แสดงกระทู้
|
หน้า: 1
|
3
|
ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านอาหารไทย สวนอาหาร เชียงใหม่ / ชวนชิม .....ร้านอาหารโป่งแยงแอ่งดอย แม่่ริม จังหวัดเชียงใหม่
|
เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2013, 12:13:06 PM
|
....ชวนชิม .....ร้านอาหารโป่งแยงแอ่งดอย เส้นแม่่ริม จ.เชียงใหม่ .... ![903](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/903.gif) โป่งแยง แอ่งดอย มีความเหมือนท่ามกลางความแตกต่างของฤดูกาล คือความสดชื่น ความสงบสุขเพื่อการพักผ่อนที่แท้จริง ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยแนวเขา และ แมกไม้ใหญ่น้อย บรรยากาศหอมสดชื่นจากดอกไม้ไทยนานาพันธุ์ ความงามของสีสันแห่งดอกไม้เมืองหนาวปกคลุมพื้นดินชุ่มฉ่ำ น้ำตกซัดซ่าลงสู่ลำธารใสเย็น ณ อาณาบริเวณแห่งนี้ โป่งแยง แอ่งดอย คือสถานที่ที่คุณสัมผัสถึงความสุขจากเสน่ห์แห่งธรรมชาติในทุกๆ ฤดูกาล ความชุ่มฉ่ำเขียวขจีและกลิ่นอายของผืนดินหลังฝนในวสันต์ฤดู ลมหนาวที่พร่างพรูโบยโบกนำพาสายหมอกลอยเรี่ยลงกระทบไหล่เขาในเหมันต์ฤดู สายลมแห่งขุนเขาและพงไพรพัดผ่านลำธารใสเย็นระริกไหวสู่เงาไม้ใหญ่ร่มรื่น มอบความผ่อนคลายในคิมหันต์ฤดู ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามที่นี้ ยังมีร้านอาหารที่รสชาติเป็นเลิศ ที่ผู้คนได้ชิมแล้วต่างติดอกติดใจ อิ่มอกอิ่มใจ และอิ่มท้อง เพราะที่ร้านอาหารยังมีวิวสวย ๆ ให้ลูกค้าได้ชมระหว่างรับประทานอาหาร มาที่นี่พูดไ้เลยว่า อิ่มทั้งท้อง อิ่มทั้งใจสุดๆ ถ้าท่านใดได้เดินสายไปเที่ยวทางเส้นแม่ริม อย่าลืมมาแวะชิม แวะชมร้านอาหารโป่งแยงแอ่งดอย ที่ขึ้นชื่อในเส้นนี้ รับรองทุกท่านจะติดใจ จนต้องหาเวลาแวะมาอีกเป็นแน่......... ขอนำเสนอ : เมนูแนะนำของทางร้านโป่งแยงแอ่งดอย : ยำเห็ดเข็มทอง, เปาะเปี๊ยะทอด, สลัดขาหมูเยอรมัน, ยำข้าวตังทูน่า, สเต็กไก่-หมู-เนื้อ, ยำกุ้งฟู, ส้มตำฟักแม้วกุ้งสด, แหนมชุบแป้งทอดโป่งแยง, หมูทอดแดดเดียว, ผักบุ้งผัดเคย, ต้มข่าไก่ .......................... ![903](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/903.gif) ............................
|
|
|
4
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / เสน่ห์แห่งขุนเขาและวิถีชีวิต... ที่บ้านห้วยห้อม
|
เมื่อ: มีนาคม 20, 2013, 01:31:42 PM
|
จากจุดชมวิวขับไปเพียงกิโลเมตรเดียว ก่อนเข้าสู่ อำเภอแม่ลาน้อย มีทางแยกขวามือเข้าไปสู่บ้านห้วยห้อม หมู่บ้านโอทอปในหุบเขา เส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านกว่า 30 กิโลเมตรเริ่มด้วยทางลาดยางอย่างดี ลัดเลาะไปตามภูเขาผ่านหลายหมู่บ้านระหว่างทาง แล้วก็แปรเปลี่ยนเป็นทางลูกรังไต่สู่ที่สูง สร้างอารมณ์ได้ถึง 2 รูปแบบ อีกทั้งสภาพสองข้างทางก็สร้างความเพลิดเพลินได้อย่างไม่น่าเบื่อ เห็นเทือกเขาสลับซับซ้อนไปสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว ก่อนจะเข้าไปที่บ้านห้วยห้อม เข้าไปที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย ที่อยู่ในบ้านดง ซึ่งเป็นที่พักในการมาเยือนหมู่บ้านในหุบเขา จากปากทางเข้าทางเริ่มไต่ลงจากความสูงสู่ที่ราบกลางหุบเขา ลัดเลาะผ่านนาขั้นบันไดที่อยู่ตามเชิงเขา สวยกว่าที่อื่นๆ ที่ดูแปลกตากว่าเห็นจะเป็นช่วงขั้นบันไดที่สูง มองเห็นความต่างระหว่างขั้นอย่างชัดเจน ก็เพราะพื้นที่มีความราดชันสูงนั่นเอง ยิ่งฉาบด้วยแสงยามบ่ายแก่ๆ ก็ทำให้น่าหลงใหลยิ่งขึ้น กว่าจะเข้าถึงโครงการหลวงก็ใช้เวลานาน ทั้งที่ระยะทางเพียง 3 กิโลเมตร โครงการหลวงได้เข้ามาส่งเสริมการประกอบอาชีพของชาวบ้านที่นี่ในหลายหมู่บ้าน มีทั้งชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงหรือปกอกะญอ และเผ่าละว้า หรือลัวะ ที่บ้านดงนี้เป็นชาวลัวะ นอกจากปลูกข้าวแล้วยังปลูกผักปลอดสารพิษอีกด้วย อาหารของเราจึงมีผักสดปลอดสารพิษเพื่อสุขภาพในทุกมื้อ ก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น ก็ออกจากโครงการหลวง ไต่ความสูงจากที่ราบหุบเขามาเสพบรรยากาศยามเช้าของขุนเขา เฝ้ารอชมทะเลหมอก ก่อนที่จะแตกฟุ้งเป็นปุยนุ่นไปพร้อมกับแสงทองของดวงอาทิตย์ แล้วเดินทางต่อไปยังบ้านห้วยห้อม ที่อยู่ห่างไปเพียงไม่กี่กิโลเมตรบนทางลูกรังช่วงแรก บ้านห้วยห้อม เป็นหมู่บ้านในอ้อมกอดของขุนเขา มีนาขั้นบันไดและยังมีต้นหมากสูงเด่นเป็นทิวแถว เข้าสู่หมู่บ้านก็ตรงไปหาพี่มะลิวัลย์ ประธานกลุ่มแม่บ้านของที่นี่ แล้วก็ถือเป็นโชคสองชั้นที่บ้านพี่มะลิวัลย์อยู่ติดกับโบสถ์ของหมู่บ้าน จึงได้พบเห็นชาวบ้านแต่งตัวชุดกะเหรี่ยงสวยงามมาโบสถ์กันในเช้าอย่างนี้ เสียงพูดสำเนียงกะเหรี่ยงของพี่มะลิวัลย์เล่าให้เราฟังถึงเรื่องราวของหมู่บ้านและครอบครัว ชาวบ้านที่ห้วยห้อมนับถือศาสนาคริสต์ โดยการเข้ามาช่วยเหลือของมิชชันนารีก่อนที่โครงการหลวงจะเข้ามาช่วยเพิ่มเติม อาชีพหลักคือปลูกข้าว ยังมีเสาวรส กาแฟพันธุ์อะราบิกาที่รสชาติเข้มข้น เพราะปลูกในพื้นที่สูง ใต้ร่มเงาของไม้ยืนต้น กว่าเมล็ดจะแก่ก็นาน การเพาะปลูกของที่นี่ไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ ให้เกิดสารตกค้าง จนได้รับการยอมรับจากสตาร์บักส์ และยังมีการเลี้ยงแกะ ทำให้เกิดอาชีพเสริมคือการทอผ้าพันคอและผ้าคลุมไหล่กันความหนาว ถูกใจสาวๆ เขาล่ะ วิธีการทอเป็นวิธีดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยง โดยใช้กี่เอวชาวบ้านที่นี่ไม่ค่อยออกไปทำงานที่อื่น เพราะในหมู่บ้านมีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ จึงมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง การเดินทางเที่ยวในหมู่บ้าน ไปดูการเลี้ยงแกะและไร่กาแฟ รวมทั้งชิมกาแฟจากฝีมือการชงของพี่มะลิวัลย์ ที่นี่ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ที่จะได้ซึมซับวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงบ้านห้วยห้อมอย่างใกล้ชิด ใช้เวลาทั้งวันอยู่ที่นี่โดยไม่รู้สึกว่าเบื่อเลย การอยู่ที่บ้านห้วยห้อมเหมือนกับอยู่ในอีกห้วงเวลาที่เข็มนาฬิกาเดินช้ากว่าปกติ แต่สุดท้ายก็ต้องกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงอย่างน่าเสียดาย................................................ ![915](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/915.gif) """""""""""""""""""""""""""""""
|
|
|
5
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำ อุทยานแห่งชาติ, วนอุทยานแห่งชาติ จังหวัดเชียงใหม่ / Re: ดอกซากุระบาน บนดอยขุนตาน
|
เมื่อ: มีนาคม 16, 2013, 05:27:30 PM
|
![:16:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/16.gif) ในช่วงวันเวลาฤดูหนาว ที่อุทยานฯ ขุนตานยังเบ่งบานไปด้วยมวลไม้ดอกนานาพันธุ์ ทั้งที่หาชมยากและใกล้สูญพันธุ์ไปแล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นดอกไม้ได้ตลอดเส้นทาง และที่บริเวณจุดยุทธศาสตร์ที่ 2 (ย.2) บ้านพักหม่อมคึกฤทธิ์ ปราโมช มีต้นซากุระหรือต้นพญาเสือโคร่ง เหลืออยู่ต้นเดียว ออกดอกเบ่งบานในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือน กุมภาพันธ์ นอกจากนั้นบนดอยขุนตานยังพบพันธุ์ไม้ดอกซึ่งเป็นไม้ป่าออกดอกหมุนเวียนตลอดปี เช่น พืชสกุลขิง และลิลลี่ ดอยขุนตานยังจัดว่ามีความหลากหลายทางพฤกษาชาติมากมาย กล่าวคือเป็นถิ่นที่อยู่ของพืชที่มีท่อชนิดต่างๆ กว่า 1,300 ชนิด หากใครที่อยากจะสัมผัสมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติบนดอยขุนตาน สามารถติดต่อได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน โทรศัพท์ 053-519216 , 053-519217 อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด คือ ลำพูนและลำปาง มีเนื้อที่ประมาณ 255.25 ตารางกิโลเมตร จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 14 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2518 ลักษณะป่าของดอยขุนตาน นับว่ายังเป็นป่าที่มีอายุไม่มากเมื่อเทียบกับชั้นของหิน ใยช่วงประมาณ 100 ปีที่ผ่านมา ป่าบริเวณนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากเนื่องจากการถูกรุกรานของมนุษย์ ป่าดอยขุนตานสามารถแยกเป็นประเภทได้ 3 ประเภท ตามลักษณะความสูงของพื้นที่ ความสูงระดับต่ำ (325-850 เมตร) เป็นพื้นที่ของป่าไม้สัก ปัจจุบันกลายเป็นป่าเสื่อมโทรมที่มีไผ่ผสมกับไม้ผลัดใบหรือป่าเบญจพรรณ ความสูงระดับปานกลาง (850-1,000 เมตร) เป็นบริเวณที่ต่อเนื่องระหว่างป่าผลัดใบระดับต่ำกับป่าดิบและป่าสน เกิดเป็นป่าที่ผสมผสานระหว่างป่าดิบกับป่าผลัดใบ ที่นี่เราสามารถพบเห็นสนธรรมชาติที่มีอยู่เพียง 2 ชนิดในประเทศ คือ สน 2 ใบ และสน 3 ใบ ความสูงระดับยอดเขา (1,000-1,373 เมตร ) ป่าบริเวณนี้ส่วนใหญ่ประกอบด้วยพรรณไม้เนื้อแข็งเป็นส่วนใหญ่และมีสน 3 ใบขึ้นปะปน........................
|
|
|
6
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำ อุทยานแห่งชาติ, วนอุทยานแห่งชาติ จังหวัดเชียงใหม่ / ดอกซากุระบาน บนดอยขุนตาน
|
เมื่อ: มีนาคม 16, 2013, 04:57:42 PM
|
![:26:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/26.gif) อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน ได้รับประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 10 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2518 ถึงวันนี้มีอายุเกือบ 40 ปี ว่ากันว่าในช่วงเวลาของหนุ่มสาว หากใครที่ยังไม่เคยแบกเป้เข้าป่า ขึ้นไปเที่ยวดอยขุนตานแล้วละก็ยังนับว่าไม่อาจผ่านวันเวลาแห่งการเป็นวัยรุ่นนั้นได้ เมื่อมาถึงที่ทำการอุทยานฯ นักท่องเที่ยวจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ คนละ 20 บาท เส้นทางจากนี้ไปจะเป็นทางเดินขึ้นสู่ยอดดอย ในช่วงแรกจะมีทางสำหรับรถยนต์ระยะทางประมาณ 2,500 เมตรขึ้นไป จนถึงลานจอดรถจากนั้นก็เดินเท้าต่อไปยังจุดยุทธศาสตร์ที่ 1 (ย.1) เส้นทางเดินช่วงนี้จะเป็นทางขึ้นเขาที่แคบพอเดินสวนกันได้ส่วนใหญ่เป็นบันไดปูนและหิน บริเวณจุดยุทธศาสตร์ที่ 1 (ย.1) สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 900 เมตร ในอดีตที่แห่งนี้เคยเป็นที่ประทับพักแรมของกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ซึ่งเสด็จมาเป็นแม่งานคุมงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟขุนตาน ปัจจุบันบริเวณ ย.1 เป็นกลุ่มบ้านพักของการรถไฟแห่งประเทศไทยไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว บริเวณนี้เราจะเห็นกลุ่มต้นสนแทรกตัวปะปนกับพันธุ์ไม้อื่นทั่วไปที่ระดับความสูง 850-1,000 เมตรซึ่งเป็นระดับความสูงปานกลางของดอยขุนตานที่เชื่อมต่อเนื่องระหว่างป่าผลัดใบกับป่าดิบสน จาก ย.1 ขึ้นไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ถึงบริเวณ ย.2 ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บริเวณนี้เป็นที่พักของบริษัทตัดไม้ หลังสงครามสงบหม่อมราชวงศ์คึกฤกธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีได้ซื้อพื้นที่ดังกล่าวแล้วสร้างบ้านพักส่วนตัวและทำไร่ลิ้นจี่ ไร่ดอกไม้จีนและสวนดอกไม้ ปัจจุบันบริเวณ ย.2 ยังมีสถานที่บรรจุอัฐิของหม่อมราชวงศ์คึกฤกธิ์ ปราโมช ตรงข้ามบ้านพัก บน ย.2 มีเนินเขาปกคลุมด้วยต้นสนสองใบ เรียกว่า ลานสน เหมาะสำหรับเป็นที่กางเต็นท์พักแรม จาก ย.2 ไปจนถึง ย.3 เส้นทางเดินไปลำบากนักเพราะบางช่วงจะเป็นที่ราบขึ้นเขาบ้างเล็กน้อย ระยะทางในช่วงนี้ประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณ ย.3 อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,225 เมตร เป็นกลุ่มบ้านพักของ มิชชั่นนารีอเมริกันสร้างไว้หลังจากอุโมงค์ขุนตานและทางรถไฟสร้างเสร็จ ทุกๆ ปีช่วงเดือนเมษายนจะมีกลุ่มมิชชั่นนารีเดินทางมาพักผ่อน ปัจจุบันบ้านพักดังกล่าวอยู่ในความดูแลของมหาวิทยาลัยพายัพ หากเดินต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึง ย .4 ระยะทางในช่วงสุดท้ายจะลำบากกว่าช่วงอื่น บางตอนต้องไต่ความสูงชันไปตามซอกหิน บริเวณริมทางเดินจะมีศาลาพักไว้บริการเป็นช่วง ๆ จุดสูงสุดของดอยขุนตานหรือ ย.4 เป็นลานหินเล็กๆ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เรียกว่าม่อนส่องกล้อง ซึ่งเป็นบริเวณที่ใช้ส่องกล้องทางยุทธศาสตร์ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองลำปางได้อย่างชัดเจน ทิวเขากว้างใหญ่ที่ทอดตัวอยู่เบื้องหน้าคล้ายดั่งปราการที่โอบล้อมธรรมชาติของที่นี่เอาไว้..................................................
|
|
|
7
|
ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / Cup & Cake
.. แด่ความสุขอันหอมหวาน
|
เมื่อ: มีนาคม 16, 2013, 02:45:32 PM
|
![:01:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/2.gif) วันที่จิตราภรณ์ ศาตมัย เลือกกลับมาปลูกบ้านในที่ดินผืนเก่าแก่ที่เติบโตและจากไปใช้ชีวิตที่อื่นมานานแสนนานเธอพบว่าโลกตรงนั้นยังร่มรื่นอยู่ใต้ไม้ใหญ่ที่พ่อแม่ของเธอเคยลงแรง ริมทางหลวงหมายเลข 108 บ้านหลังเล็กค่อยๆ เกิดขึ้นกลางสวนธรรมชาติและนกร้องจุ๊บจิ๊บอย่างที่เธอรักงานผ้าเล็กๆ น้อยๆ ถักทอความสุขแต่ด้วยชีวิตต้องเดินต่อ หน้าบ้านอันเป็นเส้นทางสู่แหล่งท่องเที่ยวจึงกลายเป็น Cup & Cake ร้านเบเกอรีโฮมเมดและเครื่องดื่มเสริมความรื่นรมย์อย่างชาและกาแฟ ยามบ่ายในร้านผนังก่ออิฐอุ่นอารมณ์ คัพเค้กสารพันรสเรียงราย กรุ่นหอมพอกันกับบัตเตอร์บลูเบอร์รีและนานาเค้กที่เธอส่งความหอมออกมาจากเตาอบไม่ซ้ำชนิด อย่างเค้กชาเขียว เค้กลำไย ฯลฯ อาราบิกาสดๆ จากแดนดอยยิ่งทำให้กาแฟของที่นี่ชัดเจนรสชาติ ยามบ่ายเลือกอิงลิช สโคนมากินคู่กับชาฝรั่งได้อารมณ์สุขตามสไลฟ์สไตล์ของคนอังกฤษ ถนนเส้น 108 ไม่หยุดนิ่ง มากไปด้วยความเคลื่อนไหว พาผู้คนออกมาจากความคึกคักของเชียงใหม่ ไปสู่อากาศสดของขุนเขาที่โอบล้อม แต่ ณ บ้านแห่งหนึ่งที่ริมทาง เมื่อเลือกลงสัมผัสความร่มรื่น ขนมกรุ่นหอม เครื่องดื่มสักแก้ว หรืองานฝีมือที่ใครสักคนทำจนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เราอาจเห็นได้ถึงความสุขอันยิ่งใหญ่ที่อบอวลอยู่ในพื้นเล็กๆ ของใครคนนั้น
|
|
|
10
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / ท่องไปบนอาน จักรยานเสือภูเขา
|
เมื่อ: มีนาคม 11, 2013, 04:20:52 PM
|
นอกจากการขับรถเที่ยวชมธรรมชาติในวังน้ำเขียวแล้ว อำเภอนี้ยังเหมาะสำหรับนักปั่นที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวบนหลังอาน โดยมีเส้นทางที่ไม่ยากเกินไปสำหรับนักปั่นมือใหม่ สามารถจัดทริปปั่นสองล้อแรงถีบได้หลายเส้นทางด้วยกัน เส้นทางที่ 1 วังน้ำเขียว จุดชมวิว เขาอิโรตึง เส้นทางนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานท้าทายสำหรับยอดนักปั่นทั้งมือเก่าและมือใหม่ โดยมีจุดเริ่มต้นที่ อบต.ไทยสามัคคี ผ่านร้านค้าขายผลไม้ริมทางหลวงหมายเลข 304 ขึ้นไปทางทิศเหนือ โดยจะมีเส้นทางขึ้นเขาระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ไปแวะพักสายตากับผืนน้ำกว้างที่อ่างเก็บน้ำลำเชียงสา ก่อนจะขี่ขึ้นเขาไปยังจุดชมวิวเขาอิโรตึง ไปชมลานหินโบราณที่มีภาพเขียนรูปร่างหน้าตาคล้ายกับ ET และงูยักษ์อายุกว่า 1,000 ปี นอกจากนี้ยังมีต้นตะบองเพชรโบราณและสวนยางนานาชาติให้ได้ศึกษากันอย่างสนุกสนาน รวมระยะทางในเส้นทางนี้ประมาณ 75 กิโลเมตร เส้นทางที่ 2 อบต.ไทยสามัคคี หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ เป็นเส้นทางที่ปั่นสบายกว่าเส้นทางแรก โดยคุณจะได้ปั่นเรื่อยๆ เหมาะกับกลุ่มนักปั่นแบบครอบครัวและนักปั่นทั่วไป หรือนักปั่นมือใหม่ จุดเริ่มต้นอยู่ที่ อบต.ไทยสามัคคี แล้วปั่นผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายจุด เช่น อ่างเก็บน้ำสุขสมบูรณ์ ให้แวะพักชมนก ชมแมลงปอ ผีเสื้อ หรือชมวิวบึงบัวหลากสี จากนั้นแวะพักกินมื้อเที่ยงกับสเต็กจานเด็ดที่ร้านอาหารจังเกิ้ลวิว หรือจะขึ้นเขาไปชมหมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ชมต้นไม้ยักษ์กัมโค้ง ทำบุญที่วัดสุขสมบูรณ์ ก่อนจะแวะเข้าไปเที่ยวฟาร์มเห็ดที่วังน้ำเขียวฟาร์มเลือกซื้อสินค้าผลผลิตจากเห็ดแล้วปั่นกลับ อบต.ไทยสามัคคี รวมระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เส้นทางที่ 3 เส้นทางจักรยาน น้ำตกสวนห้อม เส้นทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการขี่จักรยานมาก่อน หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ เป็นนักปั่นที่มีประสลการณ์มาพอสมควร เนื่องจากเป็นเส้นทางขึ้นลงเนินโดยตลอด ระหว่างทางนักปั่นในเส้นทางจะพบกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน และความสวยงามของธรรมชาติสองข้างทาง โดยจะมีไฮไลท์อยู่ที่ปลายทางคือ น้ำตกสวนห้อม ซึ่งการปั่นมาชมน้ำตกสวนห้อมต้องมาช่วงน้ำหลาก น้ำตกจึงจะมีน้ำและเป็นช่วงที่สวยงามที่สุด คุ้มค่ากับการปั่นมากกว่า จึงเรียกได้ว่าเป็นเส้นทางจักรยานหน้าฝนโดยเฉพาะ เส้นทางจักรยานน้ำตกสวนห้อมสามารถเลือกจุดสตาร์ทได้ 2 จุดคือ เริ่มต้นที่ตลาด กม. 79 น้ำตกสวนห้อมระยะทางเพียง 7 กิโลเมตร และอีกจุดเริ่มต้นจากหมู่บ้านสุขสมบูรณ์- น้ำตกสวนห้อม ระยะทาง 25 กิโลเมตร เส้นทางที่ 4 เส้นทางสำรวจธรรมชาติต้นน้ำมูล เส้นทางนี้เหมาะสำหรับแม่เสือสาวนักปั่นที่รักธรรมชาติ เพราะเป็นทริปศึกษาเส้นทางธรรมชาติของแท้ แต่ระยะทางนั้นไม่น้อย คือ 45 กิโลเมตร ก่อนสตาร์ทจึงต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม ทั้งนี้ขาดไม่ได้คือน้ำดื่ม และอาหารกล่อง หรือจะแวะกินริมทางก็เลือกจุดจอดให้ดี เพราะยังมีเส้นทางต้องปั่นอีกยาว หิวข้าวกลางทางคงไม่สนุกแน่ จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของเส้นทางนี้คือ อบต.ไทยสามัคคีหรือการใช้วิธีลัดเอาหลังอานขึ้นปิ๊กอัพไปจอดที่ผาเก็บตะวันแล้วค่อยขี่ไปยังต้นน้ำมูลก็ได้ อันนี้แล้วแต่เวลาที่มี ซึ่งจะช่วยร่นระยะทางให้สั้นลงได้ โดยจะเหลือระยะทางให้ปั่นเพียง 30 กิโลเมตร เท่านั้น
|
|
|
11
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / Re: ปั่นจักรยาน ดูนก..... นครนายก
|
เมื่อ: มีนาคม 11, 2013, 02:20:06 PM
|
เส้นทางที่ 4
.. วัดคีรีวัน เนินหอม บรรยากาศระหว่างเส้นทาง แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติประกอบกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ผ่านอ่างเก็บน้ำถาวรนิมิต ทุ่งนา สวนผลไม้ และเทือกเขาใหญ่ ลักษณะเส้นทางเป็นทางราบ และเนินชัน สภาพเส้นทางเป็นถนนลาดยางสลับกับลูกรัง เหมาะสำหรับเสือภูเขา และนักปั่นที่พอมีทักษะ เริ่มต้นที่บริเวณวัดคีรีวัน ปั่นมุ่งไปทางตะวันออกเฉียงใต้บนทางหลวงหมายเลข 3239 จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่แยกหน้าวัดคีรีนาวา ปั่นไปตามถนนผ่านบ้านเกาะเรียง บ้านโคกกระชาย สถานีอนามัย ถึงแยกทางหลวงหมายเลข 3288 ให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นเลี้ยวขวาที่สามแยกหน้า บ้านนาหินลาด ปั่นขึ้นเหนือผ่านวัดท่าศาลา ตลาดเนินหอม แล้วเลี้ยงซ้ายผ่านโรงแรมเขาใหญ่แกรนด์วิว เลี้ยวซ้ายผ่านวัดพระธรรมขันธ์ บ้านเขาน้อย บ้านวังบอน จนถึงสามแยกบ้านเนินต้นโพธิ์ ให้เลี้ยวขวาไปทางน้ำตกวังม่วง ปั่นตามเส้นทางบุ่งเข้ ชำเมย ผ่านวัดถาวรนิมิต อ่างเก็บน้ำคลองสีเสียด และกลับสู่วัดคีรีวัน ( รวมระยะทาง 51 กิโลเมตร )
|
|
|
12
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / Re: ปั่นจักรยาน ดูนก..... นครนายก
|
เมื่อ: มีนาคม 11, 2013, 02:19:09 PM
|
เส้นทางที่ 3
