Re: 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน

12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน

12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน

12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน

12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน

12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน

นอกจากนึ้คู่รักทุกคู่จะรับสิทธิประโยชน์พักโรงแรมอมารีรินคำฟรี จารึกชื่อในประติมากรรมแห่งความรัก ณ สวนเฉลิมพระเกียรติราชพฤกษ์ 2549 และอื่น ๆ รวมทั้งลุ้นรับรางวัลใหญ่ในงาน โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านเครือข่ายโกลบอลเน็ตเวอร์ก ไปยัง 176 ประเทศทั่วโลกทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5

สำหรับ คู่รักที่สนใจจะเป็นคู่รักประวัติศาสตร์สามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการดัง กล่าวโดยต้องเสียค่าใช้จ่ายคู่ละ 49,999 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 0-5380-2145 หรือทางเว็บไซต์ www.marriage999.com

โดยพิธีการดังกล่าวจะเริ่มจากวันที่ 8 กันยายน 2552 มีขบวนแห่บายศรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมเครื่องประกอบพิธีแบบล้านนาเต็มรูปแบบ ในบรรยากาศกาดหมั้วล้านนา ในวันที่ 9 กันยายน เวลา 09.09.09 ปี 2009 คู่รักทุกคู่จะผลัดกันสวมแหวนแต่งงาน เปรียบเสมือนสิ่งแทนใจที่สื่อถึงความรักอันบริสุทธิ์ของคู่รัก หลังจากนั้นจะร่วมกันตัดเค๊กมงคลสมรสที่ใหญ่ที่สุดในโลกเส้นผ่านศูนย์กลาง 99 นิ้ว โดยนายเฉลิมศักดิ์ สุรนันท์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่กล่าวว่า การจัดพิธีมงคลสมรสดังกล่าวเพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีล้านนา ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียง กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวช่วงกรีนซีซัน

การ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมจัดกิจกรรม ความรักความทรงจำมหัศจรรย์เลข 9 Lover Memories and miracle No.9 โดยจะจัดพิธีแต่งงานคู่รัก 99 คู่ ณ สวนเฉลิมพระเกียรติราชพฤกษ์ 2549 ในเวลา 09.09 น. 9 วินาที ของวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เป็นวินาทีแห่งประวัติศาสตร์ซึ่งจะเกิดเพียง 1 ครั้ง ในรอบ 1,000 ปีเท่านั้น

เชียงใหม่เตรียมจัดกิจกรรมความรักความทรงจำ มหัศจรรย์เลข 9

หลายหน่วยงานในจังหวัดเชียงใหม่เตรียมจัดกิจกรรมความรักความทรงจำ มหัศจรรย์เลข 9 แต่ง งานคู่รัก 99 คู่ในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 หนึ่งพันปีมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ปัจจุบัน “ช้างไถนา” ภูมิปัญญาดั้งเดิมของบรรพบุรุษชาวกะเหรี่ยงบ้านนาเกียน อำเภออมก๋อย ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ และสืบทอดสู่รุ่นลูกหลานในปัจจุบัน ในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ของทุกปี ททท. สำนักงานเชียงใหม่ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านเดินทางมาสัมผัส “ช้างไถนา” แห่งเดียวในเมืองไทย และความงดงามของธรรมชาติแห่งป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์มากอีกแห่งหนึ่งของประเทศ ไทย ซึ่งมีที่พักทั้งแบบรีสอร์ท และโฮมสเตย์รองรับอยู่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อำเภออมก๋อย โทร. ๐ ๕๓๔๖ ๗๐๖๐ หรือที่ www.omkoi.org

กิจกรรม “ช้างไถนา” เป็นกิจกรรมที่มีมานานกว่า ๑๐๐ ปี โดยชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านนาเกียนซึ่งตั้งห่างจากตัว อำเภออมก๋อยเพียง ๓๙ กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางกว่า ๓ ชั่วโมง ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล ๑,๒๐๐-๑,๖๐๐ เมตร ด้วยระยะทางที่ไกล และทุรกันดารนี้ ทำให้ชาวบ้านยึดอาชีพเกษตรกรรมทำนาแบบขั้นบันได และการปลูกพืชไร่เพื่อเลี้ยงชีพ แต่ด้วยข้อจำกัดทางด้านภูมิศาสตร์ซึ่งเป็นที่ลาดเชิงเขา พื้นดินมีหินปะปนอยู่มาก ทำให้การไถนาด้วยควายได้งานน้อย และเหนื่อยง่าย จึงนำช้างที่เลี้ยงไว้มาไถนา เพราะช้างแข็งแรงกว่าวัว ควาย สามารถไถนาได้จำนวนพื้นที่มากกว่าในระยะเวลาใกล้เคียงกัน โดย ๑ แรงช้าง เท่ากับ ๔ แรงวัว ควาย โดยช้าง ๑ เชือก สามารถลากได้ ๑-๔ คันไถ และไม่ต้องพักเหนื่อยเพราะถือเป็นงานที่เบาเมื่อเทียบกับการลากซุงในอดีต

นอกจากนี้ ภายในงานได้มีการนำข้าวพันธุ์ดี ๔ สายพันธุ์มาเพาะบนพื้นที่ ๘ ไร่ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิสันป่าตอง ข้าวก่ำดอยสะเก็ด ข้าวหอมมะลิแดง และข้าวหอมมะลินิลที่มีสรรพคุณทางยามาซึ่งหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิต และจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปมอบให้โรงพยาบาลอมก๋อย และกิจกรรมการกุศลต่อไป 

ช้างไถนา ที่อำเภออมก๋อย


ภาคเอกชน จ. เชียงใหม่ นำโดยนางวันเพ็ญ ศักดาทร ผู้บริหารบ้านแสนดอยรีสอร์ท แอนด์สปา ห้องอาหารแสน คำเทอเรซและนายฮาเก็น เอ.เว เดียร์คเซิน กงสุลกิตติมศักดิ์สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันนี นายเศรษฐพล จินดานนท์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ พร้อมด้วยนายเฉลิมศักดิ์ สุรนันท์ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ และนางอัญชลี กัลมาพิจิตร ปางช้างแอลลี่ นำช้าง ๘ เชือก แสดงการไถนาบนพื้นที่ ๘ ไร่ เมื่อวันที่ ๘ เดือน ๘ เวลา ๐๘.๐๘ น. โดยมีนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อดีตนายอำเภออมก๋อย จัดกิจกรรมช้างไถนาเพื่อสืบสานภูมิปัญญาบรรพบุรุษชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง และส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภออมก๋อย ซึ่งเป็นการไถนาโดยช้างแห่งเดียวในเมืองไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ตามแนวคิดของนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

เชิญเที่ยวงาน ประเพณีตานก๋วยสลาก ณ. พระบรมธาตุหริภุญชัย ลำพูน 4 กันยายน 2552

เชิญเที่ยวงาน ประเพณีตานก๋วยสลาก ณ. พระบรมธาตุหริภุญชัย ลำพูน 4 กันยายน 2552

เชิญเที่ยวงาน ประเพณีตานก๋วยสลาก ณ. พระบรมธาตุหริภุญชัย ลำพูน 4 กันยายน 2552

เชิญเที่ยวงาน ประเพณีตานก๋วยสลาก ณ. พระบรมธาตุหริภุญชัย ลำพูน 4 กันยายน 2552

เชิญเที่ยวงาน ประเพณีตานก๋วยสลาก ณ. พระบรมธาตุหริภุญชัย ลำพูน 4 กันยายน 2552

เชิญเที่ยวงาน ประเพณีตานก๋วยสลาก ณ. พระบรมธาตุหริภุญชัย ลำพูน 4 กันยายน 2552

ประเพณีตานก๋วยสลาก หรือประเพณีกิ๋นสลากเป็นประเพณีทำบุญโดยมิได้เลือกเจาะจงพระสงฆ์องค์ใดของ ชาวล้านนา มีลักษณะโดยทั่วไปคล้ายคลึงกับประเพณีถวายสลากภัตของชาวไทยภาคกลาง หากทางล้านนานิยมเป็นการทำบุญจตุปัจจัยถวายแด่พระสงฆ์ โดยมิต้องมีการทำบุญเป็นภัตตาหารต่าง ๆ เช่นเดียวกับภาคกลาง

   คำว่าก๋วย แปลว่า ภาชนะสาน ประเภทตะกร้าหรือชะลอม ตานก๋วยสลากจึงหมายถึงการถวายทานด้วยวิธีการจับสลากเครื่องไทยทานที่บรรจุมา ในชะลอม โดยการถวายตานก๋วยสลากนี้มีจุดมุ่งหมาย 2 อย่างด้วยกันคือ อย่างหนึ่งเป็นการอุทิศให้เทพยดาและผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และอีกอย่างหนึ่งเป็นการอุทิศไว้ให้ตนเองเมื่อล่วงลับไปในภายหน้า การถวายก๋วยสลากถือกันว่าจะได้อานิสงส์แรง เพราะเป็นการทำบุญแบบสังฆทานผู้ถวายไม่ได้เจาะจงตัวผู้รับว่าจะเป็นพระภิกษุ หรือสามเณรรูปใด ๆ

   เนื่องจากการจัดพิธีตานก๋วยสลากนี้ มีจัดกันในภาคเหนือทั่วไป แต่ละแห่งแต่ละวัดก็จะมีจุดเด่นของพิธีกรรมแตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไปจุดเด่นที่สุดของพิธีกรรมนี้จะอยู่ที่คัวตานใหญ่ที่จัดเป็น ตานกลางถวายแก่วัด ซึ่งอาจจะมีการจัดขบวนแห่คัวตานให้สวยงามเอิกเกริกและยิ่งใหญ่ด้วยขบวนฟ้อน รำต่าง ๆ ด้วย