ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
พฤศจิกายน 27, 2024, 06:31:52 AM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ประกาศ การกระทำใดๆ  เพื่อที่จะให้กระทู้ตัวเองมาอยู่อันดับต้นๆ ประจำ หากพิจารณาแล้วว่า ไม่เกิดประโยชน์กับผู้เข้าชม  ก็รับสิทธิ์โดนแบนเหมือนกันครับ


จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  แนะนำที่เที่ยว เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-แม่ริม-แม่แตง-เชียงดาว-ไชยปราการ-ฝาง-แม่อาย  |  หัวข้อ: หมอกจ๋าม ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ธรรมชาติ วัฒนธรรม ครบทุกรส 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: หมอกจ๋าม ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ธรรมชาติ วัฒนธรรม ครบทุกรส  (อ่าน 7472 ครั้ง)
Pitibank
Jr. Member
**
กระทู้: 63


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:03:46 AM »


หลายคนอาจไม่รู้จักโครงการหลวงหมอกจ๋าม ตั้งอยู่ที่ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ครับ สาเหตุที่ผมรู้จักกับโครงการหลวงนี้ เพราะเคย print แผนที่ของตำบลท่าตอนมา คือตอนแรกอยากจะไปเที่ยววัดท่าตอนครับ และก็ไปมาแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน ตอนปลายเดือนที่ผ่านมา และ 1 เดือนต่อมา ทริปที่ 2 ของผมในช่วงหน้าหนาว ก่อนที่จะเข้าสู่ปีใหม่ เลยตัดสินใจไปที่โครงการหลวงหมอกจ๋ามนี้แหละครับ เส้นทางเดียวกันกับวัดท่าตอน เลยไปอีกประมาณ 13 กม. ก็นั่งรถโดยสารสีส้มเชียงใหม่-ท่าตอน เหมือนเดิมนั่นแหละครับ ราคา 90 บาท พอมาถึงท่าตอน ก็แวะรับประทานอาหารที่ร้านมิ้น โภชนา เป็นร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ สะพานข้ามแม่น้ำกก ก็กินตามเดิมที่ชอบแหละครับ ข้าวผัด กร๊ากๆ พอกินเสร็จก็หอบสัมภาระมากมาย ทั้งกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าชุดถ่ายรูป กระเป๋าผ้าห่ม เต๊นท์ ขึ้นรถสองแถวสีเหลืองท่าตอน-แม่สลองนะครับ ไม่ได้ไปแม่สลองนะครับ ไปที่โครงการหลวงหมอกจ๋าม สาเหตุที่เลือกไปเที่ยวที่นี่เพราะในแผนที่ตำบลท่าตอนที่เคย print มา จะมีรูปภาพชาวเขามากมายหลายเผ่าอยู่ในแผนที่ใกล้ๆ กับโครงการหลวงนี้ครับ เพราะผมชอบดู ชอบถ่ายภาพชาวเขา ชนเผ่าอยู่แล้ว เพราะบางเผ่าไม่เคยเห็น และชอบดูวิถีชีวิตของพวกเขาด้วยครับ แต่งกายสวยงามไป แต่ละเผ่ามีเอกลักษณ์ของตนเอง
 



* EAIeOA_45.jpg (130.94 KB, 960x720 - ดู 1920 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Pitibank
Jr. Member
**
กระทู้: 63


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:06:06 AM »


นอกจากนี้ในหนังสือโครงการหลวงที่ผมซื้อมา ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับโครงการหลวงหมอกจ๋ามด้วยครับ บอกว่าที่นี่เป็นแปลงเพาะปลูกพืชหลายชนิด เช่น ฟักทองสีส้ม ฟักทองสีเขียว สีขาว มะเขือยาวพันธุ์ต่างๆ มะม่วง เป็นต้น ก็ต้องการดูแปลงเกษตรเหล่านี้ด้วยครับ และยังบอกว่าที่นี่ ใกล้กับโครงการหลวงยังมีหมู่บ้านใหม่หมอกจ๋าม เป็นชุนชนไทยใหญ่ และมีหย่อมบ้านวังไผ่ เป็นชาวไทยลื้อ แล้วมีชาวอาข่าบ้านห้วยศาลา และอื่นๆ อีกหลายเผ่าครับ ถ่ายรูปมาเยอะมาก วันแรกที่มาถึงนี้ค่อนข้างวุ่นวายหน่อย ลงจากรถเหลืองท่าตอน-แม่สลองแล้ว ก็ต้องลากกระเป๋าเข้าไปในโครงการหลวง 100 เมตร ไปบริเวณที่กางเต๊นท์ ก่อนไปก็ติดต่อเบอร์ในหนังสือโครงการหลวง พี่ที่รับชื่อว่าพี่สุทัศน์ครับ เป็นเจ้าหน้าที่ของที่นี่ แต่วันแรกที่ไปถึง พี่เขาติดประชุมครับ เลยจะต้องเอาเต๊นท์มาลองกันเอง เกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะเสร็จ เพราะจำได้ว่าพ่อเคยสอนไว้ให้ครับ


* EAIeOA_7.jpg (121.21 KB, 960x720 - ดู 442 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Pitibank
Jr. Member
**
กระทู้: 63


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:09:23 AM »


จากนั้นก็ไปเดินที่บ้านห้วยศาลา ซึ่งเป็นชุมชนชาวเขาเผ่าอาข่า อยู่ใกล้ๆ กับโครงการหลวงนี่แหละครับ ต้องค่อยๆ ไปทีละบ้าน และขอเขาถ่ายรูป วิถีชีวิต การแต่งกายไปทีละบ้านครับ บางคนก็พูดไทยแทบไม่ได้ เด็กรุ่นใหม่จะพูดชัดเจนครับ ส่วนรุ่นวัยกลางคนจะฟังไม่ชัดเท่าไหร่ ที่นี่เท่าที่เห็นบ้านก็เป็นลักษณะของกระท่อมไม้ไผ่ ปูหลังคาเป็นฟาง ห้องนอนก็เป็นแคร่ไว้นอน มีครัว ผิงไฟในบ้านเลยครับ มีห้องน้ำ มีห้องน้ำที่ทำจากไม้ไผ่ด้วยครับ ส่วนผู้ชายเท่าที่เห็นเขาก็จะใส่แค่กางเกงใน หรือขาสั้น อาบที่โล่งๆ เปิดก๊อกน้ำเลยครับ และที่นี่ไก่เยอะมากๆ แบบว่าตอนเช้าตรู่ ขันกันแทบไม่หยุดเลยครับ และก็มีลูกเจี๊ยบเดินตามแม่ไก่ให้เห็นมากมายครับ ระหว่างที่เดินหมู่บ้านชาวอาข่า ก็มีน้องคนนึงเห็นผมเป็นนักท่องเที่ยว อาสาพาไปชมหมู่บ้านช่วงนึงครับ ก็พาไปดูประตูผี ประตูทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งหน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน ต้องมีตุ๊กตาหญิงชายอยู่ด้วยครับ แต่นี่ไม่เห็นเพราะมีหญ้าขึ้นเต็มเลยครับ และน้องเขาก็ไปดูเสาชิงช้า ที่ชาวอาข่าจะโล้ชิงช้ากันเป็นประเพณีนี้ในเดือนสิงหาคมครับ ก็เดินไปกันแล้วถามข้อมูลเกี่ยวกับเผ่านี้ไปด้วย พอเสร็จก็จ่ายทิปให้เขานิดนึงครับ อิอิ พอเสร็จไปที่ลานกางเต๊นท์ก็เจอพี่สุทัศน์พอดีครับ พี่เขาก็ถามว่าไปเที่ยวไหนบ้างและมีโปรแกรมรัยบ้าง ตอนแรกบอกว่าจะไปท่าตอนพรุ่งนี้เช้า และเช่ามอเตอร์ไซค์ เขาก็อาสาสั่งให้เด็กชาวอาข่าคนนึงซึ่งเป็นลูกแม่บ้านที่โครงการหลวง ชื่อว่าน้องสมชายครับ พาไปเที่ยว และบอกให้ช่วยจ่ายค่าขนมให้น้องเขาด้วย ไม่ต้องไปเช่ามอเตอร์ไซค์มาแล้ว ไปคนเดียว เดี๋ยวจะหลงครับ และน้องสมชายคนนี้ก็พาไปกินข้าวเย็นที่บ้านท่ามะแกงด้วยครับ อยู่ใกล้ๆ โครงการหลวงประมาณ 2 กม.เองครับ ก็เห็นพี่เจ้าหน้าที่คนนึงวิ่งจ๊อกกิ้งทุกเย็นเลยครับ จากโครงการหลวงไปท่ามะแกง อึดมากๆ น้องเขาบอก


* EAIeOA_3.jpg (118.16 KB, 960x720 - ดู 474 ครั้ง.)

* EAIeOA_46.jpg (78.28 KB, 960x720 - ดู 463 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Pitibank
Jr. Member
**
กระทู้: 63


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:26:07 AM »


ก่อนไปกินข้าวเย็น ก็ไปเที่ยวชมทุ่งนาที่เก็บเกี่ยวแล้ว มีแต่ตอครับ และมีไร่ข้าวโพด ก็ไปถ่ายภาพแป๊บนึง และก็ไปกินกับข้าวที่ร้านป้าพิณ อยู่บ้านท่ามะแกงครับ สั่งผัดกะหล่ำดอก อร่อยมากๆ ครับ เสร็จจากกินข้าว ก็จ่ายค่ามัดจำให้น้องสมชายที่อาสาไปส่ง พร้อมกับนำเที่ยวในวันต่อครับ เสร็จแล้วก็เข้าเต๊นท์พักแป๊บนึง ก็อาบน้ำนอน เริ่มเช้าพรุ่งนี้วันต่อไปครับ ถึงวันที่สอง ตื่นแต่เช้า ก็มาอาบน้ำ เย็นมากๆ ครับ เป้าหมายวันนี้คือไปเที่ยวบรรดาหมู่บ้านชนเผ่าต่างๆ เพื่อศึกษาวิถีชีวิตและดูการแต่งกายของพวกเขาครับ โปรแกรมแรกของเช้าวันนี้คือไปที่หมู่บ้านบ้านใหม่หมอกจ๋าม ซึ่งเป็นชุมชนชาวไทยใหญ่ขนาดใหญ่มากๆ ครับ และก็ได้ไปที่วัดใหม่หมอกจ๋ามเป็นแห่งแรก ที่วัดนี้เป็นวัดที่มีศิลปะแบบไทยใหญ่ มีการสร้างอาคารที่เป็นจอง หลังคาซ้อนกันหลายๆ ชั้นครับ สวยงามมากๆ เวลาซ้อนรถมอเตอร์ไซค์น้องสมชายที่พี่สุทัศน์อาสามาให้เป็นไกด์ท้องถิ่นให้ ผม ก็จะเห็นชาวไทยใหญ่แต่งกายเป็นเอกลักษณ์เดินเต็มท้องถนนในหมู่บ้านเลยครับ สำหรับวิถีชีวิตที่พบเห็นก็คือจะเห็นชาวไทยใหญ่ทำไร่ ปลูกผัก ปลูกถั่วเหลืองบริเวณที่ดินริมฝั่งแม่น้ำกก และวันนี้อากาศดีมากๆ ครับ เป็นหมอก แดดไม่แรงเลยครับ นอกจากนี้ก็เห็นชาวไทยใหญ่ทอผ้า ทำการจักสานไม้ไผ่ และมื้อเช้าก็กินอาหารที่หมู่บ้านนี้ครับเป็นข้าวซอยไก่ครับ จากนั้นก็ชมวิถีชีวิตชาวไทยใหญ่ต่อ ส่วนใหญ่จะเห็นเขาจะสานไม้ไผ่กันเต็มเลยครับ และเห็นผู้หญิงบางคนจะเอาผ้าพาดผมแบบไขว้เป็นเอกลักษณ์เลยครับ ถ่ายรูปภาพเด็ก รูปหมามาลงด้วยครับ เวลาถ่ายต้องขออนุญาตด้วยครับ ว่ามาศึกษาวิถีชีวิตของชาวไทยใหญ่


* EAIeOA_10.jpg (69.48 KB, 960x720 - ดู 435 ครั้ง.)

* EAIeOA_14.jpg (127.15 KB, 960x720 - ดู 444 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Pitibank
Jr. Member
**
กระทู้: 63


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:29:42 AM »


