เผอิญว่าผ่านแถวนั้นเลยลองแวะมันเพราะแสงไฟวูบๆวาบๆ ไม่ใช่ผีกระสือนะครับ อยากได้คิดแบบนั้นกันเชียว กระสือที่ไหนจะมาลอยในเมืองเชียงใหม่ตรงประตูท่าแพ หรือแต่ถ้ามันจะมี อันนี้ก็คงจะแตกตื่นกันทั้งเมือง
แตกตื่นด้วยความตื่นเต้นน่าจะเป็นแบบนั้น คงไม่ใช่การแตกตื่นแล้ววิ่งหนี ก็เพราะอย่างที่ทราบกัน ฝรั่งแถวนั้นมันเยอะ เผลอๆ มันเห็นอาจจะนึกว่าเป็นการแสดงโชว์อันสุดแสนอะเมซิ่งด้วยซ้ำ
แหม คิดไปได้นะครับ (ผมเนี่ยแหละ)
กลับเข้าเรื่องกัน เนื่องด้วยตรงข่วงประตูท่าแพในช่วง ณ ขณะนี้ ลากยาวไปถึง 29 สิงหา (ใครมาอ่านหลังจากวันนี้ขอบอกว่าอดไปงาน) มีเทศกาลโคมไฟนานาชาติ จัดโดยเมืองเชียงใหม่กันนี่แหละ ใจความสำคัญก็เพื่อหวังผลักดันให้เป็นงานประจำปี รองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวช่วงกรีนซีซั่น อีกอย่างหนึ่งก็เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา โดยจะจัดแสดงโคมไฟนานาชาติหลายรูปแบบกว่า 30 จุดรอบคูเมืองเชียงใหม่และบริเวณข่วงประตูท่าแพ
คงพอจะสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนะครับ สำหรับใครที่ขับรถผ่านไปผ่านมารอบคูเมือง เพราะกลางคืนจะมีโคมไฟแบบต่างๆ ส่องสว่าง ให้ความสวยงามกันอยู่
สำหรับโคมไฟที่นำมาจัดแสดงตรงขาวงประตูท่าแพ ซึ่งเป็นพื้นที่หลักๆของงาน ก็จะมีประติมากรรมโคมไฟสถานที่สำคัญของโลกอย่าง โอเปร่าเฮ้าส์ หอนาฬิกาบิ๊กเบน เทพีเสรีภาพ ซุ้มเสาญี่ปุ่น โทริอิ ชุดโคมไฟเจ้าแม่กวนอิม ชุดโคมไฟเทพ 8 เซียน ชุดโคมไฟมังกร และพญานาค 12 นักษัตร มองดูแล้วก็ต้องบอกว่าเยอะกันสุดๆ
นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการโคมไฟนานาชาติ ทั้งโคมไฟล้านนา เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ศรีลังกา โดยจะมีเวทีกิจกรรมตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ตลอดระยะเวลา 9 วัน (21-29 สิงหาคม) และดูเหมือนจะมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกกันในงานด้วยนะ
บรรยากาศในงาน ถือว่าคึกคักเอาการครับ ชาวบ้านชาวช่อง รวมทั้งนักท่องเที่ยวพากันไปเดินชมพร้อมถ่ายรูปกับโคมไฟในงาน ซึ่งไอ้เจ้าโคมไฟนี้ ก็ต้องบอกว่ามันสวยระดับต้องโค้งคารวะให้เลยจริงๆ ยิ่งสีสันลวดลายแปลกตา ก็ยิ่งโดดเด่นกันสุดๆ ในยามค่ำคืน
ปกติการโชว์โคมไฟ ต้องจัดกันด้านนอกบริเวณกว้างกันใช่มั้ยครับ แต่ผมสงสัยอยู่อย่างนึง ว่าทำไมเขามีซุ้มเป็นโดมให้เข้าไปดูกันอีกโคมไฟกันอีก ทั้งๆที่รู้ว่า อากาศไม่ถ่ายเท และข้างในก็ร้อนกันตายห่าโคตรๆ ก็แบบว่าไม่รู้ซินะ ว่าจัดเพื่อทำไม ทำไมต้องจัดในโดม กะอีแค่ลำพังจัดกันด้านนอกก็โอเคอยู่แล้ว
สักแต่ทำ แต่ไม่รู้ทำไปทำไม เพราะไม่เห็นมีอะไรดี นี่แหละครับ ประเทศนี้ที่ชื่อว่าแดนสยาม...