สาวออฟฟิตหนีเมืองวุ่นวาย สู่บ้านป่าปงเปียง (นาขั้นบันได) อันเงียบสงบ

[kurova]

     เหนื่อยล้ากับการทำงานตลอดทั้งสัปดาห์ พอถึงวันหยุดทีไรก็จะพากันออกไปเที่ยวหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่สามารถหาซื้อได้จากร้านสะดวกซื้อ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมาจึงได้มีโอกาส ออกเดินทางอีกครั้งจากตัวเมืองเชียงใหม่ สู่บ้านป่าปงเปียง และ อำเภอแม่แจ่ม พร้อมกนแล้วไปเที่ยวกัน เราเดินทางโดยรถมอเตอร์ไซด์คู่ใจ Honda CRF 250

     การเดินทางเราเริ่มจากกันนัดเพื่อนร่วมเดินทางที่ ปั๊ม ปตท. หางดง 9 โมงเช้า (ออกสายนิดหนึ่งเพราะเมื่อคืนหนักไปหน่อย) เพื่อนร่วมเดินทางก็ไม่ได้เยอะอะไร มีแค่ 4 คนเท่านั้น ต้องบอกก่อนว่าการเดินทางของเราครั้งนี้ใช้มอเตอร์ไซด์ในการเดินทางกันหลังจากที่เราพร้อมกันแล้วเราก็ออกเดินทางใช้เส้นทางไปดอยอินทนนท์ เราจะผ่านด่านทางขึ้นอินทนนท์แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าไปแม่แจ่ม จะไม่เสียค่าด่าน ขี่ไปเรื่อยๆ จนถึงด่านที่ 2 ก็แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าไปแม่แจ่ม ออกจากด่านมาประมาณ 100 เมตร  จะมีถนนด้านซ้ายมือ คือเส้นทางที่เดินทางไปยัง อำเภอแม่แจ่ม เมื่อเลี้ยวซ้ายขับไปตามทางประมาณ 6 กิโล ให้สังเกตทางด้านขวามือ จะมีป้ายเขียนว่า หน่วยพิทักษ์ฯ แม่แจ่ม อน.2 จะเป็นทาง 2 เลนส์ รถพอสวนกันได้ แต่ถ้ามอเตอร์ไซด์ สบายมาก ขี่ไปเรื่อยๆ ไปเจอเพื่อนร่วมทางมาปั่นจักรยาน ไปต่อแล้วกันเนาะ ก็ขี่ตามทางไปเรื่อยๆ ก็จะเจอสามแยกที่มีป้ายบอกว่าทางไปน้ำตกแม่ปานขี่ไปตามทางเลยจ้า ประมาณ 8 กิโลเมตร  ทางที่ไปไม่มีถนนลาดยางเลย เป็นทางดินล้วนๆๆ โดยปกติเค้าจะใช้รถ 4WD ในการเดินทางกัน ก่อนที่เราจะไปถึงมีฝนตก เลยทำให้ถนนเละมาก มีแต่โคลน จมซะครึ่งล้อมรถมอเตอร์ไซด์ แต่ก็นั้นแหละมันคือประสบการณ์ที่เราอยากไปเจอ คิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องลำบาก และอีกมิตรภพที่เกิดขึ้นจากการเดินทางครั้งนี้ก็คือการได้พบเจอเพื่อนใหม่ที่เดินทางมาเที่ยวแล้วใช้มอเตอร์ไซด์เช่นเดียวกับเรา แต่เค้ามาคนเดียว เราก็เลยชวนเค้าขับไปด้วยกัน ขี่ไปซักประมาณ 15 นาทีก็ไปถึงบ้านป่าปงเปียง จะเป็นสามแยกขี่ตรงเข้าหมู่บ้านเลย ขับไปซักประมาณ 200 เมตร หาที่จอดรถ ด้านขวามือจะเป็นนาข้าวทั้งหมด เดินขึ้นไปบนเนินเลย ก็จะได้พบจุดหมายที่เราตามหาจริงๆ นี้ไงที่เค้าเรียกว่าสวรรค์บนดินอย่างแท้จริง

