บ้านวงศ์บุรี ตามรอยละคร ยลเสน่ห์สถาปัตยกรรมน้ำเอกแห่งเมืองแพร่ภาพเรือนไม้ปั้นหยาสีชมพูอ่อนหวานที่เคยปรากฏอยู่ในละครโทรทัศน์เรื่อง รอยไหม ละครยอดนิยมดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของนักเขียนดาวรุ่ง นามปากกา พงศกร เคยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 คงสร้างความประทับใจให้กับแฟนละครบ้างไม่มากก็น้อย สถานที่แห่งนี้ถูกสมมติให้เป็นคุ้มของ เจ้านางมณีริน นางเอกของเรื่อง ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเมืองเชียงใหม่ในอดีต แฟนละครหลายคนที่หลงใหลฉากเรือนไม้อันงดงามวิจิตร และตั้งใจจะมาเยี่ยมชมความงามด้วยตาตัวเองสักครั้ง คงต้องพับแผนเก็บ และเบนเข็มออกจากเชียงใหม่ เปลี่ยนเป้าหมายใหม่ไปยังเมืองแพร่ จังหวัดที่อาจไม่โด่งดัง เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเหมือนกับอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือ แต่แท้ที่จริงแล้วเมืองแพร่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายรอให้เรามาเยือน บ้านวงศ์บุรี เรือนไม้สีชมพูแห่งนี้อาจเป็นสถานที่แห่งแรกที่ทำให้คุณอยากมาเยือนเมืองแพร่ก็เป็นได้บ้านวงศ์บุรี คฤหาสถ์สีชมพูแห่งเมืองแพร่
บนถนนคำลือ ถนนสายเล็กๆ เงียบสงบ อยู่ไม่ไกลจากคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่มากนัก เป็นที่ตั้งของ บ้านวงศ์บุรี สีชมพูโดดเด่นของอาคารไม้หลังนี้ทำให้ชาวเมืองแพร่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า บ้านสีชมพู ปัจจุบันบ้านวงศ์บุรียังคงเป็นที่อยู่อาศัยของทายาทเจ้าแม่บัวถา ผู้ดำริให้สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นเมื่อครั้งอดีต โดยเปิดส่วนหนึ่งของบ้านให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้เจ้าแม่บัวถา ชายาคนแรกในเจ้าหลวงพิริยะเทพวงศ์ เจ้าหลวงเมืองแพร่ โดยมอบหมายให้เจ้าน้อยพรม หรือหลวงพงษ์พิบูล น้องชาย เป็นผู้อำนวยการก่อสร้าง โดยใช้ฝีมือช่างทั้งชาวท้องถิ่น และชาวจีน บ้านวงศ์บุรีสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2440 จนถึงทุกวันนี้รวมเวลากว่า 116 ปีแล้วเรือนไม้ขนมปังขิง สถาปัตยกรรมยุควิคตอเรีย ผสมผสานหลังคาจั่วปั้นหยาแบบไทย
บ้านหลังนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมตะวันตก ผสมผสานกับหลังคาทรงจั่วปั้นหยาแบบไทย เรียกว่า เรือนขนมปังขิง ซึ่งเป็นรูปแบบอาคารที่นิยมกันมากในช่วงรัชสมัยของพระนางเจ้าวิคตอเรียแห่งอังกฤษ แพร่หลายเข้ามาในประเทศไทยช่วงสมัยรัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นรูปแบบบ้านที่ชนชั้นสูงสมัยนั้นนิยมปลูกกันมาก เรือนหลังนี้สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ฐานก่ออิฐถือปูน เป็นอาคารสองชั้น ทาสีชมพูอ่อนหวาน ซึ่งเป็นสีโปรดของเจ้าแม่บัวถา โดดเด่น สะดุดตา การประดับตกแต่อาคารนั้นมีรายละเอียดมาก ชายคาประดับด้วยไม้ฉลุลายวิจิตรพิสดาร หน้าจั่ว และช่องลมเหนือบานหน้าต่างฉลุไม้เป็นลวดลายก้านขดอ่อนช้อย สวยงามราวกับอยู่ในบ้านแห่งเทพนิยาย หน้าต่างไม้บานกระทุ้งตีเกล็ด ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีบรรยากาศภายในบ้าน "ห้องรับแขก" ของบ้านวงศ์บุรี
บรรยากาศภายห้องนอน บ้านวงศ์บุรี
พื้นที่ส่วนตัวของสมาชิกในครอบครัว จำลองมื้ออาหารของคนในบ้าน
นอกจากการตกแต่งอันวิจิตรพิสดารแล้ว ภายในบ้านยังคงเก็บรักษารูปแบบการใช้งานดั้งเดิมเอาไว้ได้ครบถ้วน เพื่อให้ผู้สนใจได้เข้าศึกษาเยี่ยมชม เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยังคงมีชีวิต เราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศและรูปแบบการใช้ชีวิตของชนชั้นปกครองของเมืองแพร่ในอดีต แต่ละห้องจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน เครื่องเรือนเก่าแก่ มรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น เอกสารเก่าที่หาดูได้ยาก เช่น เอกสารอนุญาตทำสัมปทานป่าไม้ หรือเอกสารการซื้อขายทาส รวมไปถึงเครื่องแต่งกายของเจ้านายฝ่ายเหนือในอดีตเครื่องเล่นแผ่นเสียงเก่าลำโพงทองเหลือง จัดแสดงภายในบ้าน
ส่วนจัดแสดงอื่นๆ ยังคงรักษารูปแบบการใช้ชีวิตของสมาชิกครอบครัวในอดีต
ส่วนจัดแสดงเครื่องแต่งกายของชาวล้านนาในอดีต
บ้านวงศ์บุรีได้รับรางวัลอนุรักษ์ดีเด่น ปี ๒๕๔๖ จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมตั้งแต่เวลา 8:00 17:00 น ของทุกวัน ค่าธรรมเนียมการเข้าชม 30 บาทเท่านั้น ถือว่าคุ้มค่ามากๆ กับสิ่งที่เราจะได้ชม และเนื่องจากอาคารหลังนี้เป็นของเอกชน ยังคงเป็นที่พักอาศัยของทายาท นักท่องเที่ยวพึงระวังอย่าเข้าไปในเขตพื้นที่ส่วนบุคคล ใครยังไม่มีแผนท่องเที่ยววันหยุดที่ไหน หรือมีกำหนดการจะไปเยือนเมืองแพร่อยู่แล้ว ลองแวะไปเยี่ยมเยือนบ้านวงศ์บุรีดูสักครั้ง รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังเลยเรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา