ตอนที่ 2เอาจริงๆ แล้ว ทริปนี้ถ้าหากไม่อยากเดินเที่ยว ผมมีอีกหนึ่งทางเลือกมานำเสนอที่น่าสนใจกันครับคือการเช่าจักรยานมาปั่น ซึ่งมันก็จะช่วยในการทุ่นแรงพอสมควร สำหรับคนที่ชอบปั่น และไม่อยากเมื่อยนักกับการเดินหลังจากเล่าไปแล้วกับ 3 สถานที่สำคัญ ก็มาต่อกันในส่วนที่เหลือให้จบครับ จากวัดพวกหงส์ ต่อมาที่จะพาไป เป็นวัดหมื่นเงินกอง วัดนี้มีความเชื่อว่า ถ้าหากผู้ใดมาไหว้พระทำบุญ ก็จะมีเงินมีทองมากองเต็มบ้านครับ ภายในมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น วิหารโบราณกึ่งตึกกึ่งไม้ ศิลปกรรมเชียงใหม่ จะสร้างมานานเพียงไหน ใครเป็นช่างไม่ปรากฏประวัติ เข้าใจกันว่ามหาอำมาตย์หมื่นเงินกองและภริยาลูกหลานเป็นผู้สร้างในรัชสมัยพระเจ้ากือนา, วิหารพระนอน พระพุทธไสยาสน์ พระนอนเป็นพระพุทธรูปปั้นปางไสยาสน์ศิลปกรรมแบบล้านนาเชียงใหม่ประทับฐานบัว ภายในซุ้มนับได้ว่าเป็นพระพุทธโบราณล้ำค่าองค์หนึ่ง แต่ไม่พบหลักฐานประวัติความเป็นมาจากวัดหมื่นเงินกอง เดินมาตามถนนสามล้านผ่านวัดพระสิงห์ เข้าสู่ถนนสิงหราช (ใครเหนื่อยสามารถพักเบรกด้วยการแวะซื้อชาชักหน้าวัดพระสิงห์ได้ ชื่อร้านราชาชัก จัดเป็นร้านชาชักที่รสชาติอร่อยในราคาย่อมเยา) เลยวัดพระสิงห์มาอีกหน่อยซ้ายมือจะมีสองวัดสำคัญให้แวะเที่ยวกันครับวัดแรก วัดผาบ่อง ที่มีตำนานของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด เล่าว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาที่วัดปราสาท ซึ่งเป็นภูเขาพรอ้มด้วยสาวก พระอินทร์ทรงทราบ จึงนิมิตปราสาทให้ประทับ ต่อมาพระอานนท์ได้ออกหาน้ำมาหยุดที่ภูเขาลูกหนึ่ง (ปัจจุบันคือวัดผาบ่อง) แต่หาน้ำไม่ได้ พระพุทธเจ้าจึงตรัสให้กลับไปที่เดิมพร้อมตั้งจิตอธิษฐานอีกครั้ง จึงเกิดปาฏิหาริย์มีน้ำพุ่งมาจากก้อนหินใหญ่ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าต่อไปบริเวณนี้จะเป็นวัดวาอารามที่เจริญรุ่งเรือง เป็นศูนย์รวมจิตศรัทธาของประชาชนและ ณ บ่อน้ำพุแห่งนี้ ชาวบ้านก็มีความเชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จากคำร่ำลือ ทำให้ประชาชนต่างพากันเดินทางมาขอน้ำไปประกอบพิธีทางศาสนา สะเดาเคราะห์ สืบชะตา ทำน้ำมนต์ ดื่ม และขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากร่างกาย ซึ่งปัจจุบันบ่อน้ำก็ยังใช้ได้ตลอดทั้งปี ไม่มีแห้งขอดแต่อย่างใดส่วนใกล้ๆ กับวัดผาบ่อง ที่อยู่แทบจะติดกัน เป็นวัดปราสาท วัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่สร้างโดยฝีมือเชิงช่างชั้นสูง มีพระวิหารซึ่งมีลักษณะแบบล้านนาดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ภายในพระวิหารมีจิตรกรรมฝาผนังลายคำบนพื้นรักสีแดงอย่างล้านนา ว่าด้วยเรื่องพระพุทธประวัติ และซุ้มปราสาทที่ประดิษฐานพระประธานซึ่งหลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่งในปัจจุบัน โดยหลวงพ่อพระประธานแห่งวัดปราสาทนั้นเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยสีขาวที่มีพระพักตร์อิ่มเอิบน่าเลื่อมใสศรัทธา ประดิษฐานอยู่ในซุ้มปราสาทแบบล้านนาโบราณ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนท้ายพระวิหาร มีประตูซุ้มโขงเชื่อมเข้าสู่องค์ปราสาทลักษณะคล้ายกับเจดีย์หรือที่เรียกว่ากู่พระเจ้า อยู่ติดกับหลังพระวิหารอันหาชมได้ยากยิ่ง และมากันที่สถานีปลายทาง วัดดับภัย วัดที่มีความเชื่อว่าหากได้มาทำบุญไหว้พระแล้ว จะช่วยดับทุกข์ดับภัยให้แก่ผู้ที่มากราบไหว้พระ สิ่งที่น่าสนใจในวัดแห่งนี้ คือหลวงพ่อดับภัย พระพุทธรูปศิลปะล้านนาเชียงแสนยุคแรก หรือเรียกกันเป็นพระสิงห์ 1 ปางมารวิชัย ทองสัมฤทธิ์ สร้างประมาณ ปี พ.ศ. 1600-1800 เมื่อสุดทางก็ต้องจากลา เอาเป็นว่าคราวหน้า มีทริปพาเที่ยวอะไรดีๆ เดี๋ยวใครคนนี้จะแวะมาบอกอีกทีกันครับ