เป็นที่ทราบกันอย่างดีนะครับ ว่าเชียงใหม่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องสตรอเบอร์แหล เฮ้ย สตรอเบอร์รี่กันอย่างมาก ด้วยสภาพภูมิประเทศ และสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม สตรอเบอร์รี่จึงเป็นพืชผลทางการเกษตรที่ทำรายได้แก่ชาวบ้านชาวช่องกันอย่างมาก นอกจากพวกพืชผักชนิดอื่นๆ และไม้ดอกเมืองหนาวสังเกตกันอย่างง่ายๆ ตามตลาด หรือถนนคนเดินในเชียงใหม่ เราจะพบเห็นแม่ค้าพ่อค้าหอบเอาสตรอเบอร์รี่มาขายกัน ทั้งแบบสดๆ หรือแปรรูปมาในสภาพอื่นๆกันอย่างหลากหลาย
เท่านั้นยังไม่พอ ตามต่างจังหวัด หากเอาสตรอเบอร์รี่มาขายกัน ส่วนใหญ่มันมักจะโดนปักป้าย เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในคุณภาพว่า สตรอเบอร์รี่เชียงใหม่
ทำนอง ตัวนี้ตูรับมาจากเชียงใหม่นะเฟ้ย รสชาติมัน สด อร่อย อย่าบอกใครเชียว
คาดว่าท่านผู้อ่านในนี้คงเคยสัมผัสรสชาติความอร่อยของมันไปแล้วนะ ส่วนใครไม่เคยก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงมันก็ดูไม่เกี่ยวกัน ก็เรื่องที่ผมจะเล่านั้น คือการบุกไปตะลุยไร่สตอรเบอร์รี่ ดอยอ่างข่างของโครงการหลวง ซึ่งอยู่ในเส้นทางไปบ้านนอแล ถ้าเอารถยนต์ส่วนตัวหรือเช่ารถมา ก็ถือว่าไม่ไกลมาก (ไม่ไกลในที่นี้คือไม่ไกลจากบ้านนอแลนะครับ ไม่ใช่ไม่ไกลจากเชียงใหม่ ฮ่าๆๆ)
ช่วงที่ผมไปมันเป็นช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งตามจริงช่วงของการปลูกสตรอเบอร์รี่นั้น ชาวบ้านเขาจะปลูกกันในช่วงเดือนปลายสิงหาคม ถึงปลายตุลาคม ส่วนการเก็บเกี่ยวจะเริ่มกันในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงช่วงเดือนเมษายนของปีถัดไป
ตามปกติชาวบ้านเขาจะเก็บสตรอเบอร์รี่กันในช่วงเช้ากัน แต่เผอิญว่าวันนั้น ผมดันไปถึงในช่วงบ่าย ซึ่งสุดท้ายก็เลยอดดูวิธีการเก็บสตรอเบอร์รี่สดๆ พอทำใจรู้ว่าตัวเองอด ก็เลยต้องเบนเข็มเปลี่ยนเป้าหมาย มาเป็นการเดินลัดเลาะลงไปดูแปลงสตรอเบอร์รี่แทน
สับตีนก้าวลงไป แน่นอนว่าต้องเจอแปลงสตรอเบอร์รี่หลายแปลง ลดหลั่นไปตามความสูงต่ำของเนินเขา พอเดินเลียบๆเคียงๆดู สังเกตดูผลสตรอเบอร์รี่ก็พบว่าหลายๆ แปลงน่าจะถูกเก็บกันไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ส่วนหลายๆแปลงที่ลึกลงไปกว่านั้น ก็ไม่รู้ซินะ แบบว่าเขาปักป้ายห้ามไว้ โดยใจความมีกันดังต่อไปนี้
ห้ามลงเกิน 7 แปลง ผู้ฝ่าฝืนปรับคนละ 500 บาท ขอขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ"
เจอแบบนี้เขาไป แม้ในใจโดยสันดานจะเป็นคนดื้อด้าน ชอบลอง ชอบท้าทายอะไรหลายๆอย่าง แต่การปฏิบัติตามกฎชาวบ้าน คือเรื่องที่น่าทำกว่า เพราะ ขืนฝ่าฝืนทำแบบนั้นลงไปโดยไม่ยั้งคิด คนอื่นเขาอาจจะเดือดร้อน ส่วนเรื่องกลัวเสียตังค์ก็มีส่วนเช่นกันครับ ฮ่าๆๆ
สำหรับสายพันธุ์สตรอเบอร์รี่ คาดว่าน่าจะเป็นพันธุ์พระราชทานแหละครับ เพราะมันเป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากที่สุดในดินแดนขวานทอง อีกทั้งไร่สตรอเบอร์รี่แห่งนี้ ยังเป็นของโครงการหลวงกันอีกด้วย
ใครใคร่อยากมาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ ก่อนอื่นขอแนะนำว่ามาในช่วงหน้าหนาวกัน มันถึงจะได้อารมณ์และทรงผมหล่อๆ สวยๆ และอย่าลืมว่าต้องมาในช่วงที่เขาเก็บเกี่ยวกันด้วย เป็นไปได้มาให้ทันในยามเช้า จะได้เจอชาวบ้านกำลังเก็บสตรอเบอร์รี่กันพอดี อีกทั้งอากาศก็ไม่ร้อนมาก แถมยังถ่ายภาพวิวสวยอีกต่างหากด้วย
สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณวิวสวยๆ ดีๆ ที่ยังหลงเหลือให้มนุษย์ทุกผู้ทุกนามนี้ได้สัมผัสกัน...