ถ้าใครชอบไปเดินเที่ยวงานนิทรรศการสินค้าต่างๆ ประเภทสินค้าเกษตร สินค้าโอท็อปจะเห็นได้ว่า เชียงใหม่ของเราเนี่ยมีงานแบบนี้อยู่กันเป็นประจำครับในแต่ละเดือน ซึ่งเดือนหนึ่งก็ตกประมาณ 2 3 งาน ด้วยกัน สถานที่จัดก็แล้วแต่กันไป แต่ส่วนใหญ่จะเป็นห้างสรรพสินค้า ล่าสุดที่ผมไปมาก็เป็นงาน "มหกรรมสินค้าเกษตรและวิสาหกิจชุมชน ที่ถูกจัดขึ้นกันในระหว่างวันที่ 10 - 14 มิถุนายน 2558 ณ หอศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดงานกล่าวถึง สำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 นั้น หน่วยงานนี้ มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรเกษตรกร (3ก) 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนกันครับ ซึ่งก็ได้แก่ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มส่งเสริมอาชีพการเกษตร และในปัจจุบันจำเป็นต้องพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่เรียกว่า Young Smart Farmer ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ รวมทั้งสร้างเครือข่ายขยายผล โดยมีการบูรณาการ คน พื้นที่ และสินค้า ตามระบบส่งเสริมการเกษตรมิติใหม่ นอกจากนั้นยังต้องสร้างกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเกษตรกร ให้สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็ง สร้างมูลค่าเพิ่มและเครือข่ายความร่วมมือด้านต่างๆ และสนับสนุนให้เกิดผู้นำด้านการเกษตรที่มีความสามารถเข้ามาร่วมในเวทีการบริหารงานเกษตรในระดับต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมูลค่ารายได้ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ทั้งหมด ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี
ปัจจุบัน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน มีกว่า 1,000 วิสาหกิจ ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง ร้อยละ 30 กลุ่มที่อยู่ในระดับพึ่งพาตนเองได้ ร้อยละ 40 และกลุ่มที่ยังต้องได้รับการพัฒนา อีกร้อยละ 30 และ ดังนั้น สำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จึงได้จัดงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และมหกรรมสินค้าเกษตรและวิสาหกิจชุมชน เป็นครั้งแรก เพื่อเปิดโอกาสให้องค์กรเกษตรกรได้จัดแสดงผลงานและจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพและมาตรฐาน รวมทั้งเปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการพัฒนาการบริหารจัดการ และนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาตนเองและกลุ่มต่อไป
สำหรับในงานดังกล่าวนั้น ก็จะมีสินค้า และผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ระดับพรีเมียม จาก 8 จังหวัดภาคเหนือ และทั่วภูมิภาคของประเทศ กว่า136 บูธ ที่นำมาจำหน่ายในราคาย่อมเยา โดยนอกจากการแสดงและจำหน่ายสินค้าแล้ว ยังมี การจัดเวทีเเลกปลี่ยนเรียนรู้ในการพัฒนาองค์กรเกษตรกร การจัดแสดงนิทรรศการองค์ความรู้ การแสดงศิลปวัฒนธรรมและความบันเทิงตลอดทั้งงาน ทั้งนี้ในแต่ละวันจะมีการจัดกิจกรรมนาทีทองกระหน่ำลดราคาสินค้า เพื่อคืนความสุขให้แก่ผู้บริโภคที่ได้มาร่วมงานโดยจะไม่มีการบอกล่วงหน้าว่า บูธไหน จะลดราคาวันไหน และเมื่อไหร่ ต้องเข้ามาร่วมงานเท่านั้น
แล้วตอนหน้าจะพาไปชมกันแบบลงลึกครับว่า ภายในงานมีอะไรกันบ้างตอนจบ >>>
http://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/index.php/topic,8533.0.html