พามาต้มไข่กินที่ "น้ำพุร้อนสันกำแพง"

[konhuleg]

น้ำพุร้อนสันกำแพง สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเชียงใหม่ และ อ. สันกำแพง ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันครับ ไอ้ผมก็เพิ่งมีโอกาสมาครั้งแรก ไม่รู้ว่ามันจะเข้าท่าขนาดนั้น เมื่อนึกถึงคำว่าน้ำพุร้อน ก็คิดว่ามันน่าจะมาเที่ยวตอนฤดูหนาวน่าจะดีที่สุด แต่ก็นั่นแหละ มาเที่ยวฤดูฝน (ที่แดดเปรี้ยง อาจจะให้ความรู้สึกที่แปลกออกไปอีกอย่างหนึ่ง)

การเดินทางไปน้ำพุร้อนสันกำแพง ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวที่ยังผ่อนไม่หมดกัน ฮ่าๆๆ ใช้เส้นทางได้ 2 เส้นทางคือ เส้นทางเชียงใหม่-สันกำแพง-หมู่บ้านออนหลวย-น้ำพุร้อน มีป้ายบอกชัดเจนตลอดเส้นทาง และอีกเส้นทางเป็นเชียงใหม่-สันกำแพง- สถานีเพาะพันธุ์กล้าไม้สัก-น้ำพุร้อน (เส้นทางนี้จะผ่านถ้ำเมืองคอน ซึ่งอยู่ห่าง จากน้ำพุร้อน 4 กิโลเมตร)

ส่วนใครใช้รถโดยสารสารธารณะ สามารถทำได้โดยไปขึ้นรถจากสถานีขนส่งช้างเผือก ไปยัง สันกำแพงและเช่าเหมารถสองแถวจากสันกำแพง ไปน้ำพุร้อนราคาประมาณ 200 บาทต่อคัน นอกจากนี้ยัง มีรถบริการของน้ำพุร้อนซึ่ง ออกจาก ททท. เชียงใหม่ เวลา 10.00 น. และกลับจากน้ำพุร้อนเวลา13.00 น. ทุกวัน ในราคา 80 บาทต่อคน อันนี้ถือว่าจบไปเรื่องการเดินทาง

เมือ่มาถึงบริเวณด้านหน้าทางเข้า จะมีลานจอรถไว้ค่อยบริการกันครับ มอเตอร์ไซค์แบบผม 10 บาท ส่วนรถยนต์เนี่ยไม่แน่ใจ ว่าราคาเท่าไรกัน ลองสอบถามดู ก่อนเข้าไปแถวนั้นมีร้านอาหารวางเรียงรายกันอยู่ ใครหิวก็หาเลือกร้านสั่งอาหารมากินได้ (แต่ขนเข้าไปกินข้างในได้รึเปล่าไม่รู้ เพราะด้านในก็มีของกินขาย)

ค่าบัตรผ่านประตู 40 บาท ครับ สำหรับคนไทย ไม่รู้ว่ามันถูกหรือแพงกันแน่ แต่เอาเป็นว่าไว้เข้าไปดูข้างในก่อนค่อยมาออกกันอีกที

จากด้านหน้าทางเข้าเป็นลานจอดรถกว้างขวางมีซุ้มบริการอาหารเครื่องดื่มมากมายหลายร้าน ตรงมายังบริเวณทางเข้าไปยังน้ำพุร้อน จะมีห้องแถวยาวเป็นร้านขายสินค้าของที่ระลึกและ ของดีเมืองสันกำแพง และ ของจังหวัดเชียงใหม่หลายชนิด มีทั้งผ้าทอล้านนา,ร่มบ่อสร้าง,ของตกแต่งบ้าน,สมุนไพร,ผลไม้ชนิดต่าง ๆ ,อาหารแปรรูป, เครื่องปั้นดินเผา ,ไม้แกะสลักและอีกหลายชนิดให้เราได้ชมและเลือก ซื้อหาเป็นของ ฝากกลับ บาน แต่ละอย่างล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าคุณภาพที่มาจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ใครสนใจก็สามารถเลือกซื้อเอากันได้ครับผม แต่เป็นไปได้ ก็ควรจะซื้อกันตอนกลับน่าจะดีกว่า เพราะจะได้ไม่ต้องหิ้วกันไป หิ้วกันมาให้เมื่อยตุ้มในระหว่างที่เดินเที่ยวเพลิดเพลินกันอยู่ในนั้น

แล้วมาต่อกันตอน 2 ครับ

[konhuleg]

เมื่อเดินมาถึงจุดๆ หนึ่ง ที่เราเรียกว่าตรงขายของที่ระลึก ถัดจากอาคารขายของที่ระลึกไปก็เป็นส่วนของสวนดอกไม้ ที่จัดไว้อย่างสวยงามตามฤดูกาลมีทั้งดอกไม้เมืองหนาว ร้อน, ฝน และถ้าเข้ามาเที่ยวในหน้าหนาวดอกไม้หน้าหนาวของที่นี่ก็มีไห้ชมเยอะพอสมควรและสวยงามเต็มสนามหญ้าไปหมดทั่วบริเวณ

ในส่วนแห่งนี้จะถนนเล็กๆ รอบสวนดอกไม้ เอาไว้สำหรับเดินชมทำธรรมชาติกันครับ ซึ่งเราสามารถใช้เส้น ทางนี้ในการเดินศึกษาธรรมชาติได้อีกกิจกรรมหนึ่ง และตลอดเส้นทางเดินไปยังน้ำพุร้อนทั่วบริเวณก็เต็มไปด้วยแมกไม้ป่านานาชนิด ทั้งต้นใหญ่ต้นเล็กที่ช่วยให้ร่มเงา สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าไปพักผ่อนด้านในทั่วบริเวณ มีซุ้มที่นั่งพักผ่อนทานอาหารและจัดชุดโต๊ะเก้าอี้ตามร่มไม้ อยู่ทั่วบริเวณทางไปตัวน้ำพุร้อน

ทั้งนี้ ตลอดทางเดินก็มีธารน้ำแร่ร้อนทีไหลคดเคี้ยวมาจากตัวน้ำพุร้อนทางด้านบน โดยได้จัดแต่งธารน้ำร้อนขนาด กว้าง ราว 2 เมตร อุณหภูมิมีตั้งแต่ร้อนมากจนถึงแบบอุ่น ๆ สองฝั่งธารน้ำเป็นที่นั่งสำหรับให้นักท่องเที่ยว ได้ห้อย ขาแช่เท้าในน้ำแร่เพื่อเป็นการผ่อนคลายของ กล้ามเนื้อและสามารถรักษาโรคเชื้อราในเท้าได้อีกด้วย ซึ่งในช่วงสุดท้าย น้ำค่อนอุ่นและเริ่มเย็นเขาก็จัดเป็นบ่อขนาดเล็กสำหรับเด็ก ๆ ได้ลงไปเล่นแช่น้ำกันอย่างสนุกสนาน หรือบางที่ก็อาจจะเห็นเด็กบางคนลงไปอาบเลยก็มี ตามประสาเด็กที่ไม่เกี่ยงว่าจะมีผู้ใหญ่เอาเท้าไปลงไปแช่กันแล้วเรียบร้อย

พูดถึงกันในระหว่างตอนผมนั่งแช่เท้า ตอนหย่อนลงไปทีแรกไม่คิดหรอกว่ามันจะร้อนขนาดนั้น แต่พอจุ่มกันไปเท่านั้นแหละ โอโห้ มันร้อนพอสมควร ยิ่งบวกกับสภาพอากาศในวันนั้นที่ร้อนอบอ้าวในระดับ 30 องศาอัพ กลายเป็นว่ามันเลยร้อนบวกกันเพิ่ม แต่เมื่อนั่งไปได้ซักพัก ก็เริ่มจะโอเคกันไปในระดับหนึ่ง ซึงผมคิดว่า ถ้าจะมานั่งแช่กันแบบนี้ มาหน้าหนาวถ้าจะดีสุดๆ เพราะมันจะได้อุ่นๆ กันพอดีครับ

จากนั้นเมื่อเดินเข้ามาถึงบ่อน้ำพุร้อน ด้านหน้าจัดเป็นบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่สำหรับให้นักท่องเที่ยวเข้าไปต้มไข่ ซึ่งน้ำก็สามารถต้มไข่ให้สุกได้จริง ๆ โดยมีระยะเวลาในการต้ม ก็คือ 1.แบบไข่ลวกต้มประมาณ 3 นาที 2.แบบยางมะตูม ใช้เวลา ประมาณ 5-6 นาที 3.แบบสุกก็ต้มประมาณ 10-15 นาที ซึ่งเขาว่ากันว่า เป็นกิจกรรมที่ต้องพิสูจน์เมื่อเข้ามา ท่องเที่ยว น้ำพุร้อนสันกำแพงแห่งนี้ และเป็นของกินยอดนิยมประจำน้ำพุร้อนสันกำแพง ที่สนุกสนานเพลิดเพลินและอิ่มกันถ้วนหน้า

แล้วมาว่ากันตอนจบครับ

[konhuleg]