[kurova]

ดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติ นาข้าว และทุ่งข้าวโพด แบบอิ่มหนำสำราญแล้วเราก็มุ่งหน้าต่อไปอำเภอแม่แจ่มต่อดีกว่าโดยเราใช้ทางด้านบนหมู่บ้านป่าปงเปียง ออกไปยังตัวอำเภอแม่แจ่มตามถนนหมายเลย 1088 ใช่เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง เราก็ไปแวะทานข้าวกลางวันกันที่ตัวอำเภอ อาหารที่ง่ายที่สุดำหรับเราทริปนี้คือ ก๋วยเตี๋ยวที่ “ร้านจันสม ก๋วยเตี๋ยว” มีขายทั้งก๋วยเตี๋ยวหมู และก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ราคาไม่แพง และอร่อยสุดๆ

[kurova]

     พอทานเสร็จเรียบร้อยก็พร้อมออกเดินทางอีกครั้ง พอดีมีพี่ที่รู้จักกันอยู่แถวนั้นก็เลยไปแวะเยี่ยม และทักทายก็ออกเดินทางกลับเชียงใหม่ ตามถนนหมายเลข 1088 ขี่ไปตามทางเรื่อยๆ ที่นี้ละงานเข้าสิคะ ฝนตก เสื้อกันฝนก็ไม่ได้เอาไปทำไงดีละทีนี้เพื่อร่มทางอีกคันเค้าเตรียมพร้อมพกมาด้วย 2 ตัว แบ่งให้เราตัวหนึ่งให้คนขี่ใส่ส่วนเราคนซ้อนละ ก็เปียกสิคะ แต่ก็ไม่เป็นไรเค้าก็บังฝนให้เราได้พอสมควร ขี่รถไปเรื่อยๆ ทางเส้นแม่แจ่ม-ดอยอินทนนท์ กำลังสร้างถนนใหม่ ก็ค่อยๆ ขี่กันไป เพราะทางค่อนข้างอันตราย เพราะฝนตกด้วย ทางเราขี่ตามกันไปจนเจอถนนขึ้นไปดอยอินทนนท์ (ด่านที่ 2) เราก็เลี้ยวขวากลับเข้าตัวเมืองทีนี้ละฝนไม่ตกแต่มีหมอกลงมาเต็มถนนเลยเหมือนฤดูหนาวเลย พอขี่ไปเรื่อยๆ จนออกตัวอำเภอสันป่าตอง คราวนี้ไม่มีฝน ไม่มีหมอก มีแต่แดดแรงๆ และเราก็กลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่กัน ทำให้การเที่ยวของเราในวันนี้มีครบทุกรส รวมระยะเวลาในการเดินทางของเราวันนี้ก็ไปกลับ เชียงใหม่ – บ้านป่าปงเปียง – แม่แจ่ม – เชียงใหม่ ก็ประมาณ 9 ชั่วโมง ระยะทางในการเดินทางประมาณ 260 กิโลเมตร

ช่วงเวลาที่ที่แนะนำให้มาเที่ยวบ้านป่าปงเปียงช่วงต้นเดือนกันยายน – ปลายตุลาคม นาข้าวที่บ้านป่าบงเปียงจะยังเป็นสีเขียว และเห็นเส้นของขอบนาที่ตัดกับสีของข้าว แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนต้น - กลางเดือนพฤศจิกายน นาข้าวจะให้สีทองงดงาม และถือว่าเป็นทุ่งนาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย (ถ้ามีโอกาสจะไปถ่ายรูปรวงข้าวสีทองมาฝากอีกครั้ง)

[auto]

ขอบคุณ รีวิว และ รูปถ่ายสวยๆ ที่นำมาให้ชมครับ 

[art57110]

ทริปการเดินทางที่ดูเหมือนจะ ทรหด แต่ก็แลกมาความประสบการณ์ในการเดินทางที่ดีมากๆ เห็นแล้วคงต้องจัดทริปไปบ้างแล้วล่ะ