เก็บตกงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ครั้งที่ 40

[Dockaturk]

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ต้องบอกเลยว่าเชียงใหม่มีงานหลายที่จัดชนกันในตัวเมืองครับ ทั้งงานสัปดาห์หนังสือ งานตรุษจีน งานเทศกาลไม้ดอกไม้ประดับ เรียกได้ว่าในช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์ ที่ผ่านมารถราในเมืองค่อนข้างที่จะเยอะกันพอสมควร

จากทั้งหมดของ 3 งาน ผมจัดสรรเวลาออกไปเตร็ดเตร่กันตามสมควร อย่างวันอาทิตย์ ตกเย็นๆ ก็ไปเดินเล่นงานเทศกาลไม้ดอกไม้ประดับกันซักหน่อย เพราะมันเป็นวันสุดท้ายแล้ว ฮ่าๆๆ

งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 40 กันแล้วฮะ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 5-7 ก.พ.2559 ซึ่งตรงกับช่วงเทศกาลตรุษจีนพอดี อย่างที่ได้เกริ่นไว้       

และเหมือนเดิมทุกปีครับ งานจัดกันที่สวนบวกหาด โดยในวันที่ 6 ก.พ. ก็มีการแห่ขบวนรถบุปผาชาติ ตั้งแต่สะพานนวรัฐ ไปตามถนนท่าแพ และเส้นทางตามคูเมือง ไปจนถึงสวนบวกหาด โดยขบวนรถบุปผาชาติจัดเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญอย่างยิ่งของการจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในปีนี้มีขบวนรถบุปผาชาติที่เข้าร่วมงานจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาคราชการ และเอกชน รวมทั้งสิ้น 23 คัน ซึ่งขบวนรถบุปผาชาติเมื่อแห่เสร็จ ก็จะจอดตามจุดจัดงานอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานนวรัฐ ประตูท่าแพ และสวนบวกหาด เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ

ผมไปเดินเตร็ดเตร่แถวๆ สวนบวกหาดกันที่เดียว ส่วนที่เหลือนั้นอีกสองจุดนั้นไม่ได้ไป ด้วยความที่คิดว่าตรงสวนบวกหาดที่เดียวก็น่าจะพอกันแล้ว กับการมาเดินชมงาน

เมื่อเข้ามาถึง บรรยากาศงานครั้งแรกที่สัมผัสต้องบอกว่าแตกต่างกันซักหน่อย เมื่อมีการโยกย้าย และเปลี่ยนพื้นที่การจัดจากปีที่แล้วพอสมควร อีกทั้งมันยังรู้สึกว่าโล่งๆ ไป เมื่อคำนวณถึงผู้คนที่มาเดินชมในงาน อันนี้อาจจะเกี่ยวกับวันสุดท้ายที่ผมไปด้วย คนเลยซาๆ หน่อย

แต่คนซาๆ ก็ดีนะ เพราะผมไม่ค่อยชอบคนเยอะ มันวุ่นวายไปครับ ฮ่าๆๆ

หลังพบกับความโล่งของผู้คน ก็ได้เวลาเดินมาสำรวจกัน ผมเริ่มเดินจากแจ่งกู่เฮืองยาวไปจนถึงประตูสวนปรุง บริเวณส่วนนี้จะเป็นบูธออกงานของอำเภอต่างๆ ในเชียงใหม่กันครับ ที่จะมานำเสนอสินค้าโอท็อป แต่เดิมทุกปีพื้นที่บริเวณส่วนนี้จะเป็นที่จัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับ อย่างกล้วยไม้ บอนไซ เป็นต้น ส่วนปีนี้ก็อย่างที่บอกนั้นแหละ พื้นที่ถูกยึดโดยบูธโอท็อป

แล้วบูธโอท็อป ย้ายมาจากไหน?

