จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

การท่องเที่ยวแบบรีบๆ ชนิดที่หายใจหายคอไม่ทันนั้น ใครๆ ก็ใคร่ไม่อยากจะสัมผัสและอยู่ใกล้ ลองจินตนาการถึงตอนคุณไปเที่ยวกับทัวร์ดู แล้วโดนไล่ให้รีบขึ้นรถ ตอนลงไปถ่ายภาพก็ให้เวลาเพียงหยิบมือเดียว แล้วไล่เราให้รีบขึ้นรถไปยังที่อื่น  ทั้งๆ ที่ไอ้ที่ลงไปชมวิวตะกี้ยังสัมผัสได้ไม่เต็มที่เลย

เมื่อทราบถึงความยากลำบากของชาวบ้านแบบนั้น ข้าพเจ้าจึงใคร่อยากจะจัดทริปท่องเที่ยวแนะนำเอาแบบสบายไม่เร่งรีบ ยิ่งกับการไปเที่ยววัดด้วยแล้วนั้น ยิ่งต้องเนิบๆ เข้าไว้ มันถึงจะได้สัมผัสไปถึงจิตใจในความเป็นพุทธศาสนา ว่าแล้วก็ขอเสนอทริปท่องเที่ยว ใน อ.ดอยหล่อ มาแนะนำกัน

วัดสิริมังคลาจารย์
เดิมชื่อว่า วัดปากทางเจริญ สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2509 โดยมีท่านปลัดทอง สิริมงคโล เป็นองค์ประธานดำเนินการก่อสร้างและได้รับความร่วมมือจากคณะสงฆ์ คณะข้าราชการ พ่อค้าประชาชน ตลอดจนคณะศิษยานุศิษย์ของท่านเจ้าคุณอาจารย์ (พระอาจารย์ทอง สิริมงคดล) พร้อมใจกันก่อสร้างวัดนี้ขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่ตั้งแห่งพระรัตนตรัยและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านปากทางเจริญ มีศาลาจัตุรมุขสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีอนุสรณ์ (พิพิธิภัณฑ์สมเด็จย่า) เป็นศาสนสถานสำคัญ

วัดพระธาตุดอยน้อย
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ตั้งอยู่บนเขาลูกหนึ่งทางทิศตะวันออกของถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 44 กม.  ตรงข้ามสำนักงานพัฒนาภาค 3  หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาจอมทอง  บนยอดดอยนั้นก็เป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ ซึ่งตามตำนานกล่าวว่า  พระนางจามเทวีได้ทรงสร้างขึ้น  เมื่อครั้งที่เสด็จมาครองเมืองลำพูน  ตามคำเชิญของสุเทวฤาษี  ประมาณปี พ.ศ. 1201  

วัดปากทางสามัคคี (ม่อนฤาษี)
วัดนี้จะอยู่เลยจากตัว อ.ดอยหล่อ มาไม่ไกลมานัก ตั้งยู่หมู่ที่ 9 ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2525 ในวาระฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี โดยมีพระเดชพระคุณพระเทพสิทธิาจารย์ (หลวงพ่อทอง  ศิริมังคโล) เป็นองค์อุปถัมภ์สร้าง และมีพระจำเนียร  สุภาธโส แห่งวัดตะโปธาราม เชียงใหม่ มาเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส ซึ่งได้ฝึกอบรมศรัทธาประชาชน ด้านวิปัสสนากรรมฐาน ว่ากันว่าวัดนี้ ในระยะเวลาเกือบ 20  ปี  จัดงานปริวาสกรรมซึ่งมีพระสงฆ์มาปฏิบัติกันในปีหนึ่งๆ ประมาณถึง 400 รูป

ข้าวเหนียวปิ้ง
ตบท้ายหลังจากเที่ยวเสร็จ แวะซื้อของฝากดอยหล่อเป็นข้าวเหนียวปิ้ง เลยปากทางเข้าวัดพระธาตุดอยน้อยไปซักหน่อย ฝั่งขวามือ จุดเด่นอยู่ที่ปิ้งกันร้อนๆ มีหลายไส้ให้เลือก ราคาถูก รสชาติอร่อย และแพคเกจดี ใส่ถุงกระดาษแลดูสวยงาม เบอร์สอบถาม 053-369369 และ 081-1622334 ตามนี้ครับ

