จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ => แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เส้นทางหลวงหมายเลข 108-1009 สู่จุดที่สูงที่สุดในประเทศไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: konhuleg. ที่ ตุลาคม 10, 2015, 09:40:51 AM



หัวข้อ: สถานีวนวัฒนวิจัยห้วยบง อ.ฮอด เชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: konhuleg. ที่ ตุลาคม 10, 2015, 09:40:51 AM
ตอนที่ 1

เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงเมื่อความตั้งใจแต่แรกนั้น คือการถ่อมายังสวนสนบ่อแก้ว แต่ที่ได้กลับมามันไม่ใช่สวนสนบ่อแก้ว แต่ดันเป็น “สถานีวนวัฒนวิจัยห้วยบง” แทน ที่อยู่ก่อนจะถึง “สวนสนบ่อแก้ว”

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_34_1.JPG)

ที่เข้าใจผิดคิดว่ามันเป็นที่เดียวกันเพราะไม่คิดว่ามันจะมีสวนสนอยู่ถัดไปอีกหนึ่งที่ และอีกอันคือผมไปจำภาพมาจากในพันทิปตรงปากทางเข้าของสถานีวนวัฒนวิจัยห้วยบง อันนี้หนักเลย เนื่องจากไปคิดว่ามันคือปากทางเข้าของสวนสนบ่อแก้ว

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_34_2.JPG)

หลังจากมาทราบว่าตัวเองผิดพลาดไปสวนสนมาผิดที่ ก็ยิ่งเกิดอาการเช็งอย่างหนักเข้าขั้นรุนแรง เมื่อคำนวณถึงระยะทางที่ขับมอเตอร์ไซค์ไป –กลับ ก็ร่วมๆ เกือบสองร้อยกิโลเมตรรวมทั้งวันที่ไปนั้นดันมีฝนตกเป็นอุปสรรคอีก

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_34_3.JPG)

ให้ตายเถอะโรบิ้น!

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ก็เลยตามเลยล่ะกัน เพราะต่อไปนี่จะเล่าถึงบรรยากาศการไปเที่ยว “สถานีวนวัฒนวิจัยห้วยบง” ในวันฝนพรำ สถานที่ที่ไม่ใช่สวนสนบ่อแก้ว

ขอย้ำ นี่ไม่ใช่สวนสนบ่อแก้ว!

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_34_4.JPG)

“สถานีวนวัฒนวิจัยห้วยบง”วิธีการเดินทางมาใช้เส้นทางกลวงหมายเลข 108 เชียงใหม–ฮอด พอถึงสามแยกหอนาฬิกาฮอด ก็เลี้ยวขวามุ่งหน้ามาทางเดียวกันที่จะไปอุทยานแห่งชาติออบหลวง ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านอุทยานแห่งชาติออบหลวง ผ่านสามแยกที่จะไปบ่อน้ำพุร้อนเทพพนม ระยะทางจากแยกหอนาฬิกาน่าจะประมาณ 30 กิโลเมตรด้วยกันครับ สังเกตป้ายกันเอาดีๆ ว่าเป็น “สถานีวนวัฒนวิจัยห้วยบง” แต่ถ้าขับเลยไปนั้นก็คงเป็น “สวนสนบ่อแก้ว” นั่นแหละ ฮ่าๆๆ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_34_5.JPG)

“สถานีวนวัฒนวิจัยห้วยบง” อยู่ในสังกัดของกลุ่มงานวนวัฒนวิจัย สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม่ กรมป่าไม้ ครับ ซึ่งอยู่ในส่วนของภูมิภาค ของภาคเหนือกันเป็นองค์กรหลักที่ศึกษาวิจัยและพัฒนา สร้างองค์ความรู้ทางวิชาการด้านวนวัฒนวิทยา เพื่อฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อมเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน อีกทั้งยังวิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้และพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อใช้ในการจัดสวนป่าเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนถ่ายทอดเทคโนโลยี และบริการวิชาการด้านป่าไม้

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_34_6.JPG)

และในส่วนของหน้าที่ความรับผิดชอบนั้นคือกำหนดข้อนโยบายและทิศทางการวิจัยเพื่อส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ การบริหารจัดการสวนป่าเศรษฐกิจ ให้ได้ผลสูงสุด รวมทั้งศึกษา ค้นคว้า วิจัยเกี่ยวกับการจัดการเมล็ดพันธุ์ไม้ การเพาะชำ การปลูก บำรุง การจัดการสวนป่าเศรษฐกิจ ไม้หายาก และไม้ใกล้สูญพันธุ์ แบบครบวงจร และศึกษา ค้นคว้า วิจัยเกี่ยวกับการปรับปรุงพันธุ์ไม้ป่า การสร้างแหล่งเก็บเมล็ดพันธุ์ สวนผลิตเมล็ดพันธุ์ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มผลผลิตไม้มีค่างทางเศรษฐกิจให้ได้สูงสุด โดยใช้พื้นที่และเวลาน้อยที่สุด

ส่วนตอนหน้าจะมาเล่าถึงบรรยากาศภายในสวนแห่งนี้กันครับ


หัวข้อ: Re: สถานีวนวัฒนวิจัยห้วยบง อ.ฮอด เชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: konhuleg. ที่ ตุลาคม 10, 2015, 10:52:58 AM
ตอนที่ 2

