สำนักปฏิบัติแห่งบ้านแม่สะป๊อก @ วัดถ้ำดอยโตน (Page 1-3)

[Traveller Freedom]

สำนักปฏิบัติแห่งบ้านแม่สะป๊อก @ วัดถ้ำดอยโตน (Page 1)

สถานที่ตั้ง : เลขที่ 128 หมู่ที่ 5 บ้านแม่สะป๊อก ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 053 268 511, 053 317 525
พิกัด : 18.660115, 98.638041
   
    วัดถ้ำดอยโตน สถานที่แห่งนี้ผู้มาเยือนต้องสำรวมมากเป็นพิเศษ และต้องเป็นการสำรวมมากกว่าการไปเยือนวัดแห่งอื่นๆ เพิ่มขึ้นไปอีก การพูดจาส่งเสียงดัง หรือถ่ายรูปเซลฟี่ที่นี่ไม่เป็นสิ่งอันควร เนื่องจากวัดถ้ำดอยโตนแห่งนี้เป็นสถานปฏิบัติธรรมที่มีความสงบเงียบเป็นอย่างสูง เริ่มสร้างวัดและมีพระภิกษุ/สามเณรจำพรรษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 ยื่นเรื่องขออนุญาตสร้างวัดปี พ.ศ. 2538 ได้รับการประกาศตั้งวัดจากกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2540 อาณาบริเวณพื้นที่วัดจำนวน 11 ไร่เศษ
 
    วัดถ้ำดอยโตน ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านแม่สะป๊อก บนความสูง 600 เมตรจากระดับน้ำทะเล พื้นที่ท่ามกลางหุบเขาผืนนี้เดิมเป็นทุ่งนามาก่อน ทิศเหนือเป็นหน้าผาสูงชันของเทือกเขาดอยโตน บนยอดเขาเป็นที่ตั้งขององค์พระเจดีย์พระบรมธาตุดอยโตน ด้านล่างเป็นถ้ำใหญ่ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม ลักษณะของเทือกเขาดอยโตนจะค่อยๆ  ลดระดับความสูงลาดเอียงต่ำลงไปทางทิศตะวันออกและทิศใต้ ทิศตะวันตกเป็นทุ่งนา ลักษณะเป็นนาขั้นบันได ชายขอบทุ่งนาเป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำสองสายคือ แม่น้ำแม่วางกับแม่น้ำแม่สะป๊อก

    ที่มาของชื่อวัดถ้ำดอยโตน ประกอบด้วยคำว่า “ถ้ำ” คือลักษณะโพรงหิน หรืออุโมงค์หินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติตามเทือกเขาหินปูน คำว่า “ดอย” คือ ภูเขา และคำว่า “โตน” เป็นสำเนียงภาษาเหนือ ตรงกับคำว่า “โทน” หมายถึงหนึ่งเดียวโดดๆ รวมความแล้ว ถ้ำดอยโตนจึงหมายถึง ภูเขาลูกเดี่ยวที่มีถ้ำหินปูน ซึ่งในอดีตภายในถ้ำนั้นเคยเป็นสถานที่วิปัสสนากรรมฐานของพระธุดงค์ ก่อนที่จะพัฒนาจนมีสถานะเป็นวัดในปัจจุบัน

    เนื่องจากสภาพของหมู่บ้านแม่สะป๊อกก่อนที่จะสร้างวัดถ้ำดอยโตนขึ้นมานั้น เดิมทีมีสถานที่บำเพ็ญกุศลของชาวบ้านอยู่ก่อนแล้ว เป็นลักษณะของอาศรม หรือที่พักสงฆ์ที่หน่วยงานของพระธรรมจาริกได้สร้างไว้ เมื่อสภาพของหมู่บ้านพัฒนาขึ้นมาถึงจุดหนึ่ง หน่วยงานพระธรรมจาริกได้ย้ายออกไปยังถิ่นที่กันดารกว่า สภาพของที่พักสงฆ์จึงตกเป็นสภาพอาศรมร้างไม่มีพระอยู่ประจำเป็นที่แน่นอน เป็นเพียงที่พักอาศัยของพระธุดงค์ที่จาริกผ่านไปมา และที่สำคัญก็คือที่พักสงฆ์ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ จึงไม่สามารถสร้างวัดที่ถูกต้องตามกฎกระทรวงได้ ชาวบ้านจึงต้องหาสถานที่ใหม่ที่มีเอกสารสิทธิ์ในการสร้างวัด ซึ่งก็คือที่ดินที่ตั้งของวัดถ้ำดอยโตนในปัจจุบัน

by Traveller Freedom

[Traveller Freedom]

สำนักปฏิบัติแห่งบ้านแม่สะป๊อก @ วัดถ้ำดอยโตน (Page 2)

สถานที่ตั้ง : บ้านแม่สะป๊อก ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 053 268 511, 053 317 525
พิกัด : 18.660115, 98.638041

    เมื่อกลางปี พ.ศ. 2528 พระอาจารย์ปิยทัสสี ได้จาริกธุดงค์ผ่านมา ณ หมู่บ้านแม่สะป๊อกแห่งนี้ ศรัทธาชาวบ้านได้นิมนต์ให้ท่านโปรดเมตตาจำพรรษา ณ ที่พักสงฆ์ท้ายหมู่บ้าน และกลางพรรษานั้นเองที่พระคุณท่านได้ปรึกษาชาวบ้านว่าจะเสาะหาสถานที่ที่สัปปายะสำหรับการสร้างวัดใหม่ ในรูปแบบที่เป็นศูนย์ของการศึกษาและปฏิบัติธรรม ชาวบ้านจึงนำท่านไปสำรวจสภาพของถ้ำดอยโตน สภาพถ้ำเป็นถ้ำใหญ่ ลักษณะเป็นกึ่งถ้ำกึ่งเพิงผา ภายในถ้ำมีอากาศเย็น มีลมอ่อนๆ พัดออกจากถ้ำชั้นในมายังถ้ำชั้นนอกตลอดเวลา ไม่อับชื้นเหมือนถ้ำทั่วไป และลักษณะเด่นที่สุดคือบริเวณที่ราบทุ่งนาหน้าถ้ำ ซึ่งกว้างถึง 11 ไร่ มีเอกสารสิทธิ์พร้อม นส. 3 ทุกอย่าง เป็นที่พอใจของท่านอาจารย์ ปิยทัสสี และท่านก็บอกชาวบ้านว่าจะนำเรื่องการสร้างวัดใหม่นี้ไปปรึกษากับคณะสงฆ์ อำเภอสันป่าตอง

    พระเดชพระคุณท่านอาจารย์พระครูขันตยาภรณ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอสันป่าตองในขณะนั้น ท่านเมตตารับเรื่องปรึกษา พร้อมทั้งเมตตารับเป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ในนามคณะสงฆ์อำเภอสันป่าตองทุกวัด ท่านเจ้าคณะฯ ได้ยกเรื่องการสร้างวัดใหม่เข้าในโครงการ “วัดแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” ของคณะสงฆ์และประชาชนในเขตอำเภอสันป่าตองเพื่อเทิดพระเกียรติแด่องค์ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ซึ่งจะมีพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษาในปี พ.ศ. 2530

    ขณะเดียวกัน เจ้าของที่เดินด้านหน้าถ้ำดอยโตน คุณ ร.ต.ท.ทวี กับคุณนายคำปุ๋ย เชมนะสิริ มีจิตศรัทธาแรงกล้าน้อมที่ดินผืนนี้มอบถวายแด่คณะสงฆ์อำเภอสันป่าตองเพื่อร่วมสร้างวัด และร่วมเทิดพระเกียรติในหลวง ถือเป็นกุศลทานอันยิ่งใหญ่ ปัจจุบันพระอาจารย์นาวี ปิยทัสสี ยังคงดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตั้งแต่เริ่มสร้างวัด จนถึงวันนี้วัดถ้ำดอยโตนจึงมีลำดับเจ้าอาวาสวัดเพียงรูปเดียว

    การเดินทางไปวัดถ้ำดอยโตน จากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งสู่ทิศใต้ ตามทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-สันป่าตอง เมื่อมาถึงอำเภอสันป่าตองแล้ว จะผ่านที่ว่าการอำเภอสันป่าตอง ไปอีกประมาณ 200 เมตร จะมีสามแยกให้เลี้ยวขวาไปอำเภอแม่วาง ตามทางหลวงหมายเลข 1013 มาตามทางเรื่อยๆ จะผ่านดังนี้ ตลาดบ้านกาด โรงพยาบาลแม่วาง ปางช้างแม่วาง บ้านสบวิน จนถึงวัดแม่สะป๊อก จะมีสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายเส้นทางเดียวไปกับน้ำตกแม่วาง เข้ามาอีกเพียง 450 เมตร จะถึงวัดถ้ำดอยโตน รวมระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ 55 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่วาง 18 กิโลเมตร

by Traveller Freedom

[Traveller Freedom]

สำนักปฏิบัติแห่งบ้านแม่สะป๊อก @ วัดถ้ำดอยโตน (Page 3)

สถานที่ตั้ง : บ้านแม่สะป๊อก ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 053 268 511, 053 317 525
พิกัด : 18.660115, 98.638041

    ภายในวัดถ้ำดอยโตน มีศาสนสถานและสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญ ดังนี้

    พระเจดีย์พุทธคยา จำลองจากพระเจดีย์พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ ณ ประเทศอินเดีย มีความสูง 9.9 เมตร ดำเนินการสร้างโดยท่านพระอาจารย์ปิยทัสสี สร้างประกอบพิธีบรรจุพระธาตุเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 ตรงกับวันมาฆบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เพ็ญเดือน 3

    พระบรมธาตุดอยโตน ตั้งอยู่บนจุดที่สูงสุดของเทือกเขาดอยโตน บริเวณรอบพระเจดีย์เป็นลานสำหรับปฏิบัติธรรม ที่เปิดในเฉพาะฤดูหนาวกับฤดูร้อน ปิดในฤดูฝน  มีเรือนพักหลังเล็กๆ สำหรับเก็บอุปกรณ์เพื่อใช้ในการวิปัสสนากรรมฐาน

    ลานธรรม เป็นลานโค้งครึ่งวงกลม โดยมีผาสูงชันของดอยโตนเป็นฉากหลัง เป็นวิหารธรรมชาติ มีต้นไม้ใหญ่ประมาณ 7 คนโอบ โคนต้นเป็นที่ประดิษฐานพุทธรูปปางค์ปฐมเทศนา เป็นลานเอนกประสงค์รองรับกิจกรรมขนาดใหญ่ และมักเป็นที่เดินจงกรมหรือนั่งสมาธิส่วนตัวของผู้ปฏิบัติธรรม

    ลานโพธิ์ หน่อโพธิ์ได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระเทพสิทธาจารย์วัดพระธาตุศรีจอมทอง โดยนำมาจากต้นโพธิ์เมืองอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา นำมาปลูกโดยพระอาจารย์สัจจา สุญฺญโต ช่วงวิสาขบูชาประมาณ 1 สัปดาห์ ใบที่ผลิใหม่จะออกโทนสีทองทั้งต้น  ลานโพธิ์นี้ใช้เป็นลานปฏิบัติธรรม

    ถ้ำดอยโตน เป็นลักษณะถ้ำเปิด กลางวันมีความสว่างพอโดยไม่ต้องใช้แสงจากไฟฟ้า เป็นถ้ำพิเศษที่มีการเคลื่อนตัวของลมเย็นออกมานอกถ้ำตลอดเวลากลางวัน ภายในถ้ำใช้เป็นที่สำหรับนั่งสมาธิ เป็นบริเวณที่งดการพูดคุย นอกจากถ้ำดอยโตนแล้วยังมีอีกหนึ่งถ้ำคือ “ถ้ำทราย” แต่ต้องเดินข้ามเขาลงไปยังปากถ้ำ เป็นลักษณะถ้ำมืดต้องอาศัยความสว่างจากแสงเทียน สามารถจุได้ประมาณ 60 คน เป็นถ้ำที่มีพลังแห่งความนิ่งสูงมาก เหมาะสำหรับผู้ฝีกด้านสมถะกัมมัฏฐาน

    ศาลาปฏิบัติธรรม อาคารไม้สักทรงล้านนาประยุกต์ 2 ชั้น กว้าง 12 เมตร ยาว 24 เมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2549 เป็นศาลาสำหรับปฏิบัติธรรม เป็นที่เอกเทศสงวนไว้เฉพาะผู้ที่มาปฏิบัติธรรม บุคคลภายนอกต้องติดต่อขอนุญาตก่อนเข้าชม

    เรือนพัก ประกอบด้วยเรือนพักชาย ตั้งอยู่ชั้นบนของโรงอาหาร ลักษณะเป็นห้องพักใต้หลังคา มีจำนวน 7 ห้อง เรือนพักหญิงตั้งอยู่ภายในอาคารสิริมหามายา เป็นอาคารบ้านดิน จำนวน 24 ห้อง นอกจากนี้ยังมีเรือนพักหลังใหญ่ จำนวน 4 หลัง เรือนพักหลังเล็ก จำนวน 2 หลัง และเรือนพักเดี่ยว 3 หลัง ลักษณะโครงสร้างทำจากไม้กลมทั้งหลัง

    ทางสำนักงานศูนย์ปฏิบัติธรรม มีบริการเสื่อ ผ้าห่ม หมอน ทั้งนี้เพื่อความสะดวก ผู้ปฏิบัติธรรมสามารถนำเต็นท์และถุงนอนมาด้วยตนเอง

by Traveller Freedom