อ.ดอยหล่อ หลังจากแยกพื้นที่ออกจาก อ.จอมทอง  ปัจจุบันก็ถูกพัฒนาให้เป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวของนครเชียงใหม่ และรองรับความเจริญจาก อ.จอมทอง ศูนย์กลางความเจริญทางตอนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ และเมื่อเกิดชุมชนหนาแน่นขึ้นเป็นจำนวนมากในท้องที่ของอำเภอ ก็เกิดการค้า การลงทุน การบริการเพิ่มขึ้น เป็นธรรมดา และอีกหนึ่งเรื่องที่พัฒนาไปพร้อมๆ กันคือธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งจะเห็นได้ว่า แถวนี้ๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ แถวยังมีวัดสวยๆ น่าสนใจกันอีกเพียบ ฉะนั้นตามไปดูกันว่ามีที่ไหนน่าสนใจกันบ้าง (กระทู้ก่อนหน้านี้ก็มีครับเป็นทริปเที่ยวดอยหล่อ)

วัดหลอด (ปากทางเจริญ)
ตั้งอยู่เลขที่ 4 บ้านปากทางเจริญ ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ โดยยกฐานะจากวัดร้างขึ้นมาเป็นวัดที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา เมื่อ พ.ศ.2534 สาเหตุที่ชื่อวัดหลอดสาเหตุมาจากอดีตมีต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ทางภาคเหนือเรียกว่ามะหลอด มีรสเปรี้ยวและหวาน ลักษณะเป็นแถวๆ ออกอยู่มาก จึงเป็นที่เรียกกันว่าหลอด วัดแห่งนี้มี พระอธิการบรรยงค์ อภิวฒโน เจ้าอาวาสวัดปากทางเจริญ ที่ให้ความสำคัญกับเยาวชนโดยเป็นผู้นำในการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม โดยการเผยแผ่ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงชุมชน คลื่นสีขาว สภาวัฒนธรรมอำเภอดอยหล่อ เอฟ เอ็ม 88.75 เมกกะเฮิร์ต คลื่นสีขาวเพื่อชาวประชา และอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมล้านนา ให้การอุปถัมภ์ สืบทอดศาสนามาโดยตลอด

วัดสันคะยอม
ตั้งอยู่เลขที่ 215 บ้านห้วยทัง หมู่ที่ 12 ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ประวัติตามคำบอกเล่าไม่ปรากฏเขียนหรือจารึกใดๆได้ บอกไว้ว่า วัดนี้เป็นวัดที่สร้างมาแล้ว นับเป็นเวลาเนิ่นนานมาก เดิมชื่อว่าวัดทรายมูล พอมาอีกไม่นาน ประมาณ 50 ปี วัดก็ได้เปลี่ยนชื่อขึ้นมาใหม่ เป็นวัดนางเหลียว และต่อมาเป็นเวลาอันเนิ่นนานมาก จะเป็น พ.ศ. เท่าไรนั้นก็ไม่ทราบ  วัดนี้ก็ได้ชื่อใหม่ขึ้นมาเป็นวัดสันคะยอม มาถึงปัจจุบัน มีพระประธาน  สร้างด้วยอิฐถือปูนเป็นพระเก่าแก่ และมีรูปทรงสวยงามมาก เป็นประธานที่เคารพ บูชา ของชาวบ้านทั่วไปในเชียงใหม่ ภาคเหนือในสมัยนั้น

วัดอรัญญวาส
ตั้งอยู่หมู่ 8 ดงป่าหวาย ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดเมื่อปี 2482 มีศาสนสถานที่สำคัญสองอย่างด้วยกันคือ วิหารทรงล้านนา กับอุโบสถทรงล้านนา   ที่วางตัวอยู่กันใกล้ เป็นสถาปัตยกรรมล้านนาที่วิจิตรงดงามในแง่ของพุทธศาสนามาก รวมทั้งภาพจิตกรรมตามฝาผนัง อย่างโบสถ์ อาคารที่พระสงฆ์ใช้ประชุมสังฆกรรมร่วมกัน มีใบสีมารอบล้อม ก็โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ทั้งนี้ภายในวัดยังเงียบสงบอีกต่างหาก  เหมาะแก่การแวะไปไหว้พระ ทำบุญ

ขอบคุณที่แนะนำ