จากนั้นก็ไปที่หมู่บ้านไทยลื้อ ที่บ้านวังไผ่ เลยจากบ้านใหม่หมอกจ๋ามไปอีก 4 กม. ทุกบ้านที่หมู่บ้านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไทยลื้อ จะเห็นว่าบ้านไหนเป็นไทยลื้อจะมีสติ๊กเกอร์สีม่วง รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสติดไว้ครับ ซึ่งเผ่านี้เดิมอยู่บริเวณแม่น้ำโขง แขวงไชยะบุรีในประเทศลาวครับ ส่วนใหญ่ชาวไทยลื้อ คนแก่ก็จะนุ่งซิ่นเป็นเอกลักษณ์ครับ ก็มีวิถีชีวิตคล้ายๆ ชาวไทยใหญ่ มีการทำของชำร่วย บางบ้านก็กำลังทำอาหาร ทำแกง กับข้าวกันอยู่ ตากข้าวโพดบ้าน และก็มีการจักสานไม้ไผ่ คล้ายๆ กับหมู่บ้านชาวไทยใหญ่ครับ ลักษณ์การสร้างบ้านก็จะสร้างบนเดินบ้าง ที่ราบบ้าน บางบ้านต้องขึ้นเนินไปเล็กน้อยครับ ส่วนพวกผู้ชายก็จะออกไปทำสวนบ้าน เป็นกรรมกรสร้างบ้านบ้าง หมู่บ้านนี้อยู่ริมแม่น้ำกก สามารถเดินไปชมวิวริมแม่น้ำสวยมากครับ และก็จะเห็นเรือหางยาวที่นำนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาจากท่าตอน ไปเที่ยวเชียงรายผ่านไปตลอดครับ ผ่านมาทีนึงน้ำซึดขึ้นเต็มฝั่งเลยครับ และถัดจากนั้นผมก็ดูข้อมูลที่หามา ไปหมู่บ้านแม่สลักครับ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีเผ่ามูเซอหรือลาหู่ รวมทั้งจีนยูนนาน (จีนฮ่อ) ปนด้วยครับ หลังจากเที่ยวชมหมู่บ้านไทยลื้อที่หย่อมบ้านวังไผ่เรียบร้อยแล้ว ผมก็ดูข้อมูลการท่องเที่ยวที่หามา แล้วให้น้องสมชาย เด็กชาวอาข่าที่จ้างพาเที่ยวพาไปที่หมู่บ้านแม่สลักครับ เพื่อไปเที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าต่างๆ ในหมู่บ้านนี้ก็จะมีจีนยูนนาน (จีนฮ่อ), มูเซอ (ลาหู่) ครับ ทางเข้าก็เป็นหมู่บ้านจีนยูนนานครับ แต่ละบ้านบริเวณหน้าบ้านจะมีอักษรจีนกำกับไว้อยู่ และเป็นบ้านชั้นเดียว ชาวจีนยูนนานนอกชุดแต่งกายประจำเผ่า ก็จะเป็นผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอยู่บ้านกัน กำลังนั่งเล่นคุยกัน และก็มีเด็กจีนยูนนานปั่นจักรยานเล่นแถวๆ นั้นครับ เดินเข้าไปอีกจะเห็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่ามูเซอ เป็นบ้านบนเนิน อัดกันหลายๆ หมู่บ้านครับ ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะอยู่ในบ้านกันในกระท่อมที่พวกเขาปลูก ได้ยินเสียงพวกเขาคุยกันด้วยครับ ก็เลยเก็บภาพวิถีชีวิตได้ไม่มากเท่าที่ควร ไว้วางแผนไปชมหมู่บ้านมูเซออันอื่นในช่วงบ่ายและกัน ก็เก็บภาพชาวเขามูเซอได้ครอบครัวนึงครับ กำลังเลี้ยงลูกทำกับข้าวอยู่ และที่หมู่บ้านมูเซอนี้ก็จะมีเลี้ยงหมูเหมือนบ้านกะเหรี่ยง ปวากะญอที่บ้านแม่กลางหลวง บนดอยอินที่เคยไปเลยครับ แต่หมูของเผ่ามูเซอสีจะดำสนิทเข้มมากกว่า และมีลูกเยอะด้วยครับ มีลูกหมูน่ารักๆ วิ่งเต็มเลยครับ มีไก่และลูกเจี๊ยบเยอะมากๆ พอเที่ยวชมหมู่บ้านเสร็จ ก็ไปชมวิวทุ่งนาขั้นบันได วิวบนดอยที่ทำการเพาะปลูกแบบเลื่อนลอย แบบขั้นบันได บรรยากาศดีมากๆ ครับ อากาศดีมากวันนี้ เย็น แทบไม่มีแดด สวยมากครับ จากนั้นเราก็ไปบ้านท่ามะแกงกันต่อ เพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านป้าพิณต่อครับ สำหรับมื้อนี้กินผักดอกกะหล่ำเหมือนเดิมครับ แต่ไม่ใส่พริก เพราะเมื่อวานใส่พริกเผ็ดไปนิดเดียว และระหว่างทางไปร้านป้าพิณ ก็ชมวิวริมแม่น้ำกกตลอดทาง สวยมากๆ ครับ มีหมอก มีเรือหางยาวล่องผ่าน เห็นแปลงผักต่างๆ มีแปลงข้าวโพดบ้าง ถั่วเหลืองบ้างอย่างกว้างขวาง สวยงามจริงๆ ครบ ชนบทที่นี่ เห็นกองฟางข้าวที่ทำเป็นรูปทรงแปลกตาคล้ายๆ เห็ดมากมายเลยครับ


