"ขุนช่างเคี่ยน"ไม่ได้มีแค่นางพญาเสือโคร่ง

[ps.wedidit]

เมื่อพูดถึงขุนช่างเคี่ยน ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ไปทางทิศเหนือของยอดดอยปุย ห่างจากพระตำหนักภูพิงราชนิเวศน์ขึ้นไปบนเส้นทางแคบ ชันและออกจะสมบุกสมบันนั้น ใครๆก็รอเวลาเพียงเพื่อตะเกียกตะกายตามไปชมดอกซากุระเมืองไทย หรือ นางพญาเสือโคร่ง ซึ่งตลอดทั้งปีผลิดอกบานสะพรั่งให้ชื่นชมเพียงช่วงสั้นๆ ราวๆกลางเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์เท่านั้น ทั้งที่จริงตะลุยใส่เกียร์ 4WD ขึ้นไปอีกนิดก็สามารถทดลองชีวิตผจญภัยเล็กๆท่ามกลางดอยสูง ต้นไม้ใบหญ้าสวยเขียวขจีที่สถานีวิจัยเกษตร ทั้ง Site A และ Site B แล้ว

หากไม่ใคร่รอคอยชื่นชมความงดงามของกลีบดอกสีชมพูใสที่แสนจะเปราะบางอย่างนางพญาเสือโคร่งซึ่งระยะหลังผลิดอกบ้าง ไม่ผลิบ้าง ตามความปรวนแปรของธรรมชาติที่ยากจะคาดเดาแล้ว การพา 4 ล้อขับตะลุยต่อขึ้นไปชมแปลงผลิตพืชผลของสถานีวิจัยเกษตร มช. และนอนค้างอ้างแรม แค้มปิ้งสักคืนสองคืน ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดเห็นจะเป็นต้นหนาวราวๆ พฤศจิกายน จนถึงปลายฤดูร้อน แต่ควรหลีกเลี่ยงช่วงฤดูฝนซึ่งเส้นทางที่ค่อนข้างย่ำแย่จนต้องพึ่ง 4WD ไม่พอ อาจจะหฤโหดถึงขั้นวิกฤติ เส้นทางจากขุนช่างเคี่ยนยังเป็นเส้นทางหนึ่งในหลายๆเส้นทางของเชียงใหม่ที่บรรดาสิงห์นักปั่นน่องเหล็กทั้งหลายอินเลิฟอีกด้วย โดยสามารถใช้เส้นทางลัดลงจากดอยสูงไปทะลุออกด้านหนึ่งใกล้ละแวกห้วยตึงเฒ่า เรียกได้ว่าปั่นลงดอยไปนั่งดื่มด่ำชมความงามทั้งห้วยและฟองเบียร์ต่อกันเลย

กลับเข้าเรื่องขุนช่างเคี่ยน พักหลังฉันขึ้นไปนอนค้างอ้างแรมที่ Site B หรือสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนไร่หลัง มากกว่า Site A หรือที่เรียกว่า ไร่หน้า ด้วยความที่ไกลกว่า (Site B อยู่ห่างจาก Site A ประมาณ 4 กม.) พลุกพล่านน้อยกว่า (Site B มีบ้านพักรับรองเพียง 3 หลังในขณะที่ Site A มีเรือนพักจำนวน 7 หลัง) และเป็นส่วนตัวมากกว่า ทั้งนี้ผู้ที่สนใจจะขึ้นไปพักไม่ว่าจะไร่หน้า (Site A) หรือไร่หลัง(Site B) ต้องติดต่อขอจองล่วงหน้าและชำระค่าบริการบ้านพักกับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสถานีนั้นๆก่อน ที่เบอร์ 053-222014 หรือ 053-944052

สำหรับพื้นที่โดยรอบสถานีวิจัยเป็นป่าดิบเขาผสมป่าสนและพื้นที่โดยมากปลูกพืชผัก ลิ้นจี่และไม้ผลต่างๆ อากาศเย็นชื้นตลอดทั้งปีแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อนและแน่นอนพอถึงหน้าหนาวตั้งแต่พฤศจิกายนเป็นต้นไปอุณหภูมิจะยิ่งต่ำหนาวชื้นเย็นจัด จนเห็นแม่คะนิ้งเกาะวาววิ้งตามพื้นพงหญ้า ใบไม้และยอดไม้ สวยแปลกตาไปอีกแบบ

ข้าวปลาอาหารและกิจกรรมสันทนาการควรตระเตรียมกันมาเองในหมู่คณะ เพราะพื้นที่สูงไกลห่างขนาดนี้ไม่ได้มีร้านสะดวกซื้อหรือตลาดสดชาวบ้านให้จับจ่าย และนั่นถือเป็นหัวใจของการท่องเที่ยวแนวผจญภัยย่อมๆที่การคาดเดาอะไรไม่ได้ถือเป็นความสนุกท้าทายอย่างหนึ่ง

หนาวนี้คงไม่ต้องรอเพียงนางพญาเสือโคร่งผลิบาน ไต่ระดับความสนุกให้สูงขึ้นไปกว่านั้น...

Site B รออยู่ค่ะ

[ps.wedidit]

เรือนรับรองและพื้นที่ภายในเรือนรับรอง แม้จะเล็กแต่นอนรวมกันได้กว่า 10 คนนะคะ มีห้องน้ำในตัว 1 ห้อง มีครัวขนาดเล็กและมีเตาผิงให้คลายหนาวด้วย

[ps.wedidit]

รูปเพิ่มเติมบริเวณโดยรอบ Site B

[sea]

สวยน่าไปเที่ยว