สักการะพระธาตุดอยสุเทพโดยไม่ต้องขึ้นดอยที่ วัดชมพูพระธาตุดอยสุเทพถือเป็นพระธาตุสำคัญคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ไม่ว่าใครมาเที่ยวเชียงใหม่ก็ต้องหาโอกาสไปกราบพระธาตุให้ได้สักครั้ง แต่คงมีไม่กี่คนนักที่รู้ว่าพระธาตุดอยสุเทพมีฝาแฝดอยู่ด้วย ยิ่งถ้าเป็นนักท่องเที่ยว ไม่ใช่ชาวเชียงใหม่แท้ๆ ด้วยแล้ว ก็ยิ่งแทบจะไม่มีใครรู้เลย พระธาตุฝาแฝดสร้างขึ้นเพื่ออะไร อยู่ที่ไหนนั้น ในบทความนี้ เลดี้ ดาริกาขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักพระธาตุแห่งวัดชมพูกันค่ะวัดชมพู ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
บรรยากาศภายในวัด
พระธาตุฝาแฝดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ วัดชมพู วัดเก่าแก่บนถนนช้างม่อยเก่า ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตามตำนานเล่าว่าพระเจ้ากือนา กษัตริย์เชียงใหม่องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์มังราย ทรงศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า โปรดให้สร้างพระธาตุขึ้นบนดอยสุเทพ ครานั้นพระนางพิมพาเทวี พระราชมารดา ทรงปรารภว่า พระธาตุดอยสุเทพอยู่บนดอยสูงเกินกว่าที่ผู้เฒ่าผู้แก่จะเดินข้างขึ้นมาสักการะได้ จึงโปรดให้สร้างพระธาตุเจดีย์อีกแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ โดยใช้สล่าชุดเดียวกันกับที่สร้างพระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุองค์ใหม่นี้จึงมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมเหมือนกับพระธาตุดอยสุเทพราวกับก๊อปปี้วางเลยทีเดียว ให้ชื่อพระอารามแห่งใหม่นี้ว่า วัดใหม่พิมพา ตามพระนามของพระนางพิมพาเทวี พระราชมารดานั่นเององค์พระธาตุตั้งอยู่ด้านหลังพระวิหาร
เมื่อพระเจ้ากาวิละ ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ทิพย์จักราธิราช (พระเจ้าเจ็ดตน) ขับไล่พม่าออกจากเมืองเชียงใหม่ได้สำเร็จ แล้วขึ้นเสวยเมือง ครูบาชมพูได้ติดตามพระองค์มา แต่ไม่ยอมตามเข้าเมืองมาด้วย จึงขอพำนักอยู่ที่วัดใหม่พิมพาแห่งนี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งกองบัญชาการรบของแม่ทัพพม่า ต่อมาชาวบ้านในละแวกนั้นจึงเรียกวัดนี้ว่า วัดครูบาชมพู และเพี้ยนมาเป็น วัดชมพู จนถึงปัจจุบันเหมือนพระธาตุดอยสุเทพไหมคะ? :)
ในอดีตกองทัพพม่าเคยใช้พระธาตุเป็นฐานยิงปืนใหญ่ จึงทำให้พระธาตุเอียงทรุด แกนในพระธาตุซึ่งทำด้วยดินเหนียวอาจพังทลายได้ ปี พ.ศ. 2541 พระสงฆ์และชาวบ้านจึงร่วมกันจัดหาทุนบูรณะองค์พระธาตุ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสครองราชย์ครบ 50 ปี และทรงมีพระชนมายุครบ 72 พรรษา พร้อมกันนี้นครเชียงใหม่ก็มีอายุครบ 700 ปีด้วย ใช้เวลาบูรณะทั้งสิ้น 9 ปีจึงแล้วเสร็จพระธาตุวัดชมพูใช้สล่าชุดเดียวกับที่สร้างพระธาตุดอยสุเทพ
ซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปที่ฐานพระธาตุ
พระธาตุวัดชมพูมีอายุประมาณ 600 ปี ศิลปะเชียงแสน ขนาด และรูปทรงเหมือนกับพระธาตุดอยสุเทพเกือบร้อยเปอร์เซ็น ฐานกว้างด้านละ 11.30 เมตร สูง 30 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม มีช้างทรงประจำอยู่ทั้ง 4 มุม เหนือขึ้นไปเป็นฐานสูงย่อเก็จ องค์เจดีย์ทรงระฆังแปดเหลี่ยม หุ้มบุด้วยแผ่นทองจังโกทั้งองค์ ประดับตกแต่งด้วยลวดลายดอกกระหนก ใบเทศ และลายก้านขด บางแผ่นสลักลาย 12 นักษัตร ส่วนยอดประดับด้วยฉัตร 7 ชั้น ซึ่งต่างจากพระธาตุดอยสุเทพที่เป็นฉัตร 5 ชั้นพระวิหารวัดชมพู
ด้านหลังพระวิหาร
พระประธานในพระวิหาร
พระวิหาร สถาปัตยกรรมล้านนา หน้าบันเป็นงานแกะสลักไม้ลายพรรณพฤกษา หลังคามุงด้วยกระเบื้องดิน เผา เรียกว่ากระเบื้องดินขอ ภายในประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย โครงสร้างอาคารส่วนใหญ่ยังคงเป็นไม้ บริเวณฝาผนังมีจิตรกรรมภาพพุทธประวัติพระอุโบสถ
บรรยากาศภายในวัด
ปัจจุบันการเดินทางขึ้นไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไรอีกแล้ว เพราะมีถนนลาดยางอย่างดีตัดขึ้นไปจนถึงพระธาตุ อีกทั้งยังมีกระเช้าบริการสำหรับผู้สูงอายุอีกด้วย ทุกวันนี้พระธาตุวัดชมพู ฝาแฝดของพระธาตุดอยสุเทพ จึงค่อยๆ ถูกลืมเลือนไป เพื่อนๆ ที่มาเที่ยวเชียงใหม่จะลองแวะไปเยี่ยมชมความงามของพระธาตุแห่งนี้ด้วยก็ดีนะคะ รับรองว่างามไม่แพ้พระธาตุดอยสุเทพเลยทีเดียวซุ้มประตูโขงเก่าแก่ภายในวัด
ใครอยากไปกราบพระธาตุวัดชมพู แนะนำให้ใช้ถนนช้างม่อย จากคูเมืองไปกาดหลวงประมาณ 100 เมตร เลี้ยวซ้ายจะเป็นถนนช้างม่อยเก่า ประมาณ 50 เมตร สังเกตด้านซ้ายจะเห็นพระธาตุสีทองงามสง่าอยู่ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ใช้เส้นทางอื่นอาจหลงทางได้ เพราะบริเวณนี้ตรอกซอกซอยเยอะเหลือเกินค่ะเรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา