ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
พฤศจิกายน 27, 2024, 05:30:56 AM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ประกาศ  โพสหัวข้อเดียวซ้ำๆ กัน รับสิทธิ์ โดนลบกระทู้ และโชคดีได้รับสิทธิ์แบนฟรี 90 วันครับ


จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: วัดบุพพาราม เยี่ยมชมพระอารามตะวันออกของเมืองเชียงใหม่ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: วัดบุพพาราม เยี่ยมชมพระอารามตะวันออกของเมืองเชียงใหม่  (อ่าน 13628 ครั้ง)
lady darika
Full Member
***
กระทู้: 232


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: ตุลาคม 11, 2013, 12:29:08 AM »


วัดบุพพาราม เยี่ยมชมพระอารามตะวันออกของเมืองเชียงใหม่

ในช่วงที่ผ่านมาปริมาณนักท่องเที่ยวชาวจีนในเมืองเชียงใหม่เพิ่มขึ้นเร็วมาก เดินไปทางไหนก็มีแต่ชาวจีน แม้กระทั่งป้ายตามสถานที่สำคัญต่างๆ ก็ยังต้องมีคำอธิบายภาษาจีนกำกับไว้ ปรากฏการณ์เชียงใหม่ฟีเวอร์นี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากภาพยนตร์คอมเมอดี้ “Lost in Thailand” ที่สร้างรายได้ถล่มทลายในประเทศจีน เอาชนะหนังฮอลลีวู้ดไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ เรื่องราวในภาพยนตร์มีฉากถ่ายทำหลักอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่นี่เอง

หอมณเฑียรธรรม landmark สำคัญของวัดบุพพาราม

มณฑปทรงไทยประยุกต์ ก่ออิฐถือปูนสองชั้น หรือ “หอมณเฑียรธรรม” ของ “วัดบุพพาราม” เป็นหนึ่งในฉากสำคัญของเรื่อง วัดแห่งนี้หลายคนที่ผ่านไปมาบนถนนท่าแพ คงมีโอกาสเห็นอยู่บ่อยๆ แต่ด้วยสถาปัตยกรรมประยุกต์ร่วมสมัย ไม่เก่าแก่เหมือนอีกหลายๆ วัด หลายคนคงผ่านเลยไป เพราะมองเป็นวัดธรรมดาๆ ทั้งๆ ที่จริงแล้ววัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ มีเรื่องราว และความเป็นมาน่าสนใจมาก ในบทความนี้จึงขออาสาพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับวัดแห่งนี้กันให้มากขึ้น

พระพุทธรูปสำคัญ ประดิษฐานบนชั้นสองของหอมณเฑียรธรรม

วัดบุพพาราม ตั้งอยู่บนถนนท่าแพ ย่านเศรษฐกิจสำคัญของเมืองเชียงใหม่ และเป็นศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ  หลายคนเข้าใจผิดว่าวัดนี้ชื่อ “บุปผาราม” เพราะเป็นชื่อที่คุ้นเคย และเรียกง่ายกว่า ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วชื่อดั่งกล่าวเป็นชื่อทางการของวัดสวนดอก “บุปผา” แปลว่า “ดอกไม้” นั่นเอง ส่วนคำว่า “บุพพาราม” แปลว่า “ทิศตะวันออก” เพราะว่าวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเมือง

ภาพจิตรกรรมภายในชั้นแรกของหอมณเฑียรธรรม

วัดแห่งนี้เดิมชื่อว่า “วัดเม็ง” หรือ “วัดอุปปาใน” เป็นวัดเก่าแก่ มีฐานะเป็นวัดพี่วัดน้องกับวัดชัยมงคล (วัดอุปปานอก) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๐๔๐ ในสมัยพระเมืองแก้ว กษัตริย์ล้านนาลำดับที่ ๑๒ แห่งราชวงศ์มังราย ทรงโปรดเกล้าให้สร้างวัดแห่งนี้บริเวณพระราชอุทยานเก่าของพระเจ้าติโลกราช และตั้งชื่อว่า วัดบุพพาราม แปลว่า พระอารามตะวันออก

ชั้นแรกของหอมณเฑียรธรรมเป็นพื้นที่จัดแสดงโบราณวัตถุของวัด

หอมณเฑียรธรรม มณฑปทรงปราสาทจตุรมุขล้านนา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๓ เป็นอาคารปูนสองชั้น ประดับด้วยลายปูนปั้นสีทองทั่วทั้งหลัง หน้าบันมีตราพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ประดับอยู่ ชั้นบนเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสามองค์ สององค์แกะสลักด้วยไม้สัก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชพระราชทานนามว่า “พระพุทธบุพพาภิมงคล ภปร.” หันหน้าไปทางทิศเหนือ  “พระพุทธนเรศร์สักชัยไพรีพินาศ” หรือพระองค์ขาวหันไปทางทิศตะวันออก ส่วนอีกองค์เป็นพระแก้วหยกหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ชั้นล่างจัดเป็นห้องสมุดศูนย์วัฒนธรรมท้องถิ่นล้านนา รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เช่น คัมภีร์โบราณ รูปโบราณ หีบธรรม และสัตภัณฑ์เอาไว้ให้ชม

วิหารโบราณหลังเล็ก ปัจจุบันขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ

พระวิหารหลังเล็ก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๖๒ โดยเจ้าหลวงธรรมลังกา เป็นอาคารไม้ทั้งหลัง สถาปัตยกรรมแบบล้านนาดั้งเดิม หน้าบันแกะสลักเป็นรูปดอกไม้ต่างๆ มีเทพพนมประจำอยู่สามองค์ ภายในประดิษฐานพระพุทธไชยลาภประสิทธิโชค พระวิหารหลังนี้เป็นของเก่าแก่ รูปทรง สัดส่วนสง่างามตามแบบล้านนาดั้งเดิมปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติแล้ว ถือเป็นจุดหนึ่งที่ผู้มาเยือนที่ชื่นชอบศิลปะโบราณไม่ควรพลาดชม

ลวดลายหน้าบันของวิหารหลังเล็ก ประดับกระจกละเอียดปราณีต

พระวิหารหลังใหญ่ ตั้งอยู่ข้างๆ พระวิหารหลังเล็ก สร้างขึ้นสมัยพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ หรือเจ้าชีวิตอ้าว เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ อาคารก่ออิฐถือปูนศิลปะล้านนา ประดับตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นแบบพม่า ภายในประดิษฐานพระพุทธมหาปฏิมากร ผนังด้านในมีภาพเขียนสีฝุ่นเล่าเรื่องพุทธประวัติ และพระมหาเวสสันดรชาดก

ซุ้มพระของเจดีย์ประธานของวัด


พระเจดีย์ประธานของวัด ตั้งอยู่ด้านหลังวิหารทั้งสองหลัง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๐๕๓ โดยพระเมืองแก้ว สมัยเดียวกับการสร้างวิหารหลังเล็ก ฐานกว้างประมาณ 6 เมตร สูงประมาณ 15 เมตร เดิมปิดด้วยทองทั้งองค์ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๔๑ หลวงโยนวิจิตรบูรณะพระเจดีย์ แล้วเปลี่ยนรูปทรงเป็นสถาปัตยกรรมแบบพม่า ขยายฐานให้กว้าง 19 เมตร สูง 22.5 เมตร มีเจดีย์องค์เล็กทั้งสี่มุม องค์เจดีย์ประดับด้วยกระจกสี ส่วนยอดมีฉัตรสีทองขนาดใหญ่


ได้ทำความรู้จักกับวัดบุพพาราม หนึ่งในจุดสำคัญของเมืองเชียงใหม่ที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมมาเยือน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน must list สำหรับเมืองเชียงใหม่เลยก็ว่าได้

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  903
บันทึกการเข้า
parsuk
Hero Member
*****
กระทู้: 1447


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2017, 10:11:30 AM »


 :onio:
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ขึ้นบน พิมพ์ 
จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: วัดบุพพาราม เยี่ยมชมพระอารามตะวันออกของเมืองเชียงใหม่ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  




Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.5 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.087 วินาที กับ 21 คำสั่ง