เยี่ยม วัดต้นปิน ชมพระอารามนอกเมือง ศูนย์รวมใจชาวดอนปิน วัดเล็กๆ ในหมู่บ้านนอกเมืองเชียงใหม่ แม้จะไม่ได้ผูกพันแนบแน่นกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองเชียงใหม่เฉกเช่นพระอารามในเมืองหลายแห่ง แต่หากกล่าวถึงคุณค่าทางด้านจิตใจ ศูนย์กลางของชุมชน เป็นทั้งแหล่งศึกษาเล่าเรียน ที่รวมจิตใจ และพื้นที่ทำกิจกรรมของคนหลากหลายรุ่นในชุมชน วันนี้เราจะออกไปนอกเมืองเชียงใหม่กันเล็กน้อย เพื่อทำความรู้จักกับพระอารามเล็กๆ วัดต้นปิน พระอารามแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางไปได้โดยใช้เส้นทางเชียงใหม่-หางดง จากสี่แยกสนามบิน (เซ็นทรัลแอร์พอร์ต) มุ่งหน้าลงใต้ประมาณ ๓.๔ กิโลเมตร เลยสี่แยกแม่เหียะสมานสามัคคีไปประมาณ ๑ กิโลเมตร สังเกตทางซ้ายมือจะมีป้ายวัดต้นปิน เลี้ยวเข้าไปในซอยนั้นอีกประมาณ ๓๐๐ เมตร ก็จะถึงวัด ความเป็นมาของวัดนี้ ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่าแต่เดิมพระอารามแห่งนี้มีชื่อว่า วัดพระจันทร์ ตั้งอยู่บริเวณที่ปัจจุบันเป็นโรงเรียนวัดบ้านดอนปินวิทยา ต่อมาประมาณปี พ.ศ. ๒๓๖๖ ย้ายมาตั้งวัดใหม่ที่ดอนมะตูม คำว่าม มะตูม ในภาษาถิ่นเหนือคือ มะปิน อยู่ห่างจากที่ตั้งเดิมประมาณ ๕๐๐ เมตร และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น วัดต้นปิน ตามภูมิลักษณะของที่ตั้งวัดพระวิหารของวัด
บานประตูแกะสลักไม้
ภายในวัดค่อนข้างร่มรื่น และเป็นระเบียบ มีต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ร่มเงาแก่ผู้มาเยือน บริเวณหน้ากุฏิพระสงฆ์มีสวนหย่อมเล็กๆ มีน้ำตกจำลองขนาดเล็ก น้ำไหลเอื่อยๆ ให้ความรู้สึกสบายๆ หมู่่พระประธานและภาพจิตรกรรมฝาผนัง
พระวิหารของวัด สถาปัตยกรรมล้านนา ด้านหน้าโดดเด่นด้วยการประดับกระจกสี สะท้อนแสงอาทิตย์แวววับ สวยงามแปลกตา หน้าบันเป็นรูปพระอินทร์เคียงข้างด้วยเหล่าเทวดา และลวดลายพรรณพฤกษา ซุ้มประตูทางเข้าเป็นรูปธรรมจักรและกวางหมอบ แสดงถึงการเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์เป็นครั้งแรก ภายในพระวิหารประดิษฐานพระประธาน พระพุทธรูปปางมารวิชัย ตั้งอยู่บนฐานชุกชียกสูงพอสมควร ขนาบข้างด้วยพระพุทธรูปในอิริยาบถยืน ซึ่งเป็นพระคู่วัดมาตั้งแต่สมัยยังเป็นวัดพระจันทร์ ฝาผนังเขียนภาพจิตรกรรมเล่าเรื่องทศชาติชาดก และพุทธประวัติพระอุโบสถคล้ายพระวิหารแต่เล็กกว่า
พระอุโบสถ สถาปัตยกรรมล้านนา อยู่ด้านหน้าพระวิหาร หน้าบันประดับลายปูนปั้นพรรณพฤกษา ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยกระจกสีสันต่างๆ ประตูทางเข้าเป็นไม้แกะสลักเกี่ยวกับพุทธประวัติ ด้านหน้ามีสิงห์เฝ้าอยู่สองตัวเจดีย์ประธานของวัด
พระเจดีย์ อยู่ด้านหลังพระวิหาร ศิลปะล้านนา ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม เหนือขึ้นไปเป็นฐานบัวลูกแก้วสี่เหลี่ยมย่อเก็จยกสูง แต่ละด้านมีพระพุทธรูปปางห้ามญาติประดิษฐานอยู่ในซุ้มจระนำที่ตกแต่งด้วยกระจกสี ถัดขึ้นไปเป็นชั้นมาลัยเถาแปดเหลี่ยมซ้อนกันเจ็ดชั้นรับกับองค์ระฆังทรงกลมสีทอง ส่วนยอดเป็นฉัตรสีทอง ๙ ชั้นศาลาสองครูบา
ศาลาสองครูบา เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นพระอริยสงฆ์ที่มีคุณูปการต่อวัดต้นปิน นั่นคือครูบาเจ้าอุปนันเถระ เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดต้นปิน และครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา หอไตรของวัด
หอไตร ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับทางเข้าวัด เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนสองชั้น หน้าบันเป็นงานแกะสลักไม้รูปพรรณพฤกษาบนพื้นกระจกสีฟ้าวัดต้นปิน แม้เป็นเพียงวัดเล็กๆ นอกเมือง แต่ในฐานะศูนย์รวมจิตใจของผู้คน และการธำรงพระพุทธศาสนาแล้ว ความสำคัญของวัดเล็กๆ นี้ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าวัดไหน ความร่มรื่นภายในบริเวณวัดช่วยให้เราคลายร้อนทางกายจากอากาศที่อบอ้าว และความเย็นฉ่ำของพระธรรมในพระพุทธศาสนา ก็ช่วยดับร้อนในใจเราได้เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา