ครูบาดวงดี มหาสงฆ์แห่งวัดท่าจำปี (Page 1-4)

[Traveller Freedom]

ครูบาดวงดี มหาสงฆ์แห่งวัดท่าจำปี (Page 1)

สถานที่ตั้ง : เลขที่ 24 บ้านท่าจำปี หมู่ที่8 ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : 18.564062, 98.846296

    วัดท่าจำปี เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งที่ยังไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่าสร้างเมื่อใดและใครเป็นผู้สร้าง แต่เป็นวัดที่ตั้งอยู่ที่บ้านท่าจำปีมาเป็นเวลานานมาก ก่อนที่หลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดีจะถือกำเนิดเป็นเด็กชายในหมู่บ้านแห่งนี้ซะอีก วัดท่าจำปีได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นวัดจากทางราชการ เมื่อปี พ.ศ. 2419 หรือเมื่อกว่า 140 ปีมาแล้ว สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย พร้อมทั้งได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อหลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น ร่วมกับผู้มีจิตศรัทธา สร้างพระอุโบสถของวัดเสร็จในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2526 กำหนดเขตกว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร ประเภทวัดเป็นพัทธสีมา มีโฉนดที่ดินสามแปลง รวมเนื้อที่ 9 ไร่ 2 งาน 30 ตารางวา

    วัดท่าจำปี เป็นวัดใหญ่ที่ชาวบ้านท่าจำปีให้ความเคารพนับถือศรัทธามาโดยตลอด แม้ในบางห้วงเวลาที่วัดท่าจำปีจะร้างลาขาดพระสงฆ์อยู่จำวัด แต่ก็มีพระเถระผู้ใหญ่ผลัดเปลี่ยนมาจำพรรษา ปฏิบัติธรรม และช่วยทำนุบำรุงดูแลปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างในวัดเสมอมา โดยปัจจุบันวัดท่าจำปีมีอาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ วิหาร พระเจดีย์เก้ายอด วิหารพุทธไสยาสน์ วิหารพระพุทธรูปหยกขาว วิหารพระสังกัจจายน์ วิหารไม้สักทอง ศาลาบำเพ็ญบุญ ศาลาการเปรียญ หอพระไตรปิฏก มณฑป กุฏิสงฆ์ ศาลานอนจำศีล และกำแพงวัด

    ในปัจจุบัน วัดท่าจำปีถือเป็นวัดประจำหมู่บ้านท่าจำปี เป็นศูนย์รวมจิตใจ เป็นที่พึ่งในการศึกษา ปฏิบัติธรรมของชาวพุทธที่ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และเป็นศูนย์กลางการชุมนุมสืบสานประเพณีอันดีงามของชาวบ้านในท้องถิ่น ตลอดจนพุทธศาสนิกชนชาวไทยโดยทั่วไป แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมา วัดท่าจำปีมีพระภิกษุอยู่ประจำบ้าง และเว้นว่างไม่มีผู้ดูแลอยู่บ้างครั้งเป็นคราว แม้วัดจะมีอายุเก่าแก่ยาวนานแต่เท่าที่สืบย้อนประวัติกลับไปได้ มีพระเถระผู้ใหญ่ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส 5 รูป ดังนี้ 1. ครูบาโปธิมา 2. ครูบาพรหมมา 3. ครูบาสิงหะ 4. ครูบาโสภา 5. พระสุภัทรศีลคุณ หรือหลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดี สุภัทโท เป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 จนถึงปัจจุบันนับได้ 59 ปี จนกระทั่งท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 สิริรวมอายุ 104 ปี พรรษา 83 ซึ่งครูบาเจ้าดวงดี สุภัทโท แห่งวัดท่าจำปีถือเป็น “เกจิดัง” มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากรูปหนึ่งที่เคยมีมาในแผ่นดินล้านนา อีกทั้งยังมีผู้กล่าวขานกันด้วยว่า ท่านเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของครูบาเจ้าศรีวิชัย

by Traveller Freedom

[Traveller Freedom]

ครูบาดวงดี มหาสงฆ์แห่งวัดท่าจำปี (Page 2)

สถานที่ตั้ง : เลขที่ 24 บ้านท่าจำปี หมู่ที่8 ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : 18.564062, 98.846296

    ครูบาดวงดี สุภทโท ถือกำเนิดที่บ้านท่าจำปี ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นคนพื้นเพบ้านท่าจำปีมาแต่กำเนิด บิดามารดา เป็นชาวไร่ชาวนา โยมบิดาชื่อ พ่ออูบ โยมมารดาชื่อ แม่จั๋นติ๊บ ในสมัยก่อนนั้นยังไม่มีการใช้นามสกุล หลวงปู่ถือกำเนิดในแผ่นดินรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ตรงกับสมัยพ่อเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7 เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2449 หลวงปู่มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 8 คน เป็นชาย 4 คน เป็นหญิง 4 คน หลวงปู่เป็นลำดับที่ 7 โดยมีน้องคนสุดท้องชื่อ แม่นิน

    เมื่อหลวงปู่อายุได้ 11 ปี ได้ติดตามพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นท่านครูบาถูกทางการจังหวัดลำพูน นำตัวมากักขังบริเวณที่วัดพระธาตุเจ้าหริภุญชัย จังหวัดลำพูน ในข้อหาเป็นพระอุปัชฌาย์เถื่อนไม่มีหนังสืออนุญาตบวชพระ เมื่อท่านครูบาศรีวิชัยได้เห็นเด็กชายดวงดี ท่านก็มีเมตตาอย่างสูงเรียกเข้าไปหาพร้อมกับบอกพ่อแม่ว่า "กลับไปให้เอาไปเข้าวัดเข้าวา ต่อไปภายหน้าจะได้พึ่งพาไหว้สามัน" นับเป็นพรอันประเสริฐ ยิ่งในการที่ท่านครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์พร้อมกับประสาทพรให้หลวงปู่ตั้งแต่วัยเยาว์

    หลังจากที่เดินทางกลับถึงบ้านไม่กี่วันต่อมา บิดาก็นำขันข้าวตอกดอกไม้พร้อมกับนำตัวเด็กชายดวงดีไปถวายฝากตัวเป็นศิษย์กับท่านครูบาโปธิมา ซึ่งเป็นอธิการวัดท่าจำปี วัดใกล้บ้านท่านนั่นเอง ครูบาโปธิมาก็ได้พร่ำสอนหนังสือของทางการบ้านเมืองสมัยนั้น หลังจากสั่งสอนเด็กชายดวงดีจนพออ่านออกเขียนได้ ท่านครูบาโปธิมาก็ย้ายจากวัดท่าจำปีไปเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ห่างจากวัดท่าจำปีไปเล็กน้อย ท่านครูบาสิงหะ เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าจำปีรูปถัดมา เด็กชายดวงดีได้ศึกษาอยู่กับครูบาสิงหะได้ไม่นาน ครูบาสิงหะก็มรณภาพ คงเหลือสามเณรสิงห์แก้วดูแลวัดท่าจำปีแทน และทำหน้าที่สั่งสอนลูกศิษย์ไปด้วย หลังจากทำบุญประชุมเพลิงครูบาสิงหะแล้ว สามเณรสิงห์แก้วก็ลาสิกขาจึงทำให้วัดท่าจำปีไม่มีเจ้าอาวาสติดต่อกันนานถึง 3 ปี ในขณะที่วัดร้างนั้น เด็กชายดวงดีในขณะนั้นก็ทำหน้าที่ดูแลวัดอย่างที่เคยปฏิบัติมา เช่น ปัดกวาดกุฏิวิหาร จัดขันดอกไม้บูชาพระ ตักน้ำคนโทถวายพระพุทธรูปตลอดเวลา

by Traveller Freedom

[Traveller Freedom]

ครูบาดวงดี มหาสงฆ์แห่งวัดท่าจำปี (Page 3)

สถานที่ตั้ง : เลขที่ 24 บ้านท่าจำปี หมู่ที่8 ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : 18.564062, 98.846296

    ต่อมาคณะศรัทธาวัดท่าจำปี ได้อาราธนานิมนต์ท่านครูบาโสภา มาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี ท่านเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่จึงได้ดำรงตำแหน่งเป็น “เจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตก” เสริมไปอีกตำแหน่งด้วย ทำให้วัดท่าจำปีเกิดความสำคัญขึ้นมาอย่างยิ่ง เพราะนอกจากท่านครูบาโสภาจะเป็นเจ้าคณะตำบลแล้ว ท่านเป็นพระที่มีผู้คนเคารพนับถือมากมายถึงกับขนานนามท่านว่า "ตุ๊เจ้าตนบุญตนวิเศษแห่งล้านนา" อีกทั้งท่านยังมีบุญญาอภินิหารปรากฏแก่สายตาคนทั้งหลาย ซึ่งเป็นที่ร่ำลือถึงเหตุการณ์ต่างๆ อย่างไม่ลดละตราบจนทุกวันนี้

