จำได้อยู่หยกๆว่าเพิ่งงมเขียนเรื่องสะพานเหล็กเชียงใหม่ไปเมื่อไม่กี่วัน ซึ่งไหนก็ไหนๆแล้วที่พูดถึงเรื่องสะพาน ก็เลยอยากจะสานต่อกันอีกเรื่องกับสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย เพราะมิฉะนั้นผมคงเกิดอาการอึดอัด ในระดับเก็บความลับขององค์การนาซ่าเรื่องมนุษย์ต่างดาว ชนิดอยากจะบอกใครใจแทบขาดรอนๆ ก็ไม่สามารถบอกเขาได้ อิอิที่สำคัญอีกอย่างนึง ขึ้นปล่อยไว้นาน กาลเวลาก็จะพลัดพรากเอาความจำผมออกไปด้วยทีละเล็กทีละน้อย และเมื่อผมยิ่งเพิ่งไปมากันสดๆ ร้อนๆ ในตอนหน้าฝนแบบนี้ เลยอยากจะรีบเอามาเขียนกันให้ไว ไม่อย่างงั้นแล้ว คงได้นั่งระลึกชาติกันนานสองนานเลยล่ะ
สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ฟังจากชื่อก็พอจะรู้ถึงความสำคัญ ว่ามันต้องมีความเป็นมาเป็นไป เกี่ยวโยงกับเรื่องในอดีตของ อำเภอปายและจังหวัดแม่ฮ่องสอน
บิดเข็มนาฬิกาย้อนกลับไปในอดีต สะพานประวัติศาสตร์ท่าปายเกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงนั้นต้องบอกว่าเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นมีเรืองอำนาจอยู่ในประเทศไทย โดยสะพานมันถูกสร้างจากทหารญี่ปุ่น เพื่อใช้ข้ามแม่น้ำปาย และใช้เป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและอาวุธสู่พม่า ดูๆไปแล้วก็คล้ายๆกันกับสะพานข้ามแม่น้ำแควที่จังหวัดกาญจนบุรี
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ก็ยังคงถูกใช้งานกันเหมือนเดิม ในการสัญจรไปมาของชาวบ้านชาวช่องที่นั้น แต่ทุกอย่างก็ต้องมีเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เมื่ออำเภอปายถูกยกให้เป็นเมืองท่องเที่ยว ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศต่างหลั่งไหลอยากจะมาสัมผัสไอหมอกกันที่นี้ แน่นอนว่าการถูกใช้งานจากสะพานก็ย่อมมากขึ้น ร่วมทั้งด้วยอายุอานามมัน ก็ย่อมถูกกาลเวลาพลัดพรากความมั่นคงแข็งแรงไป ฉะนั้นวิธีแก้ไขก็คือการสร้างสะพานคอนกรีตข้างกัน เพื่อให้การสัญจรไปมามันสะดวกโยธินยิ่งขึ้น ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สะพานทั้งสองก็ครองรัก เอ้ย ก็อยู่เคียงข้างกันมาตลอดอย่างลงตัว
เสน่ห์ของเจ้าสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ที่ดึงดูดใจคือความสวยงามของโครงเหล็กสะพาน บวกกันกับวิวทิวทัศน์อันสุดสวยของขุนเขาและแม่น้ำ ยิ่งแม่ฮ่องสอนได้รับสมญานามว่าเมืองสามหมอก ไม่ต้องห่วงเลยว่าบรรยากาศมันโคตรจะสุดแสนโรแมนติกขนาดไหน
สำหรับใครที่ชื่นชอบในการถ่ายรูปเป็นชีวิตและจิตใจ แดดร่มลมตกในยามเย็น มันคือเวลาอันเหมาะเหม่งในการลันชัตเตอร์เป็นที่สุด
นอกจากวิวจะสวยในระดับนางสาวไทยยังต้องหลบฉากหนี แถวนั้นยังมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย ให้คุณๆได้เลือกซื้อกลับไปฝากญาติโยมที่บ้านกันอีก
ใครไปปาย (ไม่ใช่ ไปๆ ไปลงนรกเสียเถิดที่รักฉันจะลงโทษเธอ ในเวอร์ชั่นของเพลง นางแมว นะครับ) ยังไงก็ต้องบอกว่าห้ามพลาดด้วยกันประการทั้งปวง ในการจอดรถแวะถ่ายรูปชมวิวทิวทัศน์ความงานที่สะพานประวัติศาสตร์ พิกัดมันก็แสนจะหากันโดยง่าย บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 88 บนเส้นทางหมายเลข 1095 (แม่มาลัย-ปาย) ห่างจากตัวอำเภอปาย ประมาณ 10 กิโลเมตร เท่านั้น
ว่าแล้วเราก็ไปปายยยยยยย กันเถอะ