จากจุดชมวิวขับไปเพียงกิโลเมตรเดียว ก่อนเข้าสู่ อำเภอแม่ลาน้อย มีทางแยกขวามือเข้าไปสู่บ้านห้วยห้อม หมู่บ้านโอทอปในหุบเขา เส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านกว่า 30 กิโลเมตรเริ่มด้วยทางลาดยางอย่างดี ลัดเลาะไปตามภูเขาผ่านหลายหมู่บ้านระหว่างทาง แล้วก็แปรเปลี่ยนเป็นทางลูกรังไต่สู่ที่สูง สร้างอารมณ์ได้ถึง 2 รูปแบบ อีกทั้งสภาพสองข้างทางก็สร้างความเพลิดเพลินได้อย่างไม่น่าเบื่อ เห็นเทือกเขาสลับซับซ้อนไปสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว ก่อนจะเข้าไปที่บ้านห้วยห้อม เข้าไปที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย ที่อยู่ในบ้านดง ซึ่งเป็นที่พักในการมาเยือนหมู่บ้านในหุบเขา จากปากทางเข้าทางเริ่มไต่ลงจากความสูงสู่ที่ราบกลางหุบเขา ลัดเลาะผ่านนาขั้นบันไดที่อยู่ตามเชิงเขา สวยกว่าที่อื่นๆ ที่ดูแปลกตากว่าเห็นจะเป็นช่วงขั้นบันไดที่สูง มองเห็นความต่างระหว่างขั้นอย่างชัดเจน ก็เพราะพื้นที่มีความราดชันสูงนั่นเอง ยิ่งฉาบด้วยแสงยามบ่ายแก่ๆ ก็ทำให้น่าหลงใหลยิ่งขึ้น
กว่าจะเข้าถึงโครงการหลวงก็ใช้เวลานาน ทั้งที่ระยะทางเพียง 3 กิโลเมตร โครงการหลวงได้เข้ามาส่งเสริมการประกอบอาชีพของชาวบ้านที่นี่ในหลายหมู่บ้าน มีทั้งชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงหรือปกอกะญอ และเผ่าละว้า หรือลัวะ ที่บ้านดงนี้เป็นชาวลัวะ นอกจากปลูกข้าวแล้วยังปลูกผักปลอดสารพิษอีกด้วย อาหารของเราจึงมีผักสดปลอดสารพิษเพื่อสุขภาพในทุกมื้อ
ก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น ก็ออกจากโครงการหลวง ไต่ความสูงจากที่ราบหุบเขามาเสพบรรยากาศยามเช้าของขุนเขา เฝ้ารอชมทะเลหมอก ก่อนที่จะแตกฟุ้งเป็นปุยนุ่นไปพร้อมกับแสงทองของดวงอาทิตย์ แล้วเดินทางต่อไปยังบ้านห้วยห้อม ที่อยู่ห่างไปเพียงไม่กี่กิโลเมตรบนทางลูกรังช่วงแรก
บ้านห้วยห้อม เป็นหมู่บ้านในอ้อมกอดของขุนเขา มีนาขั้นบันไดและยังมีต้นหมากสูงเด่นเป็นทิวแถว เข้าสู่หมู่บ้านก็ตรงไปหาพี่มะลิวัลย์ ประธานกลุ่มแม่บ้านของที่นี่ แล้วก็ถือเป็นโชคสองชั้นที่บ้านพี่มะลิวัลย์อยู่ติดกับโบสถ์ของหมู่บ้าน จึงได้พบเห็นชาวบ้านแต่งตัวชุดกะเหรี่ยงสวยงามมาโบสถ์กันในเช้าอย่างนี้ เสียงพูดสำเนียงกะเหรี่ยงของพี่มะลิวัลย์เล่าให้เราฟังถึงเรื่องราวของหมู่บ้านและครอบครัว
ชาวบ้านที่ห้วยห้อมนับถือศาสนาคริสต์ โดยการเข้ามาช่วยเหลือของมิชชันนารีก่อนที่โครงการหลวงจะเข้ามาช่วยเพิ่มเติม อาชีพหลักคือปลูกข้าว ยังมีเสาวรส กาแฟพันธุ์อะราบิกาที่รสชาติเข้มข้น เพราะปลูกในพื้นที่สูง ใต้ร่มเงาของไม้ยืนต้น กว่าเมล็ดจะแก่ก็นาน การเพาะปลูกของที่นี่ไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ ให้เกิดสารตกค้าง จนได้รับการยอมรับจากสตาร์บักส์ และยังมีการเลี้ยงแกะ ทำให้เกิดอาชีพเสริมคือการทอผ้าพันคอและผ้าคลุมไหล่กันความหนาว ถูกใจสาวๆ เขาล่ะ วิธีการทอเป็นวิธีดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยง โดยใช้กี่เอวชาวบ้านที่นี่ไม่ค่อยออกไปทำงานที่อื่น เพราะในหมู่บ้านมีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ จึงมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง
การเดินทางเที่ยวในหมู่บ้าน ไปดูการเลี้ยงแกะและไร่กาแฟ รวมทั้งชิมกาแฟจากฝีมือการชงของพี่มะลิวัลย์ ที่นี่ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ที่จะได้ซึมซับวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงบ้านห้วยห้อมอย่างใกล้ชิด ใช้เวลาทั้งวันอยู่ที่นี่โดยไม่รู้สึกว่าเบื่อเลย การอยู่ที่บ้านห้วยห้อมเหมือนกับอยู่ในอีกห้วงเวลาที่เข็มนาฬิกาเดินช้ากว่าปกติ แต่สุดท้ายก็ต้องกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงอย่างน่าเสียดาย................................................
"""""""""""""""""""""""""""""""