โลกใบนี้เป็นสีชมพูที่ ..แม่จอนหลวง (Page 1-3)

[Traveller Freedom]

โลกใบนี้เป็นสีชมพูที่ ..แม่จอนหลวง (Page 1)

สถานที่ตั้ง : สถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง บ้านม้งขุนแม่วาก หมู่ที่ 6 ตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 053 114 133
พิกัด : 18.647188, 98.476494

    แม่จอนหลวง เป็นอีกหนึ่งแหล่งชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ดอกไม้สีชมพูยอดนิยมที่เบ่งบานตามฤดูกาล เป็นความงดงามตามธรรมชาติที่ใครๆ หลายคนอยากมาสัมผัส

    แม่จอนหลวง ตั้งอยู่ภายในสถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ท้องที่ตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เป็นระยะทาง 122 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 1,250 ไร่ มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี แม่จอนหลวงตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่มีอากาศเย็นสบายเหมาะกับการปลูกไม้ดอกไม้ผลเมืองหนาว นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมกับพันธุ์พืชนานาชนิดที่สลับผลัดเปลี่ยนกันออกดอกออกผลตลอดทั้งปี ซึ่งไม่ว่าจะมาในช่วงเวลาใดก็จะได้สัมผัสกับความงดงามของไม้ดอกและลิ้มลองรสชาติของไม้ผลที่จะมีผลผลิตหมุนเวียนกันไป และแน่นอนที่สุด หากมาในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี ก็จะได้ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยที่จะบานสะพรั่งเปลี่ยนโลกใบนี้ให้กลายเป็นสีชมพูทันตา

    แม่จอนหลวง มีจุดเด่นที่ความงดงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่ตระการตาไปทั่วผืนป่า อีกทั้งผู้คนยังไม่ถึงกับพลุกพล่านมากมายนัก นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้ชิมสตรอเบอร์รี่ปลอดสารพิษสดๆ จากไร่ รวมถึงได้ชมไม้ดอกเมืองหนาวนานาพันธุ์พร้อมนั่งจิบชาทอดอารมณ์ชมวิวบนยอดดอย ด้วยมุมมองทัศนียภาพที่สวยงามโอบล้อมด้วยผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์บนรอยต่อระหว่าง 3 อำเภอ คืออำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และอำเภอจอมทอง สำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่แม่จอนหลวงแห่งนี้มีความรู้ในงานวิชาการและความงามทางธรรมชาติที่จะได้รับติดกลับไปพร้อมกัน

    การเดินทางไปแม่จอนหลวง โดยรถยนต์ส่วนตัว แบ่งออกเป็น 2 เส้นทางด้วยกัน เส้นทางที่ 1 ออกจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ไปบนเส้นทางสายเชียงใหม่-ฮอด ผ่านอำเภอจอมทองเลี้ยวขวาขึ้นดอยอินทนนท์ เมื่อถึง กม.ที่ 31 เลี้ยวขวาผ่านศูนย์พัฒนาโครงการหลวงดอยอินทนนท์ ผ่านทางลาดยางประมาณ 16 กิโลเมตร จะถึงศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง) ให้เลี้ยวซ้ายผ่านศูนย์ขุนวางไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ผ่านทางดินลูกรังจึงถึงสถานีเกษตรที่สูงแม่จอนหลวงรวมระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ถึง 3 ชั่วโมง

    เส้นที่ทาง 2 จากจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านอำเภอสันป่าตอง แยกขวาที่สันป่าตองเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 1013 ไปอำเภอแม่วาง เมื่อผ่านอำเภอแม่วางไปจะมีทางแยกซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นเส้นทางจะลัดเลาะขึ้นภูเขา ผ่านบ้านหนองเต่า บ้านป่ากล้วย บ้านโป่งลมแรง แล้วเลี้ยวขวาไปอีก 9 กิโลเมตรจึงถึงสถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง (เส้นทางระหว่างบ้านหนองเต่าจนถึงสถานียังเป็นถนนลูกรัง 15 กิโลเมตร) ระยะทางรวม 92 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

[Traveller Freedom]

โลกใบนี้เป็นสีชมพูที่ ..แม่จอนหลวง (Page 2)

    เริ่มเดินเที่ยวภายในแม่จอนหลวง ไปให้ครบจบให้สวย ตามเส้นทางแนะนำ ดังต่อไปนี้เลย

    จุดที่ 1 ศูนย์บริการข้อมูล เริ่มต้นด้วยการเข้าชมนิทรรศการและวีดีทัศน์เพื่อรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสถานีเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง ภายในศูนย์ข้อมูลบริเวณลานเพลินมีการจัดแสดงภาพรวมเกี่ยวกับงานวิจัยที่สำคัญ บริเวณลานกว้างหน้าที่ทำการสถานีนี้ถูกตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ ประดับนานาชนิดใช้ประกอบกิจกรรมได้หลายรูปแบบเช่น แค้มปิ้งรอบกองไฟ ลานกางเต็นท์ ที่บริเวณลานเพลินนี้ได้ปลูกต้นพลัมชนิดหนึ่งผลสีแดงเข้ม เป็นพันธุ์จากเมืองจีนไว้ต้นหนึ่ง

    จุดที่ 2 แปลงสาลี่ จากศูนย์บริการข้อมูลไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่ตั้งของแปลงสาลี่ที่ปลูกอยู่บนเนินเขา สาลี่หรือแพร์ ที่ปลูกกันโดยทั่วไปนั้นมี 2 ประเภท คือ สาลี่ฝรั่ง เปลือกสีเขียว มีเนื้อนุ่มและสาลี่จีน เปลือกสีเหลือง มีเนื้อกรอบ แปลงทดสอบ พันธุ์สาลี่ของแม่จอนหลวงจึงปลูกง่ายกว่าแอปเปิล หากได้มาเที่ยวชมที่นี่ในเดือนกุมภาพันธ์ก็จะมีโอกาสได้ชมดอกสาลี่สีขาวผลิบานอวดโฉมเต็มต้น

    จุดที่ 3 แปลงไม้ดอกเมืองหนาว สถานีเกษตรที่สูงแม่จอนหลวงได้ทำการทดลองขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว มาตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งสถานี มีไม้ดอกเมืองหนาวมากมาย ได้แก่ เยอบีร่า ผีเสื้อ สะแตติส พิทูเนีย ซึ่งนอกจากจะเพาะพันธุ์ไว้เพื่อใช้ในการตกแต่งสถานที่แล้ว ยังมีเหลือพอแจกจ่ายไปตามศูนย์ต่างๆ อีกด้วยนอกจากไม้ดอกเหล่านี้แล้ว สถานีแม่จอนหลวงยังได้ทำการทดลองขยายพันธุ์ว่านสี่ทิศ ซึ่งจะบานสะพรั่งอวดสีแดงสดของมันอย่างพร้อมเพรียงในยามหน้าหนาวนักท่องเที่ยวสามารถแวะชมแปลงเพาะพันธุ์ว่านสี่ทิศได้ข้างอาคารที่ทำการ แต่หากมาตรงช่วงที่สาลี่ติดผลในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ก็สามารถเด็ดชิมได้จากต้นเลยทีเดียว

    จุดที่ 4 แปลงสตรอเบอร์รี่และแปลงพืชผักปลอดสารพิษ ลิ้มรสสตรอเบอร์รี่ผลแดงสด ซึ่งจะออกผลดกในช่วงต้นปีราวเดือนมกราคมถึงมีนาคม นักท่องเที่ยวสามารถเด็ดชิมสตรอเบอร์รี่ในแปลงทดลองนี้ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารพิษตกค้างใดๆ เพราะสตรอเบอร์รี่เหล่านี้ปลูกขึ้นโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง เช่นเดียวกับแปลงพืชผักปลอดสารพิษในบริเวณเดียวกัน หากผลผลิตจากแปลงพืชผักปลอดสารพิษนี้มีมากพอ สามารถแจ้งล่วงหน้ากับทางเจ้าหน้าที่โรงอาหาร เพื่อให้จัดเตรียมเมนูอาหารจากแปลงผักปลอดสารพิษได้อีกด้วย

    จุดที่ 5 แปลงวิจัยชา นักท่องเที่ยวจะได้ชมกระบวนการแปรรูปชา และอาจโชคดีได้ลองชิมยำใบชาสูตรพิเศษ ที่จะหาชิมได้ที่นี่แห่งเดียว นอกจากนี้ยังมีแปลงทดสอบพันธุ์มะคาเดเมียนัท แปลงทดสอบพันธุ์เสาวรส แปลงเกาลัดจีน

[Traveller Freedom]

โลกใบนี้เป็นสีชมพูที่ ..แม่จอนหลวง (Page 3)

    สถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง มีบ้านพักรับรองนักท่องเที่ยว แบ่งเป็นเรือนพักชายและหญิงจำนวน 2 หลัง นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำหรับประกอบอาหาร และมีเรือนรับรองหลังใหญ่ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 40-50 คน ที่พักแบบเป็นหลัง พร้อมทีวีและเครื่องทำน้ำอุ่น อีกทั้งมีจุดชมวิวที่สามารถกางเต็นท์ได้ 2 จุด รับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 100 คน สำหรับเรื่องอาหารนั้น ได้ มีร้านอาหารเป็นร้านค้าสวัสดิการเปิดให้บริการ หรือนักท่องเที่ยวสามารถเตรียมเสบียงอาหารมาเอง หรือจะแจ้งล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่เพื่อให้จัดเตรียมอาหารไว้ให้ก็ได้

    ศาลาแปดเหลี่ยม ถือเป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งของสถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง เนื่องจากรอบๆ ศาลาแปดเหลี่ยมหลังนี้ปลูกพญาเสือโคร่งไว้ทั้งสีชมพูและสีขาวรอบศาลา เป็นการปลูกแบบสลับสีกัน ต้นสีขาวก็จะอยู่ติดกับต้นสีชมพู ดอกนางพญาเสือโคร่งรอบศาลาแปดเหลี่ยมเพิ่งจะปลูกได้ไม่นาน มีอายุเพียงไม่กี่ปี ถือว่าเป็นต้นที่มีอนาคตไกล นอกจากศาลาแปดเหลี่ยม ยังมีระเบียงไม้ชมวิว ที่สามารถชมผืนป่าอันสลับซับซ้อนของเทือกเขาถนนธงชัย มองได้ไกลถึงอำเภอแม่วาง

    นอกจากการมาเยือนแม่จอนหลวงแล้ว ใกล้ๆ กันยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่
 
    หมู่บ้านม้งแม่ขุนวาก จากสถานีทดลองเกษตรแม่จอนหลวง มีเส้นทางแยกไปทางเหนือเล็กน้อย เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านแม่ขุนวาก ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวสถานีโดยทางรถไปไม่ถึง 20 นาที นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวม้ง และชมงานปักผ้าของหญิงชาวม้งในหมู่บ้านได้ นอกจากนี้ยังมีพี่พัก และลานกางเต็นท์บนยอดสันเขาที่อุดมไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามอีกด้วย

    น้ำตกสิริรัตน์ ออกจากพื้นที่ของสถานีทดลองเกษตรแม่จอนหลวงไปทางทิศตะวันตก จะพบทางแยกไปน้ำตกสิริรัตน์ รถยนต์ไม่สามารถเข้าไม่ถึงได้ จำต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 10 นาที เส้นทางไปเที่ยวน้ำตกเป็นเส้นทางปรับแต่งแล้ว สะดวกต่อการเดินเท้า แต่ควรสวมรองเท้าที่เหมาะสมแก่การเดินป่าปีนเขา น้ำตกสิริรัตน์เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลแรงและมีน้ำตลอดปี ถือเป็นน้ำตกเล็กๆ ที่สวยงามคุ้มค่าแก่การไปเยือน อีกทั้งยังเหมาะแก่การนั่งรับประทานอาหารกลางวันอีกด้วย แต่อย่าลืมเก็บขยะออกมาทิ้งด้านนอกด้วยทุกครั้ง

    การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ หากต้องการเดินทางมาแม่จอนหลวง แต่ไม่มีรถส่วนตัว จะต้องอาศัยเช่ารถสองแถวสีเหลือง โดยสามารถเช่าได้ที่อำเภอจองทอง บริเวณคิวรถสองแถวหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง ค่าใช้จ่ายแล้วแต่ระยะทางและโปรแกรมการเดินทาง

by Traveller Freedom

[parsuk]

ขอบคุณ ข้อมูลครับ 

[Penelope]

อีกแหล่งชมดอกนางพญาเสือโคร่ง น่าไปมากๆๆ
ขอบคุณข้อมูลค่ะ :)

[TripChiangmai]