ชวนเที่ยวงาน "มหกรรมสินค้าเกษตรและวิสาหกิจชุมชน” (ตอนจบ)

[konhuleg]

ในส่วนของ "มหกรรมสินค้าเกษตรและวิสาหกิจชุมชน” นั้น สำหรับสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตรที่นำมาจำหน่ายนั้น มีความหลากหลายด้วยกันครับ อาทิ ผลผลิตทางการเกษตรสดๆ จากสวน ผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารและเครื่องดื่มที่สะอาดปลอดภัยรสชาติอร่อย หัตถกรรมและเครื่องจักสานที่ปราณีตสวยงาม เสื้อผ้าสิ่งทอเครื่องแต่งกายที่มีเอกลักษณ์ เครื่องสำอางค์สปาจากสมุนไพรมหัศจรรย์ของไทย ซึ่งผมจะขอยกตัวอย่างมาคร่าวๆ ซัก 3 อย่าง ก็แล้วกันครับ

เริ่มที่ ชาผักเชียงดา ที่ผลิตจากใบผักเชียงดาสายพันธุ์ท้องถิ่น ผ่านการคัดเลือกที่ได้รับรองมาตรฐานนำไปซอยเป็นชิ้นเล็กๆ ตากในโรงตากพลังงานแสงอาทิตย์ เมื่อแห้งดีแล้วนำเข้าเครื่องคั่วที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้ผักเชียงดาอบแห้งที่มีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ บรรจุลงซองชาหรือนำไปบดเพื่อบรรจุลงแคปซูล ก่อนใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาให้เหมาะสม โดยขบวนการผลิตสินค้านั้นจะเกิดขึ้นภายใน 1 วัน นับตั้งแต่นำใบสดมาตากแห้งจนถึงการอบเพื่อคงคุณค่าและกลิ่นหอมเอาไว้ โดยตัวชานี้จะเป็นของ จ.เชียงใหม่ครับ

มาที่ของ จ .ลำพูน ก็จะมี ลำไยอบแห้งขึ้นชื่อ ที่มีสรรพคุณใช้บำรุงเลือด บำรุงร่างกาย บำรุงประสาทตา บำรุงผิวพรรณ ช่วยย่อยอาหารช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยบำรุงกำลังของสตรีภายหลังจากการคลอดบุตร  ช่วยให้หลับสบาย ช่วยระงับประสาทที่อ่อนเพลียจากการตรากตรำทำงานหนัก ขี้หลง ขี้ลืม ช่วยให้ความจำดี ช่วยลดความเครียด ส่วนใหญ่จะนิยมกินเนื้อลำไยอบแห้งเป็นของขบเคี้ยวกันครับ หรือนำไปต้มเป็นน้ำลำไยดื่มอุ่นๆ ก็ได้ หรือจะเอามาปรุงเป็นอาหาร ต้มน้ำแกงก็มีประโยชน์ต่อผิวพรรณและสุขภาพเช่นกัน
 
ส่วนฟากของสาระความรู้นั้น ที่น่าสนใจมีเรื่องของการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน (Hydroponics) ซึ่งการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินกับการผลิตเชิงธุรกิจนั้น วิธีการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินสามารถใช้ปลูกพืชได้หลายชนิด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการปลูกพืชแต่ละชนิด ตั้งแต่ผัก ผลไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ พืชไม้เลื้อย จนถึงพืชยืนต้น แต่การผลิตเชิงธุรกิจส่วนมากนิยมปลูกพวกพืชผัก ไม้ผลที่เป็นพืชที่เก็บเกี่ยวช่วงอายุสั้น

สำหรับสินค้าที่นำมาจำหน่ายนั้นทั้งหมดนั้น ก็อย่างที่เคยเกริ่นไปเป็นสินค้าระดับพรีเมียมครับ จาก 8 จังหวัดภาคเหนือและทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งผ่านการตรวจสอบรับรองคุณภาพในความปลอดภัยได้มาตรฐาน จำหน่ายในราคายุติธรรมเพราะผู้ผลิตนำมาจำหน่ายโดยตรง

ส่วนใครที่มีเวลาว่างอีก 2 – 3 วันนี้ ก็อยากจะขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมงาน "มหกรรมสินค้าเกษตรและวิสาหกิจชุมชน" กันครับ ถือซะว่ามาสนับสนุนสินค้าเกษตรกรไทย ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ในราคาย่อมเยา แบบสบายกระเป๋าสตางค์กันถ้วนหน้า