.. วัดพราหมณี เขามดดำ บรรยากาศระหว่างเส้นทาง คุณจะได้พบกับทิวทัศน์ เทือกเขา สวนผลไม้ ทุ่งนา ป่าชายเขา สวนนก บ้านพักอาศัย ร้านขายผลไม้ริมทาง ลักษณะเป็นทางเรียบ 20 กิโลเมตร ขรุขระ 10 กิโลเมตร สภาพเส้นทางเป็นถนนลาดยาง ถนนคอนกรีตและถนนดินแดง เหมาะสำหรับนักปั่นเสือภูเขาที่พอมีประสบการณ์ เริ่มต้นที่บริเวณวัดพราหมณี เลี้ยวขวาไปขึ้นทางหลวงหมายเลข 3049 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าบ้านคุ้มโพธิ์ทอง ผ่านบ้านกลาง เข้าถนนลูกรังบ้านโนนบก-เขาทุเรียน ตรงไปสี่แยกประชาเกษม ก่อนถึงให้เลี้ยวซ้ายเข้าค่ายลูกเสือสาลิกา ผ่านสวนนกเขาหล่น ปั่นจนสุดถนนสายนี้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3049 ถึงแยกสาลิกาเลี้ยวขวาปั่นไปตามเส้นทางวังตะไคร้ นางรอง เลี้ยวซ้ายผ่านบ้านเดิ่น และบ้านเขามดดำ สุดถนนเลี้ยวซ้ายขึ้นทางหลวงหมายเลข 3050 ผ่านวัดถ้ำสาลิกา ถึงแยกประชาเกษม เลี้ยวซ้ายผ่านวัดเขานางบวช จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนบ้านเกาะทอง พราหมณี กลับสู่จุดเริ่มต้น ( รวมระยะทาง 31 กิโลเมตร )
|
|
|
13
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / Re: ปั่นจักรยาน ดูนก..... นครนายก
|
เมื่อ: มีนาคม 11, 2013, 02:18:10 PM
|
เส้นทางที่ 2
.. เขาชะโงก เขาทุเรียน บรรยากาศระหว่างเส้นทางคุณจะได้พบกับทิวทัศน์บริเวณ โรงเรียน จปร. อ่างเก็บน้ำ ทุ่งนา ป่าชายเขา บ้านพักอาศัย สวนผลไม้ ทิวทัศน์เทือกเขา ลักษณะเส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางราบมีขึ้นเนินเพียง 2.5 กิโลเมตร ทางลัด 3.5 กิโลเมตร สภาพเส้นทางเป็นถนนลาดยางครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นดินแดง เหมาะสำหรับเสือภูเขา เริ่มต้นที่ จักรดาวรีสอร์ท ลัดเลาะไปทางด้านหลังของรีสอร์ท ถึงถนนเรียบอ่างเก็บน้ำ จปร. เลี้ยวขวาออกแรงปั่นขึ้นเนินประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกครั้งปั่นไปตามถนนบ้านใหญ่ วังรี ผ่านวัดปากช่อง เลี้ยวขวาแล้วปั่นไปตามสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำห้วยปรือ ผ่านบ้านเขากะลึง บ้านเขาแดง วิ่งตรงเข้าบ้านโนนบกมุ่งหน้าไปทางเขาทุเรียน-เขาน้อย ผ่านบ้านหนองเสือกลับสู่จักรดาวรีสอร์ท ( รวมระยะทาง 24 กิโลเมตร )
|
|
|
14
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / ปั่นจักรยาน ดูนก..... นครนายก
|
เมื่อ: มีนาคม 11, 2013, 02:16:58 PM
|
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมท่องเที่ยวกันในเชิงอนุรักษ์ เที่ยวโดยเบียดเบียนธรรมชาติน้อยที่สุด เที่ยวพร้อมศึกษาธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน ถ้าคุณเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่รักและหวงแหนธรรมชาติ และเป็นผู้ที่รักการผจญไพร รวมถึงชื่นชอบในการท่องเที่ยวลักษณะนี้ มีอีกหนึ่งกิจกรรมมาแนะนำ กิจกรรมนั่นคือ การปั่นจักรยานเสือภูเขาท่องเที่ยว ลัดเลาะไปตามลำธารใส และทุ่งหญ้าสีเขียว พร้อมกับชมความงามของเหล่าวิหกที่มีถิ่นพำนักอยู่ในพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ของ จังหวัดนครนายก เส้นทางที่ 1
.. ตะไคร้ วังยาว บรรยากาศระหว่างเส้นทางเป็นสวนผลไม้ ทุ่งนาทิวทัศน์ของเทือกเขา บ้านพักอาศัย แม่น้ำ ร้านขายผลไม้ริมทาง ที่ตั้งแค้มป์ ลักษณะเส้นทางส่วนใหญ่เป็นที่ราบเป็นถนนลาดยาง สลับกับถนนดินแดง เหมาะสำหรับเสือภูเขา เริ่มต้นที่บริเวณเชิงสะพานวังตะไคร้ ข้ามคลองวังตะไคร้ ไปทางน้ำตกนางรอง แล้วเลี้ยวขาวเข้าถนนสายนางรอง ท่าด่าน เมื่อสุดสาย ให้เลี้ยวขวาขึ้นทางหลวงหมายเลข 3239 จากนั้นเลี้ยวซ้ายตัดขึ้นเชิงเขา แล้วเลี้ยวขวาปั่นขนานไปกับคลองส่งน้ำท่าด่าน เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกวังยาว ปั่นไปจนถึงสี่แยกประชาเกษม จึงเลี้ยวขวาเข้าน้ำตกนางรอง ( รวมระยะทาง 28.5 กิโลเมตร )
|
|
|
15
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำ อุทยานแห่งชาติ, วนอุทยานแห่งชาติ จังหวัดเชียงใหม่ / อุทยานแห่งชาติ "ออบหลวง"
|
เมื่อ: มีนาคม 06, 2013, 12:06:13 PM
|
อุทยานแห่งชาติออบหลวงเป็นพื้นที่ป่าที่มีสภาพสมบูรณ์และยังเป็นแหล่งต้นน้ำของน้ำแม่แจ่ม อีกทั้งยังมีความโดดเด่นของสถานที่ที่เรียกว่า "ออบหลวง" คือเป็นช่องแคบเขาขาด มีลำน้ำแม่แจ่มไหลเซาะผ่านผาหินอยู่เบื้องล่าง จนเกิดเป็นรูปร่างสวยงามคล้ายหินจูบกัน สร้างความอัศจรรย์ให้แก่ผู้มาเยือนเป็นนักหนา โดยหน้าผามีความลึกจากบริเวณสะพานข้ามถึงระดับผิวน้ำปกติประมาณ 32 เมตร ส่วนที่แคบสูงที่สุดก้วาง 2 เมตร พื้นที่อุทยานแห่งชาติในจังหวัดเชียงใหม่มีอยู่ด้วยกันหลายอุทยาน แต่มีนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มที่เดินทางไปสัมผัสธรรมชาติของอุทยานแห่งออบหลวงค่อนข้างมาก อุทยานแห่งชาติออบหลวงเป็นพื้นที่ป่าที่มีสภาพสมบูรณ์และยังเป็นแหล่งต้นน้ำของน้ำแม่แจ่ม อีกทั้งยังมีความโดดเด่นของสถานที่ที่เรียกว่า "ออบหลวง" คือเป็นช่องแคบเขาขาดมีลำน้ำแมแจ่มไหลเซาะผ่านผาหินอยู่เบื้องล่าง จนเกิดเป็นรูปร่างสวยงามคล้ายหินจูบกัน สร้างความอัศจรรย์ให้แก่ผู้มาเยือนเป็นนักหนา โดยหน้าผามีความลึกจากบริเวณสะพานข้ามถึงระดับผิวน้ำปกติประมาณ 32 เมตร ส่วนที่แคบที่สุด กว้างเพียง 2 เมตร อุทยานแห่งชาติออบหลวงถูกประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 68 ของประเทศเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2534 มีพื้นที่ประมาณ 553 ตารางกิโลเมตร หรือ 345,625 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่มและอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ สภาพโดยทั่วไปส่วนใหญาเป็นพื้นที่ภูเขาสูงติดกันเป็นเทือกเขายาวแนวเหนือ - ใต้ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาถนนธงชัย สภาพภูมิอากาศแบ่งออกเป็น 3 ฤดูคือ ฤดูฝนเริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน บางปีมีฝนตกชุก ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ส่วนฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงมกราคม อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ระหว่าง 10 - 12 องศาเซลเซียสและฤดูร้อนเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน บางปีอากาศร้อนจัดอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 39 องศาเซลเซียส ในบริเวณพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติออบหลวงมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่มากมายซึ่งกระจายกันอยู่โดยทั่ว ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่จะชื่นชอบหน้าผาออบหลวง ซึ่งตั้งอยู่ที่กิโลเมตรที่ 17 ของทางหลวงหมายเลข 108 หรือทางที่จะไปแม่สะเรียง ซึ่งหน้าผานี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติออบหลววง นอกจากนั้นพื้นที่ของอุทยานฯยังมีน้ำตกที่สวยงาม เช่นน้ำตกแม่บัวคำ ซึ่งเกิดจากห้วยแม่บัวคำเป็นน้ำตกที่สวยงามและยังคงสมบูรณ์ของธรรมชาติเอาไว้ น้ำตกแม่นาเปิน ต้องเดินเท้าเลาะเลียบทางน้ำเข้าไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง น้ำตกแม่นาเปินเป็นน้ำตกที่สวยงามเป็นน้ำตกขนาดกลางสูง 25 เมตรแทรกตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี น้ำตกแม่จอน ตั้งอญุ่ตรงกิโลเมตรที่ 9 สายน้ำตกจากหน้าผาสูงไม่ต่ำกว่า 100 เมตร กว้างประมาณ 80 เมตร บริเวณลานของน้ำตกเป็นหินแกรนนิตผสมหินแปรสีขาวเจือเทาอ่อน น้ำตกแม่เตี๊ยะ อยู่กลางป่าในห้วยแม่เตี๊ยะตอนกลางของตำบลดอยแก้ว เขตอำเภอจอมทอง เป็นน้ำตกที่มีน้ำตลอดทั้งปีสูงประมาณ 80 เมตร กิจกรรมที่ทางอุทยานจัดให้กับนักท่องเที่ยว แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ ล่องแก่งเรือยาง ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก การล่องแก่งเรือยางนี้จะล่องไปตามลำน้ำแม่แจ่ม ท่ามกลางทัศนียภาพของผืนป่าที่สวยงามผสมผสานกับโขดหินกลางน้ำแม่แจ่มเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นที่สุดแห่งหนึ่ง โดยเริ่มจากบ้านอมขูดถึงบ้านท่าเรือระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตรซึ่งความยากของการล่องแก่งที่นี่อยู่ในระดับ 1-3 ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการล่องแก่งมาบ้างแล้ว สำหรับผู้ที่ไม่เคยล่องแก่งทางอุทยานฯ ก็จะมีเส้นทางง่ายไว้ให้ เริ่มจากห้วยแม่นาเปินถึงท่าพระเสด็จ ซึ่งมีแก่งให้ตื่นเต้นตลอดเส้นทางกว่า 10 แก่งระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เดินป่าตามเส้นทางเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้จากผืนป่าและชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติอันสมบูรณ์ ทั้งพรรณไม้และทิวทัศน์พร้อมผู้ชำนาญทางให้คำแนะนำและข้อมูลธรรมชาติ กิจกรรมปั่นจักรยานเสือภูเขาเพื่อชมน้ำตกแม่เตี๊ยะ บนเส้นทางที่สมบูรณ์แบบ ชมทิวทัศน์ร่มรื่นสองข้างทางกับเส้นทางที่คดเคี้ยวไปตามไหล่เขา ด้วยในปี 2543 ทางกรมป่าไม้จัดให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติขึ้นผนวกกับในปี 2549 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ดังนั้นเราจึงควรช่วยกันหันมาส่งเสริมการท่องเที่ยวในบ้านเรา เพราะอย่างน้อยนอกเหนือจากการได้พักผ่อนแล้ว เรายังได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากผืนป่าไปด้วย อุทยานแห่งชาติออบหลวงก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ยังรอให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาพิสูจน์ความสามารถ หมายเหตุ นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัยล่องแก่งและชมความงามของธรรมชาติ สามารถติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมที่ อุทยานแห่งชาติออบหลวง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ 50240 โทร 053-229272 หรือติดต่อได้ที่ ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ถนนเจริญประเทศอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โทร 053-818348-9 dnp.go.th """ การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติออบหลวง ท่านสามารถเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ โดยรถยนต์ตามทางหลวงหมายเลข 108 (สายเชียงใหม่-ฮอด) จนถึงตัวอำเภอฮอดเลี้ยวซ้ายบริเวณวงเวียนเข้าถนนสายฮอด-แม่สะเรียงไปอีก 17 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติออบหลวง หรือท่านจะเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง สายกรุงเทพ-แม่ฮ่องสอน หรือ สายเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน และมีรถโดยสารประจำทางที่บริเวณปากทางเข้าถนนาสยฮอด-แม่สะเรียงไว้บริการด้วย..............................................
|
|
|
18
|
ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านอาหาร อิตาลี เชียงใหม่ / " โดนใจคนชอบชีส " ... พิซซ่าเกาะลันตา มาอยู่เชียงใหม่
|
เมื่อ: มีนาคม 01, 2013, 02:54:50 PM
|
... ลองอาหารพื้นเมืองเชียงใหม่มาหลายมื้อ เลยขอพามาชิมอาหารอิตาเลี่ยนที่คุ้นปาก "พิซซ่าเกาะลันตา" แถวๆ นิมมานฯ ซอย 5 หาไม่ยาก .. ![:22:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/22.gif) คุณเบิ้มได้สูตรพิซซ่าเกาะลันตาของแท้ เพราะไปร่ำเรียนจากเจ้าของต้นตำรับ พร้อมแย้มว่าสูตรลับของพิซซ่าเกาะลันตาอญุ่ที่ความสดของแป้งและซอสมะเขือเทศที่ปรุงรสออกจัดจ้าน " ความจริงพิซซ่าอิตาเลี่ยนแท้ ๆ นี่รสชาตไม่ได้เข้มข้นเหมือนเรา แต่ก็อร่อยในแบบของเขา ส่วนวัตถุดิบทั้งหมดเราใช้ของที่เชียงใหม่หมดเลย ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศ ผักสด หรือซีส จุดเด่นของเราคือเครื่องเยอะใส่ชีสเยอะ แล้วแป้งไม่หนาเกินไป ไม่บางเกินไป กรอบนอกนุ่มใน" ถือว่าเป็นพิซซ่าทางเลือกที่น่าสนใจ ถ้าใครยังไม่ได้ลอง แวะไปที่นิมมานฯ ซอย 5 เลยค๊า..............
|
|
|
19
|
ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / เบเกอรี่ "Bakerista เพื่อนซี้ชวนชิม"
|
เมื่อ: มีนาคม 01, 2013, 02:20:12 PM
|
.. แม้จะเป็นร้านที่ดูหลบมุมเสียหน่อยแต่เรื่องความอร่อยแล้วไม่แพ้ใคร "Bakeriste" มีทั้งเบเกอรี่และอาหารไว้คอยบริการอยู่แถวๆ ย่านสันติธรรม บริเวณร้านต่อเติมจากบ้านพักส่วนตัว ให้กลายเป็นธุรกิจเล็กๆ ไว้คลายเหงาของสาว สาว สาว หลังเกษียณ สามสาวเพื่อนซี้ พี่หม่อม พี่ปุ๊ และพี่ประนอม เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องมหาวิทยาลัย สองสาวแรกนี่เป็นคนกรุงเทพฯ แต่หันเหชีวิตไปเป็นสาวเชียงใหม่นานนับสิบปี ส่วนร้าน Bakerista เปิดมาได่ 4 ปีแล้ว เริ่มจากพี่หม่อมที่ชอบทำขนมเค้กแจกเพื่อนๆ แต่ความอร่อยเข้าขั้นจึงขยับมาทำเค้กส่งร้านกาแฟชื่อดังในเชียงงใหม่ ก่อนตัดสินใจเปิดร้านเป็นของตัวเอง และชักชวนเพื่อนมาร่วมทำอาหารด้วยกัน "เราสามคนทำอาหารและขนมด้วยความรักแล้วก็เน้นเรื่องสุขภาพ เบเกอรี่ของพี่จึงไม่หวานมาก บางอย่างก็คิดสูตรขึ้นเอง ส่วนอาหารก็เน้นอาหารภาคกลางและใช้ผักปลอดสารพิษ ร้านนี้เหมือนความฝันของพวกพี่ก็คงเหมือนกับคนอื่นๆ ที่ชอบฝันอยากมีร้านกาแฟ ร้านขนม ยิ่มมีร้านก็ทำให้เราได้เจอเพื่อนเก่ามากขึ้น บางครั้งเจอเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนเตรียมอุดม "แต่เราก็จะขอเป็นร้านเล็กๆ แบบนี้ แค่พออยู่ได้พนักงานมีความสุข เพราะเราอยู่เชียงใหม่ ไม่ต้องแข่งขัน ปากกัดตีนถีบเหมือนคนในกรุงเทพฯ" ส่วนพี่สาวปุ๊สาวผิวเข้มเคยเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่พอเกษียณอายุราชการก็มานั่งคิดว่าจะทำอะไรแก้เหงาดี ด้วยความที่ชอบทำอาหารเพราะตอนไปอยู่เมืองนอกก็ต้องทำอาหารกินเอง และชอบเปิดตำราอาหารหัดทำอยู่บ่อย ๆ เราเลยโชคดีได้ชิมฝีมือ "แกงเขียวหวานเนื้อโรตี" รสชาติดีอย่าบอกใครแบบนี้เลยต้องแนะนำ มาเชียงใหม่ทั้งทีอย่าลืมแวะมาที่ Bakerista " "ร้าน bakerista เป็นร้านเล็กๆ น่ารักๆ บริการกาแฟสด และเบเกอรี่ที่รับรองว่า คนรักเบเกอรี่ต้องติดอกติดใจกับเค้กแสนอร่อยของร้านนี้เข้าซักชิ้นแน่นอนเลย ทางร้านยังมีอาหารจานเดียวง่ายๆ บริการด้วย สำหรับคนที่ต้องการอาหารหนักท้อง บรรยากาศเงียบสงบ สบายๆ เป็นกันเองดีมากๆ "
|
|
|
20
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / ร้านกาแฟ แทนรัก ทะเลหมอก .... เขาค้อ เพชรบูรณ์
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2013, 01:21:13 PM
|
... เพียงก้าวแรกที่คุณเข้ามาสู่พื้นที่ของ ร้านกาแฟแทนรัก ทะเลหมอก คุณจะได้ชมความงามแสนตระการตาทางทัศนียภาพของภูเขาหญ้าที่เปลี่ยนสีส้มตามฤดู สายหมอกในสายฝน และทะเลหมอกในฤดูหนาว ในมุมมองแบบพานอรามาที่กว้างไกล.......................................... ร่มรื่นและหลากสัสันสวยงามด้วยไม้ดอกไม้ประดับ และเข้ากันดีกับอาคารปูนสีส้ม ที่ออกแบบให้เป็นร้านกาแฟสดที่มีเมนูเครื่องดื่มรสดีมากมาย เค้ก เมนูอาหารเช้า และน้ำผลไม้สดๆ ให้บริการคุณ มีมุมระเบียงกว้างขวางให้คุณนั่งชมวิวได้อย่างเพลิดเพลิน และด้วยพื้นที่หันหน้าออกสู่วิวกว้างถึงประมาณ 20 ไร่ คุณจึงสามารถหามุมนั่งเล่นส่วนตัวจิบเครื่องดื่มรสดีได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำคืน ในด้านการบริการอื่นๆ ที่นี่ก็มี wireless - internet และบ้านพัก 20 ห้อง ทาวน์โฮม 4 ห้อง และบ้านเดี่ยวอีก 1 หลังให้บริการคุณในช่วงปลายปี .......................................
|
|
|
21
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / เขาค้อกาแฟสด
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2013, 11:42:03 AM
|
.. ตลอดทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก - หล่มสัก จนกระทั่งถึงเขาค้อคุณจะพบร้านกาแฟตั้งเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปลองชิมกาแฟสดรสเลิศอยู่เป็นจำนวนมาก แต่หนึ่งในร้านกาแฟที่คุณไม่ควรพลาดเลยเมื่อมาเยือนเขาค้อก็คือ เขาค้อกาแฟสด เพราะนอกจากจะเป็นร้านกาแฟหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเขาค้อแล้ว ยังเป็นร้านกาแฟที่มีบรรยากาศสบายๆ โอบล้อมไปด้วยพรรณไม้ อันครบครันไปด้วยกาแฟและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอีกมากมายให้ลองชิมกันด้วย ![912](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/912.gif) .. "เที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกเดือน เยือน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ทุกวัน " เขาค้อกาแฟสด ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกรื่นฤดี หากขับรถไปทางพระตำหนักเขาค้อก็จะพบร้านตั้งอยู่ทางด้ายซ้ายอย่างชัดเจน ภายในเป็นร้านโปร่งสบายตกแต่งอย่างสวยงาม มีมุมนั่งเล่น และเทอเรสให้คุณดื่มด่ำกาแฟสดทางร้านได้ใช้เมล็ดพันธุ์อาราบิก้าแท้ๆ จากโครงการหลวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาผ่านกรรมวิธีคั่วอบด้วยเครื่องจักรอันทันสมัย จึงทำให้กาแฟของที่นี่มีกลิ่นหอม และได้รสชาติเข้มละมันของกาแฟอย่างแท้จริง ซึ่งทางร้านก็มีให้เลือกลองชิมกันหลากหลายเมนูทีเดียว นอกจากกาแฟสดแล้ว ทางร้านยังมัเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ผลิตจากโรงงานแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรภายในโครงการฯ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนด้วย โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็นน้ำผลไม้พร้อมดื่ม เช่น เสาวรส น้ำมะขาม น้ำฝรั่งแดง พร้อมกันนี้ยังมีชาใบม่อนไว้ให้คุณได้ชิมฟรีอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อบแห้งให้รับประทานควบคู่กันด้วย ไม่ว่าจะเป็นกล้วยอบแห้ง กล้วยทอดกรอบหลากรส ข้าวเกรียบสมุนไพร โดยทุกขั้นตอนการผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการผลิตตามมาตรฐาน GMP ทำให้มั่นใจได้ว่าเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง สำหรับนักท่องเที่ยวอยากเข้าไปเที่ยวชม ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขออนุญาติเข้าชมได้โดยนักท่องเที่ยวจะได้รับการต้อนรับอย่างเป็นกันเองตลอดการเที่ยวชม ...................................................... ![:16:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/16.gif) ............................................
|
|
|
22
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำสถานทีเที่ยว ในจังหวัดเชียงใหม่-สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ / Re: ท่องเที่ยว 5 เส้นทางดอกไม้บาน@เมืองเชียงใหม่
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2013, 04:56:39 PM
|
.. เส้นทางที่ 5 "เส้นทางดอกไม้งามในเมืองเชียงใหม่ @ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ และสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา" ถ้าเป็นแฟนพันแท้เส้นทางดอกไม้งานในเมืองเชียงใหม่กันแล้ว ก็ต้องบอกว่า เส้นทางที่ 5 "เส้นทางดอกไม้งามในเมืองเชียงใหม่ @ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ และสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา " เป็นเส้นทางสุดท้ายนี่ ในแบบสบายๆ เหมาะกับคนชื่นชอบดอกไม้ แต่ไม่ชอบเดินทางไกลๆ ขึ้นเขาลงห้วยเมารถเบื่อนั่งรถนานๆ เรียกว่าเส้นที่ 5 นี่เหมาะสมที่สุดแล้วล่ะ.......... เริ่มต้นที่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ 468 ไร่ 3 งาน 10 ตารางวา วันเดียวก็เที่ยวไม่หมด มีดอกไม้กว่า 2,200 ชนิด ที่ทางอุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้รวบรวมไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมภายในพื้นที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย ได้แก่ หอคำหลวง เรือนร่มไม้ เรือนกล้วยไม้ สวนสมุนไพร เรือนพืชทะเลทราย โดมไม้เขตร้อนชื้น โลกแห่งแมลง สวนบอนไซ สวนบัว สวนนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ฯ สวนองค์กรหน่วยต่างๆ ในช่วงงานอุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้จัดและตกแต่งสวนให้สวยงาม ด้วยดอกไม้เมืองหนาวและพรรณไม้นานาชนิดจากมูลนิธิโรงการหลวง เช่น ดอกทิวลิป, ลิลลี่, คาร์เนชั่น, บีโกเนีย, พิทูเนีย, บลูฮาวาย, ดาเลีย, เจอราเนียม และไฮเดรนเยีย ให้นักท่องเที่ยวได้ชมดอกที่สวยสมบูรณ์ งดงามน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเลือกเดินเท้าออกกำลังกายเบา ๆ หรือเดินชมดอกไม้ไป พักเหนื่อยไป เลือกนั่งรถรางเที่ยวชมพร้อมมีไกด์บรรยายก็ได้ เราชมสวนขนาดใหญ่ ๆ แล้ว คราวนี้เราลองมาเที่ยวชมสวนขนาดเล็ก ๆ กันดูบ้าง "สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา " ภายในงานได้จัดกิจกรรม "อัศจรรย์ดอกไม้บาน" อร่ามกลางสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความงดงามของพรรณไม้เมืองหนาวกว่า 100 สวยพันธุ์ มากกว่า 100,000 ต้น ไม่ว่าจะเป็นดอกทิวลิป ดอกลิลลี่ที่หาชมได้ยาก รวมถึงดอกไม้เมืองหนาวที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวนงามที่มักขึ้นอยู่ตามที่สูง เช่น อาซาเลีย ไซคลาเมน เจเรเมียน ฟ้ามุ่ย ช้างแดง รองเท้านารี กุหลาบป่า กุหลาบหิน อุทยานน้ำตกขนาดใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยมวลหมู่ดอกไม้ และยังได้พบกับประติมากรรมกำแพงดอกไม้ ความสูง 3.5 เมตร ความยาวกว่า 20 เมตร ภายในงานจะมีเปิดให้ขึ้น "หอคอยดอกไม้" ซึ่งสามารถชมวิวมุมสูง ความสูงทั้งหมด 15 เมตร จำนวน 5 ชั้น สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ได้แบบ 360 องศารอบทิศ ร่วมบันทึกความทรงจำดี ๆ ของคู่บ่าวสาวในการจดทะเบียนสมรสบนบอลลูนลอยฟ้าเหนือสวนเฉลิมพระเกียรติ ฯ ในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2556 นี้อีกด้วย แม้ไม่สะดวกมาท่องเที่ยวในเวลากลางวัน ซึ่งในช่วงเวลาหัวค่ำทางสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ก็จะเปิดไฟ LED ทำให้สวนสวยไปด้วยไฟระยิบระยับราว ๆ หลากสีสันในแดนเทพนิยายกันเลย ![:26:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/26.gif) .. การเดินทาง : อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เส้นทางที่ 1 ขับรถไปตามถนนเชียงใหม่ - หางดง (ทางหลวงหมายเลข 108 ) ประมาณ 7 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนราชพฤกษ์ อีกประมาณ 4 กิโลเมตร เส้นทางที่ 2 ขับรถไปตามถนนห้วยแก้ว (ทางหลวงหมายเลข 1004) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนคันคลองชลประทาน (ทางหลวงหมายเลข 121) ไปทางอำเภอหางดง ประมาณ 10 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ ประมาณ 2 กิโลเมตร นอกจากนี้หากท่านยังต้องการนั่งรถสาธารณะ สามารถขึ้นรถบริการรถสี่ล้อแดงไดทุกจุด โดยบอกให้ไปส่งที่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ หรือพืชสวนโลก ![:22:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/22.gif) .. การเดินทาง : สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จากตัวเมืองเชียงใหม่ มาถนนเลียบคันคลองชลประทาน ก่อนถึงสนามกีฬามสโภชเชียงใหม่ 700 ปี หรือตั้งอยู่ด้านหลังของศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยังนั่งรถสาธารณะ สามารถขึ้นรถบริการสี่ล้อแดงได้ทุกจุด โดยบอกให้ไปส่งที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สิ่งอำนวยความสะดวก : บริการอาหาร - เครื่องดื่ม ช่วงเวลา : อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เปิด 08.00 - 18.00 น. สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี ส่วนสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เปิด 08.00 - 20.00 น. (ธันวาคม 2555 - 14 กุมภาพันธ์ 2556 )
|
|
|
23
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำสถานทีเที่ยว ในจังหวัดเชียงใหม่-สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ / Re: ท่องเที่ยว 5 เส้นทางดอกไม้บาน@เมืองเชียงใหม่
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2013, 03:13:44 PM
|
.. เส้นทางที่ 4 "เส้นทางดอกนางพญาเสือโคร่งบานห้วยน้ำดัง @ ขุนแม่ยะ" เรามาถึงเส้นทางท่องเที่ยว เส้นที่ 4 ดอกนางพญาเสือโคร่งบานขุนแม่ยะ และห้วยน้ำดัง เส้นทางนี้ต้องขอบอกว่าเหมาะกับผู้ที่ชอบในแบบลุยๆ กันหน่อยเราถึงจะได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติขุนเขา สายหมอก ดอกไม้ เริ่มต้นที่ "ชมทะเลหมอกห้วยน้ำดัง" ที่ขอบอกว่าอยู่อันดับต้นบรรดาทะเลของประเทศไทยเลย เมื่อแสงแรกฉายแสงสีทองจากขอบฟ้า ภาพทะเลหมอกขาวก่อตัวหนาแน่นราวปุยนุ่นช่างเป็นภาพที่มหัศจรรย์งดงามเสียจริงๆ ใครขี้เกียจตื่นสาย 09.00 - 10.00 น. ทะเลหมอกก็ยังรอคุณให้ได้ชมได้ถ่ายภาพสวยๆ มาฝากเพื่อน ๆ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่อุทยานมีดอกพญาเสือโคร่งอยู่ไม่มากนัก ยามเช้า ๆ มีนกเล็กๆ น่ารักบินมาเกาะกินน้ำหวานจากดอกไม้พญาเสือโคร่งมีนกแว่นตาขาว นกปรอดสี เขม่า และนกปรอกหัวโขน ยังมีสถานที่ยังเที่ยวที่น่าสนใจ พระตำหนักเอื้องเงิน น้ำตกแม่หาด น้ำตกแม่ลาด จุดชมวิวกิ่วลม จุดชมวิวยอดเขาดอยช้าง จุดชมวิวลานกางเต็นท์ โป่งน้ำร้อน น้ำพุร้อนโป่งเดือด เส้นเดินป่าศึกษาธรรมชาติดอยช้างและเอื้องเงิน ขับรถต่อมาเส้นเชียงใหม่ปาย-แม่ฮ่องสอนมายังป่าสีชมพู "ขุนแม่ยะ" จากถนนใหญ่เข้ามาอีก 8 กิโลเมตรเป็นถนนลูกรัง เป็นที่ตั้งของหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ สังกัดส่วนจัดการต้นน้ำ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่ในพื้นที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,020 เมตร พื้นที่ทั้งหมดนั้นอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ แต่ก่อนเคยเป็นผืนป่าที่เสื่อมโทรม ถูกทำลายจนราบโล่ จนได้เริ่มฟื้นฟูปลูกต้นหญ้าเสือโคร่ง ในช่วงแรกเนื่องจากต้นพญาเสือโคร่ง เป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตเร็ว และยังมีดอกที่สวยงามอีกด้วย จนปัจจุบันนี้ดอกพญาเสือโคร่งขุนแม่ยะ เป็นอีกสถานที่ที่รู้จักกันนามนักท่องเที่ยวว่าสวยงามไม่แพ้ที่ใดเลย ![:29:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/29.gif) .. การเดินทาง 1 รถยนต์ส่วนตัว : ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1095 (สายแม่มาลัย-ปาย) จะผ่านทางเข้า อช. ห้วยน้ำดัง เลยไปประมาณ 1 ก.ม. จะถึง ด่านตรวจแม่ยะ ด่านกักกันสัตว์แม่ยะ ปากทางเข้าหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ยะ จะอยู่ซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 8 ก.ม. เป็นทางลูกรังบริเวณหน่วยจัดการขุนแม่ยะ เส้นทางเข้าหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ยะ เป็นดินลูกรัง ค่อนข้างลำบาก รถที่สามารถเข้าไปได้ต้องเป็นรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น และต้องขับอย่างระมัดระวังด้วย ความชำนาญนักท่องเที่ยวจะนิยมจอดรถไว้ตรงปากทางเข้า แล้วใช้บริการรถของชาวบ้านที่คุ้นเคยกับพื้นที่มากกว่า ซึ่งมีให้บริการ อยู่ตรงปากทางเข้าตลอดทั้งวัน ราคาเหมาไปกลับไม่ค้างคืน 1,200 บาท แบบ 2 วัน 1 คืน 1,500 บาท 2 รถโดยสารสารธารณะ : จากเชียงใหม่ รถตู้สายเชียงใหม่ - ปาย รถตู้ปรับอากาศจะออกทุกชั่วโมง เที่ยวแรก 06.30 น. เที่ยวสุดท้าย 16.30 น. ราคา 150 บาท หรือนั่งรถโดยสาร เชียงใหม่ - ปาย เวลา 10.30 น. 14.00 , 15.00 ราคา 72 บาท แล้วไปลงระหว่างทางด่วนตรวจแม่ยะ จากนั้นเหมารถเช่าของชาวบ้านขึ้นไปหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ ช่วงเวลาการผลิดอกนางพญาเสือโคร่ง : กลางเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์
|
|
|
24
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำสถานทีเที่ยว ในจังหวัดเชียงใหม่-สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ / Re: ท่องเที่ยว 5 เส้นทางดอกไม้บาน@เมืองเชียงใหม่
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2013, 11:18:56 AM
|
