4 ข้อดี อันมีเสน่ห์ของการนั่งรถไฟฟรีเที่ยว

[Dockaturk]

ฉึก ฉัก ฉึก ฉัก ปู๊น ปู้น

เสียงยานพาหนะอันคุ้นหูของใครหลายๆ คนที่ยังคงใช้ในการเดินทางไปเที่ยว ด้วยเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน หรืออาจจะด้วยเหตุผลอื่นกัน...

หลังจากที่เมื่อคืนมีโอกาสได้เปิดดูหนังรักโรแมนติกเรื่อง Before Sunrise (1995) เรื่องราวว่าด้วยของคู่พระนาง เจส (อีธาน ฮอว์ก) และ เซลีน (จูลี่ เดลพี) มีโอกาสได้รู้จักกัน เพราะนั่งรถไฟ ก่อนจะสานสัมพันธ์ และพากันเที่ยวในกรุงเวียนนาในช่วงเวลา 1 วัน 1 คืน และรุ่งขึ้นก็ต้องจากลาตามเส้นทางของตัวเอง ซึ่งดูจบแล้วก็ให้รู้สึกว่า เป็นหนังรักเดินทางด้วยรถไฟที่มีเสน่ห์ทั้งตัวละครและการเดินเรื่อง เป็นหนักรักที่เข้าทำนอง 1 วันกับคนที่ใช่ มันก็ยิ่งใหญ่เพียงพอแล้วที่ได้มีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน จนอยากคันไม้คันมืออยากจะเขียนถึงซัก 3 หน้า ถึงการเดินทางกับความรักอันมีเสน่ห์ แต่กระนั้นทุกอย่างก็ต้องหยุดเอาไว้ เพราะมีหัวข้อที่น่าสนใจพอๆ กัน เกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟครับ

เรื่องก็คือ 4 ข้อดี อันมีเสน่ห์ของการนั่งรถไฟฟรีเที่ยว

อย่างที่ทราบกันบ้านเรามีขบวนรถไฟฟรีให้ได้ใช้บริการกันมานานซักพักแล้ว คนที่ยังไม่เคยเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ อาจจะยังกังขาและสงสัยว่า นั่งรถไฟฟรีเที่ยวมันดียังไง มีรสชาติกันแบบไหน ซึ่งคำตอบแต่ละข้อมีอะไรบ้าง ตามไปอ่านยังบรรทัดด้านล่างกันได้เลยครับ

1.มันฟรี!
ของฟรีใครก็ชอบกัน มีหรือที่นั่งรถไฟฟรีจะไม่ชอบ อย่างน้อยก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้เยอะโข แล้วเอาเงินค่าเดินทางนี้ไปลงกับขวดเหล้า ไม่ใช่ซิ ต้องเอาไปลงกับค่าที่พัก หรือค่าอาหาร ค่ากิจกรรมท่องเที่ยวอย่างอื่นกัน

ทั้งนี้ รถไฟฟรี ที่ผ่านมาทางรัฐเขาก็ขยายเวลามีโครงการกันมาให้เรื่อยๆ ล่าสุด เขาขยายกันจนถึง 31 ตุลาคม 2559 (จบจากเดือนนี้ เดี๋ยวก็มีขยายกันต่อ เชื่อผม) เป็นโครงการที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย (รวมทั้งนักท่องเที่ยวกระเป๋าแบนแบบผม) ที่จะเดินทางโดยรถไฟ โดยมีให้บริการกันจำนวน 160 ขบวนต่อวัน เป็นขบวนรถที่ให้บริการเชิงสังคม จำนวน 152 ขบวน และขบวนรถไฟเชิงพาณิชย์ จำนวน 8 ขบวน ประกอบไปด้วย1. ขบวนรถธรรมดา  ขบวนรถชานเมืองและขบวนรถท้องถิ่น ทุกสายทุกขบวน 2. ขบวนรถชานเมืองสายมหาชัย และสายแม่กลอง3. ขบวนรถเร็ว จำนวน 8 ขบวน (ฟรีเฉพาะชั้น 3) ซึ่งมีการระบุที่นั่ง,ขบวนรถเร็วที่ 109/102 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ ,ขบวนรถเร็วที่ 133/134 กรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ, ขบวนรถเร็วที่ 145/146 กรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพและขบวนรถเร็วที่ 171/172 กรุงเทพ-สุไหงโกลก-กรุงเทพ

[Dockaturk]

