ร้อยเรียงเรื่องราวราชสกุลมหิดล @ หอแห่งแรงบันดาลใจ (Page 1-2)

[Traveller Freedom]

ร้อยเรียงเรื่องราวราชสกุลมหิดล @ หอแห่งแรงบันดาลใจ (Page 1)

สถานที่ตั้ง : โครงการพัฒนาดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
โทรศัพท์ : 053 767 015-7
พิกัด : 20.290054, 99.810219

    ในพื้นที่ของโครงการพัฒนาดอยตุง ถูกแบ่งสถานที่ท่องเที่ยวออกเป็น 4 ส่วน คือ พระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง สวนรุกขชาติช้างมูบ และหอแห่งแรงบันดาลใจ ซึ่งหอแห่งแรงบันดาลใจ กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น เนื่องจากเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวที่ถูกร้อยเรียงอันเกี่ยวข้องกับราชสกุล “มหิดล”โดยละเอียด ทั้งนี้ หอแห่งแรงบันดาลใจ ได้รับการดูแลโดยสำนักงานประสานงานโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

    หอแห่งแรงบันดาลใจ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาดอยตุง สร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ รวมถึงชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวบนดอยตุง ได้รู้จักและเข้าใจถึงแนวพระราชดำริของครอบครัวราชสกุลมหิดลทั้งห้าพระองค์ อันประกอบด้วย สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ 

    หอแห่งแรงบันดาลใจ มีลักษณะเป็นตัวอาคารสองชั้น นำเสนอในรูปแบบของนิทรรศการต่างๆ ถ่ายทอดพระราชจริยวัตรในการทำงาน และพระวิริยะอุตสาหะที่มุ่งพัฒนาความเป็นอยู่ของคนไทย โดยหวังให้ผู้เข้าชมได้เกิดแรงบันดาลใจ ยึดมั่นในความดี คิดดี ประพฤติปฏิบัติดีเท่าที่ตนเองจะสามารถทำได้ เพื่อพลังแห่งความดีนี้ จะได้ผลิดอกออกผลบานสะพรั่งไปทั่วทุกหนทุกแห่ง เช่น ราชสกุลมหิดลที่เปรียบเสมือนหยดน้ำหยดเล็กๆ ที่ค่อยๆ หลั่งริน สร้างแรงกระเพื่อม ดับร้อน และบันดาลความชุ่มชื่นผาสุกไปทั่วแผ่นดินไทย

    การเดินทางไปโครงการพัฒนาดอยตุง จากตัวเมืองเชียงราย ให้ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน สายเชียงราย – แม่สาย ประมาณ 48 กิโลเมตร จะพบแยกซ้ายเข้าดอยตุง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 870 –871 บ้านสันกอง (สายใหม่) หรือแยกซ้ายเข้าดอยตุงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 871–872 ตรงข้ามตู้ยามห้วยไคร้ (สายเก่า) ตามทางหลวงหมายเลข 1149 เส้นทางไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวบนดอยตุง สามารถเดินทางเป็นวงรอบสู่อำเภอแม่สายได้ เป็นเส้นทางลาดยางขึ้นเขาคดเคี้ยวลัดเลาะไปตามภูมิประเทศที่สวยงาม รวมถึงมีจุดชมวิวต่างๆ หลายจุด เนื่องจากเป็นถนนที่วิ่งอยู่บนสันเขา ตามแนวเทือกเขาดอยนางนอน อันเป็นเทือกเขาพรมแดนไทย-เมียนมาร์

    หอแห่งแรงบันดาลใจ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน ไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น. โดยตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 หอแห่งแรงบันดาลใจจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรี

[Traveller Freedom]

ร้อยเรียงเรื่องราวราชสกุลมหิดล @ หอแห่งแรงบันดาลใจ (Page 2)

