คืนก่อนเข้าเว็บเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์มีโอกาสเปิดไปเจอตัวอย่างหนังต้มยำกุ้งภาค 2 หลังจากภาคแรกจา พนม ปฏิบัติภารกิจตามหา ช้างกูอยู่ไหน สำเร็จ 2-3 นาทีจากตัวอย่างหนัง ไม่มีให้เห็นถึงการเอ่ยถึงช้าง เพราะจากที่ดูหนังสาดฉากแอคชั่นกันเต็มไปหมด ซึ่งก็คงได้แต่หวังว่า อย่าได้ทำการสานต่อภารกิจการตามหาช้างกันอีกเลยเถอะ กะอีแค่ภาคแรก จา พนม พระเอกนักบู๊เราก็โดนล้อกันเรื่อง ช้างกูอยู่ไหน จนเมื่อยปากอยู่แล้ว
นี้ถ้าจา พนมอารมณ์ไม่ดี แล้วดันมีคนไปกวนตีนใส่ทำนอง ช้างกูอยู่ไหน คาดว่าคนถามจากที่จะได้เจอช้าง อาจจะได้เจอส้นตีนกันแทนเอา
ช้างกูอยู่ไหน ไม่สำคัญ เพราะไอ้ที่สำคัญ ณ ตอนนี้ช้างของเราๆ ที่จังหวัดลำปาง กำลังกวักมือเรียกผมให้เข้าไปชมการแสดงกันอยู่
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าที่ไหน มีกันทีเดียวแหละในลำปาง กับศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร ศูนย์ฝึกลูกช้างที่เป็นแห่งเดียวและแห่งแรกของโลก ที่ก่อตั้งเมื่อปี พศ. 2536 มีช้างในความดูแลมากกว่า 50 เชือก
บรรยากาศของเช้าวันจันทร์ซึ่งเป็นวันที่ผมไปเที่ยว บรรยากาศค่อนข้างจะเงียบซักนิดนึง (ก็วันจันทร์คนเขาพากันทำงานนิ ส่วนเด็กๆก็พากันไปเรียน) แถมมีอารมณ์ง่วงกันนิดๆ จนอยากจะไปเข้าเฝ้าพระอินทร์กันตั้งแต่เช้าเลย
สอดส่ายสายตามองหาอะไรกินแก้ง่วง ปกติไม่ใช่ผู้ฝักใฝ่หลงใหลในรสชาติกาแฟซักเท่าไหร่ แต่วันนั้นคงต้องขอยอมให้มันผ่านลงกระเพราะ สุดท้ายไปเจอร้านขายกาแฟสดข้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเข้า เป็นอันว่าจัดไปกัน 1 แก้ว ตาแทบจะสว่างกันขึ้นมาทันที
จะไม่สว่างได้ไงครับ ก็สาวร้านกาแฟน้องเขาออกจะน่ารักพูดหวานซะขนาดนั้น อู้กำเมืองเหนืออีกด้วย ผมนิหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะเลย ประหนึ่งเหมือนโดนมนต์สะกดให้แน่นิ่ง
หลังจากตกตะลึงสาวร้านกาแฟได้ซักพัก ชีพจรเข้ารูปเข้ารอย ได้กาแฟเย็นมาดูดกินแก้ง่วง 1 แก้ว ก็ได้เวลาไปดูการแสดงน้องช้างกัน ผมเดินไปจ่ายตังค์ซื้อบัตรเข้าชมราคา 100 บาท ส่วนราคาบัตรสำหรับไอ้หนูตัวเล็กๆ 50 บาท
ระหว่างรอเวลาแสดง ผมเดินดูอ่านป้ายความรู้เรื่องเกี่ยวกับช้างต่างๆนานา ตรงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เมื่อใกล้ถึงเวลาก็กระโดดขึ้นรถโดยสารที่จะนำทางพานักท่องเที่ยวไปยังที่แสดงของน้องช้างกันทันที
รอบการแสดงช้างที่นี้จะมีอยู่ 3 รอบครับ รอบแรกเวลา 10:00 น. รอบสอง 11:00 น. และรอบสุดท้าย 13: 30 น. ในส่วนของการแสดงช้างอาบน้ำจะเริ่มกันตอน 09:45 น. และรอบสองเวลา 13:15 น. ครับ โดยตั๋วในมือผมระบุไว้ว่า มึงสามารถดูช้างอาบน้ำ การแสดงความสามารถช้าง โรงพยาบาลช้าง และการดูแลลูกช้าง ภายในระยะเวลาเกือบสามชั่วโมง
นั่งรถมาลงตรงแถวลานแสดงช้างที่อยู่ด้านในเข้ามาอีกของศูนย์ ผมดูช้างอาบน้ำ 15 นาที แบบไม่มีการเซ็นเซอร์ เหล่าควาญช้างก็นำช้างของตัวเองแต่ละเชือกไปยังลานแสดง
ผมเผลอไปมองเห็นสาวยุ่นสองคนกดชัตเตอร์กับน้องช้างไม่หวาดไม่ไหวดูตื่นเต้นมาก ตั้งแต่ช้างอาบน้ำจนไปถึงเวลาช้างจะไปลานแสดง ดูเหมือนหล่อนทั้งสองเกิดมาประมาณว่าเพิ่งเคยเจอช้างครั้งแรกในชีวิต แหมเจอครั้งแรกก็ไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นขนาดนั้นก็ได้นิครับ เก็บอาการไว้หน่อยก็ได้
แต่ด้วยความสะเหร่อปนตื่นเต้นออกหน้าออกตาของเธอทั้งสอง ผมอนุโลมให้ไม่หงุดหงิดก็แล้วกัน ในฐานะเธอทั้งสองหน้าตาน่ารักดีมั่กมาก ฮ่าๆๆ
พอถึงลานแสดงช้าง น้องช้างก็เข้าแถวทำท่าสวัสดีตามสไตล์ช้าง ก่อนจะแสดงความสามารถกันไป ไม่ว่าจะลากซุง โยนบอล เล่นดนตรี วาดรูป โดยมีเสียงบรรยายประกอบจากไกด์หนุ่มและไกด์สาวถึง 3 ภาษาคือ ไทย จีน อังกฤษ ให้เลือกฟังในระบบ Dolby Digital สลับกันไปมาให้เวียนหัวเล่น เวียนหัวนิคือ ไม่รู้กูจะฟังภาษาอะไรครับ แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่านักท่องเที่ยวมันมีทั้งไทยและเทศ
นักท่องเที่ยวตรงลานแสดงช้างถือว่าเริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อยๆครับ นับตั้งแต่เริ่มการแสดงมา มีทั้งมากันเป็นครอบครัว เพื่อนฝูง หรือว่าเป็นคณะทัวร์ก็มี
จบจากการแสดงที่นี้ ก็มีโรงพยาบาลช้าง และการดูแลลูกช้างให้ดูกันต่อ ซึ่งส่วนใหญ่ดูจะไม่ค่อยมีใครสนใจดู ประมาณว่าดูช้างแสดงจบก็เป็นกลับกันเลย ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ฮ่าๆๆ
สำหรับใครอยากอยู่ต่อที่นี้นานๆแบบพักค้างคืน เขาก็มีกิจกรรมโฮมสเตย์ของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย และกิจกรรมเดินป่า ให้เลือกโปรแกรมกัน จะหนึ่งวัน สองวันและสามวัน ก็แล้วแต่จะสะดวกกันไป หรือจะอยู่กันยาวๆไปเลยก็ยังได้
ส่วนผมขอปลีกขับรถมุ่งหน้าสู่จังหวัดลำพูน เพื่อไปผจญภัยกับการท่องเที่ยวสถานที่ต่อไป...