จากทางเข้ามายังสวนที่ให้อารมณ์ยังกับต่างประเทศในแถบยุโรป(อันนี้เห็นมาจากภาพในวันที่ไม่มีฝน) ผมขับรถมุ่งหน้าเข้าไปอย่างมันใจเลยครับว่า มาทางนี้มันใช่แน่นอน สวนสนบ่อแก้ว (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าที่แห่งนี้ไม่ใช่สวนสนบ่อแก้ว)

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_35_1.JPG)

ขับผ่านเข้าไปผ่านสำนักงานเข้ายังไปยังสวนสนทางดินลูกรังที่ถูกน้ำกัดเซาะ ก็เริ่มจะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองมาผิดทางแน่ๆ แต่ ณ ตอนนั้นก็ยังไม่วายที่จะขับไปต่อ จนสุดท้ายมันก็ถึงทางตันจริงๆ ผมถึงได้แล้ววกกลับบออกมาใหม่ซึ่งมาโผล่อีกที ก็คือถนนใหญ่กันแล้วครับ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_35_2.JPG)

ตอนนั้นชักจะรู้สึกว่าตัวเองมั่วๆ ยังไงชอบกล เลยกลับเข้ามายังสถานีวนวัฒนวิจัยห้วยบงอีกรอบ แต่ใช้เส้นทางใหม่ จากแต่เดิมผมเลี้ยวขวาเข้าไป แต่คราวนี้ผมเลี้ยวออกซ้ายครับ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_35_3.JPG)

พอออกซ้ายมาเท่านั้นแหละ ก็พบว่าถนนหนทางมันชวนให้มุ่งหน้าเข้าไปลึกกว่าเดิม ซึ่งมันก็นำพาผมไปเจอสวนสนต่างๆ หลายแปลงหลายไร่ในอาณาเขตบริเวณที่ต้องบอกว่ากว้างมาก ตอนนั้นผมเริ่มจะมั่นใจแล้วว่าเราถูกทางแล้วแน่ๆ ตรงนี้แหละที่เขาน่าจะเรียกว่า “สวนสนบ่อแก้ว” ฮ่าๆๆ

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_35_4.JPG)

ในความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณว่าตัวเองมาถูก ลึกๆ มันก็ยังแฝงไปด้วยความไม่ชอบพามากลบางอย่าง เช่น แลนมาร์คที่เราเห็นในเน็ตทำไมมันไม่เหมือนกับของจริง คือดูมุมไหนเหลี่ยมไหน มันก็ไม่พบว่ามันใช่มุมเดียวกันกับที่เห็นในเน็ตแต่ตอนนั้นผมก็ช่างเถอะและช่างมัน แล้วกันไปเสพสมกับสวนสนที่พบเห็นตรงหน้าแทน ส่วนข้อมูลวิชาการค่อยไปตามหาทีหลังกันเอา

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_35_5.JPG)

จากการขับมอเตอร์ไซค์ในวันฝนพรำเที่ยวชมสวนสนในแปลงต่างๆ พบว่าจะมีแค่บางที่เท่านั้นกันครับที่ดูสวยแบบมีทุ่งหญ้าเขียวๆ ขึ้นไม่สูง เหมาะแก่การเดินเล่น ส่วนที่เหลือก็จะเป็นหน้าดินโล่งๆ มีกิ่งไม้แห้งตกตามพื้น ซึ่งถ้าเทียบกับภาพที่จินตนาการไว้ก่อนมา ขอบอกว่าคนละฟากกันเลย เหมือนดูหนังรักแล้วมาดูหนังฆาตกรรมยังไงยังงั้น
สำหรับสนที่เห็นในสวนนั้น เป็นสนสามใบครับ ซึ่งในประเทศไทยพบขึ้นเป็นหมู่ๆ ตามป่าสนเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล 800 - 1,600 ม. ในภาคเหนือ ภาคกลาง  และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10 - 30 ม. ไม่ผลัดใบ ผลมีลักษณะกลม ออกรวมกันเป็นกลุ่ม เรียกว่า cone  เป็นรูปไข่สีน้ำตาล

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_35_6.JPG)

หลังจากขับรถแวะไปตามเส้นทางนั้นนี่ไปเรื่อย หาถ่ายรูปมุมต่างๆ คนเดียวในป่าแบบอินดี้ ผมก็ขับรถแวะออกมาด้านนอกกัน ตอนนั้นรู้สึกว่าใกล้จะห้าโมงเย็นแล้ว และฝนก็กำลังลงเม็ดอย่างไม่หยุดหย่อน

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_35_7.JPG)

ความหนาวเริ่มเข้าครอบงำทั้งกายและใจ ผมค่อยๆ ห่อตัวเข้าไปยังเสื้อกันฝนเพื่อขับรถมุ่งหน้ากลับเข้ามายังในเมือง วันนี้ถือว่าภารกิจตัวเองเสร็จสิ้น ผมได้มาเที่ยวสวนสนสำเร็จแล้วเรียบร้อย

(http://www.tripchiangmai.com/images/chiangmaiboard/travel_chiangmai_35_8.JPG)

แต่น่าเสียดายที่ไอ้คำว่าเรียบร้อย มันดันมาสวนสนผิดที่เท่านั้นเองครับ