ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
พฤศจิกายน 27, 2024, 02:49:11 PM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ประกาศ ปัมพ์โพสต์ตอบแต่ emoticon ต่อเนื่อง เพื่อจะให้กระทู้ตัวเองมาอยู่อันดับต้นๆ ประจำ รับสิทธิ์โดนแบน 90 วันครับ


จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: ตะลอนเที่ยววัดเชียงใหม่ "วัดกู่คำ" สันป่าตอง 0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ตะลอนเที่ยววัดเชียงใหม่ "วัดกู่คำ" สันป่าตอง  (อ่าน 2310 ครั้ง)
konhuleg
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: สิงหาคม 07, 2015, 11:52:30 AM »


ช่วงหลังมานี้ฝนตกกันแทบจะทุกวันเลยนะครับ หรือถ้าไม่ตกก็มีแต่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนกันตลอด จะไปไหนมาไหนทีก็ลำบากเป็นธรรมดา ยิ่งคนที่ขับมอเตอร์ไซค์ หรือไม่ก็เดินทางรถโดยสารสาธารณะ มักจะได้รับผลกระทบไปเต็มๆ

“อยู่ใต้ฟ้าจะกลัวทำไมกับฝน เกิดเป็นคนก็ต้องไม่กลัวอุปสรรค” ไม่รู้ว่าใครพูดไว้ แต่ที่แน่ๆ ออกไปไหนช่วงนี้ มีร่มกับเสื้อกันฝนติดไว้ก็ดี อย่างน้อยๆ ก็ช่วยไม่ทำให้ใครคนนี้และใครอีกหลายๆ คนเปียกเฉอะแฉะ

สองวันมานี้ แดดดีกันทีเดียวครับ เลยขับรถมาเที่ยวแถวสันป่าตองในตอนเย็น เดินเล่นถ่ายรูปวัดสองสามที่ เห็นว่าแดดดี ก็เอากันซักหน่อย และที่แรกของวันก็มาตกที่ “วัดกู่คำ”

วัดกู่คำ  ตั้งอยู่เลขที่ 129 บ้านดอนตัน หมู่ที่ 12 ตำบลยุหว่า อำเภอสันป่าตอง  จังหวัดเชียงใหม่  มีเนื้อที่  2  ไร่  อยู่ติดกับถนนคลองชลประทาน  เส้นที่เป็นถนนของ กาดสล่าขายงานไม้แกะสลักกันเยอะๆ  ตัววัดสร้างเมื่อ  พ.ศ. 2420  ได้รับพระราชทานวิสูงคามสีมาเมื่อวันที่  4  กรกาฎาคม พ.ศ.2426

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดนั้น มีพระเจ้าทองทิพย์ รุ่นแรก องค์จำลอง ลักษณะเป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ซึ่งในการสร้างพระพุทธรูปทองทิพย์ ในพงศาวดารเมืองน่าน กล่าวไว้ว่า... เมื่อจุลศักราช 812 ตรงกับพุทธศักราช 1993 พระเจ้าติโลกราช เจ้านครเชียงใหม่ มีกำลังเข้ม แข็งได้กรีฑาทัพไปตีหัว เมืองต่างๆ ในแคว้นล้านนาไทย คือ เมืองลอ เมืองเทิง เมืองปง เมืองควร ไปทางตีนดอยลาวได้หัวเมือง เหล่านั้นไว้ในอำนาจ หมดแล้ว เลยยกเข้าไปตีเมืองน่าน พระองค์ได้ ตั้งทัพอยู่ที่สวนตาลหลวงตั้งทัพล้อมอยู่ได้ 7 วัน โดยเร่งไพร่พลยิงปืนใหญ่ เข้าไปในเมือง พอตกกลางคืนก็ยกพลเข้าตี หวังจะเอาเมืองให้ได้ ฝ่ายพญาอินต๊ะแก่นท้าว ซึ่งเป็นเจ้านครน่านในเวลานั้นเห็นกองทัพ เชียงใหม่มีไพร่พลมากมายนัก ประกอบกับได้ยินกิตติศัพท์เล่าลือถึงความเก่งกล้าสามารถของพระเจ้าติโลกราชที่สามารถปราบหัวเมืองใกล้เคียงได้เกือบหมด เห็นชัดแจ้งว่าไม่อาจจะรักษาเมืองไว้ได้จึงได้อพยพครอบครัวหนี พระเจ้าติโลกราชจึงยกทัพไพร่พลเข้าเมืองได้อย่างง่ายดายไม่ต้องสู้รบให้เสียเลือดเสียเนื้อเลย เมื่อพระเจ้าติโลกราชยึดเมืองได้แล้ว จึงได้ปรึกษาเหล่านายทัพนายกองและเสนาอำมาตย์ทั้งหลายว่า การที่กองทัพของพระองค์เข้ายึดเมืองไว้ได้ในครั้งนี้ มิได้สู้รบให้เสียเลือดเสียเนื้อกำลังไพร่พ เลย เหมือนกับว่ามีเทพเจ้าเข้ามาช่วยเหลือจึงเห็นควรให้สร้างอะไรไว้อย่างหนึ่งเพื่อเป็นอนุสรณ์สักขีพยานในชัยชนะของพระองค์ ครั้งนั้นขุนนางเสนอว่าควรจะสร้างถาวรวัตถุเพื่อประชาชนรุ่นหลังจะรำลึก ถึง เช่น สร้างพระพุทธรูปหล่อด้วยทอง เป็นต้น