เข้ามาในน้ำพุร้อนสันกำแพงได้ 15 นาที จะเห็นได้ว่ามีนักท่องเที่ยวขยันกันต้มไข่เหลือเกินครับ ซึ่งทั้งด้านหน้าทางเข้า และด้านในก็จะมีตระกร้าไข่เอาไว้จำหน่ายกัน ให้เอาไปต้มกินแบบอร่อยๆ บางคนหัวหม่อหน่อยถ้ามาเที่ยว ก็ซื้อไข่กันมาจากข้างนอกเอา

ทั้งนี้ในส่วนที่จะต้องต้มไข่นั้น จะอยู่ตรงบ่อน้ำพุขนาดใหญ่กันนะครับ ไม่ใช่ตรงธารน้ำแร่ร้อน ซึ่งถ้าเอาไปต้มตรงธารน้ำแร่ร้อน อันนั้นมีหวังสุกช้า ที่สำคัญ อาจจะได้กินไข่เค็มต้มแทน เพราะตรงธารน้ำแร่ร้อนดังกล่าวนั้น มีแต่คนพากันแช่เท้าครับ ฮ่าๆๆ

พูดถึงเรื่องแช่เท้า ก็นึกถึงอีลุงคนนึงมานั่งแช่ ผมเห็นแกพล่ามเรื่องการเมือง ศาสนากับ เพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานเท่าไร แกพูดซะแบบเพื่อนคนนั้นลุกหนีกลับบ้านไปเลย เพราะรำคาญว่าแทนที่จะได้มาพักผ่อนแบบสบายใจ เอาเท้าแช่น้ำร้อนใสๆ ทำไมต้องมาเจอการบ่นเรื่องหนักหัวแบบนี้ด้วย ซึ่งอันนี้ก็รวมทั้งผมด้วยเช่นกันครับ ไม่ไหวจะเคลียร์

กลับมาที่เรื่องบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่

ด้านในสุดเป็นบริเวณน้ำพุร้อนสันกำแพงอันเดือดพล่านกันครับ โดยสองบ่อสองสายน้ำร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากใต้พิภพจะพุ่งสูงเป็นลำ เป็นสาย เสียงดัง ไปทั่วบริเวณ และค่อย ๆ แตกพรายเป็นละอองน้ำในอากาศสูงกว่า 20- 30 เมตร และจากสายน้ำที่มีความร้อนด้านล่าง เมื่อพุ่งไปด้านบนอากาศเป็นละอองน้ำแล้ว อุณหภูมิก็ลดลงเป็นละอองน้ำที่เย็น เมื่อลมพัดผ่านหอบมาสัมผัสกับผิวกาย

นอกจากธารน้ำแร่ร้อน บ่อน้ำพุร้อน แล้ว ก็ยังมีห้องอาบน้ำแน่เอาไว้บริการกันอีกด้วยนะครับ ซึ่งประโยชน์ของการอาบน้ำแร่นั้น เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แก้ปวดเมื่อย รักษาโรคผิวหนัง ทำให้ระบบหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น ใครสนใจก้ลองไปใช้บริการดู

ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมที่เหลือนั้น น้ำพุร้อนสันกำแพง เปิดไห้เขาชมทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 8.00 น – 21.00 น บัตรผ่านเบอร์ ติดต่อสอบถาม สำนักงานน้ำพุร้อนสันกำแพง โทร. 0 53-92 9077, 0 53-92 9099  ครับ

สำหรับผมหลังจากการมาเที่ยวเสร็จแล้ว พอจะสรุปได้ว่า น้ำพุร้อนสันกำแพง ถ้าจะมาเที่ยวควรมากันในช่วงหน้าหนาวน่าจะเข้าท่าที่สุด และลองนึกดูตอนพากันต้มไข่กิน ต้มตอนหน้าหนาวนี่แหละดีที่สุด กินแบบร้อนๆ กันเพื่อคลายหนาว รวมทั้งอาบน้ำแร่กันอีกด้วย ส่วนที่ไม่ค่อยพอใจ คือเก็บค่าที่จอดรถลูกค้าทั้งๆ ที่ควรจะให้จอดฟรี ก็ในเมื่อมาเที่ยวแล้วเสียตังค์ค่าเข้าชมกันแล้วด้วย อีกอันคือข้างในอาหาร เครื่องดื่มแพงเกินไปครับ โค้กกระป๋องละ 12 ขายกันตั้ง 20 บาท

นี่คราวหน้าถ้ามาอีก เดี๋ยวผมจะมาเปิดซุ้มขายซอสถั่วเหลืองเอาไว้จิ้มกับไข่กันครับ

[jijira]

น่าเที่ยวมากๆคะ >>