    เมื่อย่างก้าวเท้าเข้ามาภายในตัวอาคารหอแห่งแรงบันดาลใจ จะพบกับพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอลุยเดช ในหลวงรัชกาลที่๙ ทรงถือกล้องถ่ายรูปในพระหัตถ์ และเป็นที่น่ายินดียิ่ง ที่หอจัดแสดงแห่งนี้สามารถถ่ายรูปได้ทั้งหมดทุกอาณาบริเวณ โดยไม่มีส่วนไหนห้ามถ่าย หรือไม่ได้รับการอนุญาตแต่อย่างใด ฉะนั้น เมื่อได้รับสิทธิ์นี้แล้ว ข้าพเจ้าจึงขอเก็บภาพความรู้และความประทับใจนี้อย่างเต็มที่

    หอแห่งแรงบันดาลใจ ถูกแบ่งเป็นห้องๆ ทั้งหมด 7 ห้องด้วยกัน ห้องที่ 1 “ราชสกุลมหิดล” ห้องที่ 2 “เรื่องราวของราชสกุลมหิดล ผ่านพระราชประวัติ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี” ห้องที่ 3 “การกลับคืนสู่แผ่นดินไทยของราชสกุลมหิดล” ห้องที่ 4 “ปัญหาไม่มีวันหยุด” ห้องที่ 5 “แบบแผนการแก้ปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนอย่างยั่งยืน (โครงการพระราชดำริ)” ห้องที่ 6 “การนำแบบแผนการแก้ปัญหาความทกข์ยากของประชาชนไปใช้ (โครงการพัฒนาดอยตุง)” และห้องที่ 7 “ห้องแห่งแรงบันดาลใจ”

    เมื่อเข้าไปในห้องที่ 1 จะพบกับคำโปรยว่า “เรื่องราวของสมาชิกในครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กันและกัน จนส่งผลถึงคนทั้งแผ่นดิน” ภายในห้องนี้จะลำดับให้รู้จักถึงบุคคลในราชสกุลมหิดล พร้อมบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของบุคคล ซึ่งเปรียบได้ดังหยดน้ำทิพย์ที่หยาดชุ่มทุกหัวใจในแผ่นดิน ส่งแรงกระเพื่อมไหวให้ผู้คนได้ดำรงชีพบนฐานแห่งความดีงาม เพื่อชีวิตที่พอเพียงและยั่งยืนสืบไป

    สมเด็จย่า ..สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้สอนลูกๆ พสกนิกรชาวไทยของพระองค์ว่า “เกียรติยศไม่ได้มาด้วยชาติกำเนิด แต่เกิดจากการกระทำ” อีกทั้งยังมีพระราชดำรัส ณ กรุงโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2521 ว่า “ฉันอบรมบุตรให้เป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ มีทั้งการศึกษา สุขภาพดี และมีจิตใจดีด้วย นี่คือหลักในการเลี้ยงดูบุตรของฉัน ฉันทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ของลูก” สมเด็จย่าทรงออกเยี่ยมเยียนราษฎรและตำรวจตระเวนชายแดนในท้องถิ่นทุรกันดารทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 เป็นต้นมา เพื่อแบ่งเบาภารกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะพระบรมราชชนนี โดยมีพระปณิธานที่จะขจัดความทุกข์ยากของบุคคลอื่นเท่าที่จะทรงกระทำได้ หลังจากทรงพบเห็นความทุกข์ยากในท้องถิ่นที่ห่างไกลความเจริญ ขณะที่ทรงมีพระชนมายุ ๖๔ พรรษาแล้ว 

    จากเรื่องราวต่างๆ ของสมเด็จย่า ต่อไปจะได้พบกับเรื่องราวอันเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นกษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก การแก้ไขปัญหาต่างๆ การกำเนิดโครงการพระราชดำริต่างๆ กว่า 4,000 โครงการ จบด้วยห้องที่มีพระฉายาลักษณ์ของราชสกุลมหิดล ครบทั้ง 5 พระองค์ ถือเป็นนิทรรศการแสดงเรื่องราวที่จะทำให้เราชาวไทยที่เกิดมาบนแผ่นดินของราชสกุลมหิดล ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ 

by Traveller Freedom