ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
พฤศจิกายน 27, 2024, 08:35:14 AM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ประกาศ  โพสหัวข้อเดียวซ้ำๆ กัน รับสิทธิ์ โดนลบกระทู้ และโชคดีได้รับสิทธิ์แบนฟรี 90 วันครับ


จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  ข้อมูล ที่พักโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย  |  ใครๆ ก็มาเที่ยวสามเหลี่ยมทองคำ  |  หัวข้อ: สุวรรณโคมคำ อาณาจักรโบราณแห่งสามเหลี่ยมทองคำ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สุวรรณโคมคำ อาณาจักรโบราณแห่งสามเหลี่ยมทองคำ  (อ่าน 20261 ครั้ง)
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:06:50 AM »


สุวรรณโคมคำ อาณาจักรโบราณแห่งสามเหลี่ยมทองคำ


* 552000007716003.jpg (44.71 KB, 499x410 - ดู 4891 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2009, 11:09:35 AM โดย MR'DON » บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:13:27 AM »


อดีตเมืองสุวรรณโคมคำ ซึ่งต่อมากลายมาเป็นนครเชียงลาว นครเงินยาง หรือ นครเชียงแสน (เก่า) อยู่บริเวณเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว เขตหัวของ หรือ บริเวณที่เรียกว่าเขตสามเหลี่ยมทองคำทางฝั่งลาวเรานั่นเอง
 


* zIndo2009062634.jpg (89.54 KB, 450x300 - ดู 4026 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:14:57 AM »


ภาพรวบรวมจากแหล่งต่างๆ แสดงโบราณวัตถุซึ่งเป็นพระพุทธรูป กับซากวัดหรือวิหารที่ผุพัง และจารึกหิน โบราณวัตถุแห่งเมืองสุวรรณโคมคำเหล่านี้จำนวนหนึ่งสามารถมองเห็นได้จากฝั่ง อ.เชียงแสน


* zIndo2009062635.jpg (81.59 KB, 378x450 - ดู 4030 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:16:12 AM »


แผนที่แสดงที่ตั้งสังเขปเขตโบราณสถานเมืองสุวรรณโคมคำ
ฝั่งตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงรายของไทย ซึ่งครอบคลุมอาณาบริเวณกว้างขวาง


* zIndo2009062632.jpg (107.22 KB, 450x439 - ดู 4010 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:17:28 AM »


เมื่อพวกเราล่องเรือลงไปตามแม่น้ำโขงจากเมืองต้นผึ้งไปถึงท่าต่อง ซึ่งอยู่คนละฟากกับเมืองเชียงแสนใหม่ทางฝั่งไทยในปัจจุบัน หรือพวกเราไปทางบกทางตะวันออกประมาณ 5 กิโลเมตร พวกเราก็จะถึงสถานที่ที่เป็นใจกลางของเมืองร้างดังกล่าว คือ เขตบ้านดอนทาด และ บ้านร่มเย็น ซึ่งจะมีพระพุทธรูปปางสมาธิองค์มหึมาตั้งอยู่ที่นั่น


* 00666666.jpg (10.28 KB, 450x336 - ดู 3849 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2009, 11:26:02 AM โดย MR'DON » บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:23:03 AM »


“สุวรรณโคมคำ” อาณาจักรเก่าแก่อายุกว่า 1,000 ปี ที่ถูกแม่น้ำโขงแยกดินแดนอยู่ทั้งในฝั่งไทย และลาว


* 1248837469.jpg (118.62 KB, 587x440 - ดู 14374 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:25:17 AM »


      ที่ตั้งของเมืองต้นผึ้ง หรือ เมืองสุวรรณโคมคำร้างนั้นยังเป็นสุดเขตตะวันตกของประเทศลาว คือ ห่างจากเมืองห้วยทรายไปทางทิศตะวันตกประมาณ 40 กิโลเมตรทางอากาศ หรือ ทางน้ำ 60 กิโลเมตร และห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 375 กิโลเมตรทางอากาศ


* 00999999.jpg (17.5 KB, 450x336 - ดู 3806 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2009, 11:48:50 AM โดย MR'DON » บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:28:51 AM »


       เป็นโบราณสถานบรรจุร่องรอยทางประวัติศาสตร์แห่งโบราณนครเก่าแก่ เรียกว่า “นครสุวรรณโคมคำ” ซึ่งต่อมากลายมาเป็น นาคะนคร หรือ นครเชียงลาว นครเงินยวง (เงินยาง) หิรัญนคร แล้วก็ นครเชียงแสน (เก่า) จากการสำรวจเบื้องต้นในสถานที่ประมาณ 10,000 เฮคเตอร์ พบว่า มี โบราณสถาน 44 แห่ง และ สร้างโดยการก่ออิฐถือปูน ได้แก่ พระอุโบสถ พระธาตุ พระพุทธรูป บ่อน้ำ และ สถานที่อื่น ๆ สิ่งที่ยังคงความงดงาม และ ความสง่าตระการที่ยังเหลือให้เห็น รอดพ้นจากฝีโจรปล้นสมบัติทั้งลาวและไทยสมัยก่อน ก็ได้แก่ พระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างโดยการก่ออิฐถือปูน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ซึ่งมีความกว้างหน้าตัก 7.10 เมตร ความสูง 7.22 เมตร (ไม่รวมยอดเกศ) บ่าแต่ละข้าง 1.10 เมตร ด้านข้างตั้งแต่สะโพกถึงเข่า 3.60 เมตร นับว่าพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของประเทศลาว และ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากขนาดของพระพุทธรูปองค์นี้ ก็พอจะสันนิษฐานได้ว่า พระพุทธรูปองค์นี้คือพระพุทธรูปประจำวัดของพระราชวัง แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ปัจจุบันคงเหลือแต่ร่างองค์พระพุทธรูป ส่วนพระหัตถ์ พระเกศ พระนาภี และ ฐานพระ ถูกโจรขุดเจาะเอาของมีค่าไปหมด


* 44444.jpg (79.93 KB, 499x380 - ดู 5678 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2009, 12:02:02 PM โดย MR'DON » บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:29:34 AM »


         นอกจากพระพุทธรูปองค์นี้แล้ว ยังมีอีกองค์ที่ใหญ่เกือบเท่ากัน แต่พังทลายไปเนื่องจากการกัดเซาะของน้ำ นั่นก็คือพระล้านตื้อ หรือ พระรัศมีทองสำริด ที่จมอยู่ใต้แม่น้ำโขงที่ดอนแห้งของฝั่งลาว ยังคงเหลือแต่พระเจดีย์หลายองค์ให้เห็น แต่น่าเสียดายที่ถูกทำลายจากการขุดเจาะเพื่อเอาของมีค่า ยังคงเหลือบางองค์เท่านั้นที่ตั้งเด่นให้เห็น


* 53_08-09-06-19-44-29.jpg (72.3 KB, 500x667 - ดู 642 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2009, 12:03:10 PM โดย MR'DON » บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:30:21 AM »


       ปูชนียสถานที่ยังคงหลงเหลืออยู่นี้ สามารถสันนิษฐานได้ว่า ส่วนใหญ่ มาจากยุคของนครเชียงแสน ในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ซึ่งพระองค์ได้ทรงรับสั่งให้สถาปนาบูรณะให้เป็นนครที่สวยสดงดงามบนสองฝั่ง แม่น้ำโขง โดยมีศูนย์กลางของเมืองอยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ซึ่งคือที่เมืองต้นผึ้งนั่นเอง


* 1111.jpg (87.23 KB, 499x316 - ดู 4119 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2009, 12:04:15 PM โดย MR'DON » บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:31:04 AM »


นครดังกล่าวถูกทำลายจากการรุกรานของกองทัพพม่า ในรัชกาลของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชนั้นเช่นกัน อันเป็นสาเหตุให้ดินแดนล้านนาถูกยึด และถูกแยกออกจากดินแดนล้านช้างในเวลาต่อมา ต่อจากแนวเขาเล็กๆ ตั้งทางด้านตะวันตกของนครร้างที่ทอดยาวจากทางเหนือไปทางใต้นั้น สังเกตเห็นมีคูเมือง ลึกและกว้างประมาณ 10 กว้างเมตร ทอดยาวจนถึงฝั่งแม่น้ำโขง มีคันคูสูงเลียบทางฝั่งตะวันออกของคูเมือง ซึ่งก็คือทางตะวันตกของตัวนครนั่นเอง จึงเข้าใจได้ว่า นั่นเป็นแนวคูสู้รบและกำแพงป้องกันกองทัพของข้าศึก


* 2222.jpg (52.37 KB, 498x355 - ดู 3857 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2009, 12:05:20 PM โดย MR'DON » บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:31:58 AM »


ประวัติความเป็นมาของเมืองสุวรรณโคมคำ กว่าจะมาถึงนครเชียงแสน

      ตำนานของนครโยนก ก็คือตำนานลี่ผีของเจ้าคำหมั้นวงกดรัตนะได้กล่าวไว้ มีข้อความดังนี้ :
พระเจ้าสิริวงสา กษัตริย์ของนครโพธิสารหลวง (นครโคตปูระ หรือ โคตบูร หรือ สีโคตรตะบอง เขตเมืองท่าแขกในปัจจุบัน) มีพระราชบุตร 2 พระองค์ องค์แรกมีพระนามว่า อินทรวงศา และ องค์น้องพระนามว่า ไอยกุมาร เมื่อพระบิดาสวรรคต ราชโอรสองค์โตก็ขึ้นครองราชย์สมบัติ และองค์รองเป็นมหาอุปราช พระยาอินรวงศามีพระโอรส ทรงพระนามว่า พระยาอินทปฐม และพระยาไอยกุมารมีพระธิดา ทรงพระนามว่า นางอูรสา และ พระโอรส พระธิดาทั้งสองพระองค์ได้อภิเษกสมรสกัน ครั้นพระยาอินทรวงศาสวรรคต พระยาอินทปฐมกุมาร ก็ขึ้นครองราชย์สมบัติแทน


* 53_08-09-06-19-50-41.jpg (83.53 KB, 500x667 - ดู 590 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2009, 12:06:05 PM โดย MR'DON » บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:32:35 AM »


     เมื่อนั้น พระยาไอยกุมาร ผู้เป็นอาและเป็นพ่อตา ได้สละตำแหน่งมหาอุปราช แล้วพาบริวารเดินเรือกลับขึ้นตามแม่น้ำโขง เป็นเวลา 3 เดือน จึงถึงเกาะเขิน ซึ่งตั้งอยู่ด้านซ้ายปากแม่น้ำกก ทางทิศตะวันตก พระยาไอยกุมาร จึงตัดสินใจตั้งราชนครที่เกาะเขิน อันประกอบด้วยครัวเรือนเบื้องต้น 3,000 ครัวเรือน
บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:33:30 AM »


     ขณะนั้นข่าวดีก็ได้มาถึงพระองค์ว่า ราชธิดาของพระองค์ได้ให้ประสูติพระโอรส ที่มีเดชานุภาพตั้งแต่ประสูติ และต่อมาก็เกิดอภินิหารขึ้นหลายอย่างในราชสำนักนครโคตรปูระ (โคตรบูร) อันเป็นสาเหตุให้เสนาอามาตย์ และ ไพร่ฟ้า กลัวว่าจะเกิดภัยพิบัติทำให้บ้านเมืองล่มจมได้
บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:34:13 AM »


     เมื่อเสนาอามาตย์เอาความขึ้นทูลถวายพระบิดาผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน พระองค์เลยทรงรับสั่งให้เอาพระมเหสีและราชบุตรใส่แพลอยน้ำ ครั้นเมื่อพระเจ้าไอยกุมารทรงทราบเรื่องนี้ ก็เสียพระทัยเป็นยิ่งนัก จึงได้ทรงรับสั่งให้ไพร่ฟ้าราษฎรทำการบวงสรวงจุดธูปเทียน โคมไฟ และ ประทีป บูชาพญานาค ให้สว่างทั่วแม่น้ำโขงเป็นเวลา 7 วัน 7 คืนเพื่อขอให้พญานาคชูเอาเรือของพระธิดาและองค์กุมารน้อยไว้ไม่ไหลสู่ลงทะเล (ตามตำนานบอกว่า พญานาคได้สร้างลี่ผีขึ้น จึงปรากฏเป็นดอนขี้นาค เพื่อกั้นแม่น้ำโขง ทำให้แพองค์กุมารน้อยไหลขึ้นเหนือจนถึงเกาะเขิน)
บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:34:44 AM »


การที่บวงสรวงพญานาคโดยการจุดประทีป โคมไฟ ธูปเทียนบูชาไหลไปตามแม่น้ำโขงนี้เอง จึงก่อให้เกิดประเพณีการไหลเรือไฟของลาวครั้งแรก และ ปฏิบัติกันตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และด้วยเหตุผลเดียวกันนี้เอง ชุมชนใหม่ที่ตั้งขึ้นบนเกาะเขินนั้น จึงได้รับการขนานนามว่า เมืองสุวรรณโคมคำ ซึ่งได้มาจากพระนามขององค์กุมารน้อย ซึ่งมีพระนามว่า สุวรรณมุขทวาร และชื่อของพิธีจุดโคมบวงสรวงพญานาค ซึ่งเรียกว่า โคมคำ
บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:35:32 AM »


       เมืองสุวรรณโคมคำนั้น ตั้งขึ้นในสมัยใด และเชื้อกษัตริย์เมืองโพธิสารหลวงนั้นเป็นชาติพันธุ์ใด ?
ตามตำนานของประเทศศรีลังกา ซึ่งท่านฟรังซิสการเย เขียนไว้ในหนังสือการสำรวจแม่น้ำโขงของท่าน ในศตวรรษที่ 19 กล่าวไว้ว่า เมืองสุวรรณโคมคำนั้นปรากฏตัวอยู่ในศตวรรษที่ 5 ของคริสตกาล และตามตำนานน้ำท่วมโลก ซึ่งได้กล่าวถึงพระยาศรีสัตนาคที่ครองเมืองหนองกระแสแสนย่าน ได้นำกำลัง 7 โกฏิ ( 7 พันล้าน) ยกลงมาตามแม่น้ำโขง และเป็นต้นกำเนิดของนาค 15 ตระกูล ในหลวงพระบาง และต่อมาชาวเมืองโพธิสารหลวง (ศรีโคตรตะบอง หรือ โคตรบูร) นั้นเป็นเชื้อขอม
บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:36:38 AM »


      ตำนานยังบอกว่า เมืองสุวรรณโคมคำนั้น เติบโตอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น บ้านเรือนของไพร่พลก็มีถึง 100,000 หลัง

      ครั้งต่อมา เมืองสุวรรณโคมคำมีการประพฤติไม่ซื่อสัตย์ต่อพ่อค้า ซึ่งเป็นพวกนาคชาวหลวงพระบาง ทำให้เกิดการขัดแย้งกัน ชาวหลวงพระบางจึงได้ยกกำลังมาบุกทำลายเมืองสุวรรณโคมคำจนราบ ทำให้ชาวเมืองแตกตื่นอพยพไปทั่วสารทิศ เช่น หนีเข้าอุโมงค์ ไปศรีสัชนาลัย และหลวงพระบาง และได้นำประเพณีไหลเรือไฟไปปฏิบัติด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2009, 11:39:53 AM โดย MR'DON » บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:38:20 AM »


      ต่อมายังมีเชื้อนาคตระกูลลาวจก คือ ลาวทางภาคเหนือของเชียงราย ได้มาสร้างนครสุวรรณโคมคำขึ้นอีกครั้ง ตามตำนานมีกำแพงเมืองรอบ 4 ด้าน และ แต่ละด้านยาว 3,000 วา ด้วยเหตุนี้ เมืองสุวรรณโคมคำที่สาบสูญไปแล้วจึงได้ชื่อเรียกใหม่ว่า เมืองนาเคนทรนคร หรือ นาคบุรี หรือ เมืองนาคพันทุสิงหนวัตนคร หรือ นครเชียงลาว
บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:41:16 AM »


เนื่องจากว่าชาวลาวภาคเหนือ (นาค) เป็นผู้สร้างขึ้น นอกจากชื่อต่าง ๆ นั้นแล้ว ในตำนานต่าง ๆ ของชาวลาวภาคเหนือ และมหากาพย์เรื่อง ท้าวฮุ่ง ท้าวเจือง ยังได้เรียกไว้อีกชื่อหนึ่งว่า นครเงินยาง หรือ เงินยวง ต่อมาเมื่อพระยาแสนภูได้มาครองเมืองดังกล่าวก็ได้อีกชื่อว่า เชียงแสน (เก่า)
บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #20 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:42:25 AM »


ตระกูลลาวจกได้ครองนครเชียงลาว หรือ นาคบุรี หรือ นครเงินยาง มาตลอด 43 รัชสมัย จนมาถึงสมัยขุนเจือง กษัตริย์ลาวคนแรก ที่รวบรวมเผ่าต่าง ๆ ให้เป็นอาณาจักรเดียวกันอยู่ทางภาคเหนือ เมื่อ ค.ศ. 1096 ขุนเจืองได้ยกกองทัพพิชิตหลวงพระบาง เชียงขวาง และปะกัน (แคว้นแกวจี ของเวียตนาม) จากนั้นก็รวมเป็นอาณาจักรเดียวกัน โดยเฉพาะรวมตระกูลนาคและตระกูลขอมเข้าด้วยกัน พระองค์จึงถือได้ว่าเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งของเหล่าบรรดาเผ่าพันธุ์ต่างๆ ของชาติลาว อาณาจักรของขุนเจืองล่มสลายในรัชสมัยที่ 4 ของกษัตริย์หลวงพระบาง คือในสมัยรัชกาลของขุนกันฮาง ผู้ซึ่งเป็นเหลนโหลนของขุนเจือง หลังจากพ่ายแพ้ให้แก่กองทัพของขุนลอ ที่ยกทัพมาจากเมืองแถง ( ปัจจุบันคือ เดียนเบียนฟู ของเวียตนาม)
บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #21 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:43:03 AM »


    เมืองสุวรรณโคมคำ อันเป็นชื่อแรกของนครโบราณแห่งนี้ นับว่าได้ผ่านการถูกทำลาย และ สร้างขึ้นใหม่หลายครั้งหลายหน และมีชื่อเรียกต่าง ๆ มากมาย ในที่สุดก็เหลือให้เห็นแต่ร่องรอยของเมืองร้างอันน่าสะเทือนใจ
ปัจจุบันนี้ทางแผนกวัฒนธรรม แขวงบ่อแก้ว และ กระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม ได้มีมาตรการอนุรักษ์และประกาศให้เป็นปูชนียสถานแห่งชาติ เป็นสถานที่อนุรักษ์และหวงห้าม เป็นอุทยานแห่งการศึกษาหาความรู้ แหล่งท่องเที่ยวและผักผ่อนหย่อนใจของนักค้นคว้า นักศึกษา นักอนุรักษ์นิยม และรักษาวัฒนธรรมอันหลากหลาย นั่นก็คือ ธรรมชาติที่สวยงามและปลอดโปร่ง
บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #22 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:43:44 AM »


     ออกไปไม่ไกลจากปูชนียอุทยานแห่งนี้ มีสิ่งดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่มาที่แห่งนี้ คือ บ่อน้ำร้อนคุณภาพดี ต้นไม้ที่หายากหลายชนิด ร่องรอยอดีต สามเหลี่ยมทองคำ ถ้ำคูหา และวิถีชีวิตของชนเผ่าต่าง ๆ ที่หลากหลาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2009, 11:44:21 AM โดย MR'DON » บันทึกการเข้า
dondarlink
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #23 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:45:08 AM »


นอกจากนั้นที่พิเศษอีกอย่างคือ เมื่อถึงวันบุญออกพรรษา ก็จะได้ชมการไหลเรือไฟบูชาพญานาค ณ ที่ที่เป็นต้นกำเนิดของประเพณีนี้ และ เมื่อถึงฤดูดอกงิ้วบาน ก็จะได้ร่วมบุญดอกงิ้วอันสนุกสนานรื่นเริงหาที่ใดเปรียบได้เหมือน
บันทึกการเข้า
Nantiya2007.
Newbie
*
กระทู้: 38


ดูรายละเอียด
« ตอบ #24 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 08:27:10 PM »


ว้าววว น่าสนใจมากค่ะ ขอบคุณทั้งภาพและเนื้อหาดีๆค่ะ :01: :11:
บันทึกการเข้า
สาวเจียงใหม่
Sr. Member
****
เพศ: หญิง
กระทู้: 332



ดูรายละเอียด
« ตอบ #25 เมื่อ: กันยายน 21, 2009, 03:34:07 PM »


ขอบคุณสำหรับความรู้ที่เอามาฝากกันนะคะ :16:
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ขึ้นบน พิมพ์ 
จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  ข้อมูล ที่พักโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย  |  ใครๆ ก็มาเที่ยวสามเหลี่ยมทองคำ  |  หัวข้อ: สุวรรณโคมคำ อาณาจักรโบราณแห่งสามเหลี่ยมทองคำ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  




Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.5 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.097 วินาที กับ 21 คำสั่ง