มีพี่คนนึงที่ผมรู้จักผ่านตัวหนังสือ แกบอกว่า พวกที่ชอบแชร์โพสต์ธรรมะ ในชีวิตจริงถือศีล 5 ได้เกิน 3 ข้อก็เก่งแล้วอ่านแล้วผมแม่งขำกระจาย ใช่อย่างที่แกพูดจริงๆ เพราะถ้ามึงเก่งจริง ก็ทำให้ได้ซิว่ะ แล้วค่อยมาบอกชาวบ้าน เพราะอย่าลืมว่าพุทธศานา คือการปฏิบัติจนเห็นผล เพื่อแสดงให้คนรู้ หาใช่การบอกกล่าวชาวบ้านทั้งๆที่ตัวเองก็ยังทำไม่ได้
ก็แหม จะเอาอะไรเยอะล่ะครับกับสังคมไทย กะอีแค่กดไลค์ในเฟซบุ๊ค ก็ยังมีคนเชื่อว่ามันได้บุญ ได้ลาภ พร้อมชีวิตนี้มีแต่ความสุขสันต์เลย
ต่อจากนี้ไปในอนาคต คาดว่าคงจะมีแต่คนที่บรรลุเป็นพระอรหันต์กันซินะ
.
นอกเรื่องมาเยอะไม่ใช่อะไรหรอก พอดีผมเกิดอาการหงุดหงิดเฉยๆ เวลาผมเจอคนประเภทนี้ เพราะทั้งๆที่จริง เรื่องที่พวกมึงควรจะทำ คือการเข้าวัด ฟังธรรม ถือศีล ทำตัวให้เป็นคนดี ละเว้นความชั่ว
ใครจะกดไลค์แล้วได้บุญก็กดไป ส่วนใครไม่อยากกดก็ตามผมมา เพราะผมจะพาคุณผู้อ่านมากดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์เพื่อมาทำความรู้จักกันกับวัดคู่เมืองปาย ที่เรียกได้ว่ามีความสำคัญกันอย่างยิ่ง และวัดที่ว่านั้นก็คือ วัดหลวง
วัดหลวงตั้งอยู่กลางใจเมืองปาย ในเขตเทศบาลตำบลปาย บนถนนเขตเขลางค์ ใกล้ตลาดเทศบาลปาย หากเข้ามาด้านในบริเวณวัดท่านจะเห็นว่ามีเจดีย์องค์ใหญ่แบบศิลปะของไทยใหญ่ ตั้งตระหง่านสวยงามอยู่ในลานวัด โดยบริเวณวัดจะมีลานจอดรถให้แก่นักท่องเที่ยวได้จอดรถกันอย่างสะดวกสบาย
ตามประวัติเล่าว่า วัดหลวงเป็นวัดใหญ่และเป็นวัดประจำอำเภอปาย เป็นที่ทำการของเจ้าคณะอำเภอปายมาตั้งแต่สมัยเจ้าฟ้าปกครองเมือง สันนิษฐานว่าคงจะสร้างพร้อมกับที่เจ้าฟ้าผู้ครองเมืองปายได้ย้ายเมืองจากที่เดิม คือตำบลเวียงเหนือ แล้วมาตั้งเมืองใหม่ในพื้นที่ตำบลเวียงใต้ในปัจจุบัน แต่เดิมบริเวณที่สร้างวัดนี้ เป็นวัดร้างมาก่อนแล้ว โดยมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ก่อด้วยอิฐถือปูนซึ่งมีสภาพทรุดโทรมประดิษฐานอยู่
ในปี พ.ศ. 2442 พระยาดำรงเจ้าฟ้าพ่อเมืองปายได้ถึงแก่พิราลัยไป บุตรของพระยาดำรงคือพระยาราชก็ขึ้นปกครองเมืองแทน และได้นำราษฏรเมืองปายก่อสร้างพระเจดีย์ โดยทำการก่อสร้างครอบองค์พระพุทธรูปเป็นระยะเวลา 3 ปี พระเจดีย์จึงเสร็จเรียบร้อย จากนั้นพระยาราชเสมาจึงทำการยกฉัตรเจดีย์เมื่อปี พ.ศ. 2444 ซึ่งในสมัยนั้นมีพระภิกษุออ หรือครูบาออ ไม่ทราบฉายาเป็นเจ้าอาวาส และเป็นเจ้าคณะอำเภอปกครองคณะสงฆ์ ซึ่งในช่วงนั้นวัดวาอารามมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก
ดูสภาพค้อนครับ ตีระฆังจนทรุดโทรม
แมวคือสิ่งมีชีวิตที่พบเยอะที่สุดในวัดนี้
อีกหนึ่งบทบาทอันสำคัญของครูบา นอกจากการเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในด้านพุทธศาสนาแล้ว มีการกล่าวโดยไม่ยืนยันว่า ในช่วงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองจากเจ้าฟ้ามาเป็นนายอำเภอ ในระหว่างช่วงเวลาที่ว่างพ่อเมืองอันเนื่องมาจากการถึงพิราลัยของเจ้าฟ้า เมืองปายก็ได้ครูบาออมาปกครองเมืองแทนเจ้าฟ้าพ่อเมืองนี่แหละ ก่อนครูบาจะมอบอำนาจให้แก่นายอำเภอปกครองดูแลตามระเบียบทางราชการ ซึ่งถือได้ว่าครูบาท่านมีบทบาทสำคัญ และมีส่วนช่วยให้การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครอง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
มาปายเที่ยวถนนคนเดินเสร็จแล้ว ลองแวะมาเที่ยวเพื่อสัมผัสกับวัดหลวง วัดคู่เมืองปายดู ก็เป็นอีกหนึ่งทริปที่น่าสนใจดีนะครับ