ในที่สุดพระเจ้าติโลกราชก็ตัดสินพระทัยที่จะสร้างพระพุทธรูปหล่อด้วยทอง พระเจ้าทองทิพย์ ซึ่งพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่ โปรดเกล้าฯ ให้ สร้างขึ้นใน พ.ศ. 1987 ลักษณะเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ ปางมารวิชัย ประดิษฐานในวิหารสวนตาล หน้าตักกว้าง 10 ฟุต สูง 14 ฟุต 4 นิ้ว (4.11 เมตร) ในการสร้างพระพุทธรูปหล่อด้วยทองนี้ พระองค์ได้โปรดให้ช่างทั้งหลาย อาทิ พม่า เงี้ยว และชาวเมืองเชียงแสน กระทำพิธีหล่อหลอมทองและพิธีหล่อองค์พระพุทธรูปด้วย ช่างได้กระทำการหล่อทองเทเข้าเบ้าพิมพ์หลายครั้งหลายหนก็ไม่สำเร็จเพราะเบ้าพิมพ์แตกเสียทุกครั้ง ในที่สุดก็มีชายชราแปลกหน้านุ่งขาวห่มขาวมาช่วยทำจึงสำเร็จเรียบร้อยสมปรารถนา

เมื่อสร้างพระพุทธรูปเสร็จแล้ว พระเจ้าติโลกราชก็ทรงจัดให้มีการสวดปริตถมงคลและจัดให้มีงานมหกรรมเฉลิมฉลองทำบุญเป็นการใหญ่มโหฬารยิ่ง ส่วนชายชรานั้นก็หายสาบสูญไปไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย ประชาชนชาวเมืองต่างโจษขานกันว่าเป็น เทพยดาแปลงกายลงมาช่วย จึงได้ขนานพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธรูปทองทิพย์ หรือ พระเจ้าทองทิพย์ ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้พระเจ้าทองทิพย์ ประดิษฐานอยู่ด้วยกันหลายวัดในภาคเหนือ ซึ่งก็มีทั้งองค์จริง และองค์จำลอง ส่วนที่วัดกู่คำนั้นเป็นองค์จำลองครับ

สิ่งที่น่าสนใจอีกอัน เจดีย์วัดกู่คำเป็น เจดีย์ทรงระฆัง เหตุที่เรียกว่าทรงระฆังนั้นเพราะองค์ประกอบสำคัญของเจดีย์แบบนี้คือ องค์ระฆัง ซึ่งต้นกำเนิดนั้นคงมาจากรูปโดมครึ่งวงกลมของสถูปในประเทศอินเดียที่เรียก ว่า อัณฑะ หรือ ครรภะ ที่มีความหมายถึงศูนย์กลางจักรวาล ลักษณะของอัณฑะรูปครึ่งวงกลมนั้นเมื่อแพร่กระจายไปในดินแดนต่างๆ ก็มีพัฒนาการต่างกันไป

ศาสนสถานที่เหลืออื่นๆ ภายในวัดมีอุโบสถ และหอระฆัง


* 5878687645_3.JPG (129.11 KB, 800x533 - ดู 382 ครั้ง.)

* 5878687645_7.JPG (222.01 KB, 800x533 - ดู 382 ครั้ง.)

* 5878687645_4.JPG (212.25 KB, 800x533 - ดู 383 ครั้ง.)

* 5878687645_2.JPG (235.65 KB, 800x533 - ดู 402 ครั้ง.)

* 5878687645_1.JPG (219.53 KB, 533x800 - ดู 299 ครั้ง.)

* 5878687645_5.JPG (244.82 KB, 533x800 - ดู 340 ครั้ง.)

* 5878687645_6.JPG (179.28 KB, 800x533 - ดู 316 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ขึ้นบน พิมพ์ 
จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: ตะลอนเที่ยววัดเชียงใหม่ "วัดกู่คำ" สันป่าตอง « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  




Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.5 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.079 วินาที กับ 19 คำสั่ง