จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ => แนะนำ เขื่อน อ่างเก็บน้ำ ในเชียงใหม่ => ข้อความที่เริ่มโดย: konhuleg. ที่ พฤศจิกายน 13, 2015, 09:34:00 AM



หัวข้อ: ย้อนเวลาตามหาอดีตทะเลสาบดอยเต่า
เริ่มหัวข้อโดย: konhuleg. ที่ พฤศจิกายน 13, 2015, 09:34:00 AM
ตอนที่ 1

ย้อนกลับไปซัก 30 ปีที่แล้วหลายคนคงพอจะรู้จักกับบทเพลง “หนุ่มดอยเต่า” ของวงนกแล วงดนตรีเด็กๆ จากจังหวัดเชียงใหม่ ในชุดชาวเขาที่เป็นเอกลักษณ์กันได้ ว่ากันว่าตอนนั้นเพลงนี้ฮิตกันระเบิดระเบ้อเป็นอย่างมาก ชนิดที่ใครๆ ต่างก็สามารถอ้าปากร้องตามได้อย่างไม่เคอะเขิน ส่วนสำหรับผมมารู้จักเพลงนี้เอาตอนไหนก็ไม่ทราบ จำได้ลางๆ ว่าน่าจะช่วงประถม (ซึ่งคงเลยจุดพีคของเพลงไปนานแล้ว) แต่ที่แน่ๆ ตอนเพลงนี้ดัง ผมยังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_54_1.JPG)

บทเพลง “หนุ่มดอยเต่า” เมื่อฟังแล้ว ก็ฟังผ่านไป ไม่มีอะไรให้ผูกพันกัน จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดมีโอกาสมาใช้ชีวิตในจังหวัดเชียงใหม่ บทเพลงนี้ก็วาบเข้ามาในหัว พร้อมกับคำถามว่า “ดอยเต่า” มันอยู่ที่ไหน คือผมอยากรู้จักสถานที่แห่งนี้ และจากการค้นข้อมูล ก็พบว่ามี “ทะเลสาบดอยเต่า” เป็นแลนมาร์คที่สำคัญ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_54_2.JPG)

ค้นๆ เปิดดูหาภาพในอินเตอร์เน็ตก็พบว่าทะเลสาบดอยเต่ามีลักษณะคล้ายเขื่อนแม่งัด มีเรือนแพให้บริการ มีอาหารๆ เป็นเมนูปลาอร่อยๆ ให้ชิม พร้อมกับการเสพวิวทิวทัศน์บนทะเลสาบดอนเต่าที่กว้างสุดลูกหูลูกตา

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_54_3.JPG)

เมื่อเจอภาพประมาณนี้ ก็พอจะอนุมานในใจได้ว่า ของจริงคงมีลักษณะอย่างภาพที่เห็น แต่ก็มีบางภาพที่ข้อมูลถูกอัพเดตไว้ในช่วง 2- 3 ปีล่าสุด ว่าทะเลสาบดังกล่าว บัดนี้ไม่ใช่ทะเลสาบแล้ว แต่เป็นอดีตทะเลสาบ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_54_4.JPG)

อย่างภาพของพี่ที่ผมรู้จักกันคนหนึ่ง แกถ่ายไว้เมื่อราวๆ ซัก 3 ปีก่อน ทะเลสาบดอยเต่าที่แกกดบันทึกนั้น น้ำแห้งขอด จนแทบจะเรียกว่าไม่มีน้ำเลยก็ว่าได้ และเพื่อให้เห็นภาพความแตกต่างที่ชัดเจน ก็มีพี่อีกคนมาโพสต์ใต้ภาพนั้น เป็นภาพทะเลสาบดอยเต่าเมื่อซัก 10 ปีก่อน คราวนั้นน้ำเต็มทะเลสาบ มีเรือนแพให้บริการกันอย่างเยอะแยะ แถมบรรยากาศก็ดีมากด้วย

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_54_5.JPG)

ถึงตรงนี้ก็พอจะรู้แล้วว่าทะเลสาบดอยเต่าปัจจุบันมีสภาพเป็นเช่นไร แน่นอนผมฟันธงในใจว่า มันไม่มีน้ำแน่ๆ แต่ก็นั่นแหละ ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีน้ำเลย ความรู้สึกอยากไปของผมก็ไม่ได้ลดน้อยลง คือ ยังคงอยากไปเห็นเหมือนเดิม

ผมเดินทางด้วยสองล้อคู่ใจอย่างเคย ใช้เส้นทางหลวง 108 เชียงใหม่ – ฮอด จากตัวเมืองเชียงใหม่ ผ่าน อ.หางดง อ.สันป่าตอง อ.ดอยหล่อ อ.ฮอด เข้าสู่ถนนหมายเลข 1012 แล้วเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานแม่น้ำปิง บนถนนหมายเลข 4011 จากนั้นเมื่อสิ้นสุดถนนหมายเลข 4011 ก็มาตามเส้นทางถนนหมายเลข 1103 ที่จะมุ่งหน้ามายัง อ.ดอยเต่า โดยก่อนจะเข้ามายังตัวอำเภอ ก็จะเจอป้ายทางเข้าทะเลสาบดอยเต่าแปะไว้อยู่

แล้วตอนหน้า ผมจะพามาสำรวจอดีตทะเลสาบดอยเต่ากันครับ


หัวข้อ: Re: ย้อนเวลาตามหาอดีตทะเลสาบดอยเต่า
เริ่มหัวข้อโดย: konhuleg. ที่ พฤศจิกายน 13, 2015, 09:37:01 AM
ตอนที่ 2

ในช่วงเวลาที่ผมไปถึงทะเลสาบดอยเต่านั้น ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ใกล้จะมืดเลยล่ะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะราวๆ ซักเกือบหกโมงเย็นแล้ว ซึ่งช่วงเวลาแบบนี้ เรียกได้ว่าสุ่มเสี่ยงพอสมควรกับการมาสำรวจอดีตทะเลสาบดอยเต่าเวลาใกล้จะมืด ข้อดีอย่างเดียวที่พอจะนึกออกในการมาช่วงเวลานี้ คือ ได้แสงเย็นสวยๆ ในการถ่ายภาพ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_55_1.JPG)

และด้วยความที่เวลามันมีจำกัด เพราะกลัวจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร ผมเลยเลือกโฟกัสไปถ่ายเอาเฉพาะจุดสำคัญเท่าที่นึกออกตอนนั้นได้ส่วนบางอันที่ไม่ได้ถ่ายมา แต่ผ่านตาก็จะเล่าให้ฟังเพื่อให้เห็นภาพ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_55_2.JPG)

อย่างตรงทางเข้า ที่มีรูปปั้นเต่ายักษ์ แล้วมีลานจอดรถ มีแผงร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ตรงนี้ปัจจุบันร้างไปแล้วครับ เท่าที่สังเกตผ่านๆ จะเห็นเป็นแค่ที่จอดรถของคนงานขับรถบรรทุกที่มาทำงานแถวนั้น แค่จุดนี้จุดแรก ก็เป็นหลักฐานยืนยันชั้นดีได้เลยว่าอดีตทะเลสาบดอยเต่านั้น มีมานานหลายปีแล้วพอสมควร

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_55_3.JPG)

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งยังมีน้ำอยู่ ทะเลสาบดอยเต่า เป็นพื้นที่น้ำท่วมถึงภายหลังการสร้างเขื่อนภูมิพล เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่เหนือเขื่อนภูมิพล เคยใช้ในการเกษตรกรรม การประมง ในบริเวณอ่างเก็บน้ำ หากมีน้ำมากพอ (โดยมากจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน) จะมีบริการแพพัก ราคา 1,000-1,500 บาท และเรือนำเที่ยวไปยังเขื่อนภูมิพล จังหวัดตากแพพักที่ทะเลสาบแห่งนี้ถือเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนที่นี่ไม่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งในฤดูหนาวแล้วยิ่งมีนักท่องเที่ยวสนใจมาเที่ยวกันมากเป็นพิเศษ ที่นี่จะมีทั้งแพพักและแพอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_55_4.JPG)

ส่วนปัจจุบัน……

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_55_5.JPG)

จากน้ำที่เต็มในอ่างเก็บน้ำ กลับกลายเป็นแห้ง แทบจะไม่มีน้ำเลยซักหยด จากปากทางเข้ามา มองไปสุดลุกหูลูกตา เป็นที่ราบลุ่มโล่งๆ มีทุ่งหญ้าขึ้น บางแห่งก็เป็นพื้นดินแห้งๆ เรียกได้ว่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลย

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_55_6.JPG)

ส่วนสาเหตุดังกล่าวนั้น เกิดจากการดำเนินการตามแผนการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จึงทำให้ต้องประสบปัญหาน้ำแห้งขอด ประมาณว่าเขื่อนไม่มีน้ำเพียงพอที่จะปล่อยมายังตัวทะเลสาบ เพราะต้องกักเก็บน้ำไว้เพื่อไม่ให้กระทบกับการกักเก็บและประชาชนในพื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งจะต้องวางแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันพูดง่ายๆ ตอนนี้ก็คือ ถ้าเขื่อนภูมิพลแห้ง ทะเลสาบดอยเต่าก็แห้งไปด้วย

ในอนาคตว่ากันว่า การแก้ไขปัญหาจะใช้วิธีผันน้ำจากแม่น้ำยวมมาลงที่เขื่อนภูมิพล และการศึกษาถ้าได้ผลออกมาแล้ว ภายในปี 2560 ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็จะดำเนินการสร้างทันที เมื่อการก่อสร้างโครงการต่างๆ เสร็จสิ้นก็จะสามารถควบคุมปริมาณน้ำในอนาคตได้และนั้นก็น่าจะเป็นผลดีต่อชาวบ้านที่ต้องใช้น้ำในทะเลสาบดอยเต่ากันครับ


หัวข้อ: Re: ย้อนเวลาตามหาอดีตทะเลสาบดอยเต่า
เริ่มหัวข้อโดย: konhuleg. ที่ พฤศจิกายน 14, 2015, 09:02:29 AM
ตอนที่ 3

จากปากทางเข้ามา ผมเลือกมุ่งหน้าขับรถลงมายังด้านในตามทางลูกรังที่รถบรรทุกใช้สัญจรในการขนดิน แล้วสังเกตมองไปโดยรอบๆ และจากภาพที่เห็นตรงหน้าก็จะพบว่ารอบๆ ตัวผมนั้นเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าล้วนๆ ซึ่งไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าจากพื้นที่ที่เต็มไปด้วยน้ำเต็มทะเลสาบ มาวันนี้จะมีสภาพไม่ต่างจากทุ่งหญ้าในเขตร้อนเหมือนที่เราเห็นในสารคดีสัตว์โลกแถวแอฟริกา

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_56_1.JPG)

นอกจากทุ่งหญ้าจะดูเหมือนแล้ว ยังมีตัวประกอบฉากเป็นฝูงวัวนับหลายสิบตัวของชาวบ้านที่นำเอามาเลี้ยงในนี้กันด้วยแบบนี้จะเรียกจากทะเลสาบ เป็นทุ่งหญ้า คงไม่มีคำว่าเคอะเขิน

หันมาดูสภาพของชาวบ้านแถวนั้นบ้าง ที่เจอผลกระทบมากสุด แน่นอนคงหนีไม่พ้นเจ้าของผู้ให้บริการแพที่พัก กับแพร้านอาหาร เมื่อไม่มีน้ำ แพก็ล่องไม่ได้ เมื่อล่องไม่ได้ ก็ขาดรายได้ ขาดนักท่องเที่ยว เพราะมาเที่ยวแล้ว จากที่จะเห็นเป็นทะเลสาบ มานอนแพ กินเมนูปลาสดๆ อร่อยๆ ก็เห็นเป็นทุ่งหญ้ากว้างๆ แห้งๆ มีฝูงวัวแทะเล็มหญ้าในสภาพอากาศที่ร้อน มีรถแบคโฮ รถบรรทุก กำลังขุดดิน ขนดินไปขาย

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_56_2.JPG)

ส่วนเกษตรกรที่ต้องใช้น้ำแถวนั้นในการปลูกลำไยและมะม่วง ก็ต้องจ้างรถบรรทุกน้ำมารดสวนไม้ผล และสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปจนกว่าสภาพน้ำแถวนั้นจะดีขึ้น

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_56_3.JPG)

ในความเลวร้ายที่หลายฝ่ายกำลังประสบปัญหากัน ก็ยังพอจะเห็นความสวยงามในแบบฉบับของผมบ้าง

แม้ทะเลสาบดอยเต่าจะไม่มีน้ำเลยซักหยดมันก็ยังพอจะมีมุมสวยๆ ให้ได้ชมกันครับ อย่างเทือกเขาที่ล้อมรอบทะเลสาบในช่วงเวลาเย็นๆ ตอนโดนแสงพระอาทิตย์สาดส่อง มองเผินๆ เหมือนกับเหล่าภูเขาไฟโบรโม่ ที่อินโดนีเซีย โอเค มันอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่ อลังการขนาดนั้น แต่ผมว่ามันก็สวยงามในแบบเฉพาะของมันล่ะ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_56_4.JPG)

หรือ บางมุมที่เป็นทุ่งหญ้า แล้วมีต้นไม้โผล่ขึ้นมาเป็นจุดเด่นสองสามต้น มองแบบคนชอบถ่ายภาพ มันรู้สึกว่าสวย แต่ถ้าคนไม่ชอบถ่ายภาพ อาจจะมองไปอีกมุมคือ มันแห้งแล้ง มันสิ้นหวัง ซึ่งก็โชคดีที่ผมชอบภาพ มันเลยทำให้มองเห็นอะไร มันก็ดีสวยไปหมด แม้จะอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเลวร้ายก็ตาม

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_56_5.JPG)

ถึงตรงนี้ จากตอนแรกที่คิดว่าจะไม่มาแล้ว เพราะเชื่อว่ามันไม่มีน้ำเลยซักหยดในทะเลสาบดอยเต่า ผมตัดสินใจถูกที่เลือกมาทะเลสาบแห่งนี้ และไม่เคยนึกเสียดาย หรือคิดว่าเสียเวลาเลยซักนิด แม้ว่าทะเลสาบดอยเต่าที่พบเจอ มันจะเป็นแค่อดีตทะเลสาบก็ตาม

และถ้าถามว่าโอกาสหน้า ถ้าให้มาอีกจะมามั้ย ผมก็จะตอบแบบไม่ลังเลเลยว่า “มาอีกแน่นอนครับ”