2.ได้ใช้ชีวิตแบบ Slowlife
เมื่อเดินทางด้วยรถไฟ แน่นอนล่ะว่าไอ้เรื่องความเร็วก็ต้องโยนทิ้งลงไปในโถชักโครก (ขอแค่เรื่องตรงเวลาก่อนก็จะดีมาก) ฉะนั้นสิ่งที่เราจะเจอคือ การเดินทางที่ไปกันแบบเรื่อยๆ ตามสภาพไม่มีเร่งรีบ ใครเดินทางไปเที่ยวโดยไม่มีเรื่องของเงื่อนไขเวลามาจำกัด รับรองได้ Slowlife สมใจอยากแน่ โดยในความ Slowlife ที่ว่านั้น ทำให้เราได้มีเวลาชมวิวทิวทัศน์ข้างทาง ได้มีเวลาคิดทบทวนพูดคุยกับตัวของเราเอง ถือว่าเป็นการพักกายพักใจไปกับการเดินทางที่ไม่เร่งรีบ

3.ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนที่หลากหลาย
นอกจากความ Slowlife ที่จะได้สัมผัสกัน ชีวิตการเดินทางท่องเที่ยวบนเจ้าหนอนเหล็ก ยังเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนที่หลากหลายจากผู้โดยสารร่วมขบวนทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้า เปิดโอกาสให้เราได้พูดคุย ได้เรียนรู้ชีวิตผ่านมุมมองพวกเขา บนรสชาติที่แตกต่างกับการเดินทางด้วยรถส่วนตัว เครื่องบิน รถโดยสารประจำทาง ที่ไม่มีให้สัมผัส อย่างเรื่องของอาหารการกิน ที่จะมีให้เลือกซื้อตลอดทาง วิถีชีวิตของชุมชมสองข้างทางรถไฟ เรื่องราวภายในขบวน และเรื่องราวของแต่ละสถานี ถ้าเปรียบกับการเดินทางบนรถไฟฟรีเป็นอาหารซักจาน ต้มยำกุ้งน่าจะเป็นคำตอบครับ เพราะมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด มัน ในรสชาติ ที่ไม่อาจลืมเลือน

4.เจอทิวทัศน์ที่สวยแปลกตา รวมทั้งประสบการณ์จากสถานที่ใหม่ๆ
ถ้าการเรื่องราวระหว่างทางสำคัญกว่า จุดหมายปลายทาง การเดินทางด้วยรถไฟน่าจะตอบโจทย์ได้ระดับนึง เพราะนอกจากผู้คนที่เราได้พบเห็น พบปะและพูดคุย (แบบที่ในหนังเรื่อง Before Sunrise 1995 เจอะเจอ) มาช่วยเติมเรื่องราวระหว่างทางให้น่าสนใจ ทิวทัศน์ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่มาช่วยเสริมสร้างให้เรื่องระหว่างทางสมบูรณ์ยิ่งขึ้น อย่างบางแห่งไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แต่วิวมันเฟี้ยวประทับใจ  หรือบางแห่งสถานที่ไม่ได้สวยงาม แต่ผู้คนก็น่ารัก และมีอัธยาศรัยที่ดี

อนึ่ง สำหรับใครที่ประสงค์จะเดินทางไปกับรถไฟฟรีนั้น มีเงื่อนไขการขอรับบริการง่ายๆ แค่แสดงบัตรประชาชน หรือบัตรที่ราชการออกให้ ในการขอรับตั๋วฟรีต่อพนักงานจำหน่ายตั๋ว วันเดินทาง (บัตรประชาชน 1 ใบ ต่อ 1 คน) ผู้ที่ไม่มีบัตรประชาชน ต้องชำระเงินตามระเบียบนะ และ สามารถรับตั๋วได้เฉพาะวันเดินทาง ซึ่งตั๋วจะไม่ระบุที่นั่ง ส่วนขบวนรถเร็วที่ให้บริการฟรี จำนวน 8 ขบวน ข้างต้นนั้น ผู้โดยสารสามารถติดต่อขอรับตั๋วโดยสารที่มีการระบุที่นั่งได้ที่สถานีเชียงใหม่ สถานีอุบลราชธานี สถานีหนองคาย และสถานีสุไหงโก-ลก ในวันเดินทางได้ ตั้งแต่เวลา 05.30 น. เป็นต้นไป หากที่นั่งเต็มจะรับได้เฉพาะตั๋วไม่มีที่นั่งหรือตั๋วยืน

[chiangmai food]

ดูน่าสนใจ ไปมั่ง