รวม 5 หมุดสำคัญเมืองเชียงใหม่ ที่มีดอกไม้ไว้ให้ชม

[Dockaturk]

จากคำขวัญ “ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์” คงพอจะยืนยันและนอนยันเป็นอย่างดีล่ะครับว่า เชียงใหม่คือเมืองแห่งดอกไม้ ซึ่งก็แน่นอนว่า ใครมาเที่ยวก็มีแต่คนอยากมาชมดอกไม้กัน

ส่วนใหญ่ที่มากัน มักจะมาเที่ยวแบบ 1-2 วัน ในช่วงสุดสัปดาห์ พอถึงวันจันทร์มาก็ต้องก้มหน้ากลับไปทำงานกันต่อ และด้วยเวลาที่กระชั้นชิดกันแบบนี้ มันจึงเป็นไฟต์บังคับกันแบบกลายๆ ว่าต้องกันเฉพาะแถวในเมืองถึงจะคุ้ม

ว่าแต่เที่ยวในเมืองแบบนี้มีดอกไม้ให้ชมกันมั้ย ขอตอบว่ามีกันครับ ไม่ต้องถ่อไปไกลถึงต่างอำเภอให้เสียเวลา และสถานที่ที่ว่านั้นก็มีกันดังต่อไปนี้

[Dockaturk]

อุทยานหลวงราชพฤกษ์

สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษาในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 และทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ศูนย์กลางการเรียนรู้พืชสวนโลก มีการจัดแสดงพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด การจัดแสดงนิทรรศการด้านการเกษตรและอื่น ๆ เพื่อการเรียนรู้สำหรับเยาวชนและประชาชนทั่วไป เพื่อการศึกษางานวิจัย และเป็นแหล่งพบปะกันในกลุ่มเกษตรกร ภายในพื้นที่มีการจัดภูมิสถาปัตย์อย่างสวยงาม

สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เปิดให้เข้าชม ได้แก่ ต้นสนดึกดำบรรพ์อายุกว่า 250 ล้านปี บริเวณประตูทางเข้า หอคำหลวง สวนองค์กรเฉลิมพระเกียรติ เป็นส่วนที่ทางองค์กรต่าง ๆ ได้มาจัดแสดงภายใต้แนวคิดการจัดสวนตามทฤษฎีการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สวนนานาชาติ พื้นที่การจัดสวนจากประเทศต่างๆ 33 ประเทศ พื้นที่ชมภายในอาคาร ได้แก่ เรือนร่มไท้ โดมไม้เขตร้อนชื้น อาคารพืชทะเลทราย อาคารพืชไร้ดิน อาคารเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และพื้นที่ชมงานภายนอกอาคาร ได้แก่ ไม้ชุ่มน้ำ สวนบัว ไม้ประจำจังหวัด ไม้มงคล และไม้พุทธประวัติ ไม้ดัด และอาคารหอประวัติพืชสวนไทย สถานที่ที่จะเปิดให้ชมเพิ่มในช่วงฤดูหนาว ได้แก่ อาคารพืชไม้เมืองหนาว เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 - 18.00 น. ค่าเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 25 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท

[Dockaturk]

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่โดยรอบพระตำหนักประมาณ 400 ไร่ แบ่งเป็นบริเวณที่ เปิดให้นักท่องเที่ยว ได้ชื่นชมประมาณ 200 ไร่ โดยคำว่า “ดอยบวกห้า” เป็นชื่อเรียกตามคำพื้นเมือง ดอยหมายถึงภูเขา บวกหมายถึง หนองน้ำ ห้าหมายถึงต้นหว้า หมายความว่า ที่ยอดดอยแห่งนี้มี หนองน้ำอุดมไปด้วยต้นหว้าขึ้นปกคลุมทั่วบริเวณหนองน้ำนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ในปีพ.ศ. 2504 และพระราชทานนาม พระตำหนักองค์นี้ว่า “ภูพิงคราชนิเวศน์” ทรงเลือกจากหนึ่งใน 2 ชื่อ ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อครั้งเป็นที่ พระศาสนโสภณ เป็นผู้คิดชื่อถวาย คือ “พิงคัมพร” กับ “ภูพิงคราชนิเวศน์”

พระตำหนักแห่งนี้ ใช้เป็นที่ประทับในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรม ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงงาน และเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ รวมทั้งเพื่อรับรองพระราชอาคันตุกะที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับไทยในโอกาสต่างๆ การที่ทรงเลือกสร้างที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากมีอากาศเย็นสบาย ภูมิประเทศสวยงาม อีกทั้งเคยเป็น เมืองหลวงมาก่อน ผู้คนพลเมืองยังดำรงรักษาจารีตขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงามไว้

ภายในพระตำหนัก ประดับประดาด้วยสวนหย่อม ลำธาร สระและโขดหิน แต่งแต้มด้วยไม้ดอกนานาชนิด และเป็นเอกลักษณ์ของพระราชนิเวศน์แห่งนี้ ก็คือ กุหลาบหลากหลายพันธุ์ที่เบ่งบานอวดสีสันให้ดอกโตชนิดที่ไม่เคยพบเห็นที่ใดมาก่อน มีสถานที่ที่น่าสนใจในนั้นให้ได้เยี่ยมชมไล่ไปตั้งแต่ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เรือนปีกไม้ เรือนรับรอง พระตำหนักภูพิงค์ราช พลับพลาหมอนและสวนเฟิร์น อ่างเก็บน้ำ/น้ำพุ “ทิพย์ธาราของปวงชน” พระตำหนักสิริส่องภูพิงค์ พระตำหนักพยัคฆ์สถิต พระตำหนักพฤกษาวิสุทธิคุณ สวนสุวารี เป็นต้น

[Dockaturk]

สถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน

ตั้งอยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและลานกางเต็นท์ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นจุดชมดอกพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย สีชมพูบานสะพรั่งทั่วพื้นที่ มีบ้านพักและลานกางเต็นท์บริการนักท่องเที่ยว รองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก ดอกพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยสีชมพูนี้มักจะบานในช่วงปีใหม่เป็นประจำทุกปี ก็ราวๆ กลางเดือนมกราคมเป็นต้นไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ถ้าเอาชัวร์สุดก็คือโทรไปถามเจ้าหน้าที่ ว่าช่วงที่ไปนั้นมันบานในระดับไหนกันแล้ว

นอกจากกิจกรรมชมดอกพญาเสือโคร่งแล้ว ที่สถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ยังเป็นที่ปลูกกาแฟ บ๊วย และท้อ ซึ่งจะออกดอกสีชมพู และขาว ให้ชมกันอีกด้วย เมล็ดกาแฟที่เก็บเกี่ยวได้ส่วนหนึ่งจะนำมาทำกาแฟสดให้บริการนักท่องเที่ยวได้ดื่มกาแฟ ชมบรรยากาศสีชมพูล้อมรอบ และสัมผัสความหนาวเย็นตามแบบภูเขาในภาคเหนือ

คำแนะนำการไปชมดอกพญาเสือโคร่ง ไม่ควรไปโน้มกิ่งมันลงมาเพื่อถ่ายภาพ การเดินทางถ้ารถส่วนตัวอย่างรถยนต์รถจะค่อนข้างติด เพราะสภาพทางที่เล็ก และลาดชัน บางช่วงมีหลุมบ่อ ส่วนมอเตอร์ไซค์ ขับไปได้ แต่ต้องมักทักษะที่สูงหน่อย รถโดยสารมีรถสี่ล้อแดงวิ่งขึ้นไปถึงที่นั้นกันครับ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบเหมา ถ้ากลัวแพงก็หาคนเหมาไปด้วยก็ได้ จะได้ประหยัดตังค์ แถมได้เพื่อนใหม่อีกต่างหาก

อนึ่ง ดอกนางพญาเสือโคร่งไม่ใช่ดอกซากุระ อย่าไปจำสับสนกัน เพียงแค่มันได้รับฉายาว่าซากุระเมืองไทยกันเท่านั้นเองเฉยๆ

[Dockaturk]

งานเทศกาลไม้ดอกไม้ประดับ เชียงใหม่

เป็นงานที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ ที่กำหนดจัดงานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แรกของเดือนกุมภาพันธ์ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 เป็นต้นมา เพื่อเป็นการแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ และความงดงามของธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ และผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์กิจกรรมระดับโลก (world class event) ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกรผู้เพาะปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้ผล จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาต้องบอกว่าได้รับความสนใจจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก

โดยภายในงานจะได้พบกับ การประกวดนางงามบุปผชาติ นางงามบุปผชาตินานาชาติ นิทรรศการทางการเกษตร การประกวดไม้ดอกไม้ประดับประเภทต่างๆ การประกวดพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ การประกวดจัดสวน การออกร้านของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร มหกรรมอาหาร และการแสดงดนตรีในสวน กาดหมั้ว ฯลฯ

[Dockaturk]

กาดคำเที่ยง และกาดต้นลำไย

บอกที่ไปชมแล้ว ขอบอกแหล่งที่ช้อปกันบ้าง เริ่มที่ตลาดคำเที่ยง หรือ กาดคำเที่ยง ตลาดขายต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ เป็นตลาดของคนรักต้นไม้ เพราะที่นี่จะมีไม้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ไม้ยืนต้น ไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้น้ำ ไม้ล้มลุก ไม้ที่ปลูกเพื่อรับประทาน ไม้ผล หญ้า กระบองเพชร และไม้ล้อม เรียกว่าแทบทุกชนิดหาซื้อได้ในตลาดนี้ แล้วที่นี่ยังมีอุปกรณ์เกี่ยวกับ การจัดแต่งสวน ตกแต่งบ้าน หรือแม้แต่ ร้านขายสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว ปลาสวยงาม และร้านขายอุปกรณ์การเกษตร สถานที่กว้างขวาง ที่จอดรถสะดวกสบาย อยู่ใจกลางเมือง สามารถขับรถไปจอดได้ที่หน้าร้านทุกร้าน ซื้อเสร็จก็ยกใส่รถได้เลย

ส่วนอีกที่คือกาดต้นลำไย หรือตลาดดอกไม้ มีสินค้าให้นักท่องเที่ยวเลือกมากมายเหมือนกันกับกาดหลวง เพียงแต่จะโดดเด่นกว่ากาดหลวงตรงที่มีดอกไม้นานาชนิดเอาไว้ขาย ให้เลือกสรรกันหลายร้านมาก ใครต้องการมาซื้อดอกไม้ ต้องมาที่กาดต้นลำไยสถานเดียว ไม่ว่าจะในวาระไหนๆ จะซื้อฝากสาว งานบุญ งานอะไร มาที่นี้กันได้เลยครับ ไม่มีผิดหวัง ที่จอดรถอาจจะหายากหน่อย เพราะคนค่อนข้างพลุกพล่าน โดยเฉพาะในช่วงเย็นๆ ของวันที่รถติดแบบวินาศสันตะโร ชวนโมโหบ่อยๆ

[parsuk]

ขอบคุณ ข้อมูล