จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ => แนะนำที่เที่ยว เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-แม่ริม-แม่แตง-เชียงดาว-ไชยปราการ-ฝาง-แม่อาย => ข้อความที่เริ่มโดย: konhuleg. ที่ ธันวาคม 15, 2015, 09:23:17 AM



หัวข้อ: เที่ยวเชียงใหม่ในสไตล์ฮิปสเตอร์
เริ่มหัวข้อโดย: konhuleg. ที่ ธันวาคม 15, 2015, 09:23:17 AM
ตอนที่ 1

ใครที่ติดตามความเป็นไปในกระแสของโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค คงพอจะทราบกันดีว่า หลังๆ มานี้มีรีวิวสถานที่ท่องเทียวกันเยอะมาก อาจจะด้วยเพราะกระแสของการเที่ยวของคนรุ่นใหม่ ที่ไปแล้วก็อยากกลับมาเล่าถึงประสบการณ์การเดินทางให้คนอื่นได้ฟังกัน ซึ่งมันก็ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนอ่านที่จะได้รับข้อมูลเรื่องการท่องเที่ยวที่หลากหลายขึ้น ส่วนข้อมูลอันไหนดีมีประโยชน์ต่อสมองมากน้อยแค่ไหน อันนี้ก็ต้องไปพิจารณากันเอา

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_76_1.JPG)

มีกระแสการท่องเที่ยวในเชียงใหม่แบบหนึ่งที่ดูน่าสนใจกันครับ ผมขออนุญาตเรียกว่า เป็นการเที่ยวในแบบสไตล์ของ “ฮิปสเตอร์” ก็แล้วกัน โดยกลุ่มคนเหล่านี้เขาจะมีสถานที่ฮิตๆ ที่ชอบไป แล้วคนอื่นๆ ที่เป็นสายพันธุ์เดียวกันก็จะตามรอย

สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าเที่ยวแบบ “ฮิปสเตอร์” มันคือแบบไหนใน จ. เชียงใหม่ ของกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ค ผมจะขออธิบายให้เห็นภาพคร่าวๆ ดังต่อไปนี้

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_76_2.JPG)

สถานที่ฮิตๆ ที่ชอบไปกันต้องมี แกรนแคนยอน หางดง, ม่อนแจ่ม, บ้านแม่กำปอง, สวนพฤกษศาสตร์ แม่ริม และบ้านข้างวัด หลักๆ ก็มีกันประมาณนี้ ที่เหลือก็อาจจะปรับเปลี่ยนกันไปตามแต่สถานการณ์ โดยคอนเซ็ปต์ของพวกเขาคือเน้นสไตล์แบบ “Slow Life” ช้าๆ เนิบๆ ค่อยๆ ซึมซับกับบรรยากาศ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_76_3.JPG)

ผมมีโอกาสได้พาน้องสาวที่รู้จักคนนึงพาเที่ยวแบบฮิปสเตอร์ คือจริงๆ แล้ว ผมไม่ได้ตั้งใจจะพาไปเที่ยวแบบนั้น แต่น้องเขารีเควสมา ก็นะ เลยต้องตามใจคนอยากเที่ยว ส่วนผม คือ ไปตอนไหนยังไงก็ได้

โปรแกรมเที่ยวแบบฮิปสเตอร์คร่าวๆ หลังจากวางแผนที่จะไปกัน มีหน้าตาออกมาประมาณนี้ คือ ไปสวนพฤกษศาสตร์ แม่ริม ไปม่อนแจ่ม ไปแกรนแคนยอน หางดง ไปบ้านแม่กำปอง ไปบ้านข้างวัด

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_76_4.JPG)

วันแรกเริ่มต้นด้วยการไปสวนพฤกษศาสตร์ แม่ริม ตรงในส่วนของโรงเรือนที่มีกระบองเพชร ไอ้ที่ตรงนี้ผมก็ไม่รู้นะว่าใครเป็นคนเริ่มต้นมาสร้างกระแสแบบฮิปสเตอร์ มาถ่ายรูปคู่กับกระบองเพชร (ฮิปสเตอร์ชอบเลี้ยงกระบองเพชร)  ซึ่งแต่ก่อนย้อนกลับไป 1 ปีที่แล้ว แทบจะไม่ค่อยมีใครมาเที่ยวถ่ายรูปกัน แต่ ณ ปัจจุบันนี้ต้องบอกเลยว่ามันกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ และอาจจะประเทศไทย ที่บรรดาเหล่าฮิปสเตอร์ทั้งหลาย ต้องขีดเส้นใต้เน้นๆ เลยว่า “ต้องมา”
ออกจากสวนพฤกษสาสตร์ แม่ริม ก็พากันถ่อมายังม่อนแจ่ม สถานที่ที่ใครๆ ก็อยากมาไม่เว้นแม้แต่ฮิปสเตอร์ ที่ก็อยากมาเพื่อจะได้สัมผัสทะเลหมอก วิวทิวทัศน์ แปลงกะหล่ำ แปลงดอกไม้ พร้อมกับถ่ายรูปชิลๆ และจิบกาแฟ

