ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
พฤศจิกายน 27, 2024, 09:36:23 AM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ประกาศ ปัมพ์โพสต์ตอบแต่ emoticon ต่อเนื่อง เพื่อจะให้กระทู้ตัวเองมาอยู่อันดับต้นๆ ประจำ รับสิทธิ์โดนแบน 90 วันครับ


จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: พาไปกราบไหว้สักการะสังขาร "หลวงปู่ครูบาน้อย" แห่งวัดบ้านปง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: พาไปกราบไหว้สักการะสังขาร "หลวงปู่ครูบาน้อย" แห่งวัดบ้านปง  (อ่าน 1833 ครั้ง)
konhuleg
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2015, 12:24:11 PM »


เนื่องจาก มีโอกาสแวะมาเที่ยววัดบ้านเด่นใน ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขากลับเพียงไม่ให้เป็นการมาแบบเสียเที่ยว กระผมเลยแวะเที่ยววัดในโซนนั้นที่น่าสนใจกันแทบจะครบครับ ซึ่งหนึ่งในวัดที่น่าสนใจนั้น มีชื่อของวัดบ้านปงรวมอยู่ด้วย

วัดบ้านปง ตั้งอยู่หมู่ ๗ ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๒ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๙  วัดแห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจก็คือ การพามากราบไหว้สักการะบูชาสังขารของหลวงปู่ครูบาน้อย ชยวังโส  ที่เก็บไว้ในโลงแก้ว ซึ่งท่านได้มีส่วนร่วมสร้างทางขึ้นดอยสุเทพกับครูบาศรีวิชัย และเป็นพระใจดี มีเมตตาสูง มีปฏิปทาที่สมบูรณ์พร้อม จึงทำให้สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อยตามกาลเวลา

ตากประวัติความเป็นมานั้น หลวงปู่ครูบาน้อย ชยวังโส ท่านเกิดวันอังคาร ที่ ๓ เมษายน ๒๔๔๐ ตรงกับวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๗ เหนือ ปีจอ ท่านเป็นคนบ้านปง ต.อินทขิล อ.แม่แตง โดยกำเนิด โยมบิดาท่านชื่อ พ่อวงศ์ โยมมารดาชื่อ แม่ออน นามสกุล พงษ์คำ

ท่านอายุได้ ๑๓ ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดบ้านปง โดยมีครูบามโนชัย วัดศรีภูมินทร์ ต. ช่อแล เป็นพระอุปัชฌายา และท่านได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาต่างๆ กับท่านครูบามโนชัย ซึ่งสมัยนั้นได้เรียนการปฏิบัติธรรมนั่งกรรมฐานเป็นส่วนมาก แล้วมักจะได้เรียน วิชาคาถาอาคมควบคู่กันไปด้วย ท่านเล่าเรียน จนท่านสามารถเข้าถึง และปฏิบัติได้ดี

จนท่านอายุ ๒๓ ปี ท่านได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดบ้านปง โดยมีท่าน ครูบามโนชัย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระศรีวิชัย วัดป่าบง อินทขิล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสิทธิ วัดม่วงคำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านได้เรียนนักธรรมชั้นต่างๆ จนสอบนักธรรมตรีได้ ในพ.ศ .๒๔๘๔ และนักธรรมโทได้ในปี ๒๔๘๖ และ นักธรรมชั้นเอก ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ในสมัยที่ท่านเป็นหนุ่มท่านได้เดินธุดงค์จาก อ. แม่แตง ไปสู่ อ.ฝาง ไปตามป่าช้าต่างๆ ถึงสี่เดือน ท่านจึงกลับมาจำพรรษา ที่วัดอีกครั้งหนึ่ง

ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านปง เมื่อ วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๔๗๘ และได้รับการแต่งตั้ง เป็นเจ้าคณะตำบลอินทขิล ในวันที่ ๑ กันยายน ๒๔๘๙ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นตรี ที่ "พระครู ชัยวงศ์ วิวัฒน์" ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๗ และ ชั้นโท วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๔ ชันเอกวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๖ และ หลวงปู่ท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่ได้มีโอกาสได้ร่วมเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ ล้านนา ซึ่งก็คือในตอนที่ท่าน ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้เป็น ประธานการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ในปี พ.ศ.๒๔๗๗ ท่านได้ร่วมกับโยมพ่อ วงษ์ และคณะศรัทธาญาติโยมวัดบ้านปง มาร่วมสร้างทางกับท่านครูบาเจ้าและท่านได้ฝากตัว และอุปัฏฐาก ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยและร่วมงานในการบูรณะวัดสวนดอก วัดพระสิงห์ และที่อื่นๆอีกมากมาย ครูบาน้อยท่านเป็นพระที่ใจดี มีเมตตาสูง ใครที่เคยไปกราบท่านมักจะประทับใจในรอยยิ้มของท่านอยู่เสมอครับ อีกทั้งท่านยังเป็นที่เคารพรักในบรรดา ลูกศิษย์ลูกหา และพระสงฆ์อีกจำนวนมากมายครับ หลวงปู่ครูบาน้อย

ท่านได้มรณะภาพ เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๔๑ เวลา ๐๘ . ๓๐ น ด้วยโรคชรา สิริรวมอายุของท่านได้ ๑๐๑ ปี ปัจจุบันทางวัดได้เก็บรักษา สรีระร่างกายของท่านไว้ ในโลงแก้วที่วัดบ้านปง โดยสรีระของท่านยังคงเป็นปกติไม่เน่าไม่เปื่อยแต่อย่างใด

ส่วนตอนหน้าจะพาไปสำรวจศาสนสถานภายในวัดกันครับ



* 20150730_133855.jpg (236.52 KB, 800x600 - ดู 404 ครั้ง.)

* 20150730_133924_RichtoneHDR.jpg (249.77 KB, 600x800 - ดู 410 ครั้ง.)

* 20150730_133944_RichtoneHDR.jpg (200.39 KB, 600x800 - ดู 381 ครั้ง.)

* 20150730_134007_RichtoneHDR.jpg (185.76 KB, 800x600 - ดู 383 ครั้ง.)

* 20150730_134701.jpg (267.65 KB, 600x800 - ดู 427 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 12, 2016, 02:37:29 PM โดย TripChiangmai » บันทึกการเข้า
konhuleg
บุคคลทั่วไป


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 12, 2016, 02:20:19 PM »


ให้หลังจากการขึ้นไปกราบไหว้สักการะ สังขารของหลวงปู่ครูบาน้อย ชยวังโส เสร็จแล้วเรียบร้อยบนศาลา กระผมก็จะพามาเดินเที่ยวในวัดบ้างว่ามีอะไรสวยๆ ให้ชม

เริ่มต้นกันที่ ซุ้มโขงหรือประตูโขง ที่ถูกสร้างตามคติความเชื่อว่าทำหน้าที่เป็นตัวกั้นระหว่างความไม่สงบภายนอกกับความสงบภายใน เป็นขอบเขตที่ทำให้ผู้ที่เข้าไปภายในต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนให้มีความ สำรวมและเหมาะสม องค์ประกอบของซุ้มโขงประกอบด้วยฐานสี่เหลี่ยมรับฐานปัทมยกเก็จ ตัวเรือนธาตุรูปสี่เหลี่ยมยกเก็จตามส่วนฐานมีช่องเจาะทะลุเป็นทางเข้าสู่ภาย ในทั้งที่ฐานและตัวเรือนธาตุ ซุ้มทางเข้าเป็นซุ้มวงโค้ง ส่วนยอดเป็นหลังคาลาดและชั้นลด