![903](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/903.gif) .. ต่อกันเลยนะค่ะ ![909](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/909.gif) .. เส้นทางที่ 3 "เส้นทางดอกนางพญาเสือโคร่งบาน และดอกไม้เมืองหนาว @ โครงการหลวงขุนวาง อินทนนท์" ต้องบอกเลยว่า "ดอกนางพญาเสือโคร่งที่ขุนวาง" ตอนนี้มาแรงจริง ๆ มีภาพถ่ายสวย ๆ ของดอกนางพญาเสือโคร่งผ่านทสง Facebook มาให้ชมกันอยู่ตลอด จนต้องดูเวลาและวันที่ถ่ายภาพกันดีว่าาเป็นของปีไหน มีโทรศัพท์เพื่อนๆ สอบถามถึงเรื่องดอกพญาเสือโคร่งบานหรือยัง จะบานเต็มที่เมื่อไหร่ ? ขุนวาง ชื่อเรียกกันจนเสียติดปากชื่อเต็ม ๆ นั้นคือศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์ ได้รับการจัดตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2525 ครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังบ้านขุนวางเป็นครั้งแรก ทรงทอดพระเนตรเห็นว่า บริเวณนี้ยังคงยังมีการปลูกพืชเสพติด เช่นฝิ่น อยู่เป็นจำนวนมาก จึงเห็นควรส่งเสริมให้ปลูกพืชชนิดอื่น ๆ ที่มีรายได้ทัดเทียมที่ดีกว่าปลูกฝิ่น จึงรับสั่งให้หน่วยงาน ในพื้นที่ช่วยกันพิรารณาปรับปรุงและพัฒนา จากระดับน้ำทะเล 1,300 - 1,400 เมตร เทือกเขาสลับซับซ้อนโอบล้อม มีแอ่งที่ราบระหว่างภูเขาเพียงเล็กน้อย มีแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านคือ แม่น้ำขุนวางขวา และแม่น้ำขุนวางซ้าย เป็นที่ที่เหมาะสมของที่ตั้งศูนย์ฯ ประชากรในพื้นที่รอบศูนย์ฯ เป็นชาวเขา เผ่าปะกอเกอญอ และม้ง ไออุ่นแดดยามเช้าวันใหม่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งบานอวดสีสันเรียงยืนต้นเรียงแถวยาวไปกับถนน และที่บริเวณอ่างเก็บน้ำวิวสวย ๆ ชมงานส่งเสริมแปลงสาธิตไม้ผลเมืองหนาว เช่น องุ่นไร้เมล็ด พีช พลับ พลัม สาลี่ บ๊วย แปลงสาธิตไม้ดอก อย่างเบญจมาศหลากสีสัน ซึ่งปลูกกันตลอดทั้งปี อะกาเพนกัส คาร่าลิลลี่ ไม้กระถางประดับสวยงามอย่าง เฟิร์นนกนารี หยิกนิโกร ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) มีไม้ผลและพันธุ์ไม้ เช่น คาร์เนชั่น องุ่น สตอเบอร์รี่ เฟิร์นและลินิน ผสมผสานไปกับงานพัฒนาด้านการเกษตรในเรื่องการปลูกกาแฟ เพื่อเพิ่มผลผลิตให้ได้มากที่สุด ยังมีการทำแปลงสาธิตเพื่อรวมสายพันธุ์ชนิดต่างๆ ทั้งไม้ดอก ไม้ผล ผักและชาจีน ตลอดจนงานขยายพันธุ์คาร์เนชั่น ลิอะทริส หน้าวัว แวกซ์ฟลาวเวอร์ แคลลี่ลิลี่ อัลสโตรมีเรีย และเฟิร์น ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง ซึ่งมีชื่อเสียงมากในด้านการปลูก "ดอกเบญจมาศ" และยังได้ชมแปลงผักปลอดสารพิษ แปลงไม้ดอก ไม้กระถาง แปลงปลูกไม้ผลเมืองหนาว รวมถึงแปลงชาจัน และขั้นตอนการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งที่นี่มีพร้อมสรรพสำหรับนักท่องเที่ยว ระหว่างทางกลับนักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกซื้อผลผลิตการเกษตร ของเกษตรกรในพื้นที่โรงการหลวงที่ "ตลาดม้ง" มีพืชผัก ดอกไม้ ในการให้ได้เลือกซื้อกันมากมาย ![912](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/912.gif) .. การเดินทาง โดยรถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 (เชียงใหม่ - ฮอด) ก่อนถึงอำเภอจอมทองมีทางแยกขวามือขึ้นดอยอินทนนท์ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1009 ราวหลักกิโลเมตรที่ 30 - 31 มีสามแยกอตรงหมู่บ้านขุนกลาง ก็เลี้ยวขวาไปอีก 16 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้านขุนวาง สิ่งอำนวยความสะดวก : มีบ้านพักรับรองภายในศูนย์ฯ จำนวน 5 หลัง และมีการบริการกางเต็นท์ ช่วงเวลาผลิดอกนางพญาเสือโคร่ง : กลางเดือน มกราคม 2556 เป็นต้นไป ภายในสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ จะได้ชมแปลงพืชผักผลไม้เมืองหนาวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สาลี่ พลัม ท้อ สตอเบอร์รี่
|
|
|
25
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำสถานทีเที่ยว ในจังหวัดเชียงใหม่-สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ / Re: ท่องเที่ยว 5 เส้นทางดอกไม้บาน@เมืองเชียงใหม่
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2013, 04:44:50 PM
|
.. เส้นทางที่ 2 "เส้นทางดอกพญาเสืโคร่งบาน และดอกเมืองหนาว @ ดอยอ่างขาง" เส้นทางท่องเที่ยวดอกไม้บานเส้นที่ 2 นี่เราขับรถมาถนนเส้นสาย 107 เส้นเชียงใหม่ - ฝาง มายัง "อ่างขาง" สัมผัสสายลมหนาว ดินแดนมวลดอกไม้นานาพรรณ วิถีชีวิตชาวปะหล่องและมูเซอ ดอยอ่างขาง เป็นแหล่งชมซากุระ 1 ใน 8 แห่งของเมืองไทย ที่นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นแหล่งชมดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิดแล้วที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งแหล่งชมซากุระอันสวยงาม จุดเด่นของอ่างขางนอกจากจะมีซากุระไทยอย่างนางพญาเสืโคร่งให้ชมบนเส้นทางถนนที่ขึ้นไปยังดอยอ่างขาง ยังมีต้นซากุระแท้ ๆ จากญี่ปุ่นปลูกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและถ่ายรูปกันภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางอีกด้วย คำว่า "อ่างขาง" นั้นหมายถึง อ่างสี่เหลี่ยมตามลักษณะของดอยอ่างขาง ซึ่งเป็นดอยที่มีรูปร่างของหุบเขา ยาวล้อม รอบประมาณ 5 กิโลเมตร กว้าง 3 กิโลเมตร ตรงกลางของอ่างขางเดิมเป็นภูเขาสูง เช่นเดียวกับบริเวณโดยรอบ แต่เนื่องจากเป็นภูเขาหินปูนเมื่อถูกน้ำฝนชะก็จะค่อย ๆ ละลายเป็นโพรงแล้วยุบตัวลงกลายเป็นแอ่ง มีพื้นที่ราบ ความกว้างไม่เกิน 200 เมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง ตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรีตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร และมียอดดอยสูงถึง 1,928 เมตร ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2512 ตามแนวพระราชดำริในพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า "ให้เขาช่วยตังเองเปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นมาเป็นแปลงเกษตรพืชผักเมืองหนาว ที่สร้างรายได้ดีกว่าแต่ก่อนมากขึ้น สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง มีโครงการวิจัยผลไม้ ไม้ดอกเมืองหนาว งานสาธิตพืชไร่ พืชน้ำมัน โดยมุ่งที่จะหาผลิตผลที่มีคุณค่าพอที่จะทดแทนการปลูกฝิ่นของชาวเขา และทำให้การส่งเสริมพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมแก่ชาวเขาในบริเวณใกล้เคียง ปัจจุบัน ดอยอ่างขางได้เปลี่ยนสภาพจากภูเขา ซึ่งถูกตัดไม้ทำลายป่ามาเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ผลไม้เมืองหนาวกว่า 12 ชนิด เช่น ท้อ บ๊วย พลัม สตอเบอร์รี่ สาลี่ ราสเบอร์รี่ พลับ กีวี ลูกไหน เป็นต้น ผักเมืองหนาวกว่า 60 ชนิด เช่น แครอท ผักสลัดต่าง ๆ และดอกไม้เมืองหนาวมากกว่า 20 ชนิด เช่น คาร์เนชั่น กุหลาบ แอสเตอร์ เบญจมาศ จำหน่ายผลิตผลตามฤดูกาลที่ปลูก ในโครงการให้แก่นักท่องเที่ยวตามฤดูกาล สำหรับบน ดอยอ่างขาง มีชาวไทยภูเขาเผ่าจีนฮ่อ ไทยใหญ่ มูเซอดำ และปะหล่อง อาศัยอยู่โดยรอบกว่า 600 ครัวเรือนใน 6 หมู่บ้าน ส่วนสภาพอากาศจะเย็นสบายตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 16.9 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม อากาศเย็นจนน้ำค้างกลายเป็นน้ำค้างแข็ง นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมเครื่องกันหนาวมาให้พร้อม เช่น หมวก ถุงมือ ถุงเท้า เสื้อกันหนาว สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ ชมแปลงดอกไม้ พืชผักเมืองหนาว , ชมสวนบอนไซ , เยียมหมู่บ้านหลววง , หมู่บ้านนอแล , บ้านขอบด้ง , บ้านคุ้ม , ดูนก , ขี่ฬ่อล่องไพร และจุดชมวิว - จุดกิ่วลม ที่อ่างขางมีซากุระ 2 ชนิด มีความแตกต่างระหว่าง "นางพญาเสือโคร่ง" และ "ซากุระญี่ปุ่น" ลักษณะ นางพญาเสือโคร่ง ดอกมีสีชมพูอ่อน ลำต้นจะมีลายเป็นขั้น ๆ ใบเรียวยาว ปลายใบแหลม ส่วนลกษณะซากุระญี่ปุ่นนั้น ดอกสีชมพูเข้ม เป็นดอกซ้อน ขนาดดอกใหญ่กว่าดอกนางพญาเสือโคร่ง ลำต้นไม่เป็นลายขั้นเหมือนนางพญาเสือโคร่ง ใบไม่มันวาว ใบเป็นลักษณะวงรี แต่ปลายใบไม่แหลม...... ![:22:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/22.gif) .. การเดินทาง จากเชียงใหม่ใช้เส้นทางหมายเลข 107 เชียงใหม่ - ฝาง เป็นเส้นทางผ่านแม่ริม แม่แตง เชียงดาว ไชยปราการ ทางแยกเข้าดอยอ่างขางมี 2 เส้นทางคือ แยกซ้ายที่ กม.ที่ 107 ไปจนถึงอ่างขางมีระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร อีกเส้นทางคือแยกที่ กม. 137 มีระยะทางถึงอ่างขางประมาณ 25 กิโลเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวก บริการนักท่องเที่ยวครบครัน ทั้งที่พัก ร้านอาหาร และมีสถานที่กางเต็นท์
|
|
|
26
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำสถานทีเที่ยว ในจังหวัดเชียงใหม่-สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ / Re: ท่องเที่ยว 5 เส้นทางดอกไม้บาน@เมืองเชียงใหม่
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2013, 03:08:56 PM
|
.. เส้นทางที่ 1 "เส้นทางดอกพญาเสือโคร่งบานขุนช่างเคี่ยน และดอกกุหลาบงาม @ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์" เส้นทาดอกไม้บานเมืองเชียงใหม่ เส้นแรก "โรยด้วยกลีบกุหลาบ" ก็คือ "กุหลาบพระตำหนักภูพิงค์" พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง เนื่องจากดอกกุหลาบที่มีความสวยงามมาก มีดอกโต กลิ่นหอม และมีจำนวนมาก หากหลายพันธุ์ หลากสี หลากกลิ่น ปลูกเพื่อประดับสวน ได้รับการดูแลอย่างดีให้ จนได้คำกล่าวว่า "กุหลาบภูพิงค์เป็นกุหลาบที่สวยที่สุด" ภายในพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ มีสถานที่น่าสนใจ อาทิ เรือนปีกไม้ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เรือนรับรอง พลับพลาผาหมอน และสวนเฟิร์น อ่างเก็บน้ำ พระตำหนักต่าง ๆ ถัดมาที่หุบเขาสีชมพูที่อยู่ในใจใครหลาย ๆ คนนั้นก็คือ "ขุนช่างเคี่ยน" หรือ "สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน" ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เส้นทางอยู่เส้นเดียวพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ บ้านม้งดอยปุย สถานเกษตรที่สูง ขุนช่างเคียน เป็นสถานีเกษตรฯ ของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นสถานีวิจัยเกี่ยวกับ เมล็ด พันธุ์กาแฟ ไม้ผลเมืองหนาว เช่น ท้อ หลับ บ๊วย พลัม อะโวคาโด มะคาเดเมีย และผลไม้กึ่งร้อน บริเวณรอบ ๆ สถานีเต็มไปด้วยต้นนางพญาเสืโคร่งจะบานสะพรั่งอวดความงาม สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูง ขุนช่างเคี่ยน หมู่บ้านชาวม้ง บ้านขุนช่างเคี่ยน กลายเป็นสีชมพูทั่วหุบเขาอย่างอัศจรรย์ การเดินทางเส้นในเส้นนี้ ถนนคับแคบเวลาเข้าโค้งควรบีบแตรระมัดระวัง มีน้ำใจในการใช้ถนนร่วมกัน.............................. การเดินทาง ใช้เส้นทางภนนห้วยแก้ว อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นดอยสุเทพผ่านพระตำหนักภูพิงค์ แล้วแยกขวาที่สามแยกไปหมู่บ้านม้งดอยปุย จากนั้นเลี้ยวไปขุนช่างเคียน (ช่วงนี้ถนนระยะ ทาง 7 กิโลเมตร ทางค่อนข้างแคบ ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง) รวมระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง การเดินทางสามารถเข้าถึงโดยรถยนต์หรือการเช่ารถสองแถวที่เชิงดอยสุเทพ สิ่งอำนวยความสะดวก มีบ้านพัก และจุดกางเต็นท์บริการอาหาร - เครื่องดื่ม (ต้องจองล่วงหน้า) ช่วงเวลาการผลิดอกนางพญาเสือโคร่ง หลังช่วงวันที่ 15 มกราคม 2556
|
|
|
27
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำสถานทีเที่ยว ในจังหวัดเชียงใหม่-สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ / ท่องเที่ยว 5 เส้นทางดอกไม้บาน@เมืองเชียงใหม่
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2013, 12:00:08 PM
|
.. ขุนเขาที่สูงตระหง่าทอดตัวสูงแอ่งที่เรียบลมหนาว สายหมอกขาวราวเกาะบนทะเลเมฆ อุ่นไดแดดที่ปลูกมวลสรรพสัตว์ หมู่พืชพรรณไม้ให้ตื่นจากหลับไหล ร่วมบรรเลงบทเพลงธรรมชาติที่งดงามให้ดินแดนแห่งนี้เป็น "เมืองแห่งดอกไม้บานตลอดปี" นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า เชียงใหม่ยังมีอากาศที่หนาวเย็นโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวบนดอยสูง หมู่ดอกไม้ต่างผลิดอกชูช่ออวดสีสันอันสวยงาม เช่น ดอกนางพญาเสือโคร่ง รวมทั้งดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง และตามเส้นทางที่น่าสนใจอีกมากมาย ซากุระดอย หรือ "ต้นพญาเสือโคร่ง" ( Prunus cerasoides ) เป็นต้นไม้ที่จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นซากุระของประเทศญี่ปุ่น คือวงศ์กุหลาบ (Rosaceae) โดยพญาเสือโคร่งอยู่ในสกุล Prunus เช่นเดยวกับต้นเชอร์รี่ แอปริคอต พลัม แอปเปิลท้อ และ สาลี่ ซึ่งเป็นพรรณไม้ที่ชอบอากาศหนาวเย็น ต้นนางพญาเสือโคร่ง มักพบอยู่ตามบริเวณไหล่เขา หรือบนสันเขา บริเวณเหนือระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไป ที่มีอากาศหนาวเย็น ดอกนางพญาเสือโคร่ง มีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อด้วยกันตามพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ฉวีวรรณ , ชมพูภูพิงค์ (เหนือ) เส่คาแว่ , เส่แผ่ , แส่ลาแหล (ในภาษาปะกาเกอญอ) ซากุระดอย (เชียงใหม่) และจนได้รับฉายาว่า "ซากุระเมืองไทย" ในช่วงก่อนที่ต้นนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกนั้น จะเหมือนกับต้นไม้ใกล้ตาย เพราะมันจะทิ้งใบจนหมดต้น เหลือแต่กิ่งเปล่า ๆ แต่พอหลังจากที่โกร๋นไปทั้งต้นแล้วนางพญาเสือโคร่งก็จะผลิดอก โดยจะออกเป็นช่อกระจุกตามปลายกิ่ง ให้สีสันชมพูดูสดใส โดยเฉพาะยามที่ดอกบานเต็มต้นจะประหนึ่งเหมือนพรมสีชมพูปกคลุมไปทั่วทั้งต้น ดูงดงามอ่อนหวาน เป็นที่หลงใหลของผู้ที่ได้พบเห็นอยู่เสมอ ความแตกต่างระหว่าง "นางพญาเสือโคร่ง" และ "ซากุระญี่ปุ่น" ลักษณะนางพญาเสือโคร่ง ดอกมีสีชมพูอ่อน ลำต้นจะมีลายเป็นเข้ม เป็นดอกซ้อน ขนาดดอกใหญ่กว่าดอกนางพญาเสือโคร่ง ลำต้นไม่เป็นลายขั้นเหมือนนางพญาเสือโคร่ง ใบไม่มันวาว ใบเป็นลักษณะวงรีแต่ปลายใบไม่แหลม คาดว่าทั้งซากุระญี่ปุ่น และนางพญาเสือโคร่ง จะบานไปจนถึงสิ้นเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ อาจจะบานอยู่นานหรือเร็วนั้นก็อาจจากสภาพอากาศเป็นปัจจัยด้วยกัน จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมสัมผัสเส้นทางดอกไม้บานเมืองเชียงใหม่ 5 เส้นทาง และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่น่าสนใจในตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 1 เส้นทางดอกพญเสือโคร่งบานขุนช่างเคี่ยน และดอกกุหลาบงาม @ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ 2 เส้นทางดอกพญาเสืโคร่งบาน และดอกเมืองหนาว @ ดอยอ่างขาง 3 เส้นทางดอกพญาเสือโคร่งขุนวาง @ โครงการหลวงขุนวาง ดอยอินทนนท์ 4 เส้นทางดอกพญาเสือโคร่งบานขุนแม่ยะ @ ห้วยน้ำดัง 5 เส้นทางดอกไม้งามในเมืองเชียงใหม่ @ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ และสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
|
|
|
28
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เที่ยวทั่วไทย / ปราสาทหินพนมรุ้ง....
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2013, 02:10:39 PM
|
.. บนยอดเขาพนมรุ้ง ณ ความสูง 402 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นที่ตั้งของปราสาทหินทรายสีชมพู นาม "ปราสาทหินพนมรุ้ง" ซึ่งโดดเด่นด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมขอม ขรึมขลัง ดูมีพลัง สันนิษฐานว่าปราสาทหินพนมรุ้งถูกสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 15 - 18 โดยนเรนทราทิตย์ ผู้เป็นต้นตระกูลของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 (ผู้สร้างนครวัด)
ปราทสาทหินพนมรุ้งสร้างขึ้นตามคติความเชื่อในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ออกแบบให้มีลักษณะเป็นแนวเส้นตรง และเน้นความสำคัญเข้าสู่จุดศูนย์กลาง คือปราสาทประธานที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ด้านขวาของบันไดขึ้นสู่ปราสาทประธานคือพลับพลา สันนิษฐานว่าเป็นสถานที่เตรียมองค์ของพระมหากษัตริย์ ก่อนเสด็จขึ้นสักการะเทพเจ้าในปราสาทประธาน ถัดไปคือทางเดินทอดยาว ซึ่งสองข้างเรียงรายด้วยเสานางเรียง นำไปสู่สะพานนาคราช ที่เชื่อกันว่าเป็นทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับดินแดนของเทพเจ้า เมื่อขึ้นไปถึงปราสาทประธานซึ่งก่อด้วยหินทรายสีชมพู จะพบความมหัศจรรย์ของการจำหลักหินเป็นลวดลายอ่อนช้อย โดยเฉพาะบริเวณหน้าบันและทับหลัง ที่จำหลักเป็นภาพเรื่องราวในศาสนาฮินดู เช่น พระราม ในเรื่องรามเกียรติ์ พระศิวนาฏราช พระนารายณ์บรรทมสินธุ์ เป็นต้น นอกจากรูปแบบการวางผังและลวดลายการจำหลักหินแล้ว คติความเชื่อของการสร้างศาสนสถานขอมคือ สถานที่ตั้ง ซึ่งมักสร้างบนภูเขา ด้วยความเชื่อว่าปราทสาทหินเปรียบดังเทวาลัยของเทพเจ้าบนยอดเขาพระสุเมรุ อันเป็นศูนย์กลางของจักรวาลสำหรับปราสาทหินพนมรุ้งสร้างอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับแล้ว อีกหนึ่งมหัศจรรย์นอกเหนือจากลักษณะทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของกลุ่มศาสนสถานแห่งนี้คือ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ตรงกับช่วงจัดงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง แสงแรกของดวงตะวันจะสาดส่องทะลุผ่านประตูทั้ง 15 ช่อง ดูงดงามและน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง การเดินทาง จากอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ใช้เส้นทางหมายเลข 24 ไปประมาณ 14 กิโลเมตร ถึงสามแยกโรงเรียนบ้านตะโก แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2117 ตรงไปอีกราว 6 กโลเมตร ถึงบ้านตาเป๊ก จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2221 อีก 6 กโลเมตร ถึงปราสาทหินพนมรุ้ง ติดต่อสอบถาม อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลมพระเกียรติ์ จังหวัดบุรีรัมย์ 31110 โทรศัพท์ 044-782 715 ททท. สำนักงานสุรินทร์ (รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ) เลขที่ 355/3-6 ถนนเทศบาล 1 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุรินทร์ 32000 โทรศัพท์ 044 - 514 447 - 8 ![:14:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/14.gif) ............... ![:14:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/14.gif) .................. ![:14:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/14.gif) ................... ![:14:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/14.gif) ..................... ![:14:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/14.gif) .................... ![:14:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/14.gif)
|
|
|
34
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / Re: เส้นทางบุญแห่ง "นครหริภุญชัย"
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2013, 12:13:49 PM
|
![:29:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/29.gif) แม้ครั้งหนึ่งลำพูนจะเคยมีสถานะเป็นเมืองร้าง แต่นับตั้งแต่พระนางจามเทวีมาปกครอง นครหริภุญชัยแห่งนี้ก็ไม่เคยถูกทิ้งร้างอีก ขณะที่พระพุทธศาสนาในลำพูนก็เจริญรุ่งเรืองตลอดมา นอกจากวัดเก่าแก่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์แล้ว เลยไปที่อำเภอลี้ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งนักบุญล้านนา เพราะที่นี่คือบ้านเกิดและเรือนตายของครูบาศรีวิชัย พระนักพัฒนาผู้นำในการสร้างทางขึ้นสู่วัดพระธาตุดอยสุเทพโดยพลังศรัทธาประชาชนด้วย หลังจากครูบาศรีวิชัยแล้ว ลี้ยังมีครูบานักพัฒนาอย่างครูบาชัยยะวงศาพัฒนาหรือครูบาวงศ์ ผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวกะเหรี่ยงพุทธแห่ง วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม วัดประจำหมู่บ้านชาวเขาพระบาทห้วยต้มและเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอลี้ อาณาบริเวณอันกว้างขวางของวัดพระพุทธบาทห้วยต้มนอกจากองค์พระบรมธาตุที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม รายล้อมด้วยเจดีย์เล็กอีก 17 องค์ ภายในบรรจุพระเครื่อง 84,000 องค์ และไม่ห่างกันเป็นหอเก็บพระไตรปิฎก และยังเป็นสิ่งด่กอสร้างที่ทำจากศิลาแลงที่ขุดได้จากบ่อศิลาแลงด้านหลังของวัดด้วย ศรัทธาของชาวกะเหรี่ยงที่มีต่อครูบาวงศ์ ทำให้หมู่บ้านที่ตั้งอยู่โดยรอบวัดแห่งนี้เป็นเขตมังสวิรัติ ไม่มีการรับประทานเนื้อสัตว์ใดๆ เช่นเดียวกับครูบาวงศ์ซึ่งถือเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้มีการนำสัตว์เข้ามาด้วย ด้วยศรัทธาของชาวกะเหรี่ยงและศิษยานุศิษย์ พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย พุทธสถานของพระพุทธบาทห้วต้มที่อยู่ห่างออกมากลางหมู่บ้านที่ครูบาวงศ์เป็นผู้ริเริ่มก่อสร้างไว้ หลังจากได้พบมูลโคขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในสมัยที่ทรงมาใช้ชาติเป็นโคพระโพธิสัตว์ ซึ่งได้กลายเป็นสภาพเป็นพระบรมธาตุ จึงมีความตั้งใจที่จะสร้างพระมหาเจดีย์ธาตุครอบทับสถานที่แห่งนี้ไว้ เพื่อให้เป้นพุทธเจดีย์ของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์อันะเป็นพุทธเจดีย์ของภัทรกัปให้ลูกหลานคนไทยได้กราบไหว้เป็นแห่งแรกของประเทศไทยและเป็นแห่งที่สองของโลก ได้รับการสานต่อจนเสร็จสมบูรณ์แม้ว่าครูบาวงศ์จะมรภาพไปแล้ว ไม่เพียงวัดพระพุทธบาทห้วยต้มเท่านั้นที่ครูบาวงศ์ได้สร้างให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธ ห่างออกไปไม่ไกลครูบาวงศ์ยังได้ริเริ่มบูรณปฏิสังขรณ์ วัดพระธาตุห้าดวง เมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยมีการบูรณะองค์พระธาตุทั้งห้าดวง ด้วยการก่อสร้างครอบองค์เดิมและทำการก่อสร้างแบบองค์พระธาตุหริภุญชัย มีการปิดทองจังโก้และปิดด้วยทองคำเปลว วัดพระธาตุห้าดวงแห่งนี้กรมศิลปากรสันนิษฐานว่า เป็นบริเวณเวียงเก่า เพราะมีซากกำแพง และคูเมืองตั้งเป็นแถว ตามตำนานกล่าวว่า พระนางจามเทวี กษัตริย์ผู้ครองเมืองหริภุญชัย ได้ยินข่าวจากราษฎรเมืองลี้ว่ามีดวงแก้ว 5 ดวง ปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง จึงได้เสด็จมาทอดพระเนตรด้วยพระองค์เองเวลากลางคืน จึงได้ทอดพระเนตรเห็นแสงสว่างจากดวงแก้วทั้ง 5 ดวง ลอยอยู่บนกองดิน 5 กอง จึงได้สอบถามความเป็นมาทราบว่า คือพระเมโตธาตุ (น้ำไคลมือ) ขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าที่คือล้างพระหัตถ์ และน้ำก็ไหลผ่านปลายนิ้วทั้ง 5 ลงพื้นดิน พระนางจึงเกิดศรัทธาสร้างพระธาตุครอบกองดินทั้ง 5 กองไว้และในวันที่ 20 เมษายน ของทุกปีจะมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุห้าดวงสืบต่อกันมานับตั้งแต่นั้น ใกล้ๆ กันเป็นที่ตั้งของ วัดพระธาุดวงเดียว ว่ากันว่าสร้างขึ้นในสมัยพระนางจามรี ระหว่างปี พ.ศ. 500-700 พระนางจามรีซึ่งเป็นธิดาของเจ้าผู้ครองเมืองหลวงพระบางถูกอ่อรุกราน จึงพาไพรพลหนีภัยข้าศึกมาตั้งแต่บ้านเมืองใหม่ ปัจจุบันคือ บริเวณวัดพระธาตุดวงเดียว ขณะที่พระนางได้ทำการสร้างบ้านเมืองก็ได้สร้างพระธาตุเจดีย์พร้อมวิหารไว้ในเวียงวังด้วย ก็คือ วัดพระธาตุดวงเดียว หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดพระธาตุกลางเวียงนั่นเอง ไม่เพียงแค่อำเภอเมือลำพูนและลี้เท่านั้นที่มีวัดสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับตำนานในพระพุทธศาสนา และประวัติศาสตร์การก่อสร้างเมืองแต่เมืองเงียบสงบและเรียบง่ายแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย..................................... ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
|
|
|
35
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / เส้นทางบุญแห่ง "นครหริภุญชัย"
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2013, 10:45:31 AM
|
![:25:](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/25.gif) บ่อน้ำเก่าแก่รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ดูลึกจนดูไม่น่าจะมีใครลงไปตักน้ำขึ้นมาใช้ประโยชน์ ซึ่งอยู่หน้าพระอุโบสถของวัดพระธาตุหริภุญชัยที่ประดิษฐานพระทองทิพย์ ก่อสร้างขึ้นด้วยศิลาแลงที่อาจดูขัดกันกับสิ่งก่อสร้างอื่นๆ โดยรอบและแทบไม่มีใครใส่ใจนั้น ความริงแล้วเป็นหนึ่งในโบราณสถานอันทรงคุณค่าของประวัติศาสตร์เมืองลำพูน จังหวัดที่เก่าแก่ที่สุดในภาคเหนือที่เดิมมีชื่อว่า "นครหริภุญชัย" เพราะเป็นสระสรงน้ำของพระนางจามเทวี พระธดาพระมหากษัตริย์แห่งกรุงละโว้ที่มาปกครองดินแดนแถบนี้ ศิลาแลงแบบเดียวกับที่ใช้ก่อสร้างสระสรงน้ำนั้น ก็เป็นวัสดุเดียวกันที่ถูกนำมาสร้างพระมหาเจดีย์พระบรมธาตุหริภุญชัยทรงปรางค์สี่เหลี่ยมโดยไม่มีโลหะใดๆ เป็นแกน แต่กลับไม่เคยมีรอยแตกร้าว พระเจดย์สีทองเหลืองร่วมที่เห็นในปัจจุบันที่ได้รับการบูรณะมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเม็งรายมหาราช จนถึงสมัยพระเมืองแก้วได้มีการเรี่ยไรเงินเพื่อซื้อทองแดงทองคำเปลวบุองค์พระมหาเจดีย์ ขณะที่พระวิหารหลวงสร้างขึ้นใหม่ตามรูปทรงเดิมหลังจากพระวิหารไม้ดั้งเดิมถูกพายุพัดเสียหายเมื่อปี พ.ศ. 2458 เหลือเพียงซุ้มประตูสมัยศรีวิชัยก่ออิฐถือปูนที่ยังคงลวดลายวิจิตรพิสดารมาจนถึงทุกวันนี้ เช่นเดียวกับสิงห์คู่ที่ยังคงยืนอยู่บนแท่นในลักษณะยืนเต็มทั้ง 4 เท้า ประดับด้วยเครื่องทรงมีลวดลาย ซึ่งเดิมเป็นแนวกำแพงวังชั้นนอกของพระเจ้าอาทิตยราช ชาวบ้านเรียกสิงห์คู่นี้ว่า สิงห์เฝ้าวัด" เล่ากันว่า พระเจ้าอาทิตยราช ผู้ทรงถวายวังให้เป็นสังฆารามหลังพบว่า สถานที่ที่เคยสั่งให้ขุดหลุมเป็นที่สำหรับบังคน และมักจะถูกกาบินโฉมพระเศรยรมิได้เว้น จึงทรงรับสั่งให้จับเจ้ากาตัวนั้นมาขังรวมกับเด็กทารกที่เริ่มหัดพูดจนเวลาล่วงไป 7 ปี ทารกที่ถูกเลี้ยงอยู่กับกาจนทำให้เข้าใจภาษากาได้ ไต่ถามเหตุการณ์จึงทราบวา่ สถานที่นั้นเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเจ้าอาทิตยราชทรงสถาปนาพระบรมธาตุเจดีย์ขึ้น ณ จุดนั้นให้เป็นหลักของนครหริภุญชัยนับตั้งแต่นั้น นอกจากพระธาตุหริภุญชัยแล้ว ร่องรอยศิลปะละโว้ยังมีให้เห็นที่วัดจามเทวี หรือวัดกู่กุด ตามภาษาเรียกของชาวบ้านซึ่งมาจากยอดเจดีย์ หุ้มทองที่หักหายไป มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏ ช่างชาวละโว้สร้างเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดียโดยแต่ละด้านมีพระพุทธรูปปางประทานพรอยู่เป็นชั้นๆ ภายในบรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ด้านข้างพระวิหารเป็นที่ตั้งของ รัตนเจดีย์ เจดีย์ก่ออิฐถือปูนทรงแปดเหลี่ยม แต่ละเหลี่ยมเจาะเป็นซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูแประทับยืน สร้างึ้นโดยพระยาสรรสิทธิ์ ราวพุทธศตวรรษที่ 17
|
|
|
40
|
ข้อมูล เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก / เทศกาลท่องเที่ยวทั่วไทย / ผ้าทอนแกะ กาแฟ และวิถีชีวิตชาวปกาเกอะญอ "บ้านห้วยห้อม"
|
เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 10:23:22 AM
|
![913](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/913.gif) งานหัตถกรรมที่ขึ้นชื่อของบ้านห้วยห้อม ผ้าทอขนแกะเริ่มต้นโดยกลุ่มมิชชันนารี ที่มาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ เห็นว่าการทอผ้าของชาวปกาเกอะญอหมู่บ้าน ซึ่งใช้ฝ้ายพื้นเมืองที่ปลูกเองนำมากรอเป็นด้ายทอผ้า จากนั้นได้นำความรู้เกี่ยวกับการใช้ขนแกะมาทำเป็นเส้นด้ายสำหรับทอผ้าสอนให้ชาวบ้าน ต่อมาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จที่บ้านห้วยห้อม และได้พระราชทานพันธุ์แกะให้ชาวบ้านห้วยห้อมเลี้ยงเพื่อตัดขนมาทำผ้าทอ และได้รวมกลุ่มเป็นกลุ่มทดผ้าขนแกะของหมู่บ้านขึ้น เป็นผ้าทอที่มีความนุ่ม ลวดลายสวยงาม และประณีต จากการทอขนแกะด้วยมือ ผลิตภัณฑ์ผ้าทอที่ได้มีทั้งผ้าทอที่ทอจากขนแกะล้วนๆ และผ้าทอที่ผสมผสานระหว่างขนแกะกับเส้นฝ้ายที่ผ่านการย้อมสีธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนโดยใช้ด้ายยืนเป็นเส้นด้ายจากฝ้าย ส่วนด้ายพุ่งเป็นเส้นด้ายจากขนแกะ ส่วนใหญ่นิยมทอเป็นผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าคลุมเตียง หรือผ้าปูโต๊ะ เป็นต้น. กระบวนการทอเริ่มจาก การนำขนแกะที่ตัดมาทำความสะอาดด้วยแชมพู หรือผงซักฟอก จากนั้นนำไปตากให้แห้ง คัดแยกเอาเศษหญ้าและสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ออก แล้วนำขนแกะที่ได้มาดึงยืดเพื่อให้มีความนุ่ม หวีขนแกะโดยใช้เป็นแปรงหวีเพื่อให้ฟู นำมากรอเป็นเส้นด้ายแล้วจึงใช้เส้นด้ายผูกกับไม้และเข้ากับเอว หรือที่เรียกว่า "กี่เอว" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และภูมิปัญญาของชาวปกาเกอะญอ............................ ![912](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/912.gif) ลิ้มรสละมุนกรุ่นกลิ่น กาแฟห้วยห้อม กาแฟอราบิก้า นำเข้ามาปลูกที่บ้านห้วยห้อม ตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย โดยกลุ่มมิชชันนารี จากนั้นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย ได้นำกาแฟเข้ามาปลูกเพื่อช่วยเหลือราษฎรพัฒนาอาชีพด้านการเกษตรตั้งแต่นั้นมาจึงมีการปลูกกาแฟกันมากขึ้น อีกทั้งยังขยายจากหมู่บ้านห้วยห้อมไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงจนมีพื้นที่ปลูกมากขึ้น กาแฟอราบิก้าเจริญเติบโตให้ผลผลิตได้ดีในระดับหนึ่ง ความสูงประมาณ 800 เมตร ขึ้นไปจากระดับน้ำทะเลปานกลาง อีกทั้งยังทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นหอมกรุ่นอีกด้วย และเนื่องจากพื้นที่ปลูกกาแฟส่วนใหญ่อยู่ในบ้านห้วยห้อม จึงเรียกได้ว่า "กาแฟห้วยห้อม" ปัจจุบันชาวบ้านห้วยห้อมสามารถผลิตกาแฟแบบครบวงจรตั้งแต่การเพาะกล้ากาแฟ การปลูก การเก็บ ไปจนถึงการคั่ว และบดกาแฟ จนกระทั่งการบรรจุหีบห่อที่มีความสวยงามเหมาะกับการซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน............................. ![901](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/901.gif) ชมทะเลขุนเขา นอนนับดาว พักกายพักใจ "โฮมสเตย์ห้วยห้อม" โฮมสเตย์บ้านห้วยห้อม นับเป็นโปรแกมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่จะได้สัมผัสวิถีชีวิตเรียนรู้วิถีวัฒนธรรมของชาวปกาเกอะญอ พร้อมบริการบ้านพักแบบโฮมสเตย์ทั้งหมด 5 หลัง และกำลังขยายเพิ่มในอนาคต โดยแต่ละหลังรองรับนักท่องเที่ยวได้ 10 - 20 คน และมีการบริการอาหารพื้นบ้าน เวลาเดินช้า ๆ จากหมู่บ้านห้วยห้อมวิถีชุมชนแห่งขุนเขาผืนป่ากาแฟและผ้าทอขนแกะ สายใยความสัมพันของธรรมชาติและวิถีชีวิตที่เรียบง่าย.......................................................................................... ![909](https://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/Smileys/default/909.gif) .....................................................................
|
|
|
|
|