* EAIeOA_18.jpg (107.74 KB, 960x720 - ดู 438 ครั้ง.)

* EAIeOA_20.jpg (91.66 KB, 960x720 - ดู 477 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Pitibank
Jr. Member
**
กระทู้: 63


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:36:20 AM »


พอเสร็จจากกินข้าวกลางวัน ก็ว่าจะไปหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลีซู แต่หาไม่เจอครับ ไปอีกหมู่บ้านนึงแต่ไม่ใช่ลีซู คิดว่าน่าจะเป็นเผ่ามูเซอแทบไม่เห็นใครอยู่บ้านเลยครับ สงสัยไปทำไร่ ทำนากัน ทางขึ้นก็ลำบาก เสียเวลาจริงๆ ครับ จึงตัดสินใจไปที่หมู่บ้านใหม่พัฒนาหรือสามัคคีอะไรซักอย่าง เป็นหมู่บ้านนานาเผ่า ก็เห็นชาวอาข่าแต่งกายเต็มยศเลยครับ นั่งขายของ กินหมากด้วย ปากแดง ฟันดำเลยครับ ใส่หมวกประจำเผ่าอย่างเรียบร้อย ผมก็ถ่ายภาพพวกเธอมาและขอถ่ายกับพี่คนนึงด้วย สวยมากครับ การแต่งกายเขาแปลกดี ที่หน้าหมู่บ้านก็มีประตูเข้าหมู่บ้าน มีตุ๊กตาชายหญิงหน้าหมู่บ้านด้วยครับ ถัดจากหมู่บ้านชาวเขาเผ่าอาข่า ผมก็ไปชมหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวข้างในหรือปาดอง มีกะเหรี่ยงคอยาวเต็มเลยครับ ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เห็นครั้งแรกในชีวิต รู้สึกชอบมากครับ ส่วนใหญ่จะเห็นภาพกะเหรี่ยงคอยาวจากในวีดิโอหรือรูปภาพมากกว่า มีทั้งเด็ก คนสาว คนแก่ ใส่ห่วงกันทั้งนั้น ขายของฝีมือหัตถกรรม นั่งทอผ้ากี่เอวกันเต็มเลยครับ มีพี่คนนึงเล่นกีต้าร์กะเหรี่ยง ผมขอให้ร้องเพลง เธอก็ร้องให้ฟังครับ จึงอุดหนุนซื้อของฝากเป็นรูปกะเหรี่ยงกำลังเล่นกีต้าร์อันนึง และเมื่อกี๊หมู่บ้านชาวอาข่าก่อนเข้าหมู่บ้านกะเหรี่ยง ผมก็ซื้อกบที่เอาไม้ตีขูดดับ กบๆ ที่ไนท์บาซ่าก็มีขายครับ หมดไป 160 บาท สำหรับของที่ระลึกครับ ซึ่งหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงนี้ต้องเสียค่าเข้าชม 100 บาทครับ มีทหารเก็บค่าเข้าชมหน้าทางเข้าครับ 2 คน เดินไปก็ถ่ายภาพกับสินค้าที่ขายไป พร้อมถ่ายกับชาวกะเหรี่ยงด้วยครับ


* EAIeOA_30.jpg (108.5 KB, 960x720 - ดู 405 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Pitibank
Jr. Member
**
กระทู้: 63


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:37:04 AM »


เสร็จแล้วก็ย้อนกลับมาทางเข้าหมู่บ้าน ก็มีหมู่บ้านชาวปะหล่องหรือเผ่าดาราอั้ง แต่งกายสวยมากครับ ไม่เคยเห็นมาก่อน มีผูกอะไรไม่รู้ที่เอว เป็นเอกลักษณ์จริงๆ ครับ สำหรับเผ่านี้ผมเพิ่งจะรู้จักปีนี้ครับ อ่านเจอจากสื่ออันนึง มาเห็นจิงๆ ก็ชอบ แต่งกายสวยโดดเด่นมากๆ ก็ถ่ายภาพกับเธออีกภาพนึงครับ


* EAIeOA_34.jpg (90.44 KB, 960x720 - ดู 539 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Pitibank
Jr. Member
**
กระทู้: 63


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:40:54 AM »


จากหมู่บ้านนานาเผ่านี้ ก็เอาข้อมูลมาเปิดดู ก็ไปที่หมู่บ้านมูเซอที่บ้านผาใต้ครับ ส่วนใหญ่เขาไม่แต่งกายชุดประจำเผ่ากัน ก็เห็นวิถีชีวิตแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เช่น มีการเช่นลูกข่าง ทอผ้า ทำลูกข่างกันและมีการตัดผมผู้ชายด้วยครับ เป็นต้น มีเด็กๆ เล่นชิงช้า มีหมู ไก่ ลูกเจี๊ยบ หมาเหมือนเดิมครับ วิถีแบบชนบทให้ชมกัน พอเสร็จจากเที่ยวชมหมู่บ้านนี้ ก็เดินทางต่อครับ ระหว่างทางก็ซ้อนมอเตอร์ไซค์น้องสมชาย เห็นวิวริมแม่น้ำกกข้างทาง ช่วงหน้าหนาว หน้าแล้ง สวยมากๆ น้ำไม่ไหลเชี่ยว มีโขดหินบนแม่น้ำด้วยครับ พอเสร็จจากหมู่บ้านนี้ก็ไปข้างทาง บังเอิญเห็นสาวชาวลีซูขายไก่ย่าง เลยบอกให้น้องสมชายขี่รับย้อนกลับ เพื่อไปขอถ่ายภาพ ก็ถ่ายได้คนนึง อีกคนเขาไม่ให้ถ่ายครับ 55 ซึ่งก่อนที่จะเจอเผ่าลีซู เราก็แวะที่บ้านเมืองงามเหนือ เพื่อชมแปลงผักของโครงการหลวง ส่วนใหญ่จะเป็นชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ (กะเหรี่ยง) ครับ แปลงสวยมาก วิวสวยบรรยากาศดี เสียดาย ไม่เห็นผลผลิตซักต้นครับ และที่นี่ก็เป็นหมู่บ้านที่ชาวปกาเกอะญอนับถือศาสนาคริสต์ มีโบสถ์ในหมู่บ้านด้วย เสร็จเที่ยววันนี้ทั้งวัน เหนื่อยมาก แต่ก็ได้เห็นอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ เยอะแยะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ซึ่งไม่เคยเห็น และมื้อเย็นก็ไปกินป้าพิณเหมือนเดิมครับ สั่งข้าวขาหมู อิ่มมาก รสชาติใช้ได้ครับ ก็เสร็จสำหรับทริปวันนี้ เหนื่อยมากขอไปพักผ่อน แล้วอาบน้ำนอน เตรียมเก็บของบางส่วน เพราะจะเที่ยวพรุ่งนี้ครึ่งวันและเตรียมเดินทางกลับตอนบ่ายสองวันพรุ่งนี้ เลยครับ   


* EAIeOA_37.jpg (122.14 KB, 960x720 - ดู 432 ครั้ง.)

* EAIeOA_39.jpg (88.69 KB, 960x720 - ดู 466 ครั้ง.)

* EAIeOA_40.jpg (72.79 KB, 960x720 - ดู 452 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 12, 2013, 07:41:43 AM โดย Pitibank » บันทึกการเข้า
Pitibank
Jr. Member
**
กระทู้: 63


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:42:54 AM »


วันสุดท้ายนี้ ก็ไปเที่ยวชมวิถีชีวิตต่อที่บ้านชาวเขาเผ่าลีซูต่อที่บ้านห้วยส้าน ที่โรงเรียนห้วยส้านครับ เพราะวันนี้มีปีใหม่ของชาวลีซู จะเห็นชาวเขาเผ่าลีซูมาเต้นรำกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เห็นครับ แต่งกายสวยมากเผ่านี้ ยิ่งเด็กผู้หญิงบางคนก็สวมหมวกด้วยครับ ของผู้ชายก็จะดูสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง สำหรับการแต่งกายครับ แต่เสียดายคือ กลุ่มชาติพัน์ธุนี้ ขอถ่ายรูป ขอไม่ค่อยได้ครับ เขาจะทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจภาษาไทยเลย หน้าแตกซะเลยครับ พอเสร็จจากหมู่บ้านชาวลีซู ก็จะไปเก็บเต๊นท์พักผ่อน พร้อมที่จะเตรียมตัวกลับแล้วครับ เสียดายเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ เพราะพี่อีกคนนึงก็ไปเที่ยวที่โรงเรียนหมู่บ้านห้วยส้านของเผ่าลีซู เช่นกันครับ ยังไม่กลับ เลยต้องเก็บเต๊นท์เองครับ รีบมากด้วยกลัวไม่ทันรถ และต้องหอบกระเป๋า ไปที่หน้าปากทางโครงการหลวง หน้าโรงเรียนห้วยศาลาด้วยครับ แต่กระเป๋าผ้าห่มหนักมาก ก็เลยจ้างพีชาวสวนช่วยขี่มอเตอร์ไซค์นำขนมาให้ครับ รถสองแถวสีเหลืองท่าตอน-แม่สลองมาถึงพอดี พอจึงโบกและขึ้นทันที บังเอิญเจอน้องสมชาย เด็กอาข่าที่เป็นไกด์นำเที่ยว เราก็ยิ้มแบบอำลากันครับ จากนั้นก็นั่งรถสองแถวสีเหลืองไปท่าตอน แป๊บเดียวก็ถึงครับ เหนื่อยมาก หอบสัมภาระขึ้นท่าตอนไป อ.ฝางอีก ที่คิวรถเมล์ บัสสีส้ม ที่ตลาดฝางกัญญาครับ ได้ถ่ายรูปกับรถเมล์เล่นกับตัวอำเภอฝาง ไม่ถึง 15 นาที รถก็พร้อมออกแล้วครับ บรรยากาศเดิมเวียนมาอีกที จากการที่นั่งรถบัสขากลับเข้าเชียงใหม่ เมื่อไปเที่ยวที่วัดท่าตอนเดือนที่แล้ว เด็กนักเรียนที่เลิกเรียน ทั้งใส่ชุดพละและชุด รด. ชุดนักเรียน ต่างก็ใช้บริการรถบัสนี้ กลับบ้านของพวกเขา และก็เจอตำรวจตรวจทาง ตรงเส้นทางไชยปราการเข้าสู่ อ.เชียงดาว เหมือนคราวที่แล้วครับ เขาจะตรวจกระเป๋า ตรวจบัตรประชาชน เอกสารของพวกไทยใหญ่ที่ถือสัญชาติพม่าอย่างละเอียดครับ อาจจะป้องกันยาเสพติดก็ได้ครับ จอดตั้ง 5 นาทีกว่า ก็เดินทางต่อ เส้นทางอาจจะคดเคี้ยวหน่อยตรงดอยห้วโท แต่ก็บรรยากาศดี อากาศดี เย็นสบาย ป่าไม้สวยงาม ระยะทางไกลด้วย ชอบมากๆ ครับ นั่งกินลมชมวิว หลับไป สบายใจสุดๆ ครับ และใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ ก็ถึงสถานีขนส่งช้างเผือก เชียงใหม่ตอนทุ่มพอดีเลยครับ สรุปคือทริปนี้ เหนื่อยมากและสนุกสุดๆ ครับ คุ้มครับ ^_^

เขียนโดย  ปิติภัทร มาทา


* EAIeOA_43.jpg (81.8 KB, 960x720 - ดู 441 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
parsuk
Hero Member
*****
กระทู้: 1447


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 10:03:45 AM »


น่าตามไปเที่ยวมากครับ

ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ
บันทึกการเข้า

kurova
Full Member
***
กระทู้: 204


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2013, 12:25:51 PM »


ชอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ ข้อมูลดีมาก ๆ คะ
ไว้มีโอกาสจะไปเที่ยว  :onio:
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ขึ้นบน พิมพ์ 
จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  แนะนำที่เที่ยว เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-แม่ริม-แม่แตง-เชียงดาว-ไชยปราการ-ฝาง-แม่อาย  |  หัวข้อ: หมอกจ๋าม ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ธรรมชาติ วัฒนธรรม ครบทุกรส « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  




Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.5 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.11 วินาที กับ 21 คำสั่ง