เยือนแม่แจ่ม ชมวัดพุทธเอิ้น แจ่มงามยามสายฝนโปรยปลายเดือนพฤษภาคม ไม่ว่าจะภูมิภาคไหนก็พร้อมใจกันเข้าสู่หน้าฝน ฤดูกาลสีเขียว ความร้อนระอุที่กินเวลายาวนานถึง 3 เดือนค่อยๆ จางหายไป ความชุ่มช่ำ พร้อมกับอากาศที่เย็นลงเข้ามาแทนที่ ครั้งหนึ่งหน้าฝนคือฤดูกาลที่ใครๆ พากันเรียกว่า โลว์ซีซั่น ความเปียกแฉะ และฝนพรำทำให้นักเดินทางหลายคนเลือกที่จะหยุดพัก น้อยคนนักจะมีโอกาสสัมผัสความงามอันสงัดเงียบที่สายฝนมอบให้ ไม่ต้องแย่งกันกิน ไม่ต้องแย่งกันเที่ยว ได้ใกล้ชิดกับวิถีของคนท้องถิ่นมากขึ้น เห็นความงามในมุมที่ต่างไป ที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยเห็น หลายคนรู้จัก แม่แจ่ม อำเภอเล็กๆ ในเขตหุบเขาทางใต้ของเชียงใหม่ ในมุมมองของหน้าหนาว แต่จะมีสักกี่คนที่เคยรู้จักแม่แจ่มในวันฝนโปรย ในวันที่พื้นที่ราบเล็กๆ กลางหุบเขาแห่งนี้เป็นสีเขียวจัดเส้นทางสู่เมืองแม่แจ่ม
ถนนคดเคี้ยว เดินทางลำบาก บางจังหวะอาจต้องใช้ความชำนาญในการขับขี่พอสมควร ประกอบกับทิวเขาสูงที่โอบล้อมอำเภอแม่แจ่มเอาไว้ ทำให้เมืองเล็กๆ แห่งนี้ยังคงรักษาอัตลักษณ์แบบชาวพื้นเมืองล้านนาไว้ได้อย่างน่าชื่นชม วิถีชีวิตของคนที่นี้ยังผูกพันแนบแน่นกับงานในสวนในไร่ ความเชื่อแบบชาวพื้นเมือง และศรัทธาแรงกล้าต่อพระพุทธศาสนาที่เริ่มเลือนหายไปจากสังคมเมือง วิถีอันสงบงามแบบล้านนาจึงยังคงพบได้ทั่วไปในเมืองเล็กๆ แห่งนี้บนที่ราบแม่แจ่มแห่งนี้ มีลำธารสายเล็กสายน้อยไหลคดเคี้ยวไปทั่ว
ลำธารหลายสายไหลลัดเลาะตามท้องไร่ พ่อเฒ่าแม่เฒ่าใช้เวลายามว่างกับงานหัตกรรมเล็กๆ น้อยๆ เครื่องจักสาน เครื่องเงิน แกะสลักไม้ ไปจนถึงงานหัตถกรรมที่สร้างชื่อให้เมืองเล็กๆ แห่งนี้ และจังหวัดเชียงใหม่อย่างผ้าซิ่นตีนจกแม่แจ่ม ผ้าทอที่ต้องใช้ความประณีตและความอดทนสูง กว่าจะได้งานแต่ละชิ้นที่ทรงคุณค่า สายฝนที่โปรยลงมาเป็นระยะปลุกเร้าเมล็ดพืชหลากหลายชนิดให้ผลิต้นอ่อน ยอดอ่อน และผลลำไยในสวนงอกงามพร้อมเก็บเกี่ยว ข้าวในนาขั้นบันไดที่ลดลั่นกันอยู่บนเชิงเขาเติบโตเขียวชอุ่มความงามของฤดูกาล...รังสรรค์โดยธรรมชาติ
ดอกอะไรใครรู้บ้าง...หอมมาก หอมจนชวนหลงใหล
บ้านช่างเคิ่ง หมู่บ้านเล็กๆ ไกลออกไปจากตัวอำเภอแม่แจ่มเพียงเล็กน้อย เป็นที่ตั้งของวัดชุมชนเก่าแก่ และน่าสนใจ สถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่สวยงาม และมีเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่น เป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาแม่แจ่มให้มาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย วัดพุทธเอิ้น หรือ วัดพุทธเอ้น มีอายุเก่าแก่กว่า ๒๐๐ ปีมาแล้ว คาดว่าน่าจะสร้างขึ้นในสมัยต้นรัตนโกสินทร์วัดพุทธเอิ้น (พุทธเอ้น) ต. ช่างเคิ่ง อ. แม่แจ่ม จ. เชียงใหม่
โบสถ์กลางน้ำ เล็กๆ ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร เป็นจุดเด่นที่ใครๆ ก็อยากมาเยี่ยมชม อุโบสถไม้หลังนี้มีเสาสี่ต้นรองรับน้ำหนักตัวอาคารทั้งหลัง ตั้งอยู่กลางสระน้ำเล็กๆ สร้างขึ้นตามความเชื่อแบบลังกาที่ถ่ายทอดผ่านกรุงสุโขทัย คือการใช้น้ำกั้นเขตพัทธสีมา เรียกว่า อุทกสีมา หน้าบรรณประดับด้วยไม้แกะสลักสีสันสดใส เดินเลยขึ้นบันไดไปในบริเวณวัดพระวิหารโบราณรูปทรงแบบล้านนาแท้แห่งนี้ มีความโดดเด่นที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างไทใหญ่ภายในพระวิหาร แม้จะเลือนรางไปนามกาลเวลา แต่ก็ยังน่าภาคภูมิใจของคนท้องถิ่น การตกแต่งหน้าบรรณด้วยกระจกสีทำให้พระวิหารดูโดดเด่นบนเนินสูง ด้านหลังพระวิหารมีเจดีย์ศิลปะล้านนา อิทธิพลสุโขทัยเป็นที่สักการะของชาวบ้านทั่วไปพระอุโบสถกลางน้ำ วัดพุทธเอิ้น
พระวิหารวัดพุทธเอิ้น
สิ่งพิเศษของวัดพุทธเอิ้น คือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้านหน้าวัด ชาวบ้านแม่แจ่มพากันหาบภาชนะใส่น้ำบ้าง ถังน้ำพลาสติกบ้างมาเติมน้ำจากบ่อน้ำแห่งนี้ตลอดเวลา บางคนขนถังน้ำมาครั้งละมากๆ เป็นคันรถก็มี น้ำในบ่อแห่งนี้เป็นน้ำบริสุทธิ์ ผุดขึ้นมาจากใต้ดินโดยไม่เคยเหือดแห้ง เปรียบดั่งศรัทธาของชาวแม่แจ่มที่มีต่อพระพุทธศาสนาที่ไม่เคยแห้งเหือดไปทิวทัศน์เขียวชะอุ่มของเมืองแม่แจ่ม ไกลสุดลูกหูลูกตา
ความงามในหน้าฝน
แม่แจ่ม ในหน้าฝน มีความงดงามที่ต่างไปจากฤดูกาลอื่นๆ หากมีโอกาสก็น่ามาเยือนเมืองเล็กๆ แห่งนี้ดูสักครั้ง แล้วคุณจะได้สัมผัสความเป็นล้านนาที่ใกล้เคียงกับวิถีดั้งเดิมมากที่สุด แม่แจ่ม ยามฝนโปรยนั้น แจ่ม สมชื่อจริงๆเรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา