.. +
แม้จะผ่านร้อน ผ่านหนาว และเปียกฝน มาเป็นเวลาร่วม 6 ปี แต่
"อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่" ก็ยังคง "สดชื่น" ส่งความสวยงามของดอกไม้ และความเขียวขจีของพืชพันธุ์ไม้นานาชนิด ออกอวดสายตาประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและเทศไม่เว้นแต่ละวัน
ในทุก ๆ วัน อุทยานหลวงฯ พร้อมมอบสิ่งดีๆ ให้ทุกท่านที่รักธรรมชาติด้วยสวนสวยๆ มากมาย ทั้งสวนขององค์กรต่างๆ สวนนานาชาติ และอีกมากมาย โดยวันนี้ทางอุทยานหลวงฯ ขอนำเสนอกับ "เรือนร่มไม้" ที่สร้างความสดชื่นให้แก่ผู้มาเยือนตลอดทั้งวัน ด้วยอาคารไม้ในร่ม ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สวนสวยแปลกตา
ภายในอาคารพรางแสง ดูงดงามราวกับสวรรค์แห่งพันธุ์ไม้ร่มชื้น ที่ตื่นตากับสับปะรดสีหลากหลายชนิดพร้อมการเล่นระดับของสะพานแขวนก่อให้เกิดมิติมุมมองที่สวยแตกต่าง พร้อมสัมผัสกับการจัดแสดงในรูปแบบของสวนประติมากรรมธรรมชาติที่ลงตัว
นอกจาก เรือนร่มไม้ แล้ว สวนนานาชาติ จากหลายชาติที่จัดแสดง ณ ที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่น่าไปเยือน ซึ่งมีให้สัมผัสทั้งสวนจากประเทศในเอเชีย สวนจากประเทศทวีปยุโรป และสวนสไตล์แอฟริกา อาทิ
"สวนประเทศภูฏาน" ในแนวคิด
"หิมาลายันแห่งสันติภาพ" กับการสร้างสรรค์งานสถาปัตยกรรมสไตล์ภูฏาน ที่มีเอกลักษณ์ของงานแกะสลักหินและไม้อันประณีตสวยงาม ประกอบด้วยสัญลักษณ์นำโชคต่างๆ รวมถึงสัญลักษณ์ทางศาสนา ซึ่งนำมาแกะสลักประดับบริเวณประตูและซุ้มแบบท้องถิ่น ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับความหลากหลายด้านพืชสวน ทั้งสวนไม้หอม สวนสมุนไพร สวนเฟิร์น และสวนไม้ดอก เป็นต้น
"สวนประเทศมาเลเซีย" ทีได้จำลองสภาพแวดล้อมของหมู้บ้านชาวเมเลเซียแบบท้องถิ่น สนามแบบเปิดโล่ง สวนเกษตร และสถาปัตยกรรมของมาเลเซียที่เรียกว่า บ้านบัมบัง ซึ่งเป็นบ้านเก่าแก่สไตล์มาเลเซียมาจัดแสดงไว้ให้ได้ชม
"สวนประเทศจีน" กับแนวคิดของสวนที่ว่า
"ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและการก่อสร้างของมนุษย์" เ็นการจัดสวนของจีนบนพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร จัดสร้างตามประเพณีการสร้างสวนที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยจำลองเอาภูเขาและแม่น้ำตามธรรมชาติ เป็นการจัดสวนที่สะท้อนให้เห็นถึงภาพสวนที่สวยงามในสมัยราชวงศ์ถัง อันเป็นยุคที่ศาสนาพุทธรุ่งเรืองเป็นอย่างมากในประเทศจีน รัฐบาลจีนจึงสร้างเก๋งจีนในยุคราชวงศ์ถังและเจดีย์ไว้ภายในสวน เพือสื่อให้ประชาชนไทยได้ทราบว่า ชาวไทยและชาวจีนส่วนใหญ่ต่างก็นับถือศาสนาพุทธและมีความสัมพันธ์เสมือนบ้านพี่เมืองน้องมาเป็นเวลาช้านาน นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไม้และหินประดับก้อนใหญ่ที่นำมาจากประเทศจีนโดยตรง ประดับที่บริเวณประตูทางเข้าอีกด้วย
"สวนประเทศญี่ปุ่น" จัดสวนอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะรั้วที่ได้มีการนำต้นไม้แห้งมามัดรวมกันเป็นมัดๆ แล้วนำมาเรียงเท่าๆ กัน พร้อมจำลองภูเขาไฟฟูจิอันเป็นสัญลักษณ์ประจำประเทศ ทั้งยังมีศาลาพักผ่อนใจกลางสวนริมสระน้ำให้สัมผัส
นอกจากนี้ยังมีสวนจากอีกหลายประเทศที่น่าชม อาทิ สวนประเทศกัมพูชา สวนประเทศอินเดีย สวนประเทศอิหร่าน สวนประเทศลาว สวนประเทศตุรกี สวนประเทศเบลเยี่ยม สวนประเทศเคนย่า และสวนประเทศโมร็อคโค เป็นต้น
และสำหรับในห้วงเวลาของเดือนสิงหาคมศกนี้ ทาง
"อุทยานหลวงฯ" มีเทศกาลแห่งความสวยงามมานำเสนอ กับ
"เทศกาลปทุมมา : ทิวลิปแห่งสยาม" Curcuma : Siam Tulip Festival ที่จัดระหว่างวันที่ 9 - 31 สิงหาคม 2555
การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา รวมทั้งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักและเห็นความสำคัญของ
"ปทุมมา" ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นทิวลิปแห่งสยามและเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่
ภายในงานมีการจัดแสดง
"ทุ่งปทุมมา" ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือการจัดสวนประดับด้วยปทุมมาหลากหลายสายพันธุ์ การประกวดปทุมมาสายพันธุ์ต่างๆ การจัดเสวนาทางวิชาการ เรื่อง
"ทิศทางการส่งออกหัวพันธุ์แลปทุมมาตัดดอกในตลาดโลก" นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมจัดตกแต่งสวนด้วยปทุมมาและจัดนิทรรศการให้ความรู้ทางวิชาการ รวมทั้งกิจกรรมให้ความรู้แกเยาวชนและเกษตรอีกด้วย.................................................
........................
..............................
....................................
...............................
........................................