จากนั้นเข้ามาด้านใน มีวิหารทรงล้านนา ลักษณะโครงสร้างของอาคาร เป็นการผสมผสานระหว่าง โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน กับ โครงสร้างไม้ หลังคาเป็นทรงจั่วมีการซ้อนชั้นของหลังคาด้านหน้าสามชั้น ด้านหลังสองชั้น สัมพันธ์กับการยกเก็จของผัง หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาหรือแป้นเกล็ด (หลังคาแผ่นไม้) ภายในวิหารแบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ พื้นที่ ของพระสงฆ์ ได้แก่ อาสนสงฆ์ และบุษบกธรรมมาสน์ สำหรับอาสนสงฆ์ เป็นที่นั่งพระภิกษุสามเณร มักทำเป็นแท่นยกพื้นอยู่ทางด้านขวามือของพระประธาน ส่วนบุษบกธรรมมาสน์หมายถึงแท่นสำหรับใช้เทศนาของพระภิกษุสงฆ์ในวันสำคัญทาง ศาสนา พื้นที่ของฆราวาส ได้แก่ห้องโถงส่วนกลางของอาคาร เป็นพื้นที่นั่งของชาวบ้านเพื่อฟังเทศน์ในวันพระ ชาวบ้านจะนั่งกับพื้นซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่ต่ำกว่า พระสงฆ์ และพระประธาน โดยมักจะให้ผู้ชาย ซึ่งเป็นผู้อาวุโส นั่งด้านหน้าสุดใกล้พระประธาน ส่วน คนผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก จะนั่งถัดออกไป ด้านหลัง ฐานชุกชี หรือแท่นแก้ว หมายถึงพื้นที่ด้านในสุดของวิหาร มักทำเป็นแท่นยกพื้นสูงกว่าอาสนสงฆ์ ใช้สำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งเป็นประธานของวัด

ในส่วนของพระประธานนั้น เป็นพระพุทธรูปางมารวิชัย เป็นพระพุทธรูป อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางคว่ำลงที่พระชานุ นิ้วพระหัตถ์ชี้ลงที่พื้นธรณีในคราวที่พระองค์ทรงเอาชนะมารได้ อันเป็นพระประจำเดือนหก และเป็นพระประจำวันพระเกตุเสวยอายุแทนปางขัดสมาธิเพชรได้ นอกจากนี้ภายในผนังของวิหารยังมีจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธศาสนา รวมทั้งวิถีชีวิตของคนล้านนาอีกด้วย
ต่อมาหอไตร แบบหอสูง อันเป็นรูปแบบที่นิยมสร้างกันมากที่สุดของล้านนา แผนผังหอไตรมักเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและอาจแยกได้เป็น แผนผังที่สร้างให้มีมุขยื่นออกจากตัวอาคาร ซึ่งอาจจะมีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านหน้าหอไตรมีรูปปั้นตัวมอม เป็นสัตว์ในจินตนาการอย่างหนึ่งรูปร่างคล้ายราชสีห์ผสมมังกร มักปั้นเพื่อใช้ประดับสถานที่ ลักษณะของศิลปะนั้นได้รับอิทธิพลจากจีน ส่วนในศิลปะลาวและอีสานนั้น เชื่อว่า มอมเป็นสิงห์จำพวกหนึ่ง ช่างนิยมปั้นให้มีลักษณะคล้ายสิงห์ลำตัวยาวประดับราวบันได หรือปั้นคล้ายสุนัขขนาดใหญ่มีแผงคอและแผงหลัง และชาวอีสานถือว่ามอมเป็นสัตว์มงคลที่ปรากฏอยู่ในลายสักร่างกายของคนสมัยโบราณด้วย

นอกเหนือจากที่กล่าวมา ภายวัดยังมีพระอุโบสถล้านนา เจ้าแม่กวนอิม เป็นศาสนสถานและศาสนวัตถุให้ได้เยี่ยมชมและกราบไหว้กันอีกด้วยครับ


* ty_001.jpg (242.18 KB, 800x600 - ดู 337 ครั้ง.)

* ty_002.jpg (262.92 KB, 800x600 - ดู 350 ครั้ง.)

* ty_003.jpg (256.47 KB, 800x600 - ดู 338 ครั้ง.)

* ty_004.jpg (173.4 KB, 600x800 - ดู 339 ครั้ง.)

* ty_005.jpg (233.45 KB, 800x600 - ดู 325 ครั้ง.)

* ty_006.jpg (181.33 KB, 800x600 - ดู 351 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ขึ้นบน พิมพ์ 
จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: พาไปกราบไหว้สักการะสังขาร "หลวงปู่ครูบาน้อย" แห่งวัดบ้านปง « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  




Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.5 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.088 วินาที กับ 18 คำสั่ง