เลาะเลียบริมปิง กินลมชมวัดที่ วัดวังสิงห์คำ มีอีกหลายเส้นทางในเมืองเชียงใหม่ที่ฉันเองก็ยังไม่เคยไปมาก่อน อะไรที่แปลกใหม่ย่อมน่าสนใจและน่าค้นหาเสมอ ถนนเลียบแม่น้ำปิงฝั่งตะวันตกย่านตำบลป่าแดด เป็นเส้นทางที่ฉันไม่ได้มีโอกาสสัมผัสมากนัก ฤกษ์งามยามดี นานๆ จะได้มาขี่รถเล่นแถวนี้สักครั้ง เลดี้ ดาริกาก็ไม่ลืมที่จะหาสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาฝากเพื่อนๆ ด้วย วันนี้ขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ วัดวังสิงห์คำ กันค่ะวัดวังสิงห์คำ ตั้งอยู่บนถนนป่าแดด ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จากสี่แยกแสงตะวัน หรือแยกพันทิพย์เชียงใหม่ มุ่งหน้าไปทางทิศใต้ตามถนนช้างคลาน แยกไปตามถนนป่าแดด เลียบริมแม่น้ำปิงมาเรื่อยๆ ลอดใต้สะพานถนนมหิดล และถนนรอบเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 10.5 กิโลเมตรก็ถึงวัด วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2417 ในสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ กษัตริย์พระองค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร (เจ้าเจ็ดตน) เดิมวัดตั้งอยู่บริเวณโรงเรียนวัดวังสิงห์คำในปัจจุบัน แต่เนื่องจากห่างจากเส้นทางคมนาคมทั้งถนน และแม่น้ำ เดินทางไม่สะดวก จึงย้ายมาตั้งอยู่ในพื้นที่ปัจจุบัน โดยท้าววงค์ษาได้ถวายที่ดินเพื่อก่อสร้างวัด ชื่อของวัดแห่งนี้ ตามตำนานเล่าว่าวันหนึ่ง ชาวบ้านที่หาปลาบริเวณวังน้ำวนหน้าวัดพบพระพุทธสิหิงค์ทองคำจมอยู่ใต้น้ำโดยบังเอิญ จึงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ภายในวัด แต่พอตกกลางคืนพระพุทธรูปองค์นั้นก็จะกลับไปอยู่ก้นแม่น้ำตามเดิม เป็นเช่นนี้อยู่ตลอดจนกระทั่งหายสาบสูญไปในที่สุด พระอารามนี้จึงได้ชื่อว่า วังสิงห์คำ ตามพระพุทธรูปสิหิงค์ทองคำในตำนานพระวิหารวัดวังสิงห์คำ
พระประธานภายในพระวิหาร
พระวิหาร เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน สถาปัตยกรรมล้านนา หน้าบันประดับด้วยลายปูนปั้นพรรณพฤกษาสีทองบนพื้นสีเขียว ตรงกลางเป็นรูปช้างสามเศียร ราวบันไดเป็นมกรคายนาค ซุ้มโขงทางเข้าประดับดับด้วยลายปูนปั้นรูปสิงห์ และธรรมจักรบนกระจกสีฟ้า ผนังด้านหน้าเขียนภาพจิตรกรรมพุทธประวัติ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิเป็นพระประธาน ที่ฝาผนังมีจิตรกรรมเล่าเรื่องพุทธประวัติ และทศชาติชาดกพระเจดีย์วัดวังสิงห์คำ
พระเจดีย์ อยู่ติดกับทางเข้าวัด องค์เจดีย์ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม มีเจดีย์บริวารอยู่ทั้ง 4 มุม เหนือขึ้นไปเป็นฐานย่อมุมยกสูง แต่ละด้านมีซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปทั้ง 4 ด้าน เรือนธาตุเป็นทรงระฆังประดับด้วยกระจกสี ส่วนยอดเป็นฉัตรสีทอง 9 ชั้นวิหารพระเจ้าทันใจก็สวยงามวิจิตรไม่แพ้กัน
วิหารพระเจ้าทันใจ ตั้งอยู่ด้านหน้าพระวิหาร อาคารสถาปัตยกรรมล้านนา หน้าบันโดดเด่นด้วยงานแกะสลักไม้รูปพรรณพฤกษาสวยงามมาก ด้านหน้ามีรูปปั้นยักษ์ และเทพพนม 4 ตน ภายในประดิษฐานพระเจ้าทันใจ และรูปเหมือนพระมงคลเทพมุนีวัดปากน้ำ และครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ส่วนผนังด้านหลังเป็นจิตรกรรมรูปสรวงสวรรค์และโลกมนุษย์ จุดเด่นของวัดนี้อีกอย่างหนึ่งนอกจากสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว พื้นของวัดที่ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นเป็นพื้นปูนธรรมดาๆ หรือไม่ก็เป็นพื้นดิน แต่พื้นของวัดนี้ปูด้วยอิฐตัวหนอนสีแดงตัดกับสีเขียวทั้งวัดเลยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นวัดแห่งสีสันก็น่าจะไม่ผิดนัก ใครผ่านไปผ่านมาแถวนี้ก็อย่าลืมแวะชมด้วยนะคะเรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา