ตะลอนเที่ยววัดเชียงใหม่ "วัดป่าไผ่ศรีโขง"

[konhuleg]

ผมมาดอยสะเก็ดในรอบสองเดือนหลัง น่าจะ 10 รอบเห็นจะได้แล้วมั่งครับ คือมากันบ่อยและถี่มาก อย่างว่าผมยังเที่ยววัดและสถานที่อื่นๆ ในอำเภอนี่กันยังไม่หมดสิ้น ก็เลยต้องใช้เวลาในการตามไล่เก็บกวาดกันนานซักหน่อย ซึ่งคราวนี้ก็มากนทันที่วัดป่าไผ่ศรีโขงกัน

จากถนนเส้นเชียงใหม่ – ดอยสะเก็ด ขับเข้ามาไม่ไกลนักก็จะเจอวัด โดยวัดนั้นตั้งอยู่ ต.เชิงดอย เขต 2 อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ อาณาเขตของวัดโดยรอบเกือบครึ่งถูกโอบล้อมไปด้วยทุ่งนาของชาวบ้านแถวนั้น

วัดป่าไผ่ศรีโขง ถูกตั้งเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ. 2515 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดเริ่มต้นด้วย ซุ้มประตูของวัด องค์ประกอบทางศิลปะสถาปัตยกรรมชุดแรก ที่จะต้องพบก่อนเข้าสู่พุทธสถานใดๆ ทำหน้าที่เป็นช่องทางเข้าออกของพระอาราม โดยเป็นซุ้มประตูแบบทรงโค้ง เป็นเครื่องก่อทั้งหมด ส่วนยอดซุ้มก่อเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลม ซุ้มประตูประเภทนี้ น่าจะถือได้ว่าพัฒนารูปแบบจากแบบทรงบัณแถลงที่เป็นรูปโค้งแหลมมาเป็นโค้งกลม เป็นแบบที่นิยมกันมากในยุคสมัยรัตนโกสินทร์นับแต่รัชกาลที่ 3 ลงมาเมื่อประเทศไทยรับอิทธิพลและรูปแบบวัฒนธรรมจากตะวันตก ยอดบนของซุ้มประตูมีองค์เจดีย์ขนาดเล็ก 5 องค์ ตรงกลางประตูประดิษฐานพระนาคปรก พระพุทธรูปลักษณะนั่งสมาธิ และมีพญานาคแผ่หัวเป็นพังพานขึ้นจากไหล่ไปปรกพระเศียรของพระพุทธรูป โดยแต่เดิมทำเป็นรูปพญานาคเป็นมนุษย์ มีรูปงู 7 หัวเป็นพังพานขึ้นจากไหล่ไปปรกพระเศียร (ศีรษะ) ในกิริยาที่พญานาคทำท่านมัสการพระพุทธเจ้า ต่อมาภายหลังทำพญานาคเป็นรูปงูขดตัวเป็นฐานตั้งพระพุทธรูปนั่งสมาธิบนตัวพญานาค และมีพังพานและหัวของพญานาค 7 เศียรปรกอยู่

เขยิบเข้ามาด้านในเป็นพระอุโบสถของวัดทรงล้านนา ตัวอุโบสถถูกประดับประดาด้วย ใบระกา คือ ส่วนที่มีรูปทรงเป็นครีบที่มีลักษณะเรียว โค้ง และปลายแหลมคล้ายปลายมีด กลางครีบด้านหน้าถากเป็นสันนูน วางเรียงประดับตกแต่งบนขอบสันบ่าด้านบนตลอดแนวของตัวลำยอง และหางหงส์ คือ ส่วนประดับรูปทรงคล้ายหงส์ติดอยู่ปลายด้านล่างของเครื่องลำยอง โดยมากมักทำเป็นรูปโครงของนาคสามเศียรซ้อนกัน แต่ยังพบว่าหางหงส์ของเครื่องลำยองบางชุด ปรากฏการนำนาคมาประกอบโดยทำเป็นเศียรนาคหนึ่งเศียรก็มี

สุดท้ายพระเจดีย์ ลักษณะเป็นพระเจดีย์ที่พบเฉพาะในล้านนา และเป็นแบบที่พบมากที่สุด โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นรูปทรงที่ช่างล้านนาได้สร้างสรรค์รูปทรงขึ้นจากการรับเอาอิทธิพลแบบอย่างจากวัฒนธรรมอื่นๆเช่น สุโขทัย พุกาม มาผสมผสานกันพัฒนาจนเป็นรูปทรงใหม่ที่ลงตัวและใช้กันแพร่หลาย พระเจดีย์แบบล้านนานี้เป็นเจดีย์ทรงกลมเป็นฐานสูงสี่เหลี่ยมย่อเก็จ เน้นชั้นมาลัยเถาที่ขยายใหญ่ขึ้น ยกสูงขึ้น องค์ระฆังถูกลดความสำคัญลงจนเหลือขนาดเล็ก มีบัวรัดรอบองค์ระฆังตามแบบพุกาม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม เพิ่มซุ้มพระ 4 ทิศที่ชั้นฐาน รอบฐานมีปูนปั้นนักษัตร 12 ราศี