ที่ต้องบอกว่าตามล่า ก่อนอื่นต้องบอกว่า ผมไม่รู้จักที่ตั้งของน้ำตกครับ และจากป้ายทางเข้าหมู่บ้านที่เห็น มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยสำหรับผม คือรู้แค่ว่าตั้งอยู่ก่อนถึงตัวหมู่บ้าน และรู้ว่าสิ้นสุดหมู่บ้านแห่งนี้มันคือทางตัน
ขับรถเรื่อยเข้ามาถึงหมู่บ้าน ขับผ่านเข้าไปจนถึงจะสุดทาง (ที่แลดูจะมุ่งหน้าเข้าไปยังสวนของชาวบ้าน) ถึงตรงนี้ก็พอจะรู้แล้วว่าตัวเองหาน้ำตกไม่เจอ ฉะนั้นก็เลยต้องอาศัยปากนี่แหละถามชาวบ้านแถวนั้นว่า น้ำตกอยู่ตรงไหนครับ
ผมไปจอดรถถามคุณตาคนนึง แกก็อธิบายไปว่าน้ำตกมันอยู่ก่อนถึงตัวหมู่บ้าน ถ้าผมขับรถออกไปก็ให้เลี้ยวซ้ายมือ แต่มันจะไม่มีป้ายบอก และต้องเดินเข้าไปประมาณเกือบ 1 กิโลเมตร ไอ้ผมก็พยายามจดจำรายละเอียดต่างๆ ไว้ เผื่อกันหลง และพอแน่ใจว่าจะไม่หลงแน่ๆ ก็บอกลาคุณลุงออกเดินทางย้อนกลับไป เพื่อตามหาน้ำตก 7 ชั้นกัน
แต่ในระหว่างที่กำลังขับรถออกไป คุณตาก็กวักมือเรียกผม บอกเดี๋ยวอย่าเพิ่ง แกจะให้ลูกสาวแกพาผมไปยังน้ำตก เพราะไม่งั้นเดี๋ยวจะหลงทางและไม่รู้จัก อีกอย่างทางไปน้ำตกถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่ รับรองว่ามีไปไม่ถูกแน่นอน
คุณแม่สังวาร ลูกสาวคุณตา คือคนนำทางที่จะพาผมไปยังน้ำตก อายุคุณแม่ ก็ราวๆ 50 ปี (ก็ไล่เลียกับอายุของแม่ผม)หลังจากแกจัดเตรียมของนิดๆ หน่อย มีมีดพร้า น้ำดื่ม ก็ได้เวลาพาผมไปยังน้ำตก 7 ชั้น โดยใช้มอเตอร์ไซค์กันคนละคันเป็นยานพาหนะ
ออกมาจากตัวหมู่บ้านได้ไม่ไกลนัก ก็มาถึงทางเดินที่จะเข้าไปยังน้ำตกกัน ผมสังเกตตรงทางเดินเท้า พบว่ามันไม่มีป้ายจริงๆ และถ้าผมมาคนเดียว ก็ไม่มีทางรู้แน่นอนเลยล่ะว่า ตรงนี้มันคือทางเข้าน้ำตก 7 ชั้น
คุณแม่สังวารพาผมเดินเท้าเข้าไปยังน้ำตก 7 ชั้น โดยผ่านป่าเข้าไปน่าจะซัก 1 กิโลเมตรเห็นจะได้ ป่าที่เดินผ่านไม่ค่อยรกมาก ทางเดินจะแฉะนิดๆ เพราะเป็นหน้าฝน บางช่วงจะสังเกตเห็นว่ามีขี้วัว ขี้ควายด้วย เพราะชาวบ้านแถวนี้เลี้ยงวัวเลี้ยงควายแบบปล่อยเลี้ยงกันไปเลย พอมืดค่ำเดี๋ยวมันก็จะกลับบ้านกันเอาเอง
เออ นั่นมันเชื่องยังกับน้องหมาเลยนะเนี่ย
ระหว่างเดินมา ไอ้ผมก็ชวนคุยไปเรื่อยกันนั่นแหละครับ จริงๆ ก็แทบจะไม่เกี่ยวกับน้ำตกหรอก แต่เป็นเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องสภาพความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้าน และเรื่องอื่นๆ ที่นึกออกในระหว่างที่เดินกัน ทำนองถามไปเรื่อย สงสัยไปเรื่องตามประสาของผมเอง
ไว้เดี๋ยวมาเล่าต่อให้จบครับรู้สึกว่าจะมีเยอะกันพอสมควร