ประวัติอารามบนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ @ วัดพระบาทปางแฟนสถานที่ตั้ง : บ้านปางแฟน หมู่ 5 ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : 19.017533, 99.300329
เรื่องราวของบ้านปางแฟนได้ถูกถ่ายทอดจากรุ่นเดอะในยุคบุกเบิกบ้านปางแฟน โดยมีพ่ออุ้ยอ้าย และแม่อุ้ยจันทร์ สุดาคำ อายุ 84 ปี ได้เล่าถึงต้นกำเนิดบ้านปางแฟนไว้ว่า แม่อุ้ยได้มาอยู่ที่บ้านปางแฟนกับพ่ออุ้ยอ้าย ขณะอายุได้ 22 ปี ครานั้นบริเวณพื้นที่ของบ้านปางแฟนยังเต็มไปด้วยผืนนา เมื่อชาวบ้านได้ร่วมกันบริจาคที่ดินเพื่อสร้างอาราม โดยมีสามเณรจากบ้านด้าย จังหวัดเชียงราย มาร่วมบุกเบิก ต่อมาก็มีแม่ชีสองท่านซึ่งบวชเป็นชีมาตั้งแต่อายุ 12 ปี มีความเคร่งครัดในพระศาสนา ได้เดินทางมาถึงบ้านปางแฟน แม่ชีทั้งสองคือ แม่ชีเกณฑ์ และมีชีน้อย ได้มาฝึกสอนวิชาชีพให้ชาวบ้าน และร่วมกับชาวบ้านสร้างวิหารหลังแรก โดยแม่ชีมักจะบอกกับชาวบ้านว่า สถานที่แห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก เพราะมักจะได้ยินเสียงปี่พาทย์มโหรีดังในวันพระเสมอ
แม่อุ้ยได้เล่าว่า นอกจากเสียงเพลงแล้วชาวบ้าน มักจะเห็นดวงไฟประหลาดเป็นแสงสีเขียว สีขาว ลอยมาจากดอยม่อนธาตุ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระบาทปางแฟนเท่าใด ดวงไฟมักลอยมาหาย ณ บริเวณอารามแห่งนี้ ขณะนั้นยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามีสิ่งสำคัญประดิษฐ์อยู่ ชาวบ้าน จะเคยเห็นคุ้นเคยแต่เพียงว่าอารามแห่งนี้มีก้อนหินก้อนหนึ่งใหญ่มาก มีรอยเท้าติดอยู่บนแท่นหินขนาดเท่าร้อยเท้าคนหนึ่งคู่ แต่ไม่ลึกมาก กระทั่งปี พ.ศ. 2529 พระครูมงคลศีลวงศ์ เจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ดในขณะนั้น ได้มาสำรวจสถานที่ เมื่อพระครูมงคลได้มาตรวจสอบรอยเท้าที่ปรากฏอยู่นั้น จึงทราบความจริงว่าเป็นรอยพระพุทธบาทอย่างแน่นอน ท่านเกรงว่ารอยพระบาทจะถูกเหยียบย่ำ และทำลายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงได้นำคณะร่างทรงในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกับพระครูมงคลสร้างเจดีย์ครอบรอยพระบาทแห่งนี้ไว้ เพื่อให้ประชาชนได้สักการบูชา โดยได้จำลองแบบ มาจากเจดีย์พุทธคยา จากประเทศอินเดีย ส่วนรอยพระบาทนั้น เพื่อเบนความสนใจของผู้ที่ประสงค์ร้ายจะมาทำลายรอยพระบาท จึงได้ทำใหม่ขึ้นมาอีก 4 รอย ตามที่ได้เห็นปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
เมื่อแม่ชีน้อย แม่ชีเกณฑ์ ได้ร่วมบูรณะวัดพระบาทปางแฟนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้ลากลับภูมิลำเนาเดิม ส่วนชาวบ้านได้เสาะหา พระผู้ปฏิบัติดี ประพฤติชอบ เพื่อจะได้มาจำพรรษา ขณะนั้นชื่อเสียงของพระอาจารย์ สำเร็จ คุตตาโภ จากจังหวัดลำปาง เป็นที่กล่าวขาน ของประชาชนในเขตภาคเหนือ ชาวบ้านจึงได้นิมนต์ให้มาจำพรรษาปกครองวัดแห่งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 จนถึงปี พ.ศ.2538 ท่านก็ลาสิกขา จากนั้นได้พระอาจารย์ตี๋ สิริปุญโญ มาครองวัดตั้งแต่ ปี พ.ศ.2538 แต่ก็ครองวัดได้ไม่นานก็ถึงแก่มรณภาพในปี พ.ศ. 2546เมื่อทางวัดพระบาทปางแฟนขาดพระภิกษุไปอีกครั้ง ทำให้ชาวบ้านรู้สึกหวั่นใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากวัดแห่งนี้เชื่อกันว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เร้นลับ หากพระสงฆ์บารมีไม่มากพอ ก็ไม่อาจปกครองวัดแห่งนี้ได้นาน
กระทั้งได้ท่านพระครูปลัดกฤต ฐิตวิริโย หรือครูบาโต จากเมืองแพร่ มาปกครองและพัฒนาวัดพระบาทปางแฟน ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2546 จนถึงปัจจุบัน
by Traveller Freedomกำเนิดอารามแห่งบ้านปางแฟน @ วัดพระบาทปางแฟนประวัติอารามบนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ @ วัดพระบาทปางแฟนอภินิหารต้นไม้พระพุทธรูป @ วัดพระบาทปางแฟน