จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ => แนะนำแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่--สายตะวันตก สะเมิง-แม่แจ่ม-กัลยาณิวัฒนา => ข้อความที่เริ่มโดย: Traveller Freedom ที่ มีนาคม 15, 2016, 04:18:37 PM



หัวข้อ: ตำนานม่อนอังเกตุ
เริ่มหัวข้อโดย: Traveller Freedom ที่ มีนาคม 15, 2016, 04:18:37 PM
ตำนานม่อนอังเกตุ

สถานที่ตั้ง : หน่วยจัดการต้นน้ำม่อนอังเกตุ บ้านปางขุม หมู่ที่ 1 ตำบลยั้งเมิน อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : 19.213538, 98.640197

    ม่อนอังเกตุ เป็นต้นกำนิดของลำน้ำสำคัญ 4 สาย คือ ขุนน้ำสา ไหลลงแม่น้ำปาย ขุนน้ำเลย ไหลลงแม่น้ำแม่แตง ขุนน้ำแม่สาบและขุนน้ำแม่จุม ไหลลงลำน้ำแม่ขาน แล้วไหลรวมสู่แม่น้ำปิง พื้นที่ด้านบนม่อนอังเกตุมีลักษณะเป็นพื้นที่โล่งกว้างปราศจากเรือนยอดไม้ใหญ่ ในวันฟ้าเปิดจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้าง 360 องศา มองเห็นไกลถึงยอดดอยหลวงเชียงดาว ดอยอินทนนท์ ดอยสามหมื่น จนถึงอำเภอจอมทอง อำเภอแม่แตง และหลายหมู่บ้านในพื้นที่อำเภอสะเมิง อีกทั้งยังสามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก

    เมื่อได้สืบเสาะค้นหาตำนานและที่มาของชื่อ “ม่อนอังเกตุ” ทำให้ทราบว่ามีที่มาเป็นเรื่องราวแนวนิยายปรัมปรา เกี่ยวเนื่องกับสิ่งที่ปรากฏให้เห็นมีอยู่จริง นั้นคือ “ศาลเจ้าแม่อังเกตุ” โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า ...

    มีแม่นางท่านหนึ่ง นามว่า “อังเกตุ” เป็นหญิงชั้นสูงในวัง มีพระบิดาเป็น “พ่อพญา” ที่มีนิสัยชอบทำลายต่อหลวง หรือ “พญาต่อ” จึงกลายเป็นศัตรูกันมาตลอด ต่อหลวงล่วงรู้ว่าพ่อพญารักแม่นางอังเกตุ ลูกสาวคนนี้สุดหัวใจ จึงคิดอุบายไปคาบแม่นางออกจากวัง แล้วนำมาทิ้งไว้ที่ม่อนแห่งหนึ่งบนท้องที่อำเภอสะเมิง พ่อพญาออกตามหาจนเจอ หมายจะรับลูกสาวกลับเวียงวัง แต่แม่นางไม่ยอมกลับ บอกว่าจะขออยู่ใช้กรรมให้หมดสิ้นบนนี้ พ่อพญาจึงจัดส่งช้าง เสือ แม่นม และองครักษ์คู่ใจมาดูแล สุดท้ายแม่นางกำชับว่าหากสิ้นบุญแล้วก็ให้ฝังร่างของนางไว้ที่นี่ เมื่อถึงคราวสิ้นบุญ ร่างของแม่นางจึงถูกฝังไว้บนม่อนแห่งนี้ตามปรารถนา ชาวบ้านท้องถิ่นจึงได้นำชื่อของแม่นางอังเกตุ มาตั้งเป็นชื่อม่อน นามว่า “ม่อนอังเกตุ” พร้อมกันนั้นก็ได้สร้างศาลเจ้าแม่อังเกตุ ไว้เพื่อเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านตราบจนกระทั่งปัจจุบัน

    มีเล่ากันว่าใครมาขอพรที่ศาลด้วยจิตกุศลมักสัมฤทธิ์ผล แต่หากใครประพฤติไม่ดีก็จะมีเภทภัยเกิดขึ้น ดังเช่นเหตุการณ์ที่อยู่ในความทรงจำของชาวบ้าน เมื่อปี พ.ศ. 2515 มีชาวบ้านเผ่าม้งจำนวน 3-4 หลังคาเรือน ทำไร่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของม่อนอังเกตุ มีเด็กในหมู่บ้านจับหนูมาเจาะจมูกแล้วใช้เชือกผูกลากจูงเหมือนควาย ตกดึกเกิดอาเพศฟ้าคำราม ลมกระโชก ฝนเทโหมกระหน่ำ ทำให้ดินบนยอดดอยสไลด์ลงมาทับคนในหมู่บ้านเสียชีวิตเกือบหมด ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครกล้าลบหลู่อีกเลย ชาวบ้านที่รอดชีวิตได้ย้ายไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งของม่อนอังเกตุ บริเวณบ้านขุนสา เขตพื้นที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ดินที่สไลด์ลงมานี้ ได้กลายเป็นแหล่งปลูกดอกไม้เมืองหนาวขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศในปัจจุบัน

by Traveller Freedom