แป๊ะแปดนิ้ว แหล่งรวมอาหารจีนระดับสุดยอด

[max]

          "ทั้งนี้เป๋าฮื้อชั้นดี สังเกตได้ไม่ยากด้วยการใช้มีดนั้นกรีดลงไปที่เนื้อจะมีเสียงดังคลิกซึ่งบ่งบอกได้ว่าเนื้อข้างในกรอบแน่นมากหั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำคู่กับผักโสภณสดๆ เติมเห็ดหอมลงไปเพิ่มกลิ่นหอมของน้ำซุปที่ราดมาเนื้อนุ่มหนุบหนับ เคี้ยวเพลินกับรสชาติที่อร่อยลิ้นแม่รำเพยกับป้าอบเชยขอยกตำแหน่งสุดยอดให้กับเป๋าฮื้อเลยค่ะ.

          ว่ากันว่าในความเป็นเลิศของสรรพสิ่งยิ่มทีที่สุขของที่สุดให้มนุษย์เราได้แสวงหาอยู่เสมอและอาหารจีนก็เป็นอีกหนึ่งในความเป็นเลิศที่ให้เราได้ค้นหารสชาติที่แฝงอยู่ภายใต้วัตถุดิบที่เลอค่า อย่างเป๋าฮื้อ หูฉลาม

          เคยมีคนกล่าวว่า ถ้าพูดถึงสุดยอดวัตถุดิบของอาหารจีนต้องยกให้กับ หูฉลาม ปลิงทะเล กระเพาะปลาสด รังนกแล้วอีกหนึ่งวัตถุดิบที่มากันเหนือเซียนก็ต้องเป็นเป๋าฮื้อนี่แหล่ะค่ะซึ่งถือได้ว่าเป็นสุดยอดวัตถุดิบที่ทั่วโลกยอมรับ ยิ่งถ้าเป็นของคุณภาพเกรดเอยิ่งแล้วใหญ่จานหนึงนี่ราคาเป็นหมื่นเป็นแสนกันเลยทีเดียว

          "แป๊ะ แปดนิ้ว" ก็เป็นแหล่งรวมสุดยอดอาหารจีนคุณภาพดีที่มีให้คุณผู้อ่านได้เลือกกันอย่างจุใจหลากหลายราคาตามแต่วัตถุดิบที่สั่งกันซึ่งหลังจากที่ย้ายบ้านใหม่มาอยู่บนทำเลที่เห็นกันได้ชัดมากยิ่งขึ้นบริเวณด้านหัวมุมแยกประตูช้างเผือกคูเมืองด้านใน บนถนนพระปกเกล้า พร้อมกับพื้นที่ให้บริการที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้นก็ทำให้หลายต่อหลายคนได้มีโอกาสแวะเวียนมาใช้บริการกันอย่างคับคั่ง

          เฮียแป๊ะ...วัย 60 นิดๆ กับฉายาแปดนิ้ว ยิ้มอารมณ์ดีพูดถึงประวัติความเป็นมารวมไปจนถึงประวัติของอาหารว่าแต่ละอย่างแต่ละเมนูนั้นมีความละเอียดละเมียดละไมขนาดไหนกว่าจะออกมาเป็นเมนูที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ อย่าง นางเอกซึ่งเฮียแป๊ะบอกว่าเป็นวัตถุดิบที่สุดยอดเพราะมีความอร่อยอยู่ในตัวไม่ต้องปรุงเพิ่มก็มีรสชาติให้น่าติดตามอย่างเป๋าฮื้อ....ที่เลือกที่จะเสกสรรปั้นแต่งเป็นเมนูไหนก็ดึงดูดความสนใจไปเกินร้อยกันเลยทีเดียวอย่างวันนี้เฮียแป๊ะเลือกเป๋าฮื้อน้ำแดงมาให้ได้ชิมกัน ....ยกมาร้อนๆ ช่วงบ่ายนิดๆ ช่วงแดดร่มลมตกพอดีกลิ่นหอมฉุยโชยออกมาชวนให้ลิ้มลองกับเนื้อนุ่มๆ ของเป๋าหื้อที่คัดกันมาเป็นพิเศษเรียกว่ายอมเฉือนเนื้อตัวเองเพื่อให้ลูกค้าได้ทานของอร่อยกันเลยทีเดียว

          พูดถึงเป๋าฮื้อนั้นส่วนใหญ่เค้านิยมใช้เป๋าฮื้อกระป๋องตราพวงมาลัยเรือจากเม็กซิโกเพราะถือว่ามีมาตรฐานดีที่สุด ซึ่งเวลาที่เปิดกระป๋องออกมาเนื้อจะไม่ย่อย ไม่ดำส่วนสนนราคาก็แพงหูฉี่ ถึง 2,000 ขึ้นไปกันเลยทีเดียว แต่เฮียแป๊ะบอกว่าเพื่อลูกค้ายอมเฉือนเนื้อตัวเองนั่นแหล่ะค่ะ....ทั้งนี้เป๋าฮื้อชั้นดี สังเกตได้ไม่ยากด้วยการใช้มีดนั้นกรีดลงไปที่เนื้อจะมีเสียงดังคลิกซึ่งบ่งบอกได้ว่าเนื้อข้างในกรอบแน่นมากหั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำคู่กับผักโสภณสดๆ เติมเห็ดหอมลงไปเพิ่มกลิ่นหอมของน้ำซุปที่ราดมาเนื้อนุ่มหนุบหนับ เคี้ยวเพลินกับรสชาติที่อร่อยลิ้นแม่รำเพยกับป้าอบเชยขอยกตำแหน่งสุดยอดให้กับเป๋าฮื้อเลยค่ะ....และใช่ว่าจะมีแต่เป๋าฮื้อน้ำแดงเท่านั้นจองลองเป็นขาเป็ดเป๋าฮื้อ หรือเป๋าฮื้อยำที่นี่ก็ทำออกมาเด็ดไม่แพ้ที่ไหนๆ ด้วยประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญในเรื่องการทำอาหารมากว่า 30 ปีของเฮียแป๊ะ การันตรีกันได้เลยค่ะ

          เสริฟมากันอย่างต่อเนื่องกับกุ้งพล่า ที่ปกติเรามักคุ้นเคยกับกุ้งที่นำมาพล่ากันแบบดิบๆ เด้งได้อะไรประมาณนี้แต่นี่เราจะนำเอากุ้งมาลวกให้สุกให้เนื้อแน่นฟูจากนั้นก็ราดกันด้วยน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่ออกรสชาติแบบส่าๆ ลิ้นนิดหนึงด้วยการผสมหอมแดง ตะไคร้ พริกสด และพริกเผาแล้วนำมาโขลกให้เข้ากันราดบนเนื้อกุ้งที่ลวกมาร้อนๆ เปิดอกให้เห็นเนื้อกันอย่างชัดเจนแซ่บซ่าถึงใจ

          หรือจะเป็นเมนูที่ต้องบอกว่าหลายคนรู้จักหรืออาจจะมีโอกาสได้ลิ้มรสมากันบ้างแล้วกับหูฉลามน้ำแดง ที่มีรสชาติเข้มข้นถูกปากแต่กว่าจะออกมาหน้าตาน่าทานนุ่มหอมอย่างนี้ได้ต้องเคี่ยวกันไม่ต่ำกว่า 2 วันเลยทีเดียวเพราะโดยลักษณะเด่นของหูฉลามและเนื้อฉลามนั้นค่อนข้างที่จะมีกลิ่นสาปที่ฉุนเพราะฉะนั้นกว่าที่จะออกมามีรสชาติกรุบๆ นุ่ม และหอมเครื่องอย่างนี้ได้เรียกว่าเคี่ยวกันข้ามวันข้ามคืนแถมต้องดูแลกันอย่างดีอีกต่างหากเวลาเสริฟก็มากันเป็นหม้อๆ แต่ขนาดพอดีสำหรับหนึ่งทีเรียกว่ายกมากันร้อนๆ ให้ได้ดื่มด่ำกับหูฉลามรสเด็ดของที่นี่กันเลยทีเดียว

          ส่วนใครที่รักสุขภาพจะเลือกเป็นแพะตุ๋นมาลองชิมก็น่าสนใจไม่เลวซึ่งพูดถึงแพะนี่เฮียแป๊ะบอกว่าต้องมีวิธีเลือกกันตั้งแต่ก่อนเชือดเลยทีเดียวเพราะไม่เช่นนั้นเนื้อที่ได้ออกมาจะมีกลิ่นสาป ไม่ชวนรับประทานซึ่งกว่าจะออกมาเป็นแพะตุ๋นได้นั้นระยะเวลาในการเคี่ยวนั้นก็แทบจะไม่แพ้หูฉลามเลยทีเดียวแถมยังต้องใช้ความอดทนเคี่ยวไฟอ่อนๆ ให้เนื้อค่อยๆ สุดแต่ยังคงอยู่ในรูปเนื้อชิ้นโตแต่นิ่มยุ่ย ทานง่ายรสชาติที่ได้เหมือนกับเวลาเราทานเนื้อวัว แต่มีความหอมที่แตกต่าง ต้องลองค่ะถึงจะรู้

          ปิดท้ายกันด้วยข้าวผัดปูที่ดูเหมือนธรรมดาแต่ใครจะรู้ว่าแม้ผ่านการชิมมาสี่ซ้าห้าอย่างแล้วยังสามารถทานข้าวผัดจานโตได้หมดเกลี้ยงนั่นเพราะความหอมที่กลมกล่อมและลงตัวของเนื้อปูซุยๆ กับข้าวผัดที่แห้งได้ที่อันนี้เคล็ดลับเค้าบอกว่าอยู่ที่การใช้กระทะนี่แหล่ะค่ะทำให้ข้าวที่ได้ร่วนซุยไม่จับกันเป็นก้อนแต่ละเม็ดเคลือบไปด้วยความมันวาวหอมหวลชวนทานกันเสียจริง

          สำหรับสนนราคานั้นหลายคนเกรงว่าทานอาหารจีนกันทีคงกระเป๋าฉีกแต่นี่แป๊ะ..แปดนิ้ว อย่างที่บอกว่าเรายอมเฉือนเนื้อให้คุณผู้อ่านได้ลองทานของอร่อยๆ กันสนนราคาจึงเริ่มกันตั้งแต่ 25 บาทขึ้นไปเรียงรายไล่ตามวัตถุดิบที่คุณผู้อ่านเลือกแต่ที่แน่ๆ แค่ข้าวผัดปูจานเดียวก็ทำให้แม่รำเพยกับป้าอบเชยประทับใจกันสุดๆ เมนูเด็ดเมนูอื่นที่ยังซ่อนเร้นไม่ได้นำมาฝากคุณผู้อ่านกันวันนี้ก็คงต้องให้ลองไปชิมกันด้วยตัวเองเสียแล้วล่ะค่ะ...กับแป๊ะ แปดนิ้ว บนถนนพระปกเกล้า แยกประตูช้างเผือก (คูเมืองด้านใน) 11.00 - 21.00 น.ทุกวันไม่มีวันหยุด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม0-5321-2004 และ 0-8199-84550.


ข้อมูลจาก เชียงใหม่นิวส์

[APPLE LOBSTER PHUKET]

  แวะไปอุดหนุนน่ะค่ะ

[sexiestzz]

น่าไปลอง