วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) เชียงใหม่

[Ae_Wha]

          สวัสดีค่ะ วันนี้จะพากันไปเที่ยวพักผ่อนคลายเครียดกันค่ะ จะพาไปยังวัดที่ร่มรื่นและเงียบสงบออกแนวป่าๆ ค่ะ เป็นวัดที่สร้างขึ้นมานานมากแล้ว
ถ้าพูดชื่อวัดนี้ขึ้นมาแล้วเราคิดว่าหลายๆ คนต้องรู้จักกันแน่ๆ เลยค่ะ วันนี้จะพากันมาที่วัดอุโมงค์ค่ะ
วัดอุโมงค์นั้นตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือจะไปทางเส้นถนนคันคลองด้วยก็ได้ค่ะ

[Ae_Wha]

           ก่อนอื่นมาดูถึงประวัติของวัดอุโมงค์กันนะคะ “ในสมัยพระเจ้ามังรายมหาราช ทรงทำนุบำรุงพระศาสนาเป็นการส่วนพระองค์ พระองค์ได้ทรงทราบว่า พระเจ้ารามคำแหงมหาราช พระสหายผู้ครองนครสุโขทัย ได้ส่งคนไปนิมนต์พระสงฆ์จากเมืองลังกา จึงประสงค์จะได้พระลังกามาเป็นหลักพระพุทธศาสนาในเมืองเชียงใหม่บ้าง และได้สร้างวัดฝ่ายอรัญวาสีเฉพาะพระลังกา เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการนำพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์มาประดิษฐานในลานนาไทยเป็นครั้งแรก โดยยึดเอาแบบอย่างการสร้างวัดของเมืองลังกาเป็นแบบฉบับ โดยแบ่งออกเป็นเขตพุทธาวาส และสังฆาวาส ทรงขนานนามว่าวัดเวฬุกัฏฐาราม (วัดไผ่ 11 กอ) ในที่สุดได้กลายเป็นวัดที่พระบรมวงศานุวงศ์และประชาชนศรัทธาเลื่อมใสเป็นอันมาก เป็นเหตุให้พระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์เจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว และตั้งหลักได้มั่นคงในลานนาไทยเป็นครั้งแรกในสมัยของพระองค์
          ต่อมาเมื่อพระเจ้ามังรายสวรรคต ศาสนาพุทธขาดการทำนุบำรุง เพราะมัวแต่ทำศึกสงครามกันเองในเชื้อพระวงศ์ในการแย่งชิงราชสมบัติ จนมาถึงสมัยสมัยพระเจ้ากือนาธรรมาธิราช ศาสนาพุทธก็ได้รับการฟื้นฟู ทรงมีความเลื่อมใสในพระมหาเถระจันทร์ พระเจ้ากือนาจึงสั่งให้คนบูรณะวัดเวฬุกัฏฐาราม เพื่ออาราธนาพระมหาเถระจันทร์จำพรรษาทีวัดแห่งนี้ และตั้งชื่อวัดนี้ว่า “วัดอุโมงค์เถรจันทร์” ตามชื่อของพระมหาเถระจันทร์ มีการซ่อมแซมเจดีย์โดยการพอกปูน สร้างอุโมงค์ไว้ทางทิศเหนือจากเจดีย์ ในอุโมงค์มีทางเดิน 4 ช่องซึ่งเชื่อมต่อกันได้ ลัทธิลังกาวงศ์ซึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองมาครั้งหนึ่งสมัยพระเจ้ามังรายมหาราช และได้เสื่อมทรามไปเกือบ 70 ปีนั้น ก็ได้กลับเจริญรุ่งเรืองขึ้นอีกในสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราชนี้เอง” ที่มา zthailand.com/place/wat-u-mong-chiang-mai/

          วัดนี้เป็นวัดที่ไม่เหมือนกับวัดไหนเลย เพราะว่าพระพุทธรูปนั้นจะประดิษฐานอยู่ในอุโมงค์ค่ะ คิดว่าเป็นเพราะว่าเกี่ยวกับความเงียบและความสงบเมื่อเราเข้าอุโมงค์ไป ก็จะพบกับความเงียบ สงบ แล้วก็ลมพัดเย็นๆ

[Ae_Wha]

          อีกอย่างหนึ่งที่เราสนใจสำหรับที่นี่คือเรื่องราวของลวดลายศิลปะที่ได้วาดไว้ในอุโมงค์กันค่ะ แล้วก็ได้มีการศึกษาหาความรู้กันค่ะ ว่ามีการสันนิษฐานกันว่าลวดลายที่เคยมีอยู่นั้นเป็นอย่างไรบ้างค่ะ อาจารย์ของเราที่คณะวิจิตรศิลป์ก็มีคนหนึ่งที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับลวดลายฝาผนังอุโมงค์ที่วัดอุโมงค์แห่งนี้ด้วยค่ะ จากร่องรอยภาพที่เราเห็นบนผนังและเพดานของอุโมงค์ จะเห็นเป็นลายบัว ลายเมฆ ลายดอกสามกลีบค่ะ สลับกันแบบซ้ำเป็นลายคล้ายกับลายผ้าตลอดทั้งผนังและเพดานของอุโมงค์โดยรอบ ต้องขอขอบคุณข้อมูลจาก http://goo.gl/m0X0iR
          เราเป็นคนหนึ่งค่ะ ที่ชอบศึกษาเกี่ยวกับลวดลายของงานศิลปะแบบโบราณ เพราะเราก็เรียนจบมาทางด้านศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ ม.ช. ค่ะ และชอบเกี่ยวกับลายไทยมากๆ เลย ได้รู้เกี่ยวกับบรรพบุรุษของเราว่ามีการรับเอาวัฒนธรรมจากที่ไหนมาบ้าง เป็นสิ่งที่น่าสนใจจริงๆ ค่ะ

          ใครชอบสถานที่สงบร่มเย็นและเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ร่มรื่นและประกอบไปด้วยศิลปวัฒนธรรมโบราณของบ้านเรา ก็แวะมาที่วัดอุโมงค์แห่งนี้นะคะ ทุกคนจะได้ซึมซับกับบรรยากาศของวัดอุโมงค์ที่ขึ้นชื่อแห่งนี้กันค่ะ