หัวข้อ: "อ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้" บ่อยครั้งหัวใจก็ต้องการความสงบ เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 11:08:45 AM ถ้าเธอต้องการอะไร จงออกไปหาและคว้ามัน
อีกหนึ่งประโยคเด็ดๆ จากหนังเรื่อง Into The Wild (2007) ที่อ่านแล้วรู้สึกสร้างแรงบัลดาลใจในการอยากออกไปเที่ยว ออกไปเผชิญโลกกว้าง ซึ่งแน่นอนเหลือเกินว่า ถ้าหากใครมีโอกาสได้ชมหนังเรื่องนี้ มันคือหนังที่สร้างแรงบัลดาลใจได้ดีเลยทีเดียวในการออกตามหาความหมายของชีวิต เช้าในวันหยุด (ที่ผมอุปโลกน์ขึ้นมาเอง) อันสุดวิเศษ ผมถือโอกาสย้ายก้นตัวเองจากเก้าอี้ทำงานออกมาสัมผัสธรรมชาติ แน่นอน มันต้องเป็นป่าเขาลำนำไพรซักแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เราไปมาได้สะดวกด้วยสองล้อคู่ใจที่ไปไหนก็ไปกัน แม้กระทั่งตอนน้ำมันหมดหรือว่ายางรั่ว อ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้ คือ สถานีปลายทาง หลายคนที่ไม่รู้จัก เป็นธรรมดาที่ต้องขมวดคิ้วหาคำตอบว่าตั้งอยู่แห่งหนตำบลใด หากคุณรู้จักวัดแม่ตะไคร้ คุณก็น่าจะรู้จักอ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้กัน แต่ถ้าไม่รู้จักอะไรเลย ผมจะบอกพิกัดให้ หากเหยียบคันเร่งรถออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ให้มาตามทางหลวงหมายเลข 1317 ไปทางอำเภอแม่ออน ถึงกิโลเมตรที่ 21 จะมีทางแยกเลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข 1006 ผ่านโรงพยาบาลแม่ออน ไปยังบ้านเปาสามขา เลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข 1229 เดินทางต่อไปอีก 10 กิโลเมตร เส้นทางจะคดเคี้ยวขึ้นเขา เลี้ยวซ้ายเข้าเส้น 1230 ผ่านโรงเรียนบ้านแม่ตะไคร้ ผ่านหมู่บ้าน ทางเข้าอ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้จะอยู่ทางขวา รวมระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร เส้นทางจากปากทางตรงนี้เข้าไปจะเป็นถนนลูกรัง มีน้ำขังบางบ้างแห่ง แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคกับชีวิตอะไร และถึงแม้มันจะลำบาก คำว่า บ่น ก็ไม่ควรหลุดออกจากปาก แหงล่ะ มาเที่ยวป่า ไอ้ครั้นจะถามหาแต่ความสะดวกสบายไป มันก็ใช่เรื่อง เมื่อมาถึงมันคือความถูกอกถูกใจ ความสงบเราสามารถหาได้ที่นี้ อ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้ อยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ ภาพสเก็ตช์ไว้ในหัวคร่าวๆ มันมีสันเขื่อน (ของอ่างเก็บน้ำนั่นแหละ) มีบ้านพักอยู่บนเนินสูงที่มองจากสันเขื่อนขึ้นไป มันเป็นบ้านพักของทางอุทยานที่รอให้นักท่องเที่ยวมาเช่า ด้านล่างตรงสันเขื่อนมีทางระบายน้ำออกของอ่างเก็บน้ำไหลเป็นทาง เพื่อถูกนำไปใช้ในการเกษตรของชาวไร่ชาวนาในละแวกดังกล่าว และแน่นอนเมื่อขยับห่างออกไปจากตัวอ่างเก็บน้ำ ที่กว้างๆ เขียวขจีอมเหลือง เป็นทุ่งนาของชาวบ้านที่รอวันเก็บเกี่ยว ตรงข้ามจากอ่างเก็บน้ำมองออกไป คุณก็จะเห็นวัดแม่ตะไคร้ที่อยู่ห่างไม่ไกลกันมาก วัดแห่งนี้ถือว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียง มีรูปเหมือน หลวงปู่ทวด ปางยืนธุดงค์ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐาน อยู่ แล้วตอนหน้ามาตะลุยรอบๆ อ่างเก็บน้ำกัน หัวข้อ: Re: "อ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้" บ่อยครั้งหัวใจก็ต้องการความสงบ เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 11:12:18 AM ความนิยมชมชอบในการมาเที่ยวอ่างเก็บน้ำในภาคเหนือ เมื่อให้นึกออกหลายคนคงนึกถึงปางอุ๋งที่ตอนเช้าๆ จะมีทะเลหมอกสวยๆ คลอเคลียกับผิวน้ำให้น่ามองและน่าสัมผัส ซึ่งจัดได้ว่ามันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันที่หลายคนอยากจะไปเยือนซักดอก เอ้ย ซักครั้ง และก็ใช่ว่ามันจะมีแบบนี้กันที่เดียวนะ ที่อื่นๆ ก็มีกันเยอะแยะ พร้อมที่กางเต็นท์นอน เพียงแต่ว่าไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของชาวบ้านกันมากนัก ทั้งๆ ที่จะว่าไปแล้ว ทรัพยากรธรรมชาติของมันจัดอยู่ในระดับอุดมสมบูรณ์ โดยถูกคุ้มครองโดยอุทยานแห่งชาติ และอ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้ก็ถูกบรรจุอยู่หนึ่งในนั้น
อ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ ลักษณะไม่ใหญ่มากนัก ที่นี้ถือเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำจำนวนมาก และถูกโอบล้อมไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม อย่างตรงรอบอ่างที่เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เราจะเห็นเป็นป่าสนคล้ายปางอุ๋งไม่มีผิด (แม้อาจจะไม่สวยเท่า) โดยระยะรอบอ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้นั้น มีความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร โดยจัดทำเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ (เอาไว้เดี๋ยวจะเล่าในตอนสุดท้ายว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นยังไง) กิจกรรมที่น่าสนใจที่อ่างเก็บน้ำแห่งนี้ คือการ ตกปลาครับ เรียกว่าตกปลากันเป็นล่ำเป็นสันกันเลยล่ะ ซึ่งนักตกปลาส่วนใหญ่นั้น ก็จะเป็นชาวบ้านในละแวกนี้ ที่หาบเอาคันเบ็ดและเหยื่อมาล่อปลา พร้อมกับนั่งจับตาอยู่ริมตลิ่งอย่างสบายใจ อันถือเป็นภาพที่คุ้นตา และเมื่อมองมาไกลๆ ก็จะเห็นร่มสีสันสะดุด ซึ่งนั้นก็คือร่มกันแดดของนักตกปลานั้นเอง ในส่วนของที่ตั้งแคมป์นั้น จะอยู่ตรงจุดก่อนเดินไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติดกันครับ เป็นลานหญ้าขนาดไม่กว้างมาก แต่ก็กางเต็นท์ได้หลายหลังเลยล่ะ และก็ถือเป็นขนาดพื้นที่พอดี ที่เมื่อกางเต็มพื้นที่ก็ดูไม่วุ่นวายมาก บริเวณด้านหลังที่กางเต็นท์เป็นป่าสน ส่วนด้านหน้าเป็นริมอ่างเก็บน้ำที่มีระเบียงยื่นออกไปให้นั่งเล่นชมวิวตอนเช้าและตอนเย็น ที่ว่ากันว่าสวยงามจุดหนึ่งของเชียงใหม่ (โดยเฉพาะเวลาฤดูหนาว) ส่วนใครที่คิดพิเรนทร์และเป็นคอหนังสยองขวัญประเภทไล่เชือด อาจจะคิดว่าตรงระเบียงนี้ มันช่างคล้ายกันกับฉากในหนังเรื่อง Friday the 13th ศุกร์ 13 ฝันหวาน ตรงทะเลสาบคริสตัลเลค เสียยิ่งกระไร ให้หลังจากเดินสำรวจเล่นรอบๆ อ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้เสร็จ ผมใช้เวลาราว 5 นาที เพื่ออ่านและศึกษาป้ายเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ปักไว้ตรงริมอ่างว่ามีระยะทางกันเท่าไร เดินจากไปไหน มีอะไรน่าสนใจบ้าง และน้ำตกแม่ตะไคร้ตรงที่ผมอยากจะไปนั้น มันอยู่พิกัดตรงไหน ไว้ตอนสุดท้าย มาเข้าป่าตามหาน้ำตก และเดินศึกษาธรรมชาติกัน หัวข้อ: Re: "อ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้" บ่อยครั้งหัวใจก็ต้องการความสงบ เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 11:14:45 AM ก่อนมาจะเดินเข้าป่าไปตามหาน้ำตกแม่ตะไคร้ ผมสอบถามป้าคนนึงก่อนที่เดินสวนออกมาจากป่า ดูๆ แล้วป้าแกน่าจะอายุราวๆ 50 ปี ขึ้นไป บนบ่าทางด้านขวาถูกพาดด้วยไม้หาบที่ทำจากไม้ไผ่ โดยสองฝั่งของไม้หาบถูกแขวนด้วยถุงปุ๋ยเคมีที่ถูกเอามาตัดเย็บเป็นถุงใช้สอย ข้างในถุงนั้นมีหน่อไม้ป่าบรรจุอยู่เต็มพิกัด จนเวลาเดินหาบ ไม้หาบงอโค้งลงพื้น
ผมถามป้าว่า น้ำตกแม่ตะไคร้ไปทางไหนป้า แต่ดูเหมือนว่าคำถามที่ผมถามออกไป มันเหมือนผมพูดกับเสาไฟ และต้นไม้ ป้าไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับรวมทั้งคำตอบ แล้วก็เอาแต่เดินจ้ำไปข้างหน้า โดยมีเป้าหมายว่าจะต้องถึงบ้านให้ไว พูดๆ ง่าย ป้าทำเฉยชา และหมางเมินกับผมมาก ราวกับผมไม่มีตัวตน ลึกๆ ป้าอาจจะคิดก็ได้ว่า อย่ามายุ่งกับตู นี่ตอนนั้นถ้าผมยื่นข้อเสนอสุดงามให้ป้าว่า ถ้าป้าพาผมเข้าป่าไปหาน้ำตก ผมจะอาสาไปส่งป้าถึงบ้านเลย ป้าอาจจะเปลี่ยนใจ และเหลียวแล ผมออกเดินทางโดยไร้ความช่วยเหลือจากคนอื่น ตอนนี้ที่จะช่วยได้ก็คือ ช่วยเหลือตัวเองไป เดินไปถึงไหนก็ถึงนั้น เจอไม่เจอก็ค่อยว่ากันอีกที จากเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผมอ่านจากป้ายของทางอุทยาน มันจะมีด้วยกันทั้งหมด 16 จุดสำคัญครับ ได้แก่ 1.ผลผลิตจากแหล่งน้ำ 2.ปลูกป่าต้องร้อยปี หนึ่งนาทีแค่ตัดฟัน 3.แหล่งกำเนิดสิ่งมีชีวิต 4.สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่มีคุณค่า 5.ป่าโคก 6.ป่าผสม 7.เภสัชกรรมไทย 8.รักษ์ป่าอย่าทำลาย 9.ผาคลองช้าง 10.สิ่งมีชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม 11.กิ่วคอหมา 12.ชุมชนในแหล่งน้ำไหล 13.มีมากกว่าความสวยงาม 14.หญ้าที่สูงที่สุดในโลก 15.วิวัฒนาการ และ 16. ป่าไม้ให้ ซึ่งจากจุดเดินนั้นจุดแรกจะอยู่ตรงบ้านพักอุทยาน อ้อมอ่างเก็บน้ำ เข้าป่า เข้าเขา แล้วอ้อมลงมาบรรจบที่ตรงตั้งแคมป์ริมอ่างเป็นอันสุดสิ้น แต่สำหรับผม ผมจะไม่เริ่มตรงนี้ แต่จะเริ่มตรงที่ปลายทางแล้วเดินย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น! ผมเลือกที่จะขับมอเตอร์ไซค์เลาะไปตามลำธารที่ไหลมายังอ่างเก็บน้ำ เส้นนี้ชาวบ้านใช้ขับไปมาหาของป่ากัน ระหว่างทางซ้ายมือจะเป็นป่า ขวามือจะเป็นลำธารที่น้ำเหือดแห้งพอควร แม้จะเป็นฤดูฝน ผมขับรถไปจนสุดทางที่มันจะขับไปได้ ลุยป่า ลุยน้ำ โดยไม่แยแสว่ามอเตอร์ไซค์ตัวเองเป็นมอเตอร์ไซค์บ้านๆ เอาไว้ไปจ่ายตลาด ก่อนจะจอดรถแล้วเดินเท้าเข้าไปในป่าต่อ ตามเส้นทาง โดยไม่รู้ว่าตัวเองจะมาถูกมั้ย แถมไม่กลัวหลงทางอีกต่างหาก ฮ่าๆๆ บรรยากาศการเดินป่าคนเดียว เป็นอะไรที่แสนจะสบายพอตัว แถมไร้ความกังวล ไม่มีความหวาดกลัวอะไร ผมใช้เวลาเรื่อยเปื่อยไปกับการดูลำธาร ป่าเขา ดอกไม้ ผีเสื้อ เรียกได้ชิลเลยทีเดียวล่ะ ในช่วงแรกของการเดิน แต่ก็ใช่ว่ามันจะชิลไปตลอดซะเมื่อไร เมื่อเกิดอาการหลงทางน่าจะประมาณจุดที่ 11-12 ที่ว่าเป็นชุมชนในแหล่งน้ำไหล ผมเดินลัดเลาะไปเรื่อยตามทางที่ชัดเจน แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเดินก็ยิ่งหลง จนทะลุป่า ทะลุออกมาเจอทุ่งนาชาวบ้านกลางภูเขา นี่มันอะไรว่ะเนี่ย ตูจะไปในต่อ ผมหลงอยู่ในนั้นราวเกือบชั่วโมง จนสุดท้ายตัดสินใจเดินกลับมาทางเดิม หลังจากคำนวณแล้วว่าถ้าไปต่อมีไม่รอดแน่ แถมอาจจะไม่ทันไปเที่ยวต่อยังที่อื่น (ที่ไม่ใช่อ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้) 3 ชั่วโมงกว่า กับการมาหลงและผจญภัยในที่นี้ เพื่อตามหาน้ำตกแม่ตะไคร้ และเดินป่าศึกษาธรรมชาติ แม้ว่าสุดท้ายแผนการจะล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่สัญญาว่าคราวหน้าจะกลับมาแก้ตัวอีกครั้งแน่นอน พร้อมหอบเต็นท์มาตั้งแคมป์ด้วย เพื่อแต่จะขอเปลี่ยนเส้นทางไปเดินตามทางที่ชาวบ้านเขาเดินกัน โดยที่ใครเขานั้นไม่เดินย้อนเส้นทาง |