    หลังจากเด็กชายดวงดีศึกษาภาษาพื้นเมืองได้คล่องแคล่วจนอายุได้ 13 ปี พอดีท่านครูบาโสภาจึงนำเด็กชายดวงดีไปปรึกษากับท่านครูบาศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นท่านครูบาศรีวิชัยได้ขึ้นมาบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่างๆ ทางเมืองเชียงใหม่ในช่วงปี พ.ศ. 2462 ท่านครูบาศรีวิชัยมีความพอใจเด็กชายดวงดีมาก ท่านครูบาโสภาก็เล่าเรื่องการบวชเณรให้ท่านครูบาศรีวิชัยฟัง ท่านก็บอกกับครูบาโสภาว่า "ถ้าบวชพระแล้วก็หื้อขึ้นมาจำพรรษาอยู่วัดพระสิงห์นี่แหละ จะได้เป็นเพื่อนกับนายสิงห์ดำ" ซึ่งนายสิงห์คำเป็นหลานแท้ๆ ของท่านครูบาศรีวิชัย โดยมีหน้าที่ปลงเกศาให้กับท่านครูบาศรีวิชัย

    ครั้นหลวงปู่ดวงดีบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว โดยมีท่านครูบาโสภาเป็นพระอุปัชฌาย์บรรพชาได้ไม่กี่วันก็ส่งตัวเข้ามาในเมืองเชียงใหม่ อยู่จำพรรษาและช่วยเหลือท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย คอยปฏิบัติตามอาจาริยวัตรที่ครูบาอาจารย์ในยุคสมัยนั้นสั่งสอน ไหว้พระสวดมนต์ นั่งกรรมฐาน บูชาขันดอกไม้ และช่วยเหลืองานก่อสร้างต่างๆ ซึ่งในขณะนั้นท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยต้องเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง เพื่อสร้างสรรค์บูรณปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุ วัดวาอารามต่างๆ ทุกจังหวัดในแผ่นดินล้านนา เมื่อหลวงปู่ดวงดีอายุครบ 21 ปี จึงได้กลับไปนมัสการพระอาจารย์ท่านครูบาโสภาที่วัดท่าจำปี เพื่อปรึกษาเรื่องอุปสมบทเป็นพระภิกษุ จากนั้นท่านครูบาโสภาจึงได้เดินทางไปขออนุญาตกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เรื่องส่งมาจำพรรษาอยู่กับท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยเหมือนเดิม

    กระทั่งวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2470 สามเณรดวงดีจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาอย่างสมบูรณ์ โดยมีท่านครูบาโสภาเป็นพระอุปัชฌาย์ ณ พระอุโบสถวัดสารภี ตำบลทุ่งรวงทอง อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้นามฉายาว่า "สุภทโท" หลังจากอุปสมบทแล้ว หลวงปู่ดวงดีก็เดินทางไปอยู่จำพรรษากับท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย โดยเป็นกำลังสำคัญในการปฏิบัติบำรุงศาสนสถานต่างๆ

by Traveller Freedom

[Traveller Freedom]

ครูบาดวงดี มหาสงฆ์แห่งวัดท่าจำปี (Page 4)

สถานที่ตั้ง : เลขที่ 24 บ้านท่าจำปี หมู่ที่8 ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : 18.564062, 98.846296

