การเดินทางมาท่องเที่ยวโดยไม่ได้วางแผนอะไรล่วงหน้า นับว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งในชีวิต เพราะเราไม่รู้ว่าข้างหน้าเราจะเจออะไรบ้าง มันคือความตื่นเต้น ที่รอให้เราลุ้นว่าจะเจออะไร แต่ในความท้าทายและตื่นเต้นที่ว่า ใช่ว่าจะดีเสมอ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมาที่สุ่มเสี่ยงกับความปลอดภัย เราต้องทำใจไว้ล่วงหน้าเลย ก็แหงน่ะซิ ตอนมายังไม่ได้วางแผนอะไรซักอย่างผมบิดมอเตอร์ไซค์คันเก่งมุ่งหน้ามายัง อ.ดอยสะเก็ด อีกรอบ ครั้งนี้เหมือนเดิมกับหลายๆ ครั้งช่วงหลัง คือ ไม่รู้ว่าปลายทางจะอยู่ตรงไหน เจออะไรระหว่างทางน่าสนใจให้เที่ยวผมแวะหมด
จากตัว อ.ดอยสะเก็ด ผมขับรถมุ่งหน้ามาทาง อ.แม่โป่ง สองข้างทางเป็นขุนเขาสลับกับทุ่งนาของชาวบ้าน เวลาเดินทางประมาณเกือบ 50 นาที ผมก็พบตัวเองอยู่ที่ วัดหนองงู ตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยป้ายเชิญชวนให้เข้าไป เพราะที่นี่คือแหล่งโบราณสถาน
คิดในใจอยู่ 2 นาที ว่าโบราณสถานอะไรมาอยู่ในป่าในเขาแบบนี้ เอาเป็นว่าเพื่อคลายข้อสงสัย ก็ต้องขับรถเข้าไปลุยกัน
ถนนที่ตัดเข้าไปจากเส้นทางหลักเป็นถนนถูกรัง ดูจากสภาพก็รู้ได้เลยว่าเพิ่งทำมาได้ไม่นาน เส้นทางถูกตัดเข้าป่าลัดเลาะไปเรื่อยประมาณ 2 กิโลเมตรด้วยกัน จนสุดท้ายก็มาเจอป้ายเข้าวัดหนองงูเสียที
บนแผนที่ระบุไว้ว่าต้องเดินเท้าเข้าไปยังตัววัด ซึ่งอยู่ในป่า และในป่านั้นก็จะมีลำห้วยแทรกตัวอยู่เป็นระยะ ซึ่งก็เป็นพื้นที่ของวัดหนองงู เมื่อเห็นดังนั้นผมเลยหาที่จอดรถเหมาะๆ เพื่อเดินเท้าเข้าไป โดยที่ยังไม่รู้ว่าระยะทางเดินมันไกลขนาดไหน
บรรยากาศระหว่างทางเดินทางค่อนข้างที่จะเงียบสงัด ป่าโดยรอบเป็นป่าเต็งรัง ผมคิดว่าแถวนี้น่าจะมีผมคนเดียวที่มาเดิน เดินไปได้ 5 นาที ก็เป็นอันว่าเจอสถานที่ของวัดหนองงูแห่งแรกแล้ว
จากแผนที่ตรงนี้บ่งบอกว่าเป็นจุดแรก ซึ่งมีฐานเจดีย์ และจากสายตาที่ผมกวาดมองมันมีลักษณะเป็นลานกว้างๆ มีศาลอยู่สองหลัง ส่วนฐานเจดีย์ที่ว่า ต้องเดินเข้าไปข้างในอีกหน่อยถึงจะเห็น
ระหว่างทางเดินจะสังเกตเห็นได้ว่าในวัดหนองงูมีลำห้วย (ที่แห้งขอดไปแล้ว) ลัดเลาะไปเรื่อยตามทางเดินในแผนที่ ซึ่งคิดว่าพอถึงหน้าฝน คงจะมีน้ำไหลผ่าน และช่วยให้บรรยากาศดูชุ่มชื่น ไม่แห้งแล้งเหมือนกับหน้าร้อนตอนผมมา
แต่ถ้าหน้าฝนมีน้ำมาจริงๆ ไม่รู้ว่าจะมีงูหรือไม่ เพราะชื่อวัดชื่อว่าวัดหนองงู สันนิษฐานเอาตอนก่อตั้งวัด แถวนี้มันก็คงมีงูชุมในหนองแน่นอน
แล้วเรามาทำความรู้จักกันจริงๆ จังๆ ว่าแท้จริงแล้ว วัดหนองงู มีที่มาอย่างไร ในตอนหน้าครับตอนจบ >>>
http://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/index.php/topic,8426.msg39519/topicseen.html#msg39519