มันดีกว่าการนั่งจ่ออยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นไหนๆเลยว่ะ ผมพูดอยู่คนเดียวในระหว่างที่ตัวเองกระโดดลงไปในน้ำตกวังทอง พร้อมเสื้อชูชีพห่อหุ้มตัว มีหมวกนิรภัยใส่กันน็อค
ตู้มมมมมมมม !!! เย็นซาบซ่าถึงใจ ชนิดไม่ต้องทาแป้งเย็นตรางูแต่อย่างใดครับ
ก่อนจะเล่าเรื่องจากตรงที่ผมกำลังแช่ตัวอยู่ในน้ำคือ น้ำตกวังทอง ขออนุญาตบิดเข็มนาฬิกากลับไปเมื่อตอนเช้ากันก่อน มาเป็นไงมาไง
ผมมีนัดกับ Cliff Top Adventures Tour ในช่วงเช้าของวันตรงถนนช้างม่อย โดยเป้าหมายของผมพร้อมคณะอยู่ที่ อ.พร้าว น้ำตกวังทอง แน่นอนพวกเราพากันไปโรยตัวที่นั้น
ก่อนออกเดินทางมีกรอกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ กับทาง Cliff Top Adventures Tour จากนั้นเมื่อได้เวลา ก็มุ่งหน้าสู่ อ.พร้าวอย่างไม่รีรอ
ระหว่างได้เสียงเพลง Whistle งานของ Flo Rida ขับกล่อมดับความเงียบในจังหวะสนุกครึกครื้น จนเกือบสี่โมงเช้า เป็นอันว่าถึงเป้าหมาย สภาพป่าโดยรอบแถวนั้น เพิ่งโดนไฟป่าแผดเผามาใหม่ๆ สังเกตได้จากมีใบไม้ใบหญ้าบางอย่างกำลังผลิใบขึ้นมาเพราะเพิ่งโดนฝนห่าใหญ่ตกไปหลายวันก่อนหน้านี้
เวลาและวารีไม่เคยคอยใคร เจ้าหน้าที่ของทาง Cliff Top Adventures Tour ขนอุปกรณ์โรยตัวเสร็จปุ๊บปั๊บ ก็ได้เวลาสอนวิธีโรยตัวกัน ถามว่าทำไมต้องสอน เพราะคอนเซ็ปต์ที่นี้เขาเน้นอยากให้ลูกทัวร์ทุกคน ปฏิบัติเอง เล่นเอง ทั้งนี้เมื่อลูกทัวร์สำเร็จในภารกิจ ความภูมิใจย่อมมีมากกว่าการที่ต้องคอยได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา ในระหว่างการโรยตัว
ใจความหลักสำคัญที่สอนเลยคือ การผูกเชือกโรยตัว พร้อมทักษะการโรยตัวจากหน้าผาหรือน้ำตก ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการโรยตัว จังหวะการปล่อยเชือก การรักษาสมดุลของร่างกายจากการวางขาที่ต้องกางอย่างพอดี การคิดข้ามชอตไปถึงจังหวะจะวางเท้าครั้งต่อไปเวลาปล่อยเชือก ซึ่งถามว่ายากมั้ยก็คงตอบไปว่าไม่ยากจนเกินไป ขอแค่อยากเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เป็นพอ ฮ่าๆๆ
พอทุกคนเริ่มเข้าที่เข้าทางก็ได้เวลาสตาร์ทความมันส์ ผมเป็นคนแรกที่ต้องเปิดซิงก่อนใคร สารภาพจากใจ ความสูงไม่มีผลอะไรกับความกลัวผม นาทีนั้น กลัวอยู่อย่างเดียว กลัวจะไม่ได้สนุกครับ ฮ่าๆๆ
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น บางจังหวะโรยตัวอาจมีเซไปซ้ายที ขวาที แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีอะไรเป็นปัญหา เพราะเมื่อถึงเวลาจังหวะการปล่อยเชือก การวางเท้ามันจะมาเองโดยอัตโนมัติ
ที่เหลือจากนั้นคือความสนุก ซึ่งได้สัมผัสทั้งจากการโรยตัวและการกระโดดเล่นน้ำ และน้ำตกที่นี้ก็ธรรมดาซะที่ไหน มันเป็นน้ำตกหินปูนกันนะครับ น้ำเบื้องล่างนิใสแจ๋วกันเลยทีเดียว
พวกเราโรยตัวกันสองรอบจากตรงน้ำตกวังทอง ก่อนจะผ่อนคลายเล่นน้ำซักเล็กน้อยให้เย็นซ่า จากนั้นก็ได้เวลาปฏิบัติภารกิจต่อไปก็คือการเดินป่ากัน
กิจกรรมเดินป่า แรกๆ ผมคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรมาก เพราะจากสภาพป่ามันเพิ่งถูกไฟไหม้อย่างที่บอก ความตื่นเต้นคงไม่มีแมวน้ำอะไรมาก แต่พอเอาเข้าจริง เจ้าหน้าที่ของ Cliff Top Adventures Tour กลับไม่ได้สนใจตรงจุดนั้น ก็จุดสนใจเขาคือการ สอดไส้ใส่ความรู้เกี่ยวกับเดินป่าต่างๆ ให้ฟังไประหว่างทาง
อย่างการทาน้ำมันกันผึ้ง กันแมลงกับลูกทีมทุกคน การบรรยายสภาพของป่า การออกหากินของหมูป่าที่นี้ ที่อาศัยของหนอนรถด่วน การตรวจดูความอันตรายของงูเห่าและงูจงอ่างในป่า การเอาตัวรอดกรณีติดป่าต้องทำไงถ้าคุณไม่มีน้ำดื่ม และข้อมูลหลายอย่างอีกเพียบ
เกือบบ่ายโมง พวกเราเดินป่าจากน้ำตกวังทองทะลุมาถึงน้ำตกบัวตองและน้ำพุเจ็ดสี ก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้นภารกิจการผจญภัยครั้งนี้อย่างครบถ้วนกระบวนความ ก่อนจะพากันนั่งโซ้ยมื้อเที่ยงอย่างหิวกระหาย และโบกมือบ๊ายบายกลับสู่มาตุภูมิ
สรุปโดยรวมก็ต้องบอกว่าเป็นทริปที่สนุกเอาเรื่อง เจ้าหน้าที่ดูแลดี เป็นกันเอง อุปกรณ์เซฟตี้ได้มาตรฐาน สถานที่พาไปสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ (เสียดายช่วงผมไปมันมีไฟป่า) ราคาทัวร์คุ้มค่า อย่างทริปแบบผมราคาจะตกที่ 1,540 บาท ต่อคน ส่วนทริปแบบอื่นๆก็มีให้เลือกกันหลากหลาย ราคาก็แตกต่างกันไปแล้วแต่สถานที่ ทั้งนี้ใครสนใจก็ลองติดต่อไป เบอร์ 081-6039306 และ 083-4755457 หรือ
www.clifftopadventure.com ได้ครับ
ตบท้ายเห็นเจ้าหน้าที่เขาฝากมาบอกว่า ถ้าอยากโรยตัวแบบมันส์ๆ เน้นตื่นเต้นไม่เหมือนใคร ต้องมาที่ Cliff Top Adventures Tour กันที่เดียวในเชียงใหม่ครับ