมดิ่งลงไปในวังแก้วเสีย เมื่อพระพุทธเจ้ารู้ด้วยทิพย์ญาณแล้วจึงเสด็จตามมา พญานาครู้ว่าเป็นพระพุทธเจ้าจึงได้นำฝาบาตรและน้ำมาถวายพระพุทธเจ้า พญานาคได้ควักเอาลูกตาถวายทานพระพุทธเจ้า แล้วเกิดอัศจรรย์ตาพญานาคกลับสว่างกว่าเดิมมากนัก แล้วพญานาคก็ไปเอาหินก้อนใหญ่พร้อมแสงแก้วข้าวจากเมืองนาคแทรกแผ่นดินขึ้นมาขอรอยพระพุทธบาทพระพุทธเจ้า พระองค์ก็ให้แสงแก้วหายเข้าไปในหินแล้ว ทรงเหยียบรอยพระบาทซ้ายไว้บนหิน (รอยพระพุทธบาทแก้วข้าว ต.ฮอด อ.ฮอด จ.เชียงใหม่)  ให้พญานาครักษาไว้เพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการบูชาแก่คนและเทวดาทั้งหลายตราบเท่า 5000 พระวสา


แล้วมาต่อกันตอนสุดท้ายให้จบครับ
บันทึกการเข้า
konhuleg.
Jr. Member
**
กระทู้: 90


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2015, 10:19:06 AM »


ตอนที่ 3

หลังจากที่ทราบถึงเรื่องราวของตำนานมหาเจดีย์พระธาตุมังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม)กันไปแล้ว มาต่อกันที่ส่วนของประวัติมหาเจดีย์พระธาตุมังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม)กันครับ


มหาเจดีย์พระธาตุมังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม) เดิมใช้ชื่อว่า พระธาตุดอยจ๊อม เพราะบนดอยจ๊อมมีพระธาตุเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นสมัยพระแม่เจ้าจามเทวี ในสมัยที่พระองค์เสด็จพร้อมไพร่พลจากลพบุรีเดินทางไปเมืองหิริภุญชัย (ลำพูน) เพื่อไปครองเมืองหริภุญชัย ในสมัยก่อนการเดินทางจะไปทางน้ำแม่ปิง เมื่อมาถึงเมืองฮอด สมัยนั้นเรียกว่า เมืองพิสดารนคร ท่านก็ได้หยุดพักผ่อนที่นี่ เพื่อให้ไพร่พลได้พักผ่อนและรักษาคนที่เจ็บป่วยจากโรคระบาด ในระหว่างนั้นท่านก็ให้ทหารช่วยกันสร้างพระธาตุเจดีย์ไว้ตามยอดดอยในบริเวณเมืองพิสดารนคร ซึ่งมีอยู่หลายดอย เวลาผ่านไปนานเจดีย์ต่างๆ ก็ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา


จนกระทั่งท่านครูบาศรีวิชัยเดินธุดงค์มาพบ ท่านก็ได้บูรณะพระเจดีย์เหล่านั้นใหม่ รวมทั้งพระเจดีย์ที่ดอยจ๊อมแห่งนี้ด้วย กาลต่อมาพระเจดีย์ต่างๆ ก็ชำรุดไปตามกาลเวลาอีก จนกระทั่งเมื่อสิบกว่าปีมานี้ ท่านเจ้าคุณพระประชานารถมุนี หรือ ท่านพระอาจารย์อานันท์ อานันโท เจ้าอาวาสวัดดอนจั่น ซึ่งท่านเป็นคนกำเนิดที่ตำบลฮอดนี้ ได้มาปรับปรุงบูรณะพระธาตุต่างๆ ในบริเวณนี้ แล้วตั้งขึ้นเป็นวัดที่มีพระจำพรรษาขึ้นมา ตั้งแต่วัดพระธาตุเจดีย์น้อย, วัดดอยอูบแก้ว และวัดพระธาตุดอยจ๊อม ซึ่งพระธาตุดอยจ๊อม เป็นพระธาตุที่อยู่บนดอยที่สูงที่สุดในอำเภอฮอด ท่านได้สร้างพระธาตุองค์ใหม่ครอบองค์เดิมไว้ โดยได้ตั้งชื่อพระธาตุเจดีย์ว่า “มหาเจดีย์พระธาตุมังกรทอง (ดอยจ๊อม)”


มหาเจดีย์พระธาตุมังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม) สำนักสงฆ์พระธาตุเจดีย์มังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม) ดำเนินการสร้างโดยมีพระเทพสิทธาจารย์ วิ (หลวงปู่ทอง สิริมังตโล) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เจ้าคณะอำเภอฮอด ประธานสร้างและบูรณะ สำนักสงฆ์พระธาตุเจดีย์มังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม)  วางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 12มีนาคม 2549 แล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550 รวมเวลาสร้าง 11 เดือน 22 วัน ด้วยกัน


นอกจากมหาเจดีย์พระธาตุมังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม) แล้ว บนยอดดอยยังมีศาลาลานธรรมอิ่มบุญ สำนักสงฆ์พระธาตุเจดีย์มังกรทอง (พระธาตุดอยจ๊อม) จัดสร้างโดย ประธานฝ่ายสงฆ์ พระอาจารย์อธิการอานันท์ อานันโท เจ้าอาวาสวัดดอนจั่น จ.เชียงใหม่ ประธานฝ่ายฆราวาส ท่านวัฒนา อัศวเหม และคุณพิพัฒน์ รัชกิจปราการ พร้อมด้วยคณะผู้มีจิตศรัทธากลุ่มอิ่มบุญ กันอีกด้วยครับ


สำหรับใครที่อยากหาโอกาสมา ขอแนะนำว่าคุ้มค่าแน่นอนครับ เพราะนอกจากจะได้ไหว้พระ ทำบุญแล้ว วิวบนยอดดอยแห่งนี้ยังสวยสุดๆ แบบ 180 องศา ที่ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหน ก็มีแต่ภูเขาตั้งตระหง่าน อันเต็มไปด้วยผืนป่าสีเขียวเหลียวมองแล้วสบายใจ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 02, 2015, 10:20:03 AM โดย konhuleg. » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ขึ้นบน พิมพ์ 
จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: เดินทางแสวงบุญที่พระธาตุดอยจ๊อม « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  




Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.5 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.08 วินาที กับ 20 คำสั่ง