เพียงแต่ว่าไอ้ที่คิดไว้ก่อนมานั้น มันจะสมหวังกับที่คิดไว้รึเปล่า


หัวข้อ: Re: เที่ยวเชียงใหม่ในสไตล์ฮิปสเตอร์
เริ่มหัวข้อโดย: konhuleg. ที่ ธันวาคม 16, 2015, 09:15:53 AM
ตอนที่ 2

มีการถกเถียงกันว่า แท้จริงแล้วทะเลหมอกมันควรจะมีให้ดูกันตอนไหนระหว่างหน้าหนาวกับหน้าฝน

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_77_1.JPG)

จากที่ผมเคยสัมผัสตอนมาม่อนแจ่มครั้งแรกในหน้าฝน ทะเลหมอกมันจะมีให้เห็นช่วงหลังฝนหยุดใหม่ๆ แต่หน้าหนาวสำหรับบางที่ที่เคยไปชมทะเลหมอกมา มันก็มีทะเลหมอกเหมือนกัน ตกลงก็เลยยังไม่รู้ว่ามันอะไรยังไงกันแน่

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_77_2.JPG)

มาม่อนแจ่มคราวนี้ ทะเลหมอกไม่น่าจะมีมาต้อนรับฮิปสเตอร์เพราะมาตอนบ่ายแก่ๆ แถมแปลงดอกไม้สวยๆ ก็ไม่ค่อยจะมีเหมือนตอนหน้าฝนก่อนหน้านี้ที่บานสะพรั่ง ส่วนแปลงกะหล่ำ อันนี้ยังมีให้ชมกันครับ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_77_3.JPG)

ที่ม่อนแจ่มเรื่องอาหาร มาครั้งนี้เพิ่งเคยลองสั่งมาชิมครั้งแรก แถมเมนูที่สั่งมาเรียกได้ว่าสิ้นคิดกันพอควร มีแกงจืดเต้าหู้หมูสับ ไก่ทอดขิง เรื่องรสชาติอยู่ในระดับโอเค แต่ที่ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ คือราคาที่ค่อนข้างจะแพงนิดๆ อาจจะเพราะว่ามันอยู่บนเขาบนดอยด้วย

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_77_4.JPG)

วิวที่ม่อนแจ่มว่ากันว่าจะสวยตอนเย็นๆ ฝั่งที่มองไกลๆ ไปเห็นถึงเชียงดาว แต่การจะมองวิวแบบนั้นได้ มันก็ต้องรอถึงช่วงทไวไลท์ และก็แน่นอนว่าคนที่จะอยู่กันถึงตอนนั้น ก็น่าจะมีที่พักแถวนั้นไว้นอนแล้ว ส่วนคนที่ไม่มี คงไม่ค่อยมีใครกล้าเสี่ยงขับรถลงม่อนแจ่มกันมาตอนค่ำๆ แน่นอน มันอันตรายเกินไปสำหรับมอเตอร์ไซค์ และผมก็ไม่อยากทำแบบนั้น

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_77_5.JPG)

จบวันแรกผ่านไปแบบเอื่อยๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นสำหรับการพาฮิปสเตอร์เที่ยว ส่วนวันที่สองนั้นเป้าหมายที่คิดกันก็คือ การมาตะลอนแถวในเมือง
โครงการบ้านข้างวัด คือเป้าหมาย ว่ากันว่า สถานที่แห่งนี้จะมีร้านรวงเก๋ๆ ต่างๆ มากมาย รวมทั้งเป็นแหล่งจัดกิจกรรมสำหรับงานอีเว้นต่างๆ ประมาณสายอาร์ต และเมื่อรวมเข้ากันกับโลเคชั่นแบบบ้านไม้สมัยเก่าเท่ๆ มันเลยดูมี่เสน่ห์สำหรับหลายคน แต่ก็ไม่ใช่กับทุกคน

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_77_6.JPG)

5 นาทีเห็นจะได้ พวกเราใช้เวลาในการเดินสำรวจ ก่อนจะพากันออกมาด้านนอก แล้วน้องแกก็บอกผมว่า “ไม่เห็นอะไรเลย ไปที่อื่นกันดีกว่า เอาแบบธรรมชาติ”

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_77_7.JPG)

ว่าแล้วผมก็เลยพาถ่อไปยังออบขาน ไปสัมผัสลำธาร ธรรมชาติ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าสถานที่แห่งนี้มันจะเข้ากับคอนเซ็ปต์ฮิปสเตอร์กันมั้ย แต่ก็นั่นแหละ นี่ก็พากันมาแล้ว จะโอเคหรือไม่อย่างไร ค่อยเถลไถลไปแกรนคอนยอน หางดง ต่อเป็นการปิดท้ายทัวร์ของวัน

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_77_8.JPG)

ไปออบขาน อยากไปนั่งเล่นมองลำธารแบบเพลินๆ ส่วนไปแกรนคอนยอน หางดง ก็น่าจะเพลินเหมือนกัน โดยจุดประสงค์หลักของผมนอกจากจะพาชาวบ้านไปด้วยแล้ว อีกอันคือ การไปกระโดดเล่นน้ำ


หัวข้อ: Re: เที่ยวเชียงใหม่ในสไตล์ฮิปสเตอร์
เริ่มหัวข้อโดย: konhuleg. ที่ ธันวาคม 16, 2015, 09:45:44 AM
ตอนที่ 3

ก่อนหน้านี้ผมเคยมากระโดดน้ำเล่นที่แกรนแคนยอน หางดง ไปแล้วรอบหนึ่งครับ รู้สึกว่ามันมันส์สะใจดี มีความตื่นเต้นเข้ามาเสริมสร้างให้ชีวิตมันสนุก เพียงแต่ที่ขาดอย่างเดียวตอนนั้นที่มาคือภาพถ่ายตัวเองไม่มี ฉะนั้นมาคราวนี้ เลยอยากจะมีภาพตัวเองบ้าง แต่ก่อนจะขอน้องแกถ่ายภาพให้ ก็ต้องถ่ายภาพให้นางก่อน นางจะได้ดูฮิปๆ กับโลเคชั่นที่แกรนแคนยอน เหมือนฮิปสเตอร์คนอื่นๆ ที่ชอบมาถ่ายรูปกันตรงนี้ ส่วนที่เหลือถ่ายเสร็จแล้ว น้องแกอยากจะไปนั่งจิบกาแฟมองวิวตรงร้านอาหาร อันนี้ก็ตามแต่น้องแกจะสะดวก แต่ขอแค่ถ่ายภาพให้ผมหน่อยล่ะกัน ฮ่าๆๆ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_78_1.JPG)

เห็นนั่งๆ กดไปหลายช็อต พร้อมกับการกระโดดน้ำไปตั้งหลายรอบของผมจนเริ่มจะเหนื่อย และจากหลายชอตที่ว่านั้นเมื่อกลับมาดู น้ำตาจะไหล มีใช้ได้ใบเดียวที่เหลือเสียหมด กลับกันของคนอื่นกระโดด ถ่ายออกมาจังหวะพอดีมากนี่ก็เลยได้แต่เอิ่มมมมม นะ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_78_2.JPG)

วันที่สาม แห่งการพาเที่ยวแบบฮิปสเตอร์ ผมพามาไกลถึงบ้านแม่กำปอง แหล่งท่องเที่ยวที่ถือว่าฮอตฮิต อากาศดี มีกาแฟจิบ เหมาะแก่การมาสโลว์ไลฟ์

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_78_3.JPG)

บ้านแม่กำปอง ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นมากัน มีทั้งแบบมาไป – กลับ ภายในวันเดียว กับมาแล้วค้างคืนแบบโฮมสเตย์ อย่างหลังผมถือว่าน่าจะเหมาะมากนะ คือบรรยากาศที่หมู่บ้านแห่งนี้ มันใช่เลยจริงๆ กับการอยู่เงียบๆ แม้ว่าบางทีมันก็อาจจะไม่มีคำว่าเงียบเลยก็ตาม ถ้ามากันในวันหยุด และร้านที่จะไปนั่งจิบกาแฟนั้น ดันเป็นร้านดัง ที่มีวิวสำคัญของบ้านแม่กำปองเป็นแลนด์มาร์ค

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_78_4.JPG)

ร้านชมนกชมไม้ หลายคนอาจจะเคยได้ยิน หรือถ้าไม่เคยได้ยิน อาจคุ้นกับภาพวิวทิวทัศน์ของบ้านแม่กำปองที่มองจากตรงระเบียงของร้าน (กาแฟ เค้กที่นี้ ถือว่าสอบผ่านครับ)

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_78_5.JPG)

มาบ้านแม่กำปองแล้ว ต้องมาชมวิวตรงกิ่วฝิ่นด้วย ที่อยู่เลยจากนี้ไปประมาณ 5 กิโลเมตร (กะเอาแบบมั่วๆ) ซึ่งตรงจุดนี้มีหลายคนที่ไม่รู้จัก เลยทำให้พลาดโอกาสสำคัญในการมาเที่ยว ฉะนั้นแล้วสำหรับใครที่ยังไม่รู้ หากท่านจะไปบ้านแม่กำปอง อย่าลืมแวะมาชมวิวตรงกิ่วฝิ่นด้วย ตรงนี้มันพลาดไม่ได้เลยจริงๆ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_78_6.JPG)

สุดท้ายและท้ายสุดจบกันแบบดื้อๆ การเที่ยวแบบฮิปสเตอร์นี้ เป็นการเที่ยวในอีกสไตล์หนึ่ง ของคนกลุ่มหนึ่งในสังคมที่อยากจะเอามานำเสนอกัน โดยใจความหลักนั้น ก็ยังคงไว้แบบเดิม คือพยายามป้อนข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่คนอ่านให้มากที่สุด ส่วนที่เหลือรองลงไป ก็มีทั้งบันเทิง ไม่บันเทิงบ้าง ผสมกับการจิกกัดเล็กน้อย พอเป็นกษัย

แล้วไว้โอกาสหน้าเจอกันใหม่ครับ