    ในขณะที่หลวงปู่อยู่จำพรรษากับท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยนับตั้งแต่เป็นสามเณรใหม่ๆ และได้ออกเดินทางปฏิบัติเล่าเรียนอยู่กับท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยนั้น ท่านอายุได้ 28 ปี เป็นช่วงที่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยต้องอธิกรณ์ข้อกล่าวหาต่างๆ นานา เช่น การบุกรุกป่าสงวน ซ่องสุมผู้คน ตั้งตนเป็นผีบุญ จนถึงกับถูกจับส่งตัวไปตัดสินคดีความที่พระนคร สาเหตุทั้งหมดมาจากการถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่โต เมื่อคณะสงฆ์ในเขตปกครองแขวงบ้านแมง อำเภอสันป่าตอง ขอลาออกจากการปกครองเมืองเชียงใหม่ถึง 60 วัด ท่านครูบาโสภาวัดท่าจำปี ท่านครูบาปัญญา วัดท่ากิ่งแลหลวง ก็ถูกไต่สวนจนต้องนำคณะศิษย์หนีไปแสวงบุญก่อสร้างวิหารวัดพระพุทธบาทฮังฮุ้ง ในเขตประเทศพม่าจนไม่ยอมกลับมาอีกเลย บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของท่านครูบาศรีวิชัยต้องแยกย้ายกันไปแสวงบุญคนละทิศละทาง คงค้างแต่ท่านครูบาขาวปี ที่อยู่เป็นหัวแรงในการก่อสร้างวัดวาอารามต่างๆ ที่ค้างไว้

    ในระหว่างปี พ.ศ. 2480-2481 ท่านครูบาศรีวิชัยถูกชำระความพ้นผิดเดินทางกลับเมืองลำพูนอยู่ได้ไม่นาน ก็ถึงแก่มรณภาพที่วัดจามเทวี เมื่ออายุได้ 61 ปี ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่ดวงดีอายุได้ 32 ปี หลวงปู่ได้เดินทางไปก่อสร้างวัดวาอารามเจริญรอยตามท่านครูบาศรีวิชัยผู้เป็นพระอาจารย์ หลังจากนั้นก็ติดตามครูบาเจ้าอภิชัยผ้าขาวปี มาสร้างวิหารวัดท่าจำปี

    ในปี พ.ศ. 2484 ขณะครูบาดวงดีอายุได้ 35 ปี หลังจากถวายพระเพลิงปลงศพท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยเสร็จแล้วนั้น ท่านครูบาเจ้าอภิชัยผ้าขาว ได้เชิญอัฐิธาตุของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยส่วนที่เป็นกะโหลกเท่าหัวแม่มือส่วนหนึ่ง หลวงปู่นำมาเก็บรักษาสักการบูชาจนถึงทุกวันนี้ หลวงปู่ได้อยู่ช่วยครูบาอภิชัยผ้าขาว สร้างอนุสาวรีย์บรรจุอัฐิธาตุของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยทั้งที่วัดสวนดอกและวัดหมื่นสารแล้ว ก็รับขันดอกนิมนต์จากคณะศรัทธาป่าเมี้ยงป๋างมะกล้วย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ไปสร้างวัดป่าเมี้ยงป๋างมะกล้วย เนื่องจากอารามอยู่ในป่าดง เหมาะที่จะปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งถูกกับจริตวิสัยของหลวงปู่เป็นอย่างยิ่ง หลวงปู่อยู่ปฏิบัติกรรมฐานที่วัดนี้นานถึง 7 ปี ท่านครูบาโสภาก็ขอให้หลวงปู่ลงมาก่อสร้างวัดท่าจำปีต่อจากท่าน เนื่องจากวัดท่าจำปีมีศรัทธาญาติโยมน้อยเพียง 20 หลังคาเรือนเท่านั้น

    หลวงปู่เดินทางกลับมาก่อสร้างวัดท่าจำปี ขณะอายุได้ 42 ปีได้รับตำแหน่งเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตกจากท่านครูบาโสภาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าหลวงปู่จะมีตำแหน่งหน้าที่ทางการคณะสงฆ์ก็ตาม ท่านก็มิได้ละเลยข้อวัตรปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งท่านมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ในระหว่างที่มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อจากท่านครูบาโสภา หลวงปู่ก็มิได้สร้างแต่เฉพาะวัดท่าจำปีเท่านั้น ทุกวัดในละแวกเดียวกันหลวงปู่ก็ช่วยเหลือเป็นแรงสำคัญไม่ว่าถนนหนทาง อุโบสถ วิหาร เจดีย์ สะพาน หรือแม้แต่โรงเรียน โรงพยาบาล หลวงปู่ก็ให้ความอุปถัมภ์บำรุง แม้กระทั่งวัดในเขตอำเภอสันป่าตอง หรือต่างอำเภอ ไปไกลถึงต่างจังหวัด จนไม่สามารถนำมาบรรยายได้ทั้งหมด
 
by Traveller Freedom