ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
พฤศจิกายน 27, 2024, 01:33:47 PM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ประกาศ ปัมพ์โพสต์ตอบแต่ emoticon ต่อเนื่อง เพื่อจะให้กระทู้ตัวเองมาอยู่อันดับต้นๆ ประจำ รับสิทธิ์โดนแบน 90 วันครับ


จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: "วัดสันป่าเลียง" กับหอธรรมล้านนาสุดงามตา 0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: "วัดสันป่าเลียง" กับหอธรรมล้านนาสุดงามตา  (อ่าน 2627 ครั้ง)
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:46:19 PM »


ความทรงจำแรกที่เคยมาวัดนี้ คือโดนหมาเห่าไล่ ยังกับจะไปขโมยของ และสองคือ หอธรรมอันสวยงาม ฮ่าๆๆ

ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วไปทำกรรมอะไรกับน้องหมาไว้ ถึงได้มาเห่าไล่กันแบบอาฆาตแค้น จะบอกว่าหน้าตาผิดระเบียบก็ไม่ใช่ เดาเอาเป็นว่า มันคงเห่าตามสัญชาตญาณหมา เพื่อให้รู้ว่า ฉันยังเป็นหมาอยู่

อันที่จริง ไม่เห่า เราก็รู้ว่า เอ็งมันหมา

วัดสันป่าเลียง ตั้งอยู่ ม.4 ต.หนองหอย แผนที่ ใช้กูเกิ้ลแมปนำทางไปเลย สะดวกดี วัดสร้าง ขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2535 เดิมเรียกว่า วัดสามปอเลียง เนื่องจากมีต้นปอใหญ่ 3 ต้น ขึ้นเรียงกันอยู่บนสันนาในบริเวณที่สร้างวัด ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดสันปอเลียงและเรียกเพี้ยนเป็น วัดสันป่าเลียงจนถึงปัจจุบัน   


* 2017_0322_16441800.jpg (456.14 KB, 800x533 - ดู 436 ครั้ง.)

* 2017_0322_16313900.jpg (414.5 KB, 800x533 - ดู 488 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 24, 2017, 10:03:57 PM โดย ironear7 » บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:47:40 PM »


ย้อนกลับไป เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2535 ท่านครูบาธรรมธิ ได้เดินธุดงค์หาที่ปลีกวิเวกเพื่อปฏิบัติธรรม จนมาถึงสถานที่ซึ่งเป็นป่าทึบ และมีความสงบร่มรื่น ท่านครูบาเห็นว่าเป็นที่สัปปายะ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม จึงปักกลดจำพรรษา ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ได้พากันมาทำบุญฟังธรรม และเกิดความเลื่อมใส จึงร่วมใจกันสร้างกุฏิ เพื่อให้เป็นที่พักอาศัยของท่านครูบา แล้วอาราธนาให้ท่านสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางรวมจิตใจของชาวบ้าน และเรียกวัดแห่งนี้ว่า "วัดสามปอเลียง"

ในอดีตวัดสันป่าเลียงได้เป็นสำนักเรียนของสงฆ์ที่สำคัญสำนักหนึ่งในวัดจึงมีคัมภีร์ใบลานและปั๊บสา ที่จารึกเรื่องราวและความรู้ต่างๆ เก็บไว้เป็นจำนวนมาก ในปี พ.ศ. 2471 ท่านครูบาเจ้า พระครูสุวัฒน์วราคุณ (บุญถึง คนฺโธ) เจ้าคณะตำบลหนองหอย ซึ่งขณะนั้นท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสันป่าเลียง ได้ร่วมกับคณะทายก ทายิกา และคณะศรัทธาชาวบ้านสันป่าเลียง ได้สร้างหอธรรมขึ้นในรูปแบบศิลปะสถาปัตยกรรมพื้นบ้านล้านนา เพื่อใช้เป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฏกและเอกสารโบราณต่างๆ  อันเป็นหลักฐานสำคัญในทางพระพุทธศาสนา


* 2017_0322_16385100.jpg (357.53 KB, 800x533 - ดู 417 ครั้ง.)

* 2017_0322_16420700.jpg (477.73 KB, 800x533 - ดู 418 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:48:40 PM »


เนื่องจากวัดสันป่าเลียง ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่ม มีน้ำท่วมเกือบทุกปี เป็นเหตุให้หอธรรมหลังนี้ถูกดินตะกอนและทราบทับถมฐานอาคารเพิ่มขึ้นทุกปี และสภาพความชื้นที่เกิดขึ้น ก็ได้ทำให้ภาพเขียนสีฝุ่นผสมน้ำ ซึ่งประดับอยู่ผนังด้านนอกของหอธรรม เป็นภาพเทพบุตร เทพธิดา ภาพ 12 ราศี ภาพแม่ธรณีบิดมวยผมหลุดร่อนลงเกือบหมด รวมทั้งส่วนประกอบอาคารที่ทำด้วยไม้ก็ผุพังเป็นอันมาก

 ปี พ.ศ. 2536 เมื่อพระครูวินัยธรมงคล สุมงฺคโล ลูกศิษย์ท่านครูบาเจ้าพระครูสุวัฒน์วรคุณ เป็นเจ้าอาวาสวัดสันป่าเลียง ได้ดำริที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์หอธรรมหลังนี้ขึ้นใหม่ จึงได้พร้อมกับคณะสงฆ์ตำบลหนองหอย กำนันตำบลหนองหอย และคณะกรรมการวัดสันป่าเลียง ศรัทธาชาวบ้านสันป่าเลียง และพุทธศาสนิกชนทั่วไป รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กรมศิลปกร หน่วยศิลปกรที่ 4 เชียงใหม่ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ และกรมการศาสนา


* 2017_0322_16403300.jpg (399.34 KB, 800x533 - ดู 419 ครั้ง.)

* 2017_0322_16371100.jpg (968.1 KB, 800x1200 - ดู 243 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:50:53 PM »


การบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งนั้น ได้รักษาโครงสร้างและศิลปะสถาปัตยกรรมตามแบบเดิมไว้ทุกประการ แต่เนื่องจากฐานอาคารหอธรรมอยู่ต่ำกว่าระดับพื้นดินปัจจุบันถึง 1.20 เมตร การที่จะยกตัวอาคารให้อยู่ในระดับพื้นดินปัจจุบัน อาจจะทำให้เกิดผลกระทบกระเทือนต่อโครงสร้างอาคารและส่วนประกอบอื่นๆ ได้ ในการบูรณะจึงได้ทำการขุดลอกดินบริเวณโดยรอบอาคารหอธรรม ซึ่งการปรับปรุงโครงสร้างหอพระธรรมในครั้งนี้ นายช่าง ดำรง เขื่อนแก้ว บ้านหนองใคร้ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่เป็นหัวหน้า

สำหรับผนังด้านนอก ซึ่งเดิมเป็นรูปเขียนสีฝุ่นผสมน้ำในการบูรณะครั้งนี้ ยังคงลักษณะรูปเดิมไว้ แต่ได้เปลี่ยนจากภาพเขียนสีฝุ่นผสมน้ำเป็นภาพประติมากรรมปูนปั้น ซึ่งงานประติมากรรมปูนปั้นทั้งหมดรวมทั้งการลงรักปิดทอง หน้าบัน ช่อผ้า ใบระกา มีนายช่าง ธวัช ชื่นสนิท และนายช่าง สนั่น คำเปียง บ้านแม่ข่าน้อย ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ดำเนินการส่วนที่ได้ตกแต่งเพิ่มเติม คือ ภาพจิตรกรรมที่ฝาผนังภายในอาคารหอพระธรรมวัดสันป่าเลียง แล้วเสร็จในเดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2538 ใช้ทุนทรัพย์ในการบูรณะปฏิสังขรณ์ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 812,522 บาท และทำพิธีน้อมถวายเป็นสมบัติในบวรพระพุทธศาสนา เมื่อวันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2538 เวลา 09.30 น.ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือนเจ็ดเหนือ


* 2017_0322_16361900.jpg (816.45 KB, 800x1200 - ดู 247 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:52:41 PM »


จากการที่วัดได้รับการเชิดชูเกียรติ และได้รับรางวัลต่าง ๆ เช่น ได้รับรางวัลเกียรติบัตรเชิดชูให้เป็นวัดพัฒนาอุทยานการศึกษา และสิ่งแวดล้อมดีเด่น วัดพัฒนาดีเด่นของจังหวัดเชียงใหม่ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีในวโรกาสเฉลิมพระเกียรติปีกาญจนาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสด็จครองสิริราชสมบัติครบปีที่ 50 จึงทำให้ผู้มาเยี่ยมชม และศึกษาดูงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2539 วัดสันป่าเลียง ได้มีโอกาสรับเสด็จพระอาคันตุกะต่างประเทศ สมเด็จพระสังฆราชจากสาธารณรัฐกัมพูชา และสมเด็จพระราชาคณะตามเสด็จ ทั้งฝ่ายมหานิกายและธรรมยุต จำนวน 12 รูป เสด็จมาศึกษาดูงาน ณ วัดสันป่าเลียง

ปัจจุบันอุทยานการศึกษาวัดสันป่าเลียง จัดเป็นสถานที่ดูงานของคณะครูอาจารย์ คณะสงฆ์ ทั้งในและต่างประเทศ รวมไปถึงประชาชนและองค์กรต่าง ๆ


* 2017_0322_16410700.jpg (493.63 KB, 800x533 - ดู 420 ครั้ง.)

* 2017_0322_16345800.jpg (347.83 KB, 800x533 - ดู 403 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:53:40 PM »


สำหรับสิ่งที่น่าสนใจภายในวัด มีหอธรรม รูปแบบศิลปะสถาปัตยกรรมพื้นบ้านล้านนา เพื่อใช้เป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฎกและเอกสารโบราณต่างๆ ซึ่งใน ปี พ.ศ. 2536 จึงได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์หอธรรมขึ้นใหม่โดยได้รักษาโครงสร้างและศิลปะ สถาปัตยกรรม ตามแบบเดิมไว้

เจดีย์มหารัชมงคลก่อสร้างในปี 2539 โดย คณะสงฆ์ สามเณรคณะศรัทธาวัดสันป่าเลียง ร่วมบริจาคทรัพย์ ก่อสร้าง โดยเป็นเจดีย์ รูปทรงสถาปัตยกรมมแบบล้านนา ความกว้างฐาน 18 ศอก ความสูง 49 ศอก ประดับด้วยสีทองโดยรอบ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเจ้า พระอรหันต์เจ้า บรรจุบนยอดเจดีย์ เพื่อเป็นที่สักการะบูชาสืบต่อมา


* 2017_0322_16322600.jpg (428.67 KB, 800x533 - ดู 427 ครั้ง.)

* 2017_0322_16335200.jpg (747.18 KB, 800x1200 - ดู 269 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:54:58 PM »


นอกจากนี้ หากเดินมาส่วนด้านหลังของวัด ใกล้องค์เจดีย์ จะมีองค์พระธาตุจำลองเล็กๆ ทั้งหมด 12 องค์ ด้วยกัน โดยทั้งหมดนั้น เป็นพระธาตุประจำปีเกิดทั้ง 12 นักษัตร ซึ่งในสังคมไทย จะมีความเชื่อเรื่องปีนักษัตรที่สัมพันธ์กับปีเกิดและการนับอายุของแต่ละคน ในแต่ละปีนักษัตรจึงกำหนดด้วยสัญลักษณ์เป็นสัตว์ประจำปีเกิด หรือที่เรียกว่า 12 นักษัตร เพื่อเป็นอีกแนวทางหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการทำบุญเสริมดวงชะตา

ทั้งนี้ คำว่า "พระธาตุ" มีความหมายสองนัยคือ " พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า" และ "สถานที่หรือพระเจดีย์ที่มีพระบรมธาตุบรรจุ" โดยแต่ละแห่งจะมีตำนานที่เล่ามูลเหตุการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ซึ่งสัมพันธ์กับการเสด็จโปรดสัตว์ของพระพุทธเจ้าในดินแดนต่าง ๆ สถานที่ที่มีพระบรมธาตุเจดีย์เหล่านี้มักจะกลายเป็นเมืองสำคัญในเวลาต่อมา


* 2017_0322_16325300.jpg (837.91 KB, 800x1200 - ดู 272 ครั้ง.)

* 2017_0322_16342600.jpg (488.7 KB, 800x533 - ดู 420 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:57:15 PM »


สำหรับในดินแดนภาคเหนือของไทย ความเชื่อเรื่องปีนักษัตรยังสัมพันธ์กับคติการบูชาพระบรมธาตุ ดังปรากฏเป็นประเพณีการชุธาตุหรือการไหว้พระธาตุประจำปีเกิด โดยครั้งหนึ่งในชีวิตควรมีโอกาสเดินทางไปไหว้พระธาตุประจำปีเกิดของตนเพื่อความเป็นสิริมงคล ในคติล้านนาพระธาตุและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำปีเกิด ได้แก่ พระธาตุประจำปีชวด พระธาตุศรีจอมทอง เชียงใหม่ พระธาตุประจำปีฉลู พระธาตุลำปางหลวง ลำปาง พระธาตุประจำปีขาล พระธาตุช่อแฮ แพร่ พระธาตุประจำปีเถาะ พระธาตุแช่แห้ง น่าน พระธาตุประจำปีมะโรง พระธาตุวัดพระสิงห์ เชียงใหม่ พระธาตุประจำปีมะเส็ง เจดีย์พุทธคยา หรือต้นพระศรีมหาโพธิ์ วัดเจ็ดยอด เชียงใหม่ พระธาตุประจำปีมะเมีย พระธาตุชเวดากอง เมียนมา หรือใครที่ไม่สามารถไปนมัสการ "พระธาตุเจดีย์ชเวดากอง" ที่เมียนมา สามารถเดินทางไปนมัสการวัดพระบรมธาตุบ้านตากแทนได้ พระธาตุประจำปีมะแม พระธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่ พระธาตุประจำปีวอก พระธาตุพนม นครพนม พระธาตุประจำปีระกา พระธาตุหริภุญชัย ลำพูน พระธาตุประจำปีจอ พระธาตุอินทร์แขวน เมียนมา แต่ถ้าในประเทศไทยเราสามารถบูชา "พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี" จังหวัดเชียงใหม่ แทนได้ และ พระธาตุประจำปีกุน พระธาตุดอยตุง เชียงราย

อนึ่ง ลักษณะของพระบรมสารีริกธาตุที่บรรยายไว้ในตำนานมีลักษณะเหมือนถั่วแตก หรือข้าวสารหัก หรือเมล็ดพันธุ์ผักกาด กลมเกลี้ยงขนาดเท่าเม็ดพุทรา มีสีทองอุไร สีแก้วผลึก หรือแก้วมุกดา สีดอกพิกุล บางองค์มีรูทะลุได้ ตามปกติจะบรรจุพระบรมธาตุไว้ใต้ฐานเจดีย์หรือเรือนธาตุ โดยส่วนใหญ่ไม่สามารถนำออกมาได้ เว้นแต่พระธาตุศรีจอมทอง และนอกจากการบูชาพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าแล้ว ยังมีการบูชาพระธาตุของพระอรหันต์หรือพระสาวกด้วยครับ



* 2017_0322_16382200.jpg (332.75 KB, 800x533 - ดู 415 ครั้ง.)

* 2017_0322_16430100.jpg (402.38 KB, 800x533 - ดู 390 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ขึ้นบน พิมพ์ 
จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: "วัดสันป่าเลียง" กับหอธรรมล้านนาสุดงามตา « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  




Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.5 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.083 วินาที กับ 21 คำสั่ง