แสดงกระทู้
|
หน้า: 1 2 »
|
1
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / ดอยอ่างขาง แนะนำเส้นทาง รูปภาพที่เที่ยวดอยอ่างขาง ที่พักบนดอยอ่างขาง / Re: สอบถามจากดอยอ่างขางไปม่อนแจ่มครับ
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2013, 10:34:41 AM
|
ข้อ 1 ดอยอ่างขางมีทางลงไปที่สี่แยกเมืองงาย อ.เชียงดาว ถนนสาย 107 เชียงใหม่-ฝางได้ครับ จะผ่านบ้านอรุโณทัย เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน ผ่านโครงการหลวงหนองเขียว แถวนี้มีกลุ่มชาวอาข่า ลาหู่ ไทใหญด้วยครับ แต่เป็นถนนบนดอย อาจมีลูกรังบางช่วง ผมไม่เคยมาสายนี้ครับ ถ้าอยากเที่ยวแนววิถีชีวิตหรือแนวเกษตรกรรรม แวะโครงการหลวงหนองเขียว จะออกที่แยกเมืองงายได้ครับ ทางที่ดีแนะนำกลับทางไชยปราการครับ ถนนนอาจมีโค้ง 2 เลนสวนกันเยอะ แต่ลาดยางทั้งทาง ป่าเยอะ แนะนำให้แวะเชียงดาวฮิลลล์ รีสอร์ท บรรยากาศดีน่าถ่ายภาพครับ มีทะเลสาบ พอออกจาก อ.ไชยปราการเข้าเชียงดาวจะมีด่านตรวจ เตรียมบัตรประชาชนด้วยครับ
ข้อ 2 อ่างขาง ม่อนแจ่ม จุดแวะจะมีไร่พุทราน้ำนม ไร่ส้มที่เชิงดอยอ่างขาง หน้าหนาวส้มเยอะขายทั้งทางครับ แวะเชียงดาวทฮิลล์ รีสอร์ท บ้านควายไทยที่แม่แตง วัดบ้านเด่นที่แม่แตงก็สวยครับ เข้าไปในตัวอำเภอนิดเดียว จากนั้นเลี้ยวเข้าแยกสะเมิงที่แม่ริม ปากทางจะมีตลาดขายเสื้อผ้าชาวม้ง จะผ่านคุ้มเสือ สนามยิงปืน ฟาร์มกล้วยไม้ ฟาร์มงู ฟาร์มแมลง ปางช้างแม่สา น้ำตกแม่สา สวนพฤกษศาสตร์สิริกิติ์ บ้านโต้งหลวง ( ค่าเข้า 500บาทต่อคนเป็นหมู่บ้านศึกษาวิถีชาวปกาเกอะญอ กะเหรี่ยงคอยาว ลาหู่ ดาระอั้ง-ปะหล่อง) ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้คอนข้างแพงครับ เป็นธุรกิจชาวต่างชาติ
ข้อ 3 หน้านี้ high season รถเยอะแน่ครับ โดยเฉพาะทางเข้าม่อนแจ่มตั้งแต่ปากทางไปอีก 6 กม.รถติดครับ ทางแคบและชัน รถต้องสภาพดี ยางรถดีครับ แต่ยางรั่วบนม่ินแจ่มที่บ้านม้งมีที่ปะยางอยู่ แต่อ่างขางรถอาจไม่ติดมาก ถนนกว้างอยู่ครับ ถนนเชียงใหม่-ฝางก็ขับได้เรื่อยๆ
|
|
|
3
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / Re: มาเกาะพีพี จ.กระบี่ ครั้งแรกในชีวิต
|
เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2013, 05:50:05 PM
|
จากนั้นไม่ทันอะไรก็ถึงอ่าวมาหยา สถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องเดอะบีชครับ ชายหาดแคบหน่อย แต่สวยงามมากๆ ครับ ชายหาดขาวมาก แต่เรือของเราขนาดใหญ่เลียบหาดไม่ได้ครับ ต้องขึ้นเรือน้อยๆ พอถึงอ่าวมาหยา ก็ปล่อยให้ทุกคนใส่เสื้อชูชีพ ดำน้ำดูปะการัง แต่ผมไม่ดำครับ กลัวดำ และดูผิวทะเล เหมือนไม่ค่อยมีปะการังครับ น่าจะเป็นปะการังฟอกขาว กับหินก้อนใหญ่ๆ ใต้ทะเลครับ แต่ก็นำเสื้อชูชีพมาสวมถ่ายภาพครับ 55++ ตัวผมก็ถ่ายภาพคนดำน้ำ บรรยากาศรอบๆ นั้นไป ถ่ายที่ชายหาดอ่าวมาหยา กินลม ชมวิวสนุกมากครับ บางคนก็ว่ายน้ำเก่ง ถึงขั้นไม่ต้องใส่เสื้อชูชีพเลยครับ 555++ ก็ดำน้ำกัน 1 ชั่วโมงกว่าๆ นานอยู่ครับ และบริเวณอ่าวมาหยา ก็เป็นเกาะพีพีเลครับ ตอนนั่งเรือก่อนถึงเห็นถ้ำไวกิ้งเป็นทางเข้า ที่เขาเก็บรังนกกันด้วยครับ จากนั้นพอดำน้ำเสร็จ ทุกคนก็ล้างตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า มุ่งเรือเข้าสู่ชายฝั่งที่ท่าเรือหัวหินครับ แต่วันนี้น้ำลดเยอะมาก เรือไม่สามารถเทียบท่าได้ ตอนแรกตกใจ น้ำลดเยอะ กลัวสึนามิจะมา แต่ก็ไม่แห้งมากเลยไม่วิตกครับ เพราะก่อนมาทริปนี้ ดูคลิปสึนามิมาครับ น้ำจะแห้งมาก ถ้าสึนามิมา เอิ๊ก ก็ต้องลงเรือที่เกาะลันตาน้อยก่อนครับ และต่อแพยนต์มาที่ท่าเรือหัวหิน มีรถสองแถวค่อยเชื่อมด้วยครับ แพยนต์นี่ มีรถยนต์ รถขนส่ง รถส่งของมาขึ้นเต็มเลยครับ เพิ่งเคยเห็น และมีพี่คนนึงใจดีมากครับ ซื้อข้าวเหนียวกับหมูแดง อาหารแบบใต้ๆ อร่อยมากๆ ครับ เอิ๊กๆ มีคนซื้อของให้กินฟรี พอถึงท่าเรือหัวหิน เราก็เดินทางกลับไปถึงโรงแรมที่พัก ชมวิวที่เขาขนาบน้ำ ริมฝั่งแม่น้ำกระบี่ ใกล้ๆ กับที่พักสวยมากครับ มื้อเย็นนี้กินเหมือนมื้อเช้าครับสั่งข้าวต้มเหมือนเดิมครับ ถ้วย 40 บาทแหละ ให้เขาเสิร์ฟที่ห้อง และให้เขาช่วยเชื่อม internet ด้วยครับ โชคดีที่เล่นเน็ตได้วันนี้ พอเล่นเน็ตสบายใจอิ่มแล้ว ก็นอนหลับ เพื่อเที่ยวกระบี่ต่อวันพรุ่งนี้ครับที่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ
เขียนโดย ปิติภัทร มาทา
|
|
|
6
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / Re: มาเกาะพีพี จ.กระบี่ ครั้งแรกในชีวิต
|
เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2013, 05:44:00 PM
|
มีแคนยัคให้พายด้วยครับ ชั่วโมงละ 250 บาท ที่ชายหาดมีคนบริการขับเรือ พายเรือ เจ๊ทสกี ตัวดำๆ ทั้งนั้นครับ พูดภาษาใต้ฟังไม่รู้เรื่องเลยครับ ผมก็คุยกับพี่คนนึงตอนปี 2004 ที่เกิดสึนามิ เพราะทราบว่าสึนามิก็กวาดชายหาดที่เกาะพีพีนี้เรียบเหมือนกันครับ พี่เขาบอกว่า ตอนนั้นเกือบเอาชีวิตไม่รอดครับ พ่อแม่ของพี่เขาก็ไปกับสึนามิด้วย อยู่บังกะโลชั้น 1 ริมชายหาดครับ หนีไม่ทัน และผมก็คุยเขาบอกว่า ทุกวันที่ 26 ธันวาคม ในช่วงหลังเกิดสึนามิใหม่ๆ ผู้นำทุกศาสนาบนเกาะ จะพากันสวดมนต์ที่ชายหาดที่เกาะพีพีนี้ เพื่อไม่ให้เกิดสึนามิขึ้นอีก เขาบอกอีกว่าตอนสึนามิมานี้ ตอนเช้าน้ำแห้งไปจนถึงกลางทะเลเลยครับ และรู้สึกถึงแผ่นดินไหวด้วยครับ มีคนไปเล่นบนชายหาดเต็มเลยครับ เพราะว่าทุกคนไม่เคยเห็นทะเลแห้งขนาดนี้มาก่อน และพอสึนามิมาก็มาไวมากครับ สูงเท่าต้นมะพร้าวเลยทีเดียวครับ และถ้าพี่เขาบอกว่าถ้ามีสัญญาณเตือนภัยสึนามิ จะส่งมาที่ตัวเมืองและจะประสานงาน แจ้งกันทั่วเลยครับ แต่ผมไม่ค่อยกลัวสึนามิครับ ตอนแรกก็กลัวเพราะทะเลปกติครับ น้ำไม่แห้ง อิอิ แต่ก็เห็นป้ายให้ผู้อพยพหนีภัยด้วยครับ เป็นเส้นทางขึ้นเขา 300 เมตร แต่พอลองเดินดู เป็นทางตันนี่หน่า กร๊ากๆ ก็ถ่ายรูปริมหาด ถ่ายบรรยากาศริมเกาะพีพี มีฝรั่งมาตากแดดมากมายเหมือนที่หาดป่าตองแหละครับ ใส่ชุดว่ายน้ำ ส่วนใหญ่หุ่นไม่ค่อยดีหรอกครับ หุ่นดีน้อยคนมากๆ 555+++
|
|
|
8
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / มาเกาะพีพี จ.กระบี่ ครั้งแรกในชีวิต
|
เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2013, 05:40:27 PM
|
โปรแกรมวันนี้ของทัวร์ไปที่เกาะพีพีครับ ต้องนั่งรถบัสไปที่ท่าเรือหัวหินที่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ครับ ออกเดินทางประมาณเกือบชั่วโมงจะถึงท่าเรือครับ ท่าเรือไกลหน่อยครับ เกือบเข้าเขต จ.ตรังแล้ว พอไปถึง ก็เจอเรือที่พาไป ขนาดเรือค่อนข้างใหญ่กว่ารถบัสทัวร์อีกครับ มีที่นั่งข้างบนและชั้นล่าง มีดาดฟ้า ระเบียงหน้าเรือ หลังเรือกว้างมาก ไว้ให้นั่งยืนชมวิว ผมก็ทาครีมกันแดดอีกรอบครับ แดดแรงมากๆ นั่งเรือเป็นชั่วโมงจะถึงเกาะพีพีครับ เห็นเป็นเกาะขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าเลยครับ แต่กว่าจะถึงนานมาก เมื่อดู GPS ที่คนขับน่าเรือประกอบไปด้วย ทะเลอันดามันรอบๆ เรือสวยมากครับ เป็นสีน้ำเงินเข้มเชียวครับ พร้อมเห็นภูเขาหินปูนสวยงามมากมายเป็นเกาะ บ้างครับ เห็นป่าชายเลน แหล่งอนุบาลของสัตว์น้ำด้วยครับ ผมก็นั่งเรือ กินลม ชมวิว และออกมานอกเรือ มาที่คนขับนั่ง ไปทั่วเรือเลยครับ ถ่ายภาพเก็บวิวสวยๆ บรรยากาศสวยๆ มาฝากครับ และในที่สุดก็คือเกาะพีพี สวรรค์แห่งอันดามันในฝันของใครหลายคนที่มาเที่ยวครับ ก็ต้องขึ้นที่ท่าเรือหน้าเกาะพีพีก่อนครับ เสียค่าท่องเที่ยวคนละ 20 บาทเพื่อเข้าเกาะครับ
|
|
|
9
|
แนะนำสถานที่น่าเที่ยวในภาคเหนือ / แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในภาคเหนือ / Re: อุทยานธรรมะและหอศิลป์ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
|
เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2013, 05:29:38 PM
|
จากที่ดูใน clip และวันนี้ไปดูจริงๆ ก็เจอพี่เอ๋ เลขาของหอศิลป์ บริการบรรยายดีมากๆ ครับ แล้วพอจะกลับไปจ่ายเงินค่าเข้า ชม ก็ไปเยี่ยมป้าแหม่ม ซึ่งปีนี้ป้าแหม่ม (ถ้าคนที่ไปด้วยตอนนั้น ตอนค่ายโอลิมปิกคงจำได้ ป้าแหม่มที่ถือไม้เท้า หลังค่อมๆ หน่อย อะครับ) เสียงเบาๆ แต่ป้าเค้าใจดีมากๆ ครับ คุยด้วยสนุกดี ผมก็เลยเอาหนังสือท่องเที่ยวลำพูนให้ป้าเค้าดู ป้าเค้าถึงขั้นอึ้งเพราะไม่เคยเห็นว่าหอศิลป์ของตัวเองอยู่ในหนังสือท่องเที่ยวด้วย เลยอยากได้หนังสือเล่มนี้ จึงสั่งให้เลขาไปหาซื้อมา ผมก็ได้บอกว่าหาซื้อได้ที่ B2S ที่เชียงใหม่ได้ครับ แล้วป้าก็เห็นใบบริการรถแดงช่วงโปรโมชั่น ซึ่งมีแผนผันบริการทั่วเมืองและบอกเส้นทางว่ารถสีนี้ ไปลำพูน ไปอำเภอ หมู่บ้านนี้ ป้าแหม่มเห็นแล้วรู้สึกว่าดีมาก อยากจะได้ เลยยืมใบแผนผังรถแดงของผม Xerox ซักเลย เห็นแล้วก็หัวเราะในใจ 55++ จากนั้นป้าแหม่มก็ได้ให้หนังสือที่เป็น Catalog ผลงานประติมากรรมของตัวเองให้ผม พร้อมให้ลายเซ็นต์ คำอวยพรด้วยน่ารักมากๆ และป้าก็ชมด้วยว่า ขอบใจนะคะที่มาเที่ยว และให้ข้อมูลดีๆๆ เข้าใจคนแก่จริงๆคา 55++ พอคุยกับป้าแหม่มเสร็จก็อำลา แล้วนั่งรถสีขาวลี้-ลำพูนกลับเข้าเมืองลำพูน เพื่อไปโบกรถสี่ล้อฟ้ากลับเข้าเชียงใหม่ครับ
เขียนโดย ปิติภัทร มาทา
|
|
|
10
|
แนะนำสถานที่น่าเที่ยวในภาคเหนือ / แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในภาคเหนือ / Re: อุทยานธรรมะและหอศิลป์ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
|
เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2013, 05:28:02 PM
|
สำหรับงานศิลปะของป้าแหม่ม ก็เป็นงานประติมากรรมที่เป็นน้ำพุแห่งปัญญาในหอศิลป์ของป้าแหม่ม ส่วนใหญ่จะทำจากปูนปลาสเตอร์ครับสำหรับข้างในหอศิลป์ ก่อนข้ามสะพานไปอาคารหอศิลป์จะมีสะพานมรรค 8 ด้วยครับ ลืมบอกไป ป้าแหม่มชื่อว่า คุณเวอร์นิเชีย วอล์กกีครับ เป็นศิลปินหญิงชาวอังกฤษ ผู้สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนา จากการที่ได้อ่านหนังสือของท่านพุทธทาสภิกขุ สมัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และก็มีบ้านหลังหนึ่งเป็นที่ตั้งของประติมากรรมบรอนซ์หลากหลายผลงาน ก็สวยงามมากๆ ครับ
|
|
|
14
|
แนะนำสถานที่น่าเที่ยวในภาคเหนือ / แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในภาคเหนือ / อุทยานธรรมะและหอศิลป์ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
|
เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2013, 05:19:32 PM
|
มีครั้งหนึ่งที่ได้ไปเที่ยวที่อุทยานธรรมะและหอศิลป์ในตัวอำเภอป่าซาง จ.ลำพูน จำได้ว่าตอนนั้นโรงเรียนจักรคำก็พาไปตอนค่ายโอลิมปิกวิชาการ เมื่อปี พ.ศ.2546 แล้วครับ ตอนนั้นรู้สึกไปแล้วแปลกมาก เหมือนพาไปนั่งดูรัยไม่รู้ แล้วมีป้าแหม่มฝรั่งคนนึงมาบรรยาย ซึ่งตอนนั้นไป คนเยอะมาก ฟังป้าแหม่มบรรยายไม่รู้เรื่องเลยครับและที่นี่ก็เป็นบ้านของศิลปินแห่งชาติ คุณอินสนธิ์ วงค์สาม ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ พ.ศ.2542
|
|
|
26
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / วัดท่าตอน วัดที่งดงามดั่งสรวงสวรรค์
|
เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2013, 09:08:09 AM
|
ทริปแรกของหนาวนี้ครับ เหนื่อยมากๆ นอนหลับตื่นตอนตีสามครึ่งของวันที่ 30 พ.ย.มาอาบน้ำ แต่งตัวไปสถานีขนส่งช้างเผือก ไปที่ท่าตอน อ.แม่อาย เพราะอยากไปไหว้พระที่วัดท่าตอนครับ ที่นั่นมีพระเจดีย์แก้วสวยมาก แล้วมีรูปปั้น พระพุทธรูปต่างๆ สวยงามมากมาย ทิวทัศน์ก็สวยงามมาก ด้วยครับ พอนั่งรถออกจากเชียงใหม่ ยังเช้ามืดอยู่ อากาศหนาวลมเย็นมากๆ ครับ สุดยอดเลย ไกลก็ไกล นั่งตั้ง 3 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างทางผ่านชุมชนชนบทมากมาย ผ่านโรงเรียนที่กำลังยืนเข้าแถวเคารพธงชาติ ถึงทางจะแคบและโค้งหน่อย แต่วิว ต้นไม้ ธรรมชาติข้างทางสวยมากครับ และพอเข้าถึงตัวอำเภอแม่อาย ก็เห็นชาวบ้านกำลังทำการตีข้าว ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นข้าวเป็นสีเหลืองทอง หน้าเก็บเกี่ยวผลผลิตพอดีครับ กว่าจะถึงท่าตอน อากาศดีเย็นมากครับ ไปถึงที่ท่าตอนก็ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำกก แม่น้ำกกยามเช้าสวยมาก มีสายหมอกด้วยครับ ก็เจอคุณป้าชาวอาข่าคนนึงเอาของมาขาย แข็งแรงมากครับ ป้าเขาเอาย่ามสะพายพาดบนหน้าผาก ผมก็ถ่ายภาพป้าเขาข้างหลังตอนเดินบนสะพานข้ามแม่น้ำกก ก็ได้ภาพแบบวิถีชีวิตชาวชนบทที่นี่สวยงามอีกแบบครับ
|
|
|
27
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / Re: สระมรกต 1 ในสถานที่ท่องเที่ยว Unseen In Thailand
|
เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2013, 12:31:47 PM
|
พอเสร็จแล้วก็เดินกลับครับ เพื่อรีบไปอาบน้ำ รถทัวร์จะไปแล้ว เดินจนเหนื่อย มีนักท่องเที่ยวเดินเท้าเปล่า เดินไปด้วยครับ ข้างทาง สนุกสุดๆ ครับ พอไปถึงห้องน้ำ เหลือห้องอาบน้ำห้องนึงต้องต่อเค้าครับ เลยไม่อยากเสียเวลา สระผม เอาสบู่ล้างส่วนแขนขา โกนหนวด แปรงฟันก่อนครับ เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายที่แวะที่ภาคใต้ครับ เก็บของขึ้นรถทัวร์หมดแล้ว พร้อมที่จะมุ่งหน้ากลับสู่เชียงใหม่ครับ
เขียนโดย ปิติภัทร มาทา
|
|
|
28
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / Re: สระมรกต 1 ในสถานที่ท่องเที่ยว Unseen In Thailand
|
เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2013, 12:29:52 PM
|
ในที่สุดก็ถึงสระน้ำผุดทางทิศเหนือครับ เป็นน้ำนิ่งครับ เขาไม่ให้ลงเล่น เพราะอาจจะโดนโคลนดูดได้ครับ สีน้ำคล้ายๆ สีครามเหมือนสระว่ายน้ำทั่วไป แหละครับ แต่ก็สวยงามมากๆ ครับ ถ่ายรูปซักรูปนึงซักหน่อย สาเหตุที่น้ำตรงจุดนี้เป็นสีฟ้า ออกครามๆ เพราะในน้ำมีส่วนผสมของแร่ธาตุพวกแมกนีเซียม แมงกานีส กำมะถัน แคลเซียมคาร์บอเนต และบริเวณนี้จะคล้ายน้ำเดือดปุดตลอดๆ เพราะอยู่ใกล้เปลือกโลกที่มีพลังงานความร้อนใต้พิภพครับ นอกจากนี้จุดนี้ยังเป็นต้นกำเนิดของสายน้ำ ลำธารที่นี่เพื่อไหลไปยังสระมรกตต่อครับ
|
|
|
29
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / Re: สระมรกต 1 ในสถานที่ท่องเที่ยว Unseen In Thailand
|
เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2013, 12:28:48 PM
|
จากนั้นผมมีความรู้อยากเดินทางไปดูสระมรกตอีกแห่งหนึ่ง เป็นบ่อน้ำผุดสวยงามกลางป่า ไปจากสระมรกตนี้อีกประมาณ 500 เมตรครับ จึงตัดสินใจเดินลุยต่อ แต่พอเดินไปจริงๆ เหมือนเป็นกิโลเมตรเลยครับ ไกลมากๆ ระหว่างทางก็จะเป็นทางเดิน ทางสะพานไม้ครับ คราวนี้ไม่ได้นำรองเท้าไปเดินเท้า เปล่าด้วยครับ มันสุดๆ ไปคนเดียวเลย กร๊ากๆ เหมือนได้ทำสปา นวดเท้าไปกับก้อนหิน ก้อนดิน ก้อนทรายบนดินด้วยครับ ข้างทางก็มีลำธารอุ่น มีสระน้ำอุ่น มีโคลน แต่เค้าไม่ให้ลงเล่นครับ มีป้ายบอก เห็นป่าดงดิบข้างทางมากมาย และนักท่องเที่ยวที่อยู่ข้างหน้าผมเขาเห็นปูดำเดินตัดหน้าด้วยครับ แต่ผมไม่เห็นเสียดายจัง
|
|
|
30
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / Re: สระมรกต 1 ในสถานที่ท่องเที่ยว Unseen In Thailand
|
เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2013, 12:24:03 PM
|
ระหว่างทางไปสระมรกตก็เห็นน้ำตกน้อยๆ ลำธารออกสีเขียวมรกตด้วยครับข้างทาง สวยมากครับ และพอถึงสระมรกตก็เป็นสระกว้างๆ มีคนว่ายน้ำเต็มเลยครับ ผู้ชายใส่ชุดว่ายน้ำ ถอดเสื้อเต็มเลย กร๊ากๆ รวมทั้งมีฝรั่งด้วยครับ แช่น้ำ ว่ายน้ำเล่นน้ำในสระมรกตสีเขียวอ่อนกลางป่านี้ ผมก็เล่นน้ำตกรอบๆ แถวนั้นสักครู่นึงคิดดูดีๆ อยากลองแช่น้ำในสระครับ ก็เลยแช่ ระหว่างเดินไปตามทางขึ้นสระมรกตเพื่อลงสระ อาจลื่นหน่อยครับ เพราะมีคราบตะกรัน หินปูน กำมะถันเต็มเลย ต้องระวังครับ ยิ่งถือกล้องด้วยต้องระวังใหญ่ครับ และพอไปแช่น้ำ ก็พบว่าพื้นสระเป็นหินครับ ลื่นเชียว เย็นสบายดีครับ และให้น้องที่มาทัวร์ด้วยข้างๆ ขอบสระช่วยถ่ายภาพครับ พอแช่น้ำจนเบื่อ ก็ไปเล่นน้ำตก ลำธารข้างๆ สระมรกตอีกที สนุกมากๆ ครับ
|
|
|
31
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / สระมรกต 1 ในสถานที่ท่องเที่ยว Unseen In Thailand
|
เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2013, 12:21:35 PM
|
1 ในสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมเคยไปสัมผัสมาก็คือ สระมรกต จ.กระบี่ 1 ในสถานที่ท่องเที่ยว Unseen In Thailand ของไทย เดินทางต่อไปที่ อ.คลองท่อม เพื่อไปที่สระมรกต ป่าทุ่งเตียวครับ เป็นป่าดงดิบครับ และที่มีมีสัตว์สงวนหายากอาศัยอยู่ด้วยนั่นก็คือ นกแต้วแล้วท้องดำ (ทราบทีหลังว่ามีนกนี้ครับ อ่านจากหนังสือเมื่อกี๊) พอมาถึงตอนไปต้องเดินเข้าป่าไปสระมรกตเป็นกิโลเลยครับ เสียงนกก็ดังร้อง เหมือนเข้าป่า ได้บรรยากาศป่าดงดิบ ธรรมชาติสุดๆ ครับ พันธุ์ไม้ก็จะแตกต่างจากป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือเหมือนที่ผมเคยไปเดินแถวอินทนนท์ครับ ต้นไม้ไม่เหมือนกัน และที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นป่าดงดิบบนพื้นราบต่ำแห่งสุดท้ายของประเทศไทยเลยครับ
|
|
|
36
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / เก็บสตรอเบอรี่สดจากไร่ ที่ เชียงใหม่ / Re: Strawberry สะเมิง เที่ยวสนุกๆ แถมได้ชิม อร่อยด้วย
|
เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2013, 11:23:05 AM
|
ต่อจากนั้น ก็ไปที่ไร่สตรอเบอร์รี่สวน แรก นั่นก็คือไร่นภ ภูผา ค่าเข้าก็เก็บ 10 บาทครับ มีงอบ มีหมวก ตะกร้าเก็บสตรอเบอร์รี่ รองเท้าบู๊ท พร้อมสตรอเบอร์รี่ ลูกเล็กไว้ให้ชิมฟรีด้วยครับ อร่อยมากครับ จากนั้นเราก็เดินไปชมสวนสตรอเบอร์ รี่ ชิมนิดเดียวครับในสวน เพราะมีสารเคมี มีปุ๋ยวิทยาศาสตร์สีฟ้าๆ กระจายเต็มแปลงเลยครับ ส่วนของที่ชิมฟรีนี้ เค้าล้างมาเรียบร้อยครับ และคัดเลือกลูกเล็กๆ มาทั้งนั้น ทำความสะอาดอย่างดีเลยครับ ผมกับน้องที่มาด้วยก็ผลัดกันถ่ายรูปไปกันครับ เพราะน้องเค้าไม่ได้เอากล้องมาครับ ถ่ายได้เยอะพอสมควร กับลูกสตรอเบอร์รี่ น่าแปลกนะครับ อันใหญ่ๆ สวยๆ ช้ำทั้งนั้น ไม่น่าเชื่อมีคนมาเก็บสตรอเบอร์รี่ทุกวัน แต่ก็มีเหลืออยู่ในไร่ตลอดครับ กร๊ากๆ ถ่ายรูปกัน โดดแปลงไปมาจนร้อน ก็เข้าที่พักชมบรรยากาศวิวไร่สตรอเบอร์รี่ในมุมกว้างครับ ที่นี่มีบริการรถ ATV ด้วยครับ ก็ถ่ายรูปเล่นด้วยก่อนที่จะออกจากไร่ จากนั้นก็ไปที่ห้องน้ำ ห้องน้ำก็ตกแต่งเข้ากับบรรยากาศธรรมชาติด้วยครับ ที่นี่มีเต๊นท์ ที่พักด้วยนะครับ มองมุมเบื้องหลังก็จะเห็นเป็นแปลงมุงหลังคาของโครงการหลวงบริเวณทางไปแม่ริมครับ
|
|
|
44
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / พุทธสถานสุทธิจิตต์ อุทยานพระนอนที่ใหญ่สุดของประเทศไทย
|
เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2013, 10:51:11 AM
|
เนื่องในวันหยุดวันอาทิตย์ หลังจากขึ้นปีใหม่นี้ เลยตัดสินใจไปเที่ยวที่อุทยาน พุทธสถานสุทธิจิตต์ วัดดอยโมคัลลาน ที่ อ.จอมทอง เพราะผ่านสถานที่นี้ เป็นพระพุทธรูป รูปหล่อมากมายบนภูเขา เวลาไปเที่ยวจอมทอง ไปตามเส้นทางไปฮอด เช่น เวลาไปบ้านไร่ไผ่งาม ก็จะเจอภูเขาที่มีพระพุทธรูปมากมายนี้ข้างทาง ด้านขวามือเสมอสวยมากๆ ครับ ตอนแรกก็ไม่ทราบว่าสถานที่แห่งนี้ชื่อว่าอะไร แต่เมื่อกด like webpage อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ก็ทราบทันทีเลยครับ ว่าสถานที่นี้ชื่อว่าพุทธสถานสุทธิจิตต์ วางแผนไว้ตั้งแต่ปีใหม่แล้วครับว่าจะไปเที่ยวที่นี่ ก็ตามเดิมครับ ตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัว นั่งรถเมลล์สายเชียงใหม่-ฮอด (นั่งบ่อยมากๆ ตั้งแต่ปีที่แล้ว) ไปที่ประตูเชียงใหม่ บอกให้เขาไปจอดที่วัดดอยโมคัลลานครับ พอไปถึง ถนนแถวนั้นกำลังจะเปลี่ยนจากสองเลนเป็นสี่เลน มีร่องรอยการก่อสร้างมากเลยครับ ข้ามสะพานลำน้ำแม่กลาง จากนั้นก็ค่อยเดินไปที่หมู่บ้านเชิงดอยประมาณ 800 เมตร ไม่เหนื่อยมากครับ โชคดีที่วันนี้มีประเพณีสรงน้ำพระธาตุ และบูชารอยพระพุทธบาทที่สถานที่แห่งนี้ มีชาวบ้าน คนเฒ่า คนแก่ เตรียมของไปทำบุญมากมายเลยครับ
|
|
|
45
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่--สายตะวันตก สะเมิง-แม่แจ่ม-กัลยาณิวัฒนา / Re: บ้านวัดจันทร์ ดินแดนแห่งความงดงามท่ามกลางป่าสน
|
เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 10:42:53 AM
|
พอแบตเต็มเราก็ถ่ายภาพวิวรอบๆ ออป.ต่อ พร้อมกับไปรอฝูงควายตอนเย็น ซึ่งไม่เจอตอนเย็นเมื่อวาน ปรากฏว่าเห็นเต็มเลยครับ ชาวบ้านบอกมีที่ใกล้อ่างเก็บน้ำ มันกำลังกินหญ้ากันครับ พวกมันน่ารักมากๆ ครับ มันร้องเสียงว่าอะไรไม่รู้ อูอี๊รัยไม่รู้เหมือนจะพูดกับเขา มันค่อนข้างกลัวคนครับ พอเราเข้าไปใกล้ มันก็จะค่อยๆ เดินหนีไปมุมอื่นครับ เสียงระฆังหรือกระดึงที่ห้อยขอมันก็ดังมากๆ ครับ แบบว่าอยู่ในตัว ออป.ยังได้ยิน ก่องแก้งเลยครับ ขนาดนอนกลางคืนยังได้ยินเลยครับ ได้ยินวัวร้องมอด้วย กร๊ากๆ และก็เจออีกฝูงนึงข้างถนนเต็มเลยครับ ก็เลยถ่ายภาพมาให้ดูน่ารักมากๆ พอถ่ายฝูงควายเสร็จก็ไปถ่ายดอกไม้บางส่วนใน ออป.อีกครับ และไปกินข้าวเย็นให้น้องสมชายทอดไข่เจียวเหมือนเมื่อวานแหละครับ ออ ก่อนกินข้าวก็ได้ไปเลือกซื้อเสื้อผ้าของชาวกะเหรี่ยงมาตัวนึงครับ เอาตัวที่สวยที่สุด ราคา 380 บาทครับ ภรรยาพี่วิน พี่ดา เจ้าหน้าที่สำนักงาน ออป.เขาทอเองกับมือครับ สวยงามมากๆ ครับ ก็เอามาลองใส่ 3 ตัวและถ่ายรูป แต่ไม่กล้าเอามาลงเฟสหรอกครับ อายมาก 555++ และก็กินไข่เจียว นัดน้องสมชายให้ไปส่งตอนเช้าขึ้นรถต่อ เพระาจะกลับเข้าเชียงใหม่พรุ่งนี้ครับ ก็รีบอาบน้ำนอน ตื่นเช้าวันต่อไปก็รีบเก็บของ น้องเขาก็มาตรงเวลาที่นัด 6 โมงกว่าพอดีครับ น้องเขาก็ช่วยเก็บเต๊นท์ เพราะเก็บเข้าได้ไม่หมดครับ ความจิงน่าจะยัดเก็บเองนะครับ เพราะน้องเขาก็เก็บเข้าได้ไม่หมดเหมือนกัน จากนั้นก็มาที่หน้าวัดจันทร์ก่อน โชคดีรถเหลืองรอบ 7 โมงเช้ามาสายครับวันนี้ เลยถ่ายภาพเด็กๆ กำลังเดินไปเรียนครับ ได้บรรยากาศชนบทมากๆ จากนั้นก็ซื้อไส้กรอก ลูกชิ้นกินรองท้องหน่อย พอรถมา ก็อำลาน้องสมชาย และให้เงินค่าจ้างเค้าครับ จากนั้นก็ขึ้นรถกลับ ทางนี่ก็สุดๆ ตามเคย เหนื่อยกว่าขามา ฝุ่นคลุ้งเยอะกว่าอีกครับ ของในกระเป๋าตัวเสื้อผ้าเป็นฝุ่นสีน้ำตาลเต็มเลย และก็พักกินข้าวสะเมิงซักครึ่งชั่วโมง ก็นั่งรถต่อจนถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพครับ ได้ทุกอารมณ์ครับทริปนี้ ใช้เวลาตั้ง 4 วัน 3 คืนครับ ใครชอบเที่ยวสไตล์แนวธรรมชาติ แนะนำครับ ^_^
เขียนโดย ปิติภัทร มาทา
|
|
|
46
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่--สายตะวันตก สะเมิง-แม่แจ่ม-กัลยาณิวัฒนา / Re: บ้านวัดจันทร์ ดินแดนแห่งความงดงามท่ามกลางป่าสน
|
เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 10:42:12 AM
|
จากนั้นก็ไปเที่ยวที่โครงการหลวงวัดจันทร์ต่อครับ ห่างจากที่นี่ย้อนกลับเข้าตัวอำเภออีก 5 กม.ครับ ที่บ้านเด่น ที่นี่แคบกว่า ออป.มากๆ ครับ มีป่าสนผืนกว้างเหมือนักน มีผัก มีดอกไม้ พอสมควรครับ เห็นผักหลายชนิด แต่ไม่รู้ว่าผักอะไรครับ 55++ ก็เที่ยวชมป่าสนรอบๆ เข้าแปลงผัก ถ่ายภาพมาพอสมควรครับ จากนั้นก่อนไปเที่ยว จุดมุ่งหมายต่อไปคือที่บ้านเด่น บ้านใหม่พัฒนาครับ และต้องการไปเที่ยวหาคุณพนา พัฒนาไพรวัลย์ครับ ปราชญ์ชาวบ้านชื่อดังของที่นี่ เล่นเตเหน่า กูด้วยครับ แถมเป็นนักพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน สอนหนังสือ สอนภาษาอังกฤษเด็กด้วยครับ ความจิงต้องการไปคุยกับลูกชายของเขาครับคือคุณชิ สุวิชาน พัฒนาไพรวัลย์ แต่ว่าคุณชิไม่อยู่ ไปเรียนต่อเมืองนอกครับที่สวิตเซอร์แลนด์ถ้าจำไม่ผิด และก่อนที่จะไปเที่ยวก็ไปกินข้าวร้านนึงใกล้ๆ กับโครงการหลวงครับ สั่งข้าวผัดตามเคย ว่าจะชาร์ตแบตเตอร์รี่ แต่วันนี้โชคร้าย เขาดับไฟทั้งอำเภอเลยครับ อิอิ จากนั้นก็ไปเที่ยวที่บ้านเด่น บ้านใหม่พัฒนา ที่นี่มีชุมชนคริสต์เต็มเลยครับ มีโบสถ์เห็น 3 หลังแหนะ ระหว่างไปน้องสมชายก็ถามชาวบ้านข้างทางว่าคุณพนาอยู่มั๊ย เขาบอกว่าไม่อยู่ ผมก็บอกว่าไปดูบ้านเขาได้มั๊ยครับ จะไปดูว่าใหญ่ป่าว พอเห็นก็ใหญ่มากพอสมควร มีเด็กที่เขาอนุเคราะห์ อุปถัมภ์อยู่ในบ้านเต็มเลยครับ เป็นบ้านไม้ชั้นนึง อิฐชั้นนึง 2 ชั้นครับ ที่นี่จะทำเป็นบ้านสมัยใหม่ๆ ใหญ่ๆ เยอะ ถนนกำลังก่อสร้างตามทางหมู่บ้านกว้างขวางมากๆ ครับ เราก็เลยตัดสินใจกลับที่ ออป.ตามเคยครับ ไปชาร์ตต่อ เพราะที่นี่มีไฟสำรองครับ โชคดีมากๆ ครับ อิอิ ก็นั่งพักผ่อนต่อครับ
|
|
|
47
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่--สายตะวันตก สะเมิง-แม่แจ่ม-กัลยาณิวัฒนา / Re: บ้านวัดจันทร์ ดินแดนแห่งความงดงามท่ามกลางป่าสน
|
เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 10:37:30 AM
|
พอซ้อนรถน้องเขาไปต่อ ก็ไปเที่ยวที่ฟาร์มห้วยงูครับ ก็คุยกับน้องเขาระหว่างซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ว่า เมื่อวานเดินป่าสนที่ ออป. พบว่าต้นไม้มียางสีเหลืองออกเต็มเลย และบอกว่าพี่อ่านจากหนังสือ website เขาบอกว่าเอายางต้นสนนี้ไปช่วยหล่อลื่นเครื่องสายเตหน่า กู (พิณ เครื่องดนตรีแบบสายชนิดหนึ่งของชาวปวากะญอครับ) น้องเขาก็บอกว่าใช่ และใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่างจากยางสนอีกครับ ลืมละ 55++ พอไปถึงฟาร์มห้วยงู ที่นี้มีเลี้ยงสัตว์แบบปศุสัตว์บนที่สูงด้วยครับ มีแกะ มีกระต่าย เป็ด ไก่ ไก่ที่นี่เรียกว่าไก่เบสครับ เป็นไก่เนื้อชั้นดี ที่นี่กำลังส่งเสริมใหม้ชาวบ้านปลูกกันครับ อิอิ พอเห็นน้องแกะตัวนึง เมื่อไปดูข้างๆ ตกใจเลยครับ มันกกลูกแกะ น้อยๆ ไว้ตัวนึงเป็นตัวผู้ ขี้เหร่และน่ารักมากๆ ครับ เป็นสีดำปนขาว ร้องแบๆ เหมือนแพะเลย 55++ ก็เอามาอุ้มเล่นถ่ายภาพซักสองภาพ น้องสมชายที่ไปด้วย เขาก็เอามือถือมาถ่ายแกะด้วยครับ จากนั้นก็ไปที่เล้า กรงของกระต่าย มีกระต่ายหลายสีหลายตัว พร้อมลูกของมันด้วยครับ ก็อุ้มมาถ่าย มันฉลาดมากครับ พอมันรู้ว่าเราจะมาจับมัน มันกระโดดเข้าห้องเล็กๆ มืดๆ ของมันเลย ก็เลยได้จับสองตัวครับคือตัวสีเทา และตัวสีขาว เพราะมีตัวสีขาวตัวนึงอยู่โดดเดี่ยวครับ ในที่โล่งๆ น่ารักมากๆ ครับ ดีนะครับที่น้องสมชายเขาสอนการจับกระต่าย ว่าให้จับขาหลังมัน ไม่งั้นมันจะกระโดดหนี จับยากมากๆครับ พอคนจับมัน มันกลัวสั่นมากครับ ตาโตเชียว หูก็ตกด้วยครับ กร๊ากๆ พอจับกระต่ายเสร็จก็ไปดู ไก่ ดูอะไรต่อ เสียดายไม่เห็นกวางครับ ไปไหนก็ไม่รู้ เพราะหนังสือบอกว่าที่นี่มีกวางครับ อิอิ จากนั้นก็ไปเข้าห้องน้ำแถวๆ นั้น เพื่อทาครีมกันแดดต่อรอบที่สองครับ สนุกมากๆ
|
|
|
48
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่--สายตะวันตก สะเมิง-แม่แจ่ม-กัลยาณิวัฒนา / Re: บ้านวัดจันทร์ ดินแดนแห่งความงดงามท่ามกลางป่าสน
|
เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 10:32:27 AM
|
พอถึงเช้าวัดถัดไป ก็นัดน้องสมชายครับ เป็นเด็กชาวปวากะญอเที่ยว ตั้งแต่เมื่อวานเย็นนี้ครับ พี่ที่สำนักงาน (พี่วิน) เขาจัดให้ ความจิงก็ไม่ใช่รุ่นน้องหรอกครับ อายุเท่ากันแหละครับ เขาก่อนหลังผมประมาณ 5 วัน 555++ วันนี้ตื่นเช้ามาก็กินมาม่า อาหารง่าย ตามเคยครับ เพราะถูกสุดละในที่นี้ และก็นัดน้องเขาประมาณแปดโมงครับ แต่น้องเค้าติดงาน เลทนิดนึง กว่าจะไปก็จะเก้าโมงพอดี ตอนเช้านี้ซ้อนมอเตอร์ไซค์น้องเขาไปเที่ยวนี้ หนาวมากๆ ครับ ระหว่างข้างทางก็ผ่านทุ่งนา เห็นฝูงควายตามท้องทุ่ง ฝูงวัวด้วย ที่แรกที่เราไปคือที่วัดจันทร์ ซึ่งวันนี้พระอุโบสถจะแตกต่างจากที่อื่นๆ และมีเพียงแบบนี้ในประเทศไทยเท่านั้นครับ พระอุโบสถบนหน้าประตูเข้าไปข้างใน จะเป็นรูปแว่นตาหรือเรย์แบน สวย และเจ๋งมากๆ ครับ ไปถึงก็ถ่ายภาพรอบๆ วัดแถวนั้น มีเจดีย์ด้วยครับ อ่านจากหนังสือเขาบอกว่าพระอุโบสถนี้เขาสร้างตั้งแต่ครูบาศรีวิชัยเดินทาง ธุดงค์จนมาถึงบริเวณวัดจันทร์นี้ครับและช่วยพัฒนา พอเที่ยวถ่ายรุปรอบๆ ก็เข้าไปในพระอุโบสถข้างใน พบพระพุทธรูป อ่านในหนังสือเรียกว่าพระสิงห์ครับ ก็นมัสการองค์ท่านก่อนที่จะซ้อนมอเตอร์ไซค์น้องเขาต่อ ไปที่บ้านสันม่วงครับ ไปดูวิถีชีวิตชาวปวากะญอ เหมือนไปเที่ยวที่บ้านห้วยอ้อเมื่อวานนี้ หมู่บ้านที่นี้เล็กมากๆ ครับ แต่ละบ้านก็เลี้ยงหมูตามเคย ก็ถ่ายภาพชาวบ้านด้วยครับแต่งชุดแต่งกาย เห็นผู้เฒ่า ผู้แก่ชาวปวากะญอด้วย ถนนทางเข้าก็ค่อนข้างลำบากหน่อยครับ เป็นทางลูกรังเข้าไปตั้ง 4 กม. ซึ่งความจิงเดินทางมาจาก ออป.มาที่แห่งนี้ก็ได้ครับ มีทางลัด อิอิ ที่นี่ระหว่างทางก็พบป่าสนมากมายตามเคยครับ อ่านจากหนังสือเขาบอกว่า เด็กที่เกิดใหม่ ชาวปวากะญอจะนำสายสะดือไปผูกรัดกับต้นสนครับ เพื่อยืนยันว่าต้นสนนี้เป็นต้นไม้ประจำครอบครัว แต่ที่ในป่าที่มีต้นสนที่มีสายสะดือรัดนี้ อยู่ไกลจากนี้ไปอีกครับ ความจิงว่าจะไปบ้านห้วยฮ่อมต่อ ก็ต้องเดินทางจากหมู่บ้านสันม่วงนี้ไปีอก 3 กม.ครับ และถ้าไปป่าสนที่ผูกสายสะดือก็ต้องเลยห้วยฮ่อมไปอีกครับ วันนี้ที่สันม่วง ก็พอแล้วครับ รู้สึกว่าหมู่บ้านเล็กมาก ไม่ค่อยเห็นวิถีชีวิตมากเท่าที่ควร แต่ก็เห็นฝูงวัว ก็ถ่ายภาพ ฝูงวัวน่ารักๆ พวกนี้ด้วยครับ พอเสร็จจากบ้านสันม่วง เราก็เดินทางต่อไปที่พระธาตุจอมแจ้ง ความจิงมองที่หน้าวัดจันทร์ ที่ตัวอำเภอกัลยาณิวัฒนา ก็มองเห็นครับ เป็นพระธาตุเก่าแก่ร้อยกว่าปีแล้วครับ ทางไปก็ไปเส้นจากสะเมิงตอนขามาแหละครับ และมีทางเข้าป่าแคบๆ เลี้ยวซ้ายมืออกจากตัวอำเภอประมาณ 4-5 กม. ก็เข้าไปก็เจอพระธาตุเล็กๆ ชื่อว่าพระธาตุจอมแจ้งบนนั้นครับ ความจิงเป็นพระธาตุองค์สีขาวนะครับ แต่เขาทาสีใหม่เป็นสีทอง บนนั้นมีพระสงฆ์รูปนึงจำพรรษาในป่า อยู่อย่างเรียบง่ายด้วยครับและมีน้องหมาข้างกายท่านตัวนึงครับ น้องสมชายที่พามาส่ง (คนที่นำเที่ยวที่ชื่อสมชายนี้ แต่คนนี้อายุเท่าผมครับ เป็นชาวปวากะญอ ตอนน้องเขาไปส่ง น้องเขาก็เอาผมทิ้งไว้ที่นั่นสักครู่นึง มีธุระนิดนึง ฟังไม่ค่อยชัดครับ น้องเขาพูดไทยไม่ชัดเท่าหรั่ย 555++ แต่ก็รู้เรื่องส่วนใหญ่ครับ แต่ก็เสียเวลาไปมากครับ เพราะยางรถน้องเขาแตก ก็แช่อยู่ตรงนั้นตั้ง 45 นาที กว่าน้องเขาจะมารับไปเที่ยวต่อครับ
|
|
|
50
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่--สายตะวันตก สะเมิง-แม่แจ่ม-กัลยาณิวัฒนา / บ้านวัดจันทร์ ดินแดนแห่งความงดงามท่ามกลางป่าสน
|
เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 10:23:56 AM
|
เนื่องจากวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก่อนวันมาฆบูชา ก็เลยตัดสินใจไปพักผ่อนที่บ้านวัดจันทร์ ที่อำเภอใหม่ของ จ.เชียงใหม่ครับ อ.กัลยาณิวัฒนา ความจิงว่าจะไปตั้งแต่เดือนมกราคมด้วยซ้ำครับ ว่าจะไปดูพญาเสือโคร่ง แต่ว่าโชคไม่ดี กล้องเจ๊งซะก่อนครับ กร๊ากๆ เลยต้องไปเดือนนี้แทน ตอนแรกว่าจะไปขึ้นรถสองแถวสีเหลืองที่ขนส่งช้างเผือก 9 โมง แต่ไปตรงเวลาเป๊ะเลย รถออกไปก่อนห้านาที อารมณ์เสียนิดนึงครับ ต้องไปรอบสองที่ไปวัดจันทร์ 11.00 น. ก็มีเวลาเวิ่นเว้ออยู่ขนส่งช้างเผือก 2 ชั่วโมง ถ่ายภาพเล่นไปเรื่อยๆ ครับ เดินไปเดินมา คุยกับคนขับรถว่าที่นั่นเป็นงัยบ้าง ยังสวยมั๊ยหน้าร้อนนี้ เขาก็บอกว่ายังสวยอยู่ครับ และพอเดินทางก็มีชาวปวากะญอผู้หญิงกับหลานสาวเขาขึ้นคนนึง จุดมุ่งหมายของผมก็คือเดินทางไปนอนกางเต๊นท์ที่ ออป.บ้านวัดจันทร์ครับ และชาวปวากะญอที่ขึ้นมาด้วย บ้านเขาก็อยู่ใกล้กับ ออป.ครับ เราก็ไปตามเส้นทางแม่ริม-สะเมิง จนถึงสะเมิงก็พักกินข้าว ก่อนกินข้าวก็สั่งผัดไทที่ร้านเดิม เหมือนตอนที่มาไร่สตรอเบอร์รี่เมื่อเดือนที่แล้วครับ มัวแต่เวิ่นเว้อถ่ายภาพแถวนั้น จนมากินข้าวช้า รถจะออกละ โดนคนขับบ่นนิดๆ เลย รีบกินสุดๆ ครับ กร๊ากๆ และนอกจากถ่ายภาพ ก็แวะ 7-11 ที่สะเมิงด้วยครับ จากนั้นก็เดินทางต่อได้เวลาจะบ่ายโมงละ เดินทางช่วงแรกๆ ก็เดินทางผ่านถนนที่สูงชัด ตอนนี้ยังลาดยางอยู่ มีแต่ป่า ถนนก็สูงชัน วิวสูงมากๆ ครับ สุดยอดเลย จนมาถึงบ้านบ่อแก้ว ก็เห็นไร่สตรอเบอร์รี่ปลูกที่นี่เยอะมากครับ และก็นั่งไปสักครู่นึง ก็เริ่มเจอถนนที่ไม่ลาดยางเรียบๆ สีขาว ขอบอกฝุ่นกระจุยเยอะมากครับ และเดินทางไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งเจอถนนลุกรังที่ขรุขระอีก รถเขย่าทั้งทาง ฝุ่นเต็มเลยครับ ดีนะที่รถเหลืองมีผ้าม่านปิดข้างหลัง จนกระทั่งถึงหมู่บ้านนึง คนขับรถปวดปัสสาวะเลยปลดข้างทางครับ ผู้โดยสารที่เป็นผู้ชายที่นั่งมาด้วย เขาก็ไปปัสสาวะกันในป่าด้วยครับ แต่ผมไม่ปวด 55++ จากนั้นก็เดินผ่านถนนลูกรังมาเรื่อย เหนื่อย ลำบากมากครับ ปวดเอวสุดๆ เขย่าทั้งทาง จนกระทั่งเริ่มเห็นป่าสนมากขึ้นครับ เป็นถนนลูกรังนี้ยาว 40 กม. จนกระทั่งมาถึงบริเวณทางเข้าฟาร์มห้วยงู เข้าเขตบ้านวัดจันทร์แล้วครับ เป็นถนนลูกยาง เต็มไปด้วยป่าสนข้างทางพื้นที่กว้างขวางไพศาลมากๆ ครับ ต้นไม้ก็สูง สุดยอดจริงๆ สมควรที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นพื้นที่ป่าสนที่กว้างที่สุดในประเทศไทยครับ จนเข้าเขตวัดจันทร์ คนขับรถมาจอดรถที่หน้าวัดจันทร์ ผมก็ลงที่นั่ง พร้อมจ่ายค่าโดยสาร 150 บาทครับ และคนขับรถก็บอกให้ผมรอรถส่งคนงานที่ ออป. บ้านวัดจันทร์ เพราะจะไปนอนที่นั่นครับ หอบของมาเต็มเลย ก็นั่งพักที่ร้านขายของชำร้านนึงที่หน้าวัดจันทร์ ก็คุยกับเด็กแถวนั้นครับ และก็โชคดีที่เจอเจ้าหน้าที่ ออป.คนนึงขับรถผ่านมา เด็กๆ รู้จัก ก็ช่วยเรียกเขา ให้เขาไปส่งผมถึงที่ ออป.โชคดีมากครับ พอไปถึง ผมก็เอาของไปไว้ที่กางเต๊นท์ และไปที่สำนักงานเพื่อลงทะเบียนพักครับ จากนั้นก็ไปกางเต๊นท์ พอกางเต๊นท์เสร็จ ก็ไปเดินเล่นที่อ่างเก็บน้ำห้วยอ้อ ข้างๆ ออป.ที่พักแหละครับ ป่าสนสวยมากๆ ครับ ขนาดช่วงเย็น และกับข้าวหมู่เย็นนี้ก็ซื้อมาจากสะเมิงครับ เป็นข้าวผัด คือว่าชอบข้าวผัดมากๆ กินแทบทุกมื้อเลยครับ และพอเดินเล่นชิวๆ เสร็จ ก็ไปเที่ยวร้านขายของที่ระลึก ร้านจัดได้สวย ของน่าซื้อทั้งนั้นเลยครับ จากนั้นก็ไปอาบน้ำ นอน ห้องน้ำสะอาด สะดวกสบายมากๆ ครับ ก็นอนหลับ จนเข้าเช้าวันที่ 2 ก็ตั้งใจตื่นแต่เช้าตีสี่ ไก่ก็ขันเยอะมากครับ ตั้งแต่ตีสองละ ชนบททุกที่ที่ไป จะมีไก่ขันเยอะๆ ทั้งนั้นครับ จากนั้นก็รีบไปอาบน้ำ แต่งตัวเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยอ้อ ไม่น่าเชื่อ ขนาดเข้าหน้าร้อนที่นี่หน้าหนาวยังหนาวมากๆ ครับ 7 องศาสุดๆ เลย หมอกเต็มป่าสนรอบๆ ที่พักเลยครับ แต่หมอกนั่น ดมกลิ่นไม่ใช่หมอกไอน้ำหน้าหนาวหรอกครับ เป็นหมอกควันไฟป่าครับ เพราะระหว่างทางที่มามีคนเผาป่าเต็มเลยครับ กร๊ากๆ พอเดินอ่างเก็บน้ำ ก็เดินทุ่งนา ไปกินข้าวมื้อเช้า เป็นข้าวผัดเหมือนเดิมครับ ราคาตั้ง 50 บาท และก็เจอพี่ที่มาส่งเมื่อวาน ชื่อว่าพี่วินครับ เมื่อวานเขาขี่มอเตอร์ไซค์หอบของมาส่งจากที่หน้าวัดจันทร์
|
|
|
51
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำที่เที่ยว เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-แม่ริม-แม่แตง-เชียงดาว-ไชยปราการ-ฝาง-แม่อาย / Re: หมอกจ๋าม ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ธรรมชาติ วัฒนธรรม ครบทุกรส
|
เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:42:54 AM
|
วันสุดท้ายนี้ ก็ไปเที่ยวชมวิถีชีวิตต่อที่บ้านชาวเขาเผ่าลีซูต่อที่บ้านห้วยส้าน ที่โรงเรียนห้วยส้านครับ เพราะวันนี้มีปีใหม่ของชาวลีซู จะเห็นชาวเขาเผ่าลีซูมาเต้นรำกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เห็นครับ แต่งกายสวยมากเผ่านี้ ยิ่งเด็กผู้หญิงบางคนก็สวมหมวกด้วยครับ ของผู้ชายก็จะดูสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง สำหรับการแต่งกายครับ แต่เสียดายคือ กลุ่มชาติพัน์ธุนี้ ขอถ่ายรูป ขอไม่ค่อยได้ครับ เขาจะทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจภาษาไทยเลย หน้าแตกซะเลยครับ พอเสร็จจากหมู่บ้านชาวลีซู ก็จะไปเก็บเต๊นท์พักผ่อน พร้อมที่จะเตรียมตัวกลับแล้วครับ เสียดายเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ เพราะพี่อีกคนนึงก็ไปเที่ยวที่โรงเรียนหมู่บ้านห้วยส้านของเผ่าลีซู เช่นกันครับ ยังไม่กลับ เลยต้องเก็บเต๊นท์เองครับ รีบมากด้วยกลัวไม่ทันรถ และต้องหอบกระเป๋า ไปที่หน้าปากทางโครงการหลวง หน้าโรงเรียนห้วยศาลาด้วยครับ แต่กระเป๋าผ้าห่มหนักมาก ก็เลยจ้างพีชาวสวนช่วยขี่มอเตอร์ไซค์นำขนมาให้ครับ รถสองแถวสีเหลืองท่าตอน-แม่สลองมาถึงพอดี พอจึงโบกและขึ้นทันที บังเอิญเจอน้องสมชาย เด็กอาข่าที่เป็นไกด์นำเที่ยว เราก็ยิ้มแบบอำลากันครับ จากนั้นก็นั่งรถสองแถวสีเหลืองไปท่าตอน แป๊บเดียวก็ถึงครับ เหนื่อยมาก หอบสัมภาระขึ้นท่าตอนไป อ.ฝางอีก ที่คิวรถเมล์ บัสสีส้ม ที่ตลาดฝางกัญญาครับ ได้ถ่ายรูปกับรถเมล์เล่นกับตัวอำเภอฝาง ไม่ถึง 15 นาที รถก็พร้อมออกแล้วครับ บรรยากาศเดิมเวียนมาอีกที จากการที่นั่งรถบัสขากลับเข้าเชียงใหม่ เมื่อไปเที่ยวที่วัดท่าตอนเดือนที่แล้ว เด็กนักเรียนที่เลิกเรียน ทั้งใส่ชุดพละและชุด รด. ชุดนักเรียน ต่างก็ใช้บริการรถบัสนี้ กลับบ้านของพวกเขา และก็เจอตำรวจตรวจทาง ตรงเส้นทางไชยปราการเข้าสู่ อ.เชียงดาว เหมือนคราวที่แล้วครับ เขาจะตรวจกระเป๋า ตรวจบัตรประชาชน เอกสารของพวกไทยใหญ่ที่ถือสัญชาติพม่าอย่างละเอียดครับ อาจจะป้องกันยาเสพติดก็ได้ครับ จอดตั้ง 5 นาทีกว่า ก็เดินทางต่อ เส้นทางอาจจะคดเคี้ยวหน่อยตรงดอยห้วโท แต่ก็บรรยากาศดี อากาศดี เย็นสบาย ป่าไม้สวยงาม ระยะทางไกลด้วย ชอบมากๆ ครับ นั่งกินลมชมวิว หลับไป สบายใจสุดๆ ครับ และใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ ก็ถึงสถานีขนส่งช้างเผือก เชียงใหม่ตอนทุ่มพอดีเลยครับ สรุปคือทริปนี้ เหนื่อยมากและสนุกสุดๆ ครับ คุ้มครับ ^_^
เขียนโดย ปิติภัทร มาทา
|
|
|
52
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำที่เที่ยว เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-แม่ริม-แม่แตง-เชียงดาว-ไชยปราการ-ฝาง-แม่อาย / Re: หมอกจ๋าม ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ธรรมชาติ วัฒนธรรม ครบทุกรส
|
เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:40:54 AM
|
จากหมู่บ้านนานาเผ่านี้ ก็เอาข้อมูลมาเปิดดู ก็ไปที่หมู่บ้านมูเซอที่บ้านผาใต้ครับ ส่วนใหญ่เขาไม่แต่งกายชุดประจำเผ่ากัน ก็เห็นวิถีชีวิตแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เช่น มีการเช่นลูกข่าง ทอผ้า ทำลูกข่างกันและมีการตัดผมผู้ชายด้วยครับ เป็นต้น มีเด็กๆ เล่นชิงช้า มีหมู ไก่ ลูกเจี๊ยบ หมาเหมือนเดิมครับ วิถีแบบชนบทให้ชมกัน พอเสร็จจากเที่ยวชมหมู่บ้านนี้ ก็เดินทางต่อครับ ระหว่างทางก็ซ้อนมอเตอร์ไซค์น้องสมชาย เห็นวิวริมแม่น้ำกกข้างทาง ช่วงหน้าหนาว หน้าแล้ง สวยมากๆ น้ำไม่ไหลเชี่ยว มีโขดหินบนแม่น้ำด้วยครับ พอเสร็จจากหมู่บ้านนี้ก็ไปข้างทาง บังเอิญเห็นสาวชาวลีซูขายไก่ย่าง เลยบอกให้น้องสมชายขี่รับย้อนกลับ เพื่อไปขอถ่ายภาพ ก็ถ่ายได้คนนึง อีกคนเขาไม่ให้ถ่ายครับ 55 ซึ่งก่อนที่จะเจอเผ่าลีซู เราก็แวะที่บ้านเมืองงามเหนือ เพื่อชมแปลงผักของโครงการหลวง ส่วนใหญ่จะเป็นชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ (กะเหรี่ยง) ครับ แปลงสวยมาก วิวสวยบรรยากาศดี เสียดาย ไม่เห็นผลผลิตซักต้นครับ และที่นี่ก็เป็นหมู่บ้านที่ชาวปกาเกอะญอนับถือศาสนาคริสต์ มีโบสถ์ในหมู่บ้านด้วย เสร็จเที่ยววันนี้ทั้งวัน เหนื่อยมาก แต่ก็ได้เห็นอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ เยอะแยะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ซึ่งไม่เคยเห็น และมื้อเย็นก็ไปกินป้าพิณเหมือนเดิมครับ สั่งข้าวขาหมู อิ่มมาก รสชาติใช้ได้ครับ ก็เสร็จสำหรับทริปวันนี้ เหนื่อยมากขอไปพักผ่อน แล้วอาบน้ำนอน เตรียมเก็บของบางส่วน เพราะจะเที่ยวพรุ่งนี้ครึ่งวันและเตรียมเดินทางกลับตอนบ่ายสองวันพรุ่งนี้ เลยครับ
|
|
|
54
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำที่เที่ยว เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-แม่ริม-แม่แตง-เชียงดาว-ไชยปราการ-ฝาง-แม่อาย / Re: หมอกจ๋าม ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ธรรมชาติ วัฒนธรรม ครบทุกรส
|
เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:36:20 AM
|
พอเสร็จจากกินข้าวกลางวัน ก็ว่าจะไปหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลีซู แต่หาไม่เจอครับ ไปอีกหมู่บ้านนึงแต่ไม่ใช่ลีซู คิดว่าน่าจะเป็นเผ่ามูเซอแทบไม่เห็นใครอยู่บ้านเลยครับ สงสัยไปทำไร่ ทำนากัน ทางขึ้นก็ลำบาก เสียเวลาจริงๆ ครับ จึงตัดสินใจไปที่หมู่บ้านใหม่พัฒนาหรือสามัคคีอะไรซักอย่าง เป็นหมู่บ้านนานาเผ่า ก็เห็นชาวอาข่าแต่งกายเต็มยศเลยครับ นั่งขายของ กินหมากด้วย ปากแดง ฟันดำเลยครับ ใส่หมวกประจำเผ่าอย่างเรียบร้อย ผมก็ถ่ายภาพพวกเธอมาและขอถ่ายกับพี่คนนึงด้วย สวยมากครับ การแต่งกายเขาแปลกดี ที่หน้าหมู่บ้านก็มีประตูเข้าหมู่บ้าน มีตุ๊กตาชายหญิงหน้าหมู่บ้านด้วยครับ ถัดจากหมู่บ้านชาวเขาเผ่าอาข่า ผมก็ไปชมหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวข้างในหรือปาดอง มีกะเหรี่ยงคอยาวเต็มเลยครับ ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เห็นครั้งแรกในชีวิต รู้สึกชอบมากครับ ส่วนใหญ่จะเห็นภาพกะเหรี่ยงคอยาวจากในวีดิโอหรือรูปภาพมากกว่า มีทั้งเด็ก คนสาว คนแก่ ใส่ห่วงกันทั้งนั้น ขายของฝีมือหัตถกรรม นั่งทอผ้ากี่เอวกันเต็มเลยครับ มีพี่คนนึงเล่นกีต้าร์กะเหรี่ยง ผมขอให้ร้องเพลง เธอก็ร้องให้ฟังครับ จึงอุดหนุนซื้อของฝากเป็นรูปกะเหรี่ยงกำลังเล่นกีต้าร์อันนึง และเมื่อกี๊หมู่บ้านชาวอาข่าก่อนเข้าหมู่บ้านกะเหรี่ยง ผมก็ซื้อกบที่เอาไม้ตีขูดดับ กบๆ ที่ไนท์บาซ่าก็มีขายครับ หมดไป 160 บาท สำหรับของที่ระลึกครับ ซึ่งหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงนี้ต้องเสียค่าเข้าชม 100 บาทครับ มีทหารเก็บค่าเข้าชมหน้าทางเข้าครับ 2 คน เดินไปก็ถ่ายภาพกับสินค้าที่ขายไป พร้อมถ่ายกับชาวกะเหรี่ยงด้วยครับ
|
|
|
55
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำที่เที่ยว เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-แม่ริม-แม่แตง-เชียงดาว-ไชยปราการ-ฝาง-แม่อาย / Re: หมอกจ๋าม ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ธรรมชาติ วัฒนธรรม ครบทุกรส
|
เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:29:42 AM
|
จากนั้นก็ไปที่หมู่บ้านไทยลื้อ ที่บ้านวังไผ่ เลยจากบ้านใหม่หมอกจ๋ามไปอีก 4 กม. ทุกบ้านที่หมู่บ้านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไทยลื้อ จะเห็นว่าบ้านไหนเป็นไทยลื้อจะมีสติ๊กเกอร์สีม่วง รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสติดไว้ครับ ซึ่งเผ่านี้เดิมอยู่บริเวณแม่น้ำโขง แขวงไชยะบุรีในประเทศลาวครับ ส่วนใหญ่ชาวไทยลื้อ คนแก่ก็จะนุ่งซิ่นเป็นเอกลักษณ์ครับ ก็มีวิถีชีวิตคล้ายๆ ชาวไทยใหญ่ มีการทำของชำร่วย บางบ้านก็กำลังทำอาหาร ทำแกง กับข้าวกันอยู่ ตากข้าวโพดบ้าน และก็มีการจักสานไม้ไผ่ คล้ายๆ กับหมู่บ้านชาวไทยใหญ่ครับ ลักษณ์การสร้างบ้านก็จะสร้างบนเดินบ้าง ที่ราบบ้าน บางบ้านต้องขึ้นเนินไปเล็กน้อยครับ ส่วนพวกผู้ชายก็จะออกไปทำสวนบ้าน เป็นกรรมกรสร้างบ้านบ้าง หมู่บ้านนี้อยู่ริมแม่น้ำกก สามารถเดินไปชมวิวริมแม่น้ำสวยมากครับ และก็จะเห็นเรือหางยาวที่นำนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาจากท่าตอน ไปเที่ยวเชียงรายผ่านไปตลอดครับ ผ่านมาทีนึงน้ำซึดขึ้นเต็มฝั่งเลยครับ และถัดจากนั้นผมก็ดูข้อมูลที่หามา ไปหมู่บ้านแม่สลักครับ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีเผ่ามูเซอหรือลาหู่ รวมทั้งจีนยูนนาน (จีนฮ่อ) ปนด้วยครับ หลังจากเที่ยวชมหมู่บ้านไทยลื้อที่หย่อมบ้านวังไผ่เรียบร้อยแล้ว ผมก็ดูข้อมูลการท่องเที่ยวที่หามา แล้วให้น้องสมชาย เด็กชาวอาข่าที่จ้างพาเที่ยวพาไปที่หมู่บ้านแม่สลักครับ เพื่อไปเที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าต่างๆ ในหมู่บ้านนี้ก็จะมีจีนยูนนาน (จีนฮ่อ), มูเซอ (ลาหู่) ครับ ทางเข้าก็เป็นหมู่บ้านจีนยูนนานครับ แต่ละบ้านบริเวณหน้าบ้านจะมีอักษรจีนกำกับไว้อยู่ และเป็นบ้านชั้นเดียว ชาวจีนยูนนานนอกชุดแต่งกายประจำเผ่า ก็จะเป็นผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอยู่บ้านกัน กำลังนั่งเล่นคุยกัน และก็มีเด็กจีนยูนนานปั่นจักรยานเล่นแถวๆ นั้นครับ เดินเข้าไปอีกจะเห็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่ามูเซอ เป็นบ้านบนเนิน อัดกันหลายๆ หมู่บ้านครับ ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะอยู่ในบ้านกันในกระท่อมที่พวกเขาปลูก ได้ยินเสียงพวกเขาคุยกันด้วยครับ ก็เลยเก็บภาพวิถีชีวิตได้ไม่มากเท่าที่ควร ไว้วางแผนไปชมหมู่บ้านมูเซออันอื่นในช่วงบ่ายและกัน ก็เก็บภาพชาวเขามูเซอได้ครอบครัวนึงครับ กำลังเลี้ยงลูกทำกับข้าวอยู่ และที่หมู่บ้านมูเซอนี้ก็จะมีเลี้ยงหมูเหมือนบ้านกะเหรี่ยง ปวากะญอที่บ้านแม่กลางหลวง บนดอยอินที่เคยไปเลยครับ แต่หมูของเผ่ามูเซอสีจะดำสนิทเข้มมากกว่า และมีลูกเยอะด้วยครับ มีลูกหมูน่ารักๆ วิ่งเต็มเลยครับ มีไก่และลูกเจี๊ยบเยอะมากๆ พอเที่ยวชมหมู่บ้านเสร็จ ก็ไปชมวิวทุ่งนาขั้นบันได วิวบนดอยที่ทำการเพาะปลูกแบบเลื่อนลอย แบบขั้นบันได บรรยากาศดีมากๆ ครับ อากาศดีมากวันนี้ เย็น แทบไม่มีแดด สวยมากครับ จากนั้นเราก็ไปบ้านท่ามะแกงกันต่อ เพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านป้าพิณต่อครับ สำหรับมื้อนี้กินผักดอกกะหล่ำเหมือนเดิมครับ แต่ไม่ใส่พริก เพราะเมื่อวานใส่พริกเผ็ดไปนิดเดียว และระหว่างทางไปร้านป้าพิณ ก็ชมวิวริมแม่น้ำกกตลอดทาง สวยมากๆ ครับ มีหมอก มีเรือหางยาวล่องผ่าน เห็นแปลงผักต่างๆ มีแปลงข้าวโพดบ้าง ถั่วเหลืองบ้างอย่างกว้างขวาง สวยงามจริงๆ ครบ ชนบทที่นี่ เห็นกองฟางข้าวที่ทำเป็นรูปทรงแปลกตาคล้ายๆ เห็ดมากมายเลยครับ
|
|
|
56
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำที่เที่ยว เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-แม่ริม-แม่แตง-เชียงดาว-ไชยปราการ-ฝาง-แม่อาย / Re: หมอกจ๋าม ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ธรรมชาติ วัฒนธรรม ครบทุกรส
|
เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:26:07 AM
|
ก่อนไปกินข้าวเย็น ก็ไปเที่ยวชมทุ่งนาที่เก็บเกี่ยวแล้ว มีแต่ตอครับ และมีไร่ข้าวโพด ก็ไปถ่ายภาพแป๊บนึง และก็ไปกินกับข้าวที่ร้านป้าพิณ อยู่บ้านท่ามะแกงครับ สั่งผัดกะหล่ำดอก อร่อยมากๆ ครับ เสร็จจากกินข้าว ก็จ่ายค่ามัดจำให้น้องสมชายที่อาสาไปส่ง พร้อมกับนำเที่ยวในวันต่อครับ เสร็จแล้วก็เข้าเต๊นท์พักแป๊บนึง ก็อาบน้ำนอน เริ่มเช้าพรุ่งนี้วันต่อไปครับ ถึงวันที่สอง ตื่นแต่เช้า ก็มาอาบน้ำ เย็นมากๆ ครับ เป้าหมายวันนี้คือไปเที่ยวบรรดาหมู่บ้านชนเผ่าต่างๆ เพื่อศึกษาวิถีชีวิตและดูการแต่งกายของพวกเขาครับ โปรแกรมแรกของเช้าวันนี้คือไปที่หมู่บ้านบ้านใหม่หมอกจ๋าม ซึ่งเป็นชุมชนชาวไทยใหญ่ขนาดใหญ่มากๆ ครับ และก็ได้ไปที่วัดใหม่หมอกจ๋ามเป็นแห่งแรก ที่วัดนี้เป็นวัดที่มีศิลปะแบบไทยใหญ่ มีการสร้างอาคารที่เป็นจอง หลังคาซ้อนกันหลายๆ ชั้นครับ สวยงามมากๆ เวลาซ้อนรถมอเตอร์ไซค์น้องสมชายที่พี่สุทัศน์อาสามาให้เป็นไกด์ท้องถิ่นให้ ผม ก็จะเห็นชาวไทยใหญ่แต่งกายเป็นเอกลักษณ์เดินเต็มท้องถนนในหมู่บ้านเลยครับ สำหรับวิถีชีวิตที่พบเห็นก็คือจะเห็นชาวไทยใหญ่ทำไร่ ปลูกผัก ปลูกถั่วเหลืองบริเวณที่ดินริมฝั่งแม่น้ำกก และวันนี้อากาศดีมากๆ ครับ เป็นหมอก แดดไม่แรงเลยครับ นอกจากนี้ก็เห็นชาวไทยใหญ่ทอผ้า ทำการจักสานไม้ไผ่ และมื้อเช้าก็กินอาหารที่หมู่บ้านนี้ครับเป็นข้าวซอยไก่ครับ จากนั้นก็ชมวิถีชีวิตชาวไทยใหญ่ต่อ ส่วนใหญ่จะเห็นเขาจะสานไม้ไผ่กันเต็มเลยครับ และเห็นผู้หญิงบางคนจะเอาผ้าพาดผมแบบไขว้เป็นเอกลักษณ์เลยครับ ถ่ายรูปภาพเด็ก รูปหมามาลงด้วยครับ เวลาถ่ายต้องขออนุญาตด้วยครับ ว่ามาศึกษาวิถีชีวิตของชาวไทยใหญ่
|
|
|
57
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำที่เที่ยว เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-แม่ริม-แม่แตง-เชียงดาว-ไชยปราการ-ฝาง-แม่อาย / Re: หมอกจ๋าม ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ธรรมชาติ วัฒนธรรม ครบทุกรส
|
เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:09:23 AM
|
จากนั้นก็ไปเดินที่บ้านห้วยศาลา ซึ่งเป็นชุมชนชาวเขาเผ่าอาข่า อยู่ใกล้ๆ กับโครงการหลวงนี่แหละครับ ต้องค่อยๆ ไปทีละบ้าน และขอเขาถ่ายรูป วิถีชีวิต การแต่งกายไปทีละบ้านครับ บางคนก็พูดไทยแทบไม่ได้ เด็กรุ่นใหม่จะพูดชัดเจนครับ ส่วนรุ่นวัยกลางคนจะฟังไม่ชัดเท่าไหร่ ที่นี่เท่าที่เห็นบ้านก็เป็นลักษณะของกระท่อมไม้ไผ่ ปูหลังคาเป็นฟาง ห้องนอนก็เป็นแคร่ไว้นอน มีครัว ผิงไฟในบ้านเลยครับ มีห้องน้ำ มีห้องน้ำที่ทำจากไม้ไผ่ด้วยครับ ส่วนผู้ชายเท่าที่เห็นเขาก็จะใส่แค่กางเกงใน หรือขาสั้น อาบที่โล่งๆ เปิดก๊อกน้ำเลยครับ และที่นี่ไก่เยอะมากๆ แบบว่าตอนเช้าตรู่ ขันกันแทบไม่หยุดเลยครับ และก็มีลูกเจี๊ยบเดินตามแม่ไก่ให้เห็นมากมายครับ ระหว่างที่เดินหมู่บ้านชาวอาข่า ก็มีน้องคนนึงเห็นผมเป็นนักท่องเที่ยว อาสาพาไปชมหมู่บ้านช่วงนึงครับ ก็พาไปดูประตูผี ประตูทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งหน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน ต้องมีตุ๊กตาหญิงชายอยู่ด้วยครับ แต่นี่ไม่เห็นเพราะมีหญ้าขึ้นเต็มเลยครับ และน้องเขาก็ไปดูเสาชิงช้า ที่ชาวอาข่าจะโล้ชิงช้ากันเป็นประเพณีนี้ในเดือนสิงหาคมครับ ก็เดินไปกันแล้วถามข้อมูลเกี่ยวกับเผ่านี้ไปด้วย พอเสร็จก็จ่ายทิปให้เขานิดนึงครับ อิอิ พอเสร็จไปที่ลานกางเต๊นท์ก็เจอพี่สุทัศน์พอดีครับ พี่เขาก็ถามว่าไปเที่ยวไหนบ้างและมีโปรแกรมรัยบ้าง ตอนแรกบอกว่าจะไปท่าตอนพรุ่งนี้เช้า และเช่ามอเตอร์ไซค์ เขาก็อาสาสั่งให้เด็กชาวอาข่าคนนึงซึ่งเป็นลูกแม่บ้านที่โครงการหลวง ชื่อว่าน้องสมชายครับ พาไปเที่ยว และบอกให้ช่วยจ่ายค่าขนมให้น้องเขาด้วย ไม่ต้องไปเช่ามอเตอร์ไซค์มาแล้ว ไปคนเดียว เดี๋ยวจะหลงครับ และน้องสมชายคนนี้ก็พาไปกินข้าวเย็นที่บ้านท่ามะแกงด้วยครับ อยู่ใกล้ๆ โครงการหลวงประมาณ 2 กม.เองครับ ก็เห็นพี่เจ้าหน้าที่คนนึงวิ่งจ๊อกกิ้งทุกเย็นเลยครับ จากโครงการหลวงไปท่ามะแกง อึดมากๆ น้องเขาบอก
|
|
|
59
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำที่เที่ยว เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-แม่ริม-แม่แตง-เชียงดาว-ไชยปราการ-ฝาง-แม่อาย / หมอกจ๋าม ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ธรรมชาติ วัฒนธรรม ครบทุกรส
|
เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2013, 07:03:46 AM
|
หลายคนอาจไม่รู้จักโครงการหลวงหมอกจ๋าม ตั้งอยู่ที่ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ครับ สาเหตุที่ผมรู้จักกับโครงการหลวงนี้ เพราะเคย print แผนที่ของตำบลท่าตอนมา คือตอนแรกอยากจะไปเที่ยววัดท่าตอนครับ และก็ไปมาแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน ตอนปลายเดือนที่ผ่านมา และ 1 เดือนต่อมา ทริปที่ 2 ของผมในช่วงหน้าหนาว ก่อนที่จะเข้าสู่ปีใหม่ เลยตัดสินใจไปที่โครงการหลวงหมอกจ๋ามนี้แหละครับ เส้นทางเดียวกันกับวัดท่าตอน เลยไปอีกประมาณ 13 กม. ก็นั่งรถโดยสารสีส้มเชียงใหม่-ท่าตอน เหมือนเดิมนั่นแหละครับ ราคา 90 บาท พอมาถึงท่าตอน ก็แวะรับประทานอาหารที่ร้านมิ้น โภชนา เป็นร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ สะพานข้ามแม่น้ำกก ก็กินตามเดิมที่ชอบแหละครับ ข้าวผัด กร๊ากๆ พอกินเสร็จก็หอบสัมภาระมากมาย ทั้งกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าชุดถ่ายรูป กระเป๋าผ้าห่ม เต๊นท์ ขึ้นรถสองแถวสีเหลืองท่าตอน-แม่สลองนะครับ ไม่ได้ไปแม่สลองนะครับ ไปที่โครงการหลวงหมอกจ๋าม สาเหตุที่เลือกไปเที่ยวที่นี่เพราะในแผนที่ตำบลท่าตอนที่เคย print มา จะมีรูปภาพชาวเขามากมายหลายเผ่าอยู่ในแผนที่ใกล้ๆ กับโครงการหลวงนี้ครับ เพราะผมชอบดู ชอบถ่ายภาพชาวเขา ชนเผ่าอยู่แล้ว เพราะบางเผ่าไม่เคยเห็น และชอบดูวิถีชีวิตของพวกเขาด้วยครับ แต่งกายสวยงามไป แต่ละเผ่ามีเอกลักษณ์ของตนเอง
|
|
|
60
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / ดอยภูคา เสน่ห์มนต์ขุนเขาเมืองน่าน
|
เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2013, 12:38:24 PM
|
ครั้งหนึ่งในชีวิตได้ไปเที่ยวสัมผัสที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ.ปัว จ.น่าน เมื่อวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ เมื่อปี 2554 2 ปีที่แล้วละครับ ไปคนเดียวตอนนั้น ประทับใจมากๆ เพราะไปน่านเป็นครั้งที่ 2 และไปตะลุยดอยที่นอกเมืองด้วย ก็นั่งรถออกกลางคืนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ของวันนั้น นั่งรถเมล์เขียวของบริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง รอบ 4 ทุ่มครึ่ง มาถึง อ.ปัว จ.น่าน ตอนตีสี่กว่าๆ ก็หาอาหารมื้อเช้าทานเลย หิวแล้วครับที่ 7-11 ที่ อ.ปัว เพื่อรอขึ้นรถสองแถวสีน้ำเงินปัว-ภูคา-บ่อเกลือ ลงที่หน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ถนนหนทางขึ้นดอยภูขาสูงชัน วิวทิวทัศน์กว้างขวาง โล่งมาก ค่อนข้างเป็นภูเขาหัวโหล้นครับ เพราะทำไร่เลื่อนลอยกันเยอะ พอขึ้นดอยสูงๆ ก็เริ่มเจอป่าสน เห็นต้นดอกเสี้ยวสีขาวบานสะพรั่งเต็มหน้าผา สวยงามมากๆ ซึ่งดอกเสี้ยวสีขาวถือเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดน่านด้วยครับ พอมาถึงหน้าที่ทำการก็หอบกระเป๋าไปพักที่หน้าที่ทำการอุทยานฯ ก่อน เพื่อชมนิทรรศการที่จัดอยู่ข้างใน ซึ่งบรรยายถึงสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศของดอยภูคา พร้อมกับชนิดของสัตว์ป่า พันธุ์ไม้ ดอกไม้ที่พบที่ดอยภูคา จากนั้นก็หอบกระเป๋าไปพักที่บ้านเกวียนครับ เหนื่อยมาก เพราะทางขึ้นไปพักชันมาก หอบคนเดียวเองเลย 555 ที่พักก็คืนละ 300 บาท ได้จองล่วงหน้าทางอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้วครับ จากนั้นผมก็อาบน้ำ แต่งตัวไปเดินป่าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติวงรอบเล็กระยะทาง 1.5 กม. ความจริงมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติวงรอบใหญ่ต่อด้วยอีก 3.5 กม. แต่ผมเดินไม่ไหวแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน ระหว่างทางก็เดินสำรวจต้นไม้ ทางค่อนข้างแคบครับ หน้าฝนต้องเดินอย่างระมัดระวังนี่ก็เป็นช่วงปลายหน้าหนาวด้วย ระหว่างทางก็มีสะพานข้ามลำธารด้วย จุดประสงค์ของการเดินป่าครั้งนี้ก็เพื่อมาชมดอกชมพูภูคา ซึ่งจะบานทุกปี ตอนช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคมพอดีครับ และดอกไม้ชนิดนี้ยังพบได้เพียงที่เดียวในโลกที่อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ รวมถึงต้นเต่าร้างยักษ์ ซึ่งเป็นปาล์มดึกดำบรรพ์ใกล้สูญพันธุ์ที่พบ ณ ที่นี้ด้วยเหมือนกันครับ สามารถชมได้ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้ ก็เดินป่าจนถึงเย็น จากนั้นก็รับประทานอาหาร อาบน้ำเข้านอน เพื่อเดินทางท่องเที่ยววันต่อไป จุดหมายวันต่อไปก็คือการไปเที่ยวต้นชมพูภูคาที่ริมถนนครับ ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 5 กม. ความจริงลืมบอกไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา นั่งสองแถวหรือขับรถมาจาก อ.ปัว 21 กม.ครับ นั่งไป ชมวิวข้างทางไป เป็นถนนลอยฟ้า วิวสวยครับการไปชมดอกชมพูภูคา ผมได้โบกรถสองแถวปัว-บ่อเกลือที่นั่งมาเมื่อวานครับ แต่เมื่อวานเป็นรถคันใหญ่ วันนี้เป็นรถสองแถวคนัเล็กครับ ข้างทาง จะเห็นภูเขาสูงชัน ได้กลิ่นไอธรรมชาติเต็มที่ ขุนเขายิ่งใหญ่มากๆ ครับ มีมนต์เสน่ห์ขลังที่ยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ สมควรเป็นแหล่งต้นน้ำธรรมชาติที่ควรอนุรักษ์ไว้ครับและผมทราบมาว่าดอยนี้เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำน่านด้วยครับ พอถึงตรงจุดชมต้นชมพูภูคา โชคดีที่ผมมาถูกเวลา ดอกชมพูภูคามีลักษณะเป็นสีชมพู คล้ายทรงระฆังคว่ำอยู่เป็นพวงๆ บานเต็มต้นเลย มีผู้คนจากทุกสารทิศมาเที่ยวชมกันมาก ใกล้ๆ กับต้นชมพูภูคาก็มีศาลเจ้าพ่อภูคา ผมก็ไหว้สาท่านด้วยครับ จากนั้นผมก็เดินทางต่อไปลานดูดาว อยู่ใกล้ๆ ต้นชมพูภูคาไม่กี่เมตร ตรงจุดนี้เป็นลานกางเต๊นท์ เหมาะสำหรับดูดาวตอนกลางคืน เพราะเป็นมุมที่เห็นภูเขาสลับซับซ้อน โล่ง กว้าง ฟ้าเปิดด้วยครับ มีร้านอาหาร ห้องน้ำบริการด้วย มีต้นดอกเสี้ยวให้ชมด้วย ที่อุทยานแห่งชาตินี้มีต้นดอกเสี้ยวเยอะมาก รวมถึงที่ทำการด้วยครับ มันจะออกช่วงต้นฤดูร้อนนี้พอดี บานสะพรั่งเต็มดอยทุกต้นเลยครับ มีกลิ่นหอมด้วยถ้าเข้าไปใกล้ๆ พอดีได้เวลาใกล้เย็นแล้วผมก็ขอใช้บริการนั่งรถกลับที่พักกับนักท่องเที่ยวคนอื่่นให้ไปส่งที่่ที่ทำการ ใจดีมากๆ ครับ พอถึงที่ทำการผมก็เข้าที่พัก จัดการธุระ เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย เพื่อกลับเชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้ครับ สนุกมากทริปนี้ มาครั้งแรก ลุยเดียว คุ้มค่าและปลอดภัย กลับบ้านโดยสวัสดิภาพครับ ^_^
เขียนโดย ปิติภัทร มาทา
|
|
|
|
|