ส่วนนี้เขาย้ายมาจากพื้นที่บริเวณจากแจ่งกู่เฮืองไปทางประตูสวนดอก แล้วใช้พื้นที่ส่วนนั้นให้กับร้านค้าต่างๆ ที่มาตั้งแผงขายของ เอาง่ายๆ หากเดินจากแจ่งกู่เฮืองไปทางประตูสวนดอก คุณก็จะเจอแค่ร้านค้าขายของกิน ของใช้ ไม่ต่างอะไรกันกับตลาดนัดดีๆ นี่เอง

[Dockaturk]

เมื่อผมรู้แล้วล่ะว่า ฝั่งนั้นมันเป็นตลาดนัด ก็เลยหันมาโฟกัสกันหน้าสวนบวกหาด และภายในสวนกัน อย่างตรงหน้าสวนบวกหาดบนถนนก็จะเป็นที่อวดความงามของขบวนรถบุปผาชาติ คำนวณด้วยสายตา ก็น่าจะประมาณ 10 คัน ในขณะที่ตรงฟุตบาทนั้น ก็จะเป็นบูธโอท็อปของอำเภอต่างๆ ซึ่งมีความน่าสนใจกันประมาณนี้

อย่างชุมชนวัวลาย แหล่งทำเครื่องเงินที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ ที่รูปแบบของเครื่องเงินนั้นหลากหลาย มีลวดลายสวยงาม เช่น ลายดอกฝ้าย ลายชนบท ลาย 12 ราศี และยังมีลายทรงม่านหรือลายม่าน เช่น ลายรามเกียรติ์ และลายของพม่าที่สวยงามแปลกตา

บ้านถวาย ก็มีงานหัตถกรรมไม้แกะสลัก ที่ขึ้นชื่อและโดดเด่นมานำเสนอ  มีสินค้าหลายประเภทให้เลือกชม ไม่ว่าจะเป็นงานแกะสลักเป็นรูปสัตว์ รูปเทวดา รูปสัตว์ในป่าหิมพานต์ ตลอดจนของตกแต่งบ้านอีกมากมาย อันได้แก่  ดอกไม้, กรอบรูป, กรอบกระจก, โคมไฟ, ที่ใส่กระดาษทิชชูแบบต่าง ๆ รวมถึงแจกันดอกไม้หลายขนาด ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์ไม้คุณภาพส่งออก และอื่นๆ

ส่วน อ.อมก๋อย มีผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ มานำเสนอ อันเป็นลวดลายแบบพื้นเมืองของชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความโดดเด่นตรงตามความนิยมของยุคสมัย และมีการผลิตออกมาหลายประเภทเพื่อการใช้สอย เช่น ผ้าปูโต๊ะ ผ้ารองจาน ผ้ารองแก้ว ผ้าเช็ดปาก ผ้าคลุมเตียง ย่าม ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ เสื้อ ผ้าตัดชุด เป็นต้น

จากบูธโอท็อปก็เข้ามาข้างในสวนบวกหาด จะมีพื้นที่จัดแสดงกล้วยไม้ พันธุ์ไม้บางชนิดให้ได้เลือกชม และซื้อกันครับ รวมทั้งยังมีพันธุ์ไม้ที่เอาไว้ประกวดอย่างบอนไซ ซึ่งถ้าเทียบกันกับปีที่ผ่านๆ มานั้น ต้องบอกค่อนข้างขี้เหร่กันพอสมควรครับ ขี้เหร่ทั้งการจัดการ และดอกไม้ก็มีให้ชมไม่มากพอ จนผมล่ะอายแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวกัน แล้วเจอคำว่า ”งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับจังหวัดเชียงใหม่” คือไอ้คำว่ามหกรรมเนี่ย น่ากันอายกันสุดๆ
นี่ละไม่อยากจินตนาการไปจนถึงปีหน้าว่าจะออกมากันอีท่าไหน เพราะสภาพที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ แทบไม่ต่างอะไรกันกับตลาดนัด แล้วมีแค่ขบวนแห่รถบุปผาชาติเฉยๆ ส่วนที่เหลือมันไม่มีอะไรกันเลยครับ ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ในงาน และคู่ควรกับคำว่างานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ จนผมนึกไปถึงคำพูดของพี่คนนึงแกบอกว่า นี่คืองานเทศกาลลูกชิ้นทอดทองสุข

ช่างเป็นคำพูดที่เปรียบเปรยอย่างเจ็บแสบไปถึงผู้จัดงานจริงๆ

ปล.งานเทศกาลไม้ดอกไม้ประดับที่เชียงราย จัดได้ดีกว่านี้หลายขุมมาก ชนิดที่ว่าผมอยากกราบให้คนจัดงานที่เชียงใหม่ไปดูกันจริงๆ