พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรเชียงใหม่ โฮงสาย อดีตอันรุ่งเรืองของการสื่อสารทางไปรษณีย์พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรเชียงใหม่ ถนนไปรษณีย์ ริมแม่น้ำปิง
อาคารโบราณสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมขนาดย่อม ตั้งตระหง่านอยู่บนถนนไปรษณีย์ เส้นทางเลียบแม่น้ำปิง ใกล้ๆ กับกาดต้นลำไย คือหนึ่งในสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันทรงคุณค่าของเมืองเชียงใหม่ที่กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนไว้เป็นมรดกทางสถาปัตยกรรมของชาติ มองเผินๆ อาคารหลังนี้อาจไม่ได้โดดเด่นนัก หากเปรียบเทียบกับตึกรามบ้านช่องเก่าแก่แห่งอื่นๆ ที่มีอยู่เกลื่อนกลาดทั่วเมืองเชียงใหม่ บางคนอาจประเมินค่าสถานที่แห่งนี้เป็นเพียงตึกเก่าธรรมดาๆ แต่แท้ที่จริงแล้วที่นี่มีคุณค่ากว่าเพียงแค่การเป็นสถาปัตยกรรมโบราณที่ควรค่าอนุรักษ์จดหมายติดแสตมป์ Black Penny แสตมป์ดวงแรกของโลก
พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรเชียงใหม่ มีคุณค่ามากกว่าตึกเก่าธรรมดาๆ เพราะในยุคสมัยหนึ่งมันเคยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการสื่อสารสำคัญของเมืองเชียงใหม่ และดินแดนล้านนา เป็นตัวแทนของการก้าวเข้าสู่สังคมสมัยใหม่ สังคมแห่งการสื่อสารยุคเริ่มต้นของประเทศ จากวันนั้นในอดีตที่จดหมายเป็นการสื่อสารที่สะดวกและนิยมกันในวงกว้าง จนถึงปัจจุบันยุคสมัยของโซเชียลเน็ตเวิร์ค การสื่อสารแบบวินาทีต่อวินาทีอาคารแห่งนี้เปรียบเสมือนประจักษ์พยานที่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของเมืองเชียงใหม่ผ่านกาลเวลามานับ ๑๐๐ ปีโสฬส แสตมป์ชุดแรกของสยาม
สำนักงานไปรษณีย์โทรเลขเชียงใหม่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๒ ในอดีตชาวเมืองเชียงใหม่เรียกอาคารหลังนี้ว่า โฮงสาย อาจเป็นเพราะที่นี่นอกจากเป็นที่ทำการไปรษณีย์แล้ว ยังเป็นสำนักงานโทรเลข (ตะแล็บแก็บ) อีกด้วย บริเวณที่ตั้งของอาคารสองชั้นหลังนี้ในอดีตคือหัวใจสำคัญของเมืองเชียงใหม่ ในยุคที่ยังต้องพึ่งพาเส้นทางน้ำเพื่อการเดินเรือ ขนส่งสินค้า และติดต่อสื่อสารกับเมืองอื่นๆ ทั่วราชอาณาจักร ที่นี่จึงเหมาะสมที่จะตั้งเป็นสำนักงานไปรษณีย์ฯ ด้วยประการต่างๆ เนื่องจากขนส่งพัสดุและจดหมายได้สะดวกตู้ไปรษณีย์เก่า ทำจากเหล็ก
ตู้ไปรษณีย์ไม้ มีอักษรล้านนา และอักษรจีน
แรกเริ่มเดิมทีอาคารสำนักงานแห่งนี้เป็นเพียงเรือนไม้ไผ่ยกพื้นสูง แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ไปรษณีย์เจริญรุ่งเรืองขึ้น กลายมาเป็นช่องทางการสื่อสารหลักของประชาชน จึงรื้อถอนอาคารหลังเก่าออก และสร้างอาคารปูนแบบยุโรปอย่างที่เห็นในปัจจุบันทดแทน ในขณะเดียวกันก็มีนโยบายสร้างสำนักงานไปรษณีย์โทรเลขแห่งอื่นๆ อีกหลายแห่งทั่วเมืองเชียงใหม่ เพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น หนึ่งในนั้นคือสำนักงานไปรษณีย์ฯ สันป่าข่อย เพื่อตอบรับการคมนาคมทางรถไฟที่ก้าวเข้ามามีบทบาทแทนทางเรือ
หลังจากย้ายที่ทำการไปรษณีย์แม่ปิงมาอยู่ฝั่งตรงข้ามดังที่เห็นในปัจจุบัน อาคารหลังนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ และพลิกฟื้นอดีตที่เคยรุ่งเรืองอีกครั้งโดยจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ รวบรวมสิ่งละอันพันละน้อย ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของกิจการไปรษณีย์ของชาติให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา
ด้านนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ มีตู้ไปรษณีย์สีแดงแบบต่างๆ จัดแสดงอยู่โดยรอบ ตู้ไปรษณีย์เหล่านี้มองเผินๆ อาจเป็นเพียงตู้ไปรษณีย์เก่าๆ ที่ปลดประจำการแล้ว แต่หากลองใช้ใจศึกษา มันกลับแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการตู้ไปรษณีย์ในแต่ละยุคสมัย บอกเล่าความคิดของผู้ออกแบบ เกิดการตั้งคำถามได้หลากหลายไม่รู้จบ ไม่ต่างไปจากประติมากรรมร่วมสมัยอื่นๆ เลย เครื่องชั่งแบบโบราณ
อาคารชั้นล่างแบ่งเป็นสองส่วน ห้องโถงกลาง และห้องด้านขวาเป็นส่วนจัดแสดง รวมรวมเรื่องราวของกิจการไปรษณีย์ในอดีต ภาพถ่ายเมืองเชียงใหม่ยุคก่อนเป็นตัวแทนบอกเล่าการเปลี่ยนผ่านจากยุคสมัยหนึ่งสู่อีกยุคสมัยหนึ่งให้กับคนรุ่นหลังที่สนใจ ฉันสะดุดใจกับภาพหญิงสาวมอบจดหมายให้กับบุรุษไปรษณีย์ที่กำลังพายเรืออยู่บนถนนยามน้ำท่วม นอกจากภาพนี้จะเล่าเรื่องราวเมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่เมืองเชียงใหม่แล้ว ยังแสดงถึงความสำคัญของการสื่อสารผ่านกิจการไปรษณีย์อีกด้วยเครื่องส่งสัญญาณโทรเลข แบบโบราณ
เครื่องส่งสัญญาณโทรเลข ทันสมัยขึ้นมาหน่อย
ใครอยากทำความรู้จักกับแสตมป์เก่าๆ หรือแสตมป์พิเศษต่างๆ ก็ไม่ผิดหวัง แบล็คเพนนี แสตมป์ดวงแรกของโลก เกิดขึ้นครั้งแรกในสหราชอาณาจักรฯ คือสิ่งหนึ่งที่หลายคนอยากเห็น แสตมป์โสฬส พระบรมฉายาลักษณ์ของพระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ ๕) ผู้ให้กำเนิดการไปรษณีย์ คือแสตมป์ชุดแรกของสยาม ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โทรเลขที่เคยเป็นการสื่อสารทันสมัยสะดวกรวดเร็วในอดีต ปัจจุบันเป็นเพียงเรื่องเล่าเก่าเก็บ หาไม่ได้อีกแล้ว ก็ยังมีให้เราได้ศึกษาที่นี่ ส่วนด้านซ้ายเป็นโซนจำหน่ายของที่ระลึกไปรษณีย์ แสตมป์ และโปสการ์ดแม่พิมพ์รูปหญิงตะวันตกสวมมงกุฎกุหลาบ ไม่ทราบที่มาที่ไป
คาดว่าเป็นแม่พิมพ์ของปูนปั้นที่เคยใช้ประดับอาคารหลังนี้
ในยุคหนึ่ง การไปรษณีย์ คือตัวแทนของความก้าวหน้า จวบจนปัจจุบันแม้การสื่อสารรูปแบบอื่นๆ ที่สะดวกกว่าเข้ามาแทนที่ ไปรษณีย์ก็ยังคงทำหน้าที่รับใช้ผู้คนเสมอมา พร้อมกับการปรับตัว และพัฒนารูปแบบการบริการให้ทันยุคสมัย ในอีก ๕๐ ปีข้างหน้ากิจการไปรษณีย์ที่ว่าทันสมัยในวันนี้ อาจจะกลายเป็นเรื่องเล่าเก่าๆ ที่หาดูได้แต่ในพิพิธภัณฑ์ก็